คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 288 ลำเอียงภรรยา
ตอนที่ 288 ลำเอียงภรรยา
จู่ๆหยวนชูเฟินก็วางท่าทีตํ่าลงเช่นนี้ ทำให้ลั่วหานประหลาดใจมาก
มองไปดูแล้วรู้สึกว่าเธอจริงใจมาก แต่พูดไม่ออกว่ามีอะไรที่มันผิดปกติ
หลังจากเธอพูดคำพูดนี้เสร็จ ยังคงมีความสง่างามในฐานะที่เป็นผู้หญิงสูงศักดิ์เหมือนปกติ แม้กระทั่งกล่าวขอโทษก็ไม่ได้แสดงความกระเซอะกระเซิงออกมาแม้แต่น้อย
มือเอื้อมไปที่ข้างๆมือของเธออย่างไม่ถนัด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้จับมือของลั่วหาน ใช้มือทั้งสองข้างวางมือของเธอวางบนฝ่ามือ และจับไว้อย่างเบาๆ
พฤติกรรมที่แปลกประหลาด อุณหภูมิที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ การกระทำที่ไม่เหมาะกับพวกเธอสองคนอย่างเห็นได้ชัด สิ่งแปลกๆพวกนี้ล้วนทำให้คนรู้สึกว่าอึดอัดมาก
"ลั่วหาน ฉันอยากพูดกับคุณว่าขอโทษ"เธอพูดคำพูดเมื่อกี้ออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงจริงจังกว่าของเมื่อกี้
หลังจากปรับคุมการหายใจเสร็จ ลั่วหานและหยวนชูเฟินก็สบตากัน ในสายตาของทั้งสองคนต่างมีอารมณ์ที่แตกต่างกัน
"ทำไมแม่ถึงคิดจะขอโทษกับฉันล่ะ?แล้วคุณแม่ทำอะไรผิดไป ถึงต้องมาขอโทษฉันล่ะ?'
ลั่วหานคิดจะเก็บมือกลับมา แต่หยวนชูเฟินเหมือนกลัวเธอจะเก็บมือกลับไป จึงเพิ่มแรงการจับขึ้นมาหน่อย สายตาของเธอยังได้ปรากฏความอ่อนนุ่มของผู้เป็นแม่ด้วย
"ฉันรู้ว่าคุณโกรธฉัน เกลียดฉันอยู่ในใจ โทษฉันที่ทำต่อคุณเช่นนั้น……"เธอยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เวลาที่เธอยิ้มมีริ้วรอยเกิดที่หางตาเล็กน้อย
ลั่วหานไม่พูดสักคำ หยวนชูเฟินปฏิบัติต่อเธอยังไง เธอรู้อย่างชัดเจนกว่าคนอื่น ถ้าหากว่าจงใจจะคิดบัญชีกับเธอ นั้นหยวนชูเฟินคงไม่มีปัญญาเดินเข้ามาในห้องป่วยของเธอด้วยซ้ำ
หยวนชูเฟินถอนหายใจเบาๆ"ก่อนหน้านี้ฉันไปเชื่อคำพูดที่ลอบกัดคุณ จึงเข้าใจผิดมานาน ตอนนี้ฉันรู้ความจริงแล้ว…… ลั่วหาน ช่วงหลายปีนี้คุณต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมในตระกูลหลงเสมอ……แม่เข้าใจคุณผิดไป คุณสามารถให้อภัยฉันได้ไหม?"
เธอเลือกใช้คำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เหมือนจะสำนึกผิดจริงจัง ทุกการเว้นวรรคของเธอนั้นพอดีเป๊ะ ทุกการหายใจของเธอเหมือนมีน้ำตาซ่อนอยู่ ปรากฏภาพลักษณ์ที่เป็นคนมีความเมตตา และระบายความคับข้องใจออกมาอย่างดีจนคนจับผิดไม่ได้
สมควรที่เป็นคุณหญิงของตระกูลหลงหรือเกิน
ถ้าลั่วหานในฐานะที่เป็นลูกสะใภ้ยังมาพูดว่ากล่าวตำหนิอะไรอีก มันก็จะดูเป็นคนช่างใจร้ายหรือเกิน
แต่ในที่สุดลั่วหานก็ยังคงดึงมือของตนเองออกมาจากฝ่ามือของเธอ และยิ้มให้เธอ"คำพูดของแม่ฉันฟังจนไม่ค่อยเข้าใจ คุณแม่ไปเชื่อข่าวลือของใคร?และมันเป็นข่าวลือยังไง?ทำไมฉันถึงฟังไม่รู้เรื่องเลย?"
มือของหยวนชูเฟินค้างอยู่บนอากาศ แล้วจึงวางมือกลับมาที่ขาของตนเองอย่างเก้อเขิน เงยหน้าขึ้นมามองหน้าตาที่สวยงามและงดงามของลั่วหาน เมื่อคิดถึงฐานะที่เป็นคุณหนูของตระกูลเฉียวของเธอ จึงปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาพร้อมพูดว่า"เมื่อก่อนฉันเชื่อโม่หรูเฟยจนเกินไป ไม่ทราบว่าเธอจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมขนาดนั้น โชคดีที่คุณฉลาดมาก เปิดเผยนิสัยอันแท้จริงของเธอออกมา ไม่นั้นฉันยังไม่รู้ว่าตนเองจะต้องถูกเธอหลอกลวงอีกนานเท่าไหร่ ลั่วหาน เมื่อก่อนโม่หรูเฟยกลั่นแกล้งคุณ รังแกคุณ ฉันไม่ได้ออกมาช่วยคุณ แต่ทีหลังถ้าเกิดว่าเธอกล้าพูดอะไรที่ไม่ดีต่อคุณอีก ฉันจะคิดบัญชีกับเธอแน่ๆ!"
คำสัญญาที่จริงจังมาก ราวกับว่าถ้าโม่หรูเฟยปรากฏตัวต่อหน้าเธอในตอนนี้ ก็จะตัดความสัมพันธ์ทุกอย่างกับเธออย่างสิ้นเชิง
แต่ลั่วหานไม่ใช่เด็กแล้ว แถมก็ไม่ใช่คนโง่ด้วย
ความสามารถในการปรับตัวเข้าสถานการณ์ของหยวนชูเฟิน เธอไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน
ปัจจุบันตระกูลโม่ตกอยู่ในวิกฤตใหญ่ โม่หรูเฟยยังถูกกักขังอยู่ คุณหนูที่เคยหยิ่งผยองในเมื่อก่อนได้กลายเป็นนักโทษแล้ว แม้ว่าเธอจะออกจากคุกได้ แต่ชื่อเสียงของเธอก็จะเสียหายอย่างมาก
จะไม่มีโม่หรูเฟยสามพยางค์นี้ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้สุภาพสตรีของเมืองหลวงอีก
"โม่หรูเฟยเคยท้อง ซึ่งเป็นลูกของหลงเซียวด้วย แต่ฉันได้ฆ่าลูกของเธอไป แม่จำไม่ได้เหรอ?"
ลั่วหานติดใจกับเรื่องนี้มานาน ตอนนั้นมีเพียงแค่พวกเธอสามคนอยู่ในสถานการณ์ ตกลงใครเป็นคนทำ โม่หรูเฟยรู้อยู่แก่ใจ เชื่อว่าหยวนชูเฟินก็คงรู้ด้วย
พอพูดถึงตอนนี้ สีหน้าของหยวนชูเฟินค่อนข้างจะเขียวขึ้นมา เธอยิ้มออกมาเพื่อซ่อนความเก้อเขินของตนเองลงไป"เรื่องนั้น……ไม่ใช่ความผิดของคุณ"
"ใช่หรือ?แต่ทำไมฉันถึงจำได้ว่า ตอนนั้นทุกคนล้วนพูดว่าฉันเป็นคนผลักโม่หรูเฟยลงล่ะ?แม่ ความทรงจำของฉันไม่ค่อยดี คุณช่วยฟื้นฟูความทรงจำให้ฉันหน่อยได้ไหม?"
นิ้วมือของหยวนชูเฟินกำแน่นขึ้นมา แหวนที่นิ้วทำจนฝ่ามือเจ็บปวดมาก เธอเงยหน้าขึ้นมา พูดความจริงของอุบัติเหตุในปีนั้นออกมาต่อหน้าลั่วหาน
"โม่หรูเฟยล้มลงไปเอง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคุณแม้แต่น้อย ฉันเห็นกับตา"คำพูดที่ทำให้ตนเองหน้าแตกเช่นนี้ หยวนชูเฟินยังสามารถพูดอย่างมีเหตุมีผล ลั่วหานรู้สึกนับถือจริงๆ
ลั่วหานหายใจเข้าลึกๆอย่างเศร้าใจ เธอรู้ตั้งนานแล้ว เรื่องทุกอย่างเธอล้วนรู้อยู่แก่ใจ แต่ในที่สุดเธอก็ยังใส่ร้ายเธออีก
ดังนั้น——
"แม่บอกฉันมาได้ไหมว่า ทำไมคุณถึงรังเกียจฉันขนาดนี้?ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับลูกชายของคุณ?"
ใช่ เธออยากรู้ อยากรู้มานานแล้ว!
เพียงแค่เพราะฐานะทางครอบครัวของเธอหรือ?
เฮ้อเฮ้อ!
หยวนชูเฟินถอนหายใจออกเบาๆ รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย และรู้สึกเจ็บใจด้วย"คุณเป็นลูกสะใภ้ที่ดี และก็เป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัว แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่คุณไม่สามารถเทียบกับโม่หรูเฟยได้ในตอนนั้น"
"ฐานะของฉัน?"เธอพูดอย่างเปิดเผย
คำตอบของหยวนชูเฟินก็ซื่อสัตย์มาก"ถูกต้อง แม้ว่าคุณเป็นคุณหนูของตระกูลฉู่ แต่ในมือของคุณไม่มีหุ้นส่วนของฉู่ซื่อ แถมคุณยังสละสิทธิ์ในมรดกของฉู่ซื่ออีกด้วย ฐานะแบบนี้ ตระกูลหลงจะไม่สามารถยอมรับได้"
ตลกจัง!ลั่วหานอยากขำออกมาจริงๆ!
"ฉันคาดไม่ถึงว่า ตระกูลมหาอำนาจอย่างตระกูลหลงยังต้องสนใจถึงฐานะของลูกสะใภ้ด้วย!"
"ตระกูลหลงไม่ต้องการ แต่ฉันต้องการ เซียวเอ๋อเขาก็ต้องการแน่นอน!เซียวเอ๋อ……."เธอตื่นเต้นมาก เกือบจะโพล่งคำที่เหลือออกมา แต่เธอก็ได้กลืนคำพูดนั้นลงไปในช่วงเวลาที่สำคัญ
ลั่วหานขมวดคิ้ว"หลงเซียวเป็นอะไร?"
"ไม่มีอะไร ไม่เกี่ยวข้องกับเขา"
หยวนชูเฟินมองไปที่ดวงตาคู่นั้นของลั่วหาน ดวงตาของเธอสว่างมาก ราวกับว่าสามารถมองเห็นความในใจของเธอ ดังนั้นเธอจึงรีบหลบหลีกไป"เมื่อก่อนฉันทำผิดไป ทีหลังฉันจะปฏิบัติเธออย่างเหมือนลูกสะใภ้ของตระกูลหลง แต่ลั่วหาน คนที่ฉันรักและห่วงใยสุดยังคงเป็นลูกชายของฉัน ฉันหวังว่าทีหลังคนจะรักเขาอย่างดี ซื่อสัตย์ต่อเขาทุกเรื่อง"
ลั่วหานหัวเราะเยาะเย้ยในใจ นี่ก็คือวิธีการของคนในตระกูลหลง ให้คุณได้เผชิญกับสิ่งที่หวานก่อน จากนั้นจึงตบหน้าคุณ ทำให้คุณเจ็บปวดจนไม่รู้จะทำไรต่อ
"ฉันจะรักเขาอยู่แล้ว จะซื่อสัตย์ต่อเขาแน่นอน แต่ทุกสิ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับคุณแม้แต่นิด ฉันรักเขา แค่เพราะว่าเขาเป็นสามีของฉัน"
ลั่วหานเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจนกว่าหยวนชูเฟิน ความสัมพันธ์ของเธอและหยวนชูเฟินในตอนนี้ จำกัดอยู่แค่หยวนชูเฟินเป็นผู้ให้กำเนิดหลงเซียว เป็นแม่ทางสายเลือดของเขาที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
มิฉะนั้น ฉู่ลั่วหานยังอยากจะส่งหยวนชูเฟินเข้าไปที่สถานกักกันเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์สักสองสามวัน
"ขอบคุณค่ะ"
หยวนชูเฟินพูดคำพูดนี้ออกมาอย่างกะทันหัน
เมื่อเทียบกับคำพูดที่ตรงปากไม่ตรงกับใจของเมื่อกี้นี้ แม้ว่าคำขอบคุณคำนี้เรียกง่ายมาก แต่มันจริงใจมากกว่า
ลั่วหานพยักหน้า"ไม่ต้อง เพราะนี่เป็นสิ่งที่ฉันเต็มใจทำเพื่อเขา"
การพูดคุยของทั้งสองเพิ่งจบสิ้นลง ร่างที่ยาวเพรียวยืนอยู่นอกประตูผู้ป่วย ความสูงของเขาเกือบจะโดนคานที่อยู่เหนือประตู และความสูงที่ได้เปรียบของเขาได้บังแสงและลมจากทางเดินไปเกือบหมด
หยวนชูเฟินหันมามองหลงเซียวอยากประหลาดใจ นิ่งอึ้งจนเกือบเสียสติ"เซียวเอ๋อ คุณ……คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"เพิ่งถึง"
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่มากนัก คำตอบของหลงเซียวแม้ไม่ถือว่าตอบแบบขอไปที แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน
หยวนชูเฟินลุกขึ้นมา จัดระเบียบกี่เพ้าที่หรูหราของตนเอง"ในเมื่อคุณมาแล้ว นั้นก็อยู่ที่นี่ดูแลลั่วหานให้ดี ฉันกลับไปก่อน"
"แม่อย่ามาที่โรงพยาบาลอีกเลย เวลาที่ผู้ป่วยพักผ่อนอยู่ต้องการความสงบ"
หยวนชูเฟินชะงักลง ดวงตาของลั่วหานหรี่ลง
หลงเซียวปฏิบัติต่อแม่ตนเอง นี่……ช่างไม่ไว้หน้าเลยนะ
"ฉันกลับก่อน"
หยวนชูเฟินไม่ได้พูดต่อจากคำพูดที่ค่อนข้างจะเยาะเย้ยของเขา เดินออกจากห้องทันที รองเท้าส้นสูงส้นเหยียบลงบนพื้นจึงส่งเสียงที่คมชัดมา และเสียงสะท้อนที่คมชัดนี้ก็ได้ค่อยๆหายไป
หลังจากคนเดินไปไกลหลงเซียวจึงนั่งลงบนขอบเตียง"รู้สึกดีขึ้นไหม?"
ลั่วหานไม่ตอบ กลับถามกลับว่า"เพิ่งมาถึงจริง?ทำไมฉันรู้สึกว่านิสัยอย่างท่านเซียว มันไม่เหมือนล่ะ"
ผู้ชายที่ถูกเธอถามกลับ ไม่ได้ปรากฏความเก้อเขินแม้แต่นิด แถมยังพูดอย่างมีเหตุมีผล"ภรรยาของฉันกับคุณแม่เกือบจะเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ฉันในฐานะที่เป็นชนวนแห่งความขัดแย้ง จะถ้อถ้อยได้ยังไงล่ะ"
"ดังนั้นคุณหลงจึงฟังตั้งแต่ต้นจนจบใช่ไหม?"
"ใช่"
เขาฟังไปทั้งจบ โมโหจนเกือบจะทุบประตูห้องผู้ป่วยจนแตก
"คุณได้ยินหรือเปล่า การแท้งของโม่หรูเฟย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันเลย?"สิ่งที่เธอถูกใส่ร้าย เธออยากให้เขาได้เห็นความจริงทั้งหมด
เขาสามารถฟังความจริงจากปากของหยวนชูเฟินได้ เธอรู้สึกดีใจมาก ดีใจหรือเกิน
"ฉันรู้ แม้ว่าไม่ได้ฟังคำอธิบายของคุณแม่ ฉันก็เชื่อว่าคุณจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว คนที่ฉันเชื่อถือได้ไม่ใช่คุณแม่ เป็นคุณนั่นเอง"
ลั่วหานกระซิบพึมพำ"ตายแล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะกลายเป็นชนวนเหตุแล้ว"
เมื่อได้ยินการพึมพำของเธอ หลงเซียวกลับหัวเราะออกมา"ไม่หรอก ฉันยืนหยัดในความคิดของตนเอง เสียงของคนอื่นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงท่าทีที่ฉันมีต่อคุณได้ ฉันจะลำเอียงภรรยาคนเดียว"
เมื่อเวลาที่พวกเขากำลังพูดกันอย่างรักซึ้งใจ โทรศัพท์ของลั่วหานก็ดังขึ้นมา
เมื่อเห็นชื่อข้างบน ลั่วหานเลยเหลือบตาไปมองที่หลงเซียว นี่เป็นสายที่โทรมาโดยโม่ล่างคุน เนื้อหาที่พวกเขาจะคุยกันไม่ค่อยเหมาะที่จะถูกหลงเซียวได้ยิน
เมื่อเวลาที่เธอกำลังสับสนอยู่ โทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้นมา
"ฉันออกไปรับโทรศัพท์ก่อน"หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และลุกขึ้นเดินไปที่ห้องรับแจ้ง
จากนั้นลั่วหานจึงจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
แน่นอน เธอไม่รู้ว่า เมื่อกี้นี้หลงเซียวก็ได้เห็นชื่อสามพยางค์ที่ปรากฏอยู่บนนั้น
คนหนึ่งอยู่ข้างนอก อีกคนหนึ่งอยู่ข้างใน ทั้งสองคนล้วนลดระดับเสียงลงอย่างจงใจ
ลั่วหานหงายมุมปากยิ้มขึ้นมา"คุณโม่ เวลาที่เหลือให้คุณพิจารณามันไม่มากแล้วนะ"
โม่ล่างคุนหัวเราะออกไปอย่างเก้อเขิน"เรื่องทุกอย่างล้วนไม่ได้ง่ายเหมือนที่เห็นจากภายนอก ฉันเลยต้องพิจารณาให้ดีก่อน"
เจ้าเล่ห์จิ้งจอก!
"นั้นผลที่คุณโม่พิจารณาออกมาได้คืออะไร?"ลั่วหานรับสายไปด้วย พร้อมใช้สายตาแอบมองหลงเซียวที่อยู่บนระเบียง
เงาหลังที่สูงโปร่งของผู้ชายคนนี้หล่อเหลาจนหาเทียบมิได้ แต่ฆาตกรรมที่แพร่หลายออกมากลับรุนแรงมาก
"ฉันเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคุณ ครึ่งชีวิตของซุนปิงเหวินเป็นของคุณ"
ลั่วหานหัวเราะออกมา"คุณโม่สมกับเป็นคนฉลาด ฉันได้เตรียมเงินไว้แล้ว เมื่อไหร่ที่ฉันได้ยินข่าว เมื่อไหร่แหละที่ฉันจะนำเงินคืนให้คุณหมด"
"โอเค!"
ลั่วหานวางสายลง เงี่ยหูฟังการเคลื่อนไหวของฝั่งหลงเซียว และเหมือนจะได้ยินชื่อของเกาหยิ่งจือ