คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 166 เขามาแล้ว ก้าวไปเถอะ
ตอนที่ 166 เขามาแล้ว ก้าวไปเถอะ
คนจากประเทศจีนมาแล้ว และพวกเขาเป็นกองกำลังเสริมจากโรงพยาบาล เมื่อพวกเขาเห็นอดีตเพื่อนร่วมงานก็วิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง
แต่สายตาฉู่ลั่วหานจับจ้องไปยังเกาหยิ่งจือที่สวมชุดสีขาวยืนถือร่มอยู่ท่ามกลางสายฝน
เกาหยิ่งจือ ลูกพี่ลูกน้องของโม่หรูเฟย บุตรสาวตระกูลดังผู้สูงส่งมาปรากฏตัวที่นี่งั้นเหรอ เหอะๆ!
แน่นอนว่าฉู่ลั่วหานไม่ได้มองเธอเพราะด้วยเหตุผลนี้ แต่เรื่องผลตรวจสุขภาพปลอมแค้นนี้เธอต้องชำระมันแน่นอน
“"รองคณบดีเกา การพบเจอกันในต่างประเทศนี่เป็นเรื่องไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ!" ฉู่ลั่วหานหยิบร่มเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วริเริ่มทักทายเจ้านายของเธอทันที
จากสายตาของคนรอบข้าง ทั้งสองคนช่างมีความสัมพันธ์ที่ดีเหลือเกิน
เกาหยิ่งจือไม่ได้เอ่ยอะไร เสื้อคลุมสีขาวสะอาดและใบหน้าที่สวยงามภายใต้ร่มสีดำตัดกัน เปรียบเทียบไม่ได้เลยกับฉู่ลั่วหานที่เต็มไปด้วยดินโคลน
“คุณหมอฉู่? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ? ฉันจำได้ว่ารายชื่อครั้งนั้นไม่ได้มีคุณด้วยนี่” เกาหยิ่งจือยิ้มเสแสร้งเป็นไม่รู้ ปากเธอเผยอและเลิกคิ้วขึ้น
น่ารำคาญจริงๆ เธอไม่อยากเสียเวลาต่อเถียงกันแบบนี้
“อ้อ ท่านรองฯอาจจะสายตาไม่ดีเท่าไหร่นะคะ ที่จริงอาจจะไม่ใช่แค่นั้น ตอนที่ดูผลตรวจร่างกายสายตาก็คงมีปัญหาด้วยสินะคะ? เช่นว่ามองตัวเลขตัวหนังสือผิดไป ทำให้คนที่ร่างกายปกติกลายเป็นป่วยไปได้ แถมยังเป็นโรคร้าย”
เกาหยิ่งจือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “คุณหมอฉู่ คุณควรจะระวังคำพูดหน่อยนะ ไม่ใช่ใส่ร้ายคนอื่นไปทั่ว”
“คุณนั่นแหละที่ต้องระวัง ถ้าถูกเลือดของฉันเข้าคงจุดจบไม่สวยนัก เพราะเลือดฉันมีเชื้อ HIV” น้ำเสียงของเธอเข้มแข็ง ประโยคสุดท้ายเธอพูดใกล้ๆหู ใกล้เสียจนน่าจะได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น
เกาหยิ่งจือหรี่ตาลง กัดปากแน่น “ฉู่ลั่วหาน เป็นบ้าหรือไง?”
ฉู่ลั่วหานยืดตัวขึ้น ตัวเธอค่อนข้างเพรียวแม้ว่าจะเปียกฝนแต่ก็ยังคงมั่นใจในตัวเอง “เกาหยิ่งจือ เรื่องของเราฉันจะค่อยๆเอาคืนแน่นอน ส่วนเป็นบ้าหรือเปล่าเดี๋ยวคุณก็รู้เอง สองสามวันนี้ทางที่ดีคุณควรรักษาโรคให้ผู้ป่วยอย่างซื่อสัตย์และช่วยชีวิตผู้คนเพื่อชดใช้บาปของคุณ นอกจากนี้ฉันขอเตือนว่าโรคเอดส์ของฉันอยู่ในขั้นลุกลามแล้ว คุณจะเล่นกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายงั้นหรือ? "
พูดจบฉู่ลั่วหานก็หันหลังเดินกลับไปยังห้องผู้ป่วย
“คุณหมอฉู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ได้ยินว่ามีเครื่องบินอีกเครื่องกำลังมาจากประเทศจีน แต่ไม่ใช่เครื่องบินของทหารเป็นเครื่องบินส่วนตัว”
ฉู่ลั่วหานกำลังวัดอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ป่วยและไม่สนใจสิ่งที่ได้ยิน “ทำหน้าที่ของคุณเองให้ดี นับประสาอะไรกับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แม้ว่าจะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินมา หน้าที่ของเราคือช่วยชีวิตผู้คน”
เมื่อแน่ใจว่าผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายแล้วฉู่ลั่วหานจึงวางหูฟังลงและหันกลับไปดูพบว่า เกาหยิ่งจือและถังจิ้นเหยียนยืนอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร
เกาหยิ่งจือยังคงยิ้มเสมอและถังจิ้นเหยียนไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปเลย
ฉู่ลั่วหานไม่ได้นำมาใส่ใจ เธอม้วนหูฟังขึ้นแล้ววางไว้ในที่แห้ง ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อให้ชุ่มคอ
ขณะนี้เป็นเวลาค่ำคืน เครื่องบินยังคงบินอยู่ไม่พักผ่อน
“เจ้านายครับ เนื่องจากสภาพอากาศทำให้เครื่องบินไม่สามารถบินในความเร็วสูงสุดได้ แต่เราจะถึงจุดหมายในหนึ่งชั่วโมงนี้”
หลงเซียวพยักหน้าตอบรับ เขาก้มลงมองดูแหวนแต่งงานในมือ
เพชรในแอฟริกาใต้ได้รับการเจียระไนอย่างสมบูรณ์แบบคู่เดียวในโลก แม้ว่างานแต่งงานจะไม่ได้ราบรื่นนัก แต่เขาก็ไม่ได้คลุมเครือในการเลือกแหวนแต่งงาน
แหวนนี้คู่กับแหวนของฉู่ลั่วหาน เรียกชื่อรวมกันว่า “บินไปด้วยกัน”
เขาไม่ได้สวมแหวนแต่งงานวงนี้มาสามปีแล้ว ในวันนี้เขาสวมแหวนนี้ไว้ในมือเพื่อแสดงให้เธอเห็นและเตือนตัวเองโดยเฉพาะ
ถังจิ้นเหยียนชะลอตัวลงและต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการเดินตามหลังฉู่ลั่วหานไป ลมหายใจของเขาแผ่วเบาเขามองไปที่เธอและตะโกนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า”ลั่วหาน”
ฉู่ลั่วหานวางแก้วน้ำลงแล้วกลืนน้ำลงคอไป “มีอะไรคะ เกิดอะไรขึ้น?”
คนๆนี้ดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่
ถังจิ้นเหยียนหยิบผ้าขนหนูขึ้นมา “เช็ดผมก่อนนะ ผมเปียกเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
เธอยิ้มเบาๆแล้วตอบว่า “ขอบคุณค่ะ”
เธอเช็ดผมอย่างลวกๆจากนั้นก็ส่ายหัวไปมา เธอวางผ้าขนหนูลงบนชั้นวางของและพบว่าถังจิ้นเหยียนยังยืนอยู่ที่นั่น “มีอะไรเหรอ?อย่ามองฉันแบบนั้น มีอะไรมาคุยกันสิคะ”
คิดอยู่สักครู่เขาตอบว่า “ตามผมมาหน่อยได้ไหม?”
“เรื่องแค่นี้? คุณต้องครุ่นคิดขนาดนี้เชียวเหรอคะ? โอเค เราจะไปไหนกัน?”
ทั้งสองคนถือร่มคนละคัน ทั้งสองแอบอู้งานชั่วครู่แล้วเดินมาที่ห้องเก็บอาหาร เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่อำนวย จะทำให้ดีกว่านี้เกรงว่าไม่ได้
“ลั่วหานพูดตามตรงนะว่าการที่คุณไม่ได้ติดเชื้อ ผมก็มีความสุขมากที่คุณสบายดีและยังมีเวลาสนุกกับชีวิต แต่ผมก็เสียใจมากเมื่อรู้ว่าคุณจะกลับไปหาเขาแน่ๆ”
เขาซื่อสัตย์เป็นลูกผู้ชายพอที่เธอจะยอมรับมันได้ และเธอก็รู้สึกผิดเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ถูก “มันไม่ง่ายอย่างที่คุณพูดหรอกค่ะ ฉันกับเขาคั่นกันด้วยภูเขาใหญ่ตั้งสามลูก"
เธอขมวดคิ้วและรู้ดีว่าการที่มีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่ง่ายนัก
ถังจิ้นเหยียนนิ่งไปชั่วครู่สุดท้ายตบลงที่บ่าของฉู่ลั่วหาน “ถ้าคุณรักเขาจริงๆก็ควรรักอย่างสุดหัวใจ ผมมองออกว่าเขาเป็นห่วงคุณมาก”
ฉู่ลั่วหานมองดูหน้าถังจิ้นเหยียนด้วยความสงสัย “ถังจิ้นเหยียนวันนี้คุณเป็นอะไรไป?ท่านรองฯเกาพูดอะไรกับคุณ?ถูกจี้จุดงั้นเหรอ?”
ไม่ใช่หรือไง?
หลังจากหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้ง เขาก็ถอนมือออกและยักไหล่พร้อมกับถอนหายใจว่า "เขามาแล้ว และเครื่องบินส่วนตัวที่พวกเขากล่าวถึงเมื่อกี้ หลงเซียวเขาอยู่บนเครื่องบินและเขาจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้ "
“คุณบอกว่าหลงเซียวมาที่นี่!? หลงเซียวเขาจะมาเหรอคะ!” เสื้อคลุมของฉู่ลั่วหานถูกเธอสะบัดออก สองมือกอดแขนของถังจิ้นเหยียนไว้ดวงตากลมโตของเธอเปล่งประกาย!
รักใครสักคน มันปกปิดไว้ไม่ได้จริงๆสินะ
“ใช่ เขามาแล้ว คุณดีใจไหม?”
ดีใจไหมงั้นเหรอ?แน่นอน!
“คนงี่เง่านั่นร่างกายของเขาจะสามารถอยู่บนเครื่องบินได้นานถึงยี่สิบสามสิบชั่วโมงได้ยังไง?เขาบ้าไปแล้วแน่ๆ! เขาต้องบ้าแน่!"
ถังจิ้นเหยียน “……”
“เขาอยู่ที่ไหนแล้ว?เครื่องบินจอดที่ไหนคะ?”
ถังจิ้นเหยียน “……”
เขารู้สึกสับสนกับอารมณ์ที่ผันผวนของเธอ นี่คือความสุข?หรือไม่ใช่ความสุขกันแน่?
เธอมีความสุข มีความสุขมากจริงๆ
ถ้าเธอมีความสุข เขาก็พอใจแล้ว
“อีกประมาณครึ่งชั่วโมง เครื่องบินส่วนตัวสามารถเลือกเส้นทางการบินได้ เขาใช้เส้นทางลัดทำให้มาถึงที่นี่ได้ในเวลาสิบชั่วโมง เครื่องบินจะจอดบนที่จอดตรงหน้าผา”
หน้าผามีที่จอดเครื่องบินด้วยงั้นเหรอ?
เมื่อเห็นความสงสัยจากแววตาเธอเขาจึงอธิบายขึ้นว่า “เป็นพื้นที่ที่ได้รับการซ่อมแซมเป็นพิเศษ มีมานานแล้ว"
ฉู่ลั่วหานกัดริมฝีปากของเธอ “ถังจิ้นเหยียนในชีวิตนี้ฉันเป็นหนี้คุณมาก ฉันขอชดเชยให้คุณในชาติหน้าจะได้ไหม?”
เขาหัวเราะโดยไม่ตอบ “เขากำลังมาแล้ว ถ้าคุณไม่รีบไป ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแล้วนะ"
แววตาเธอเป็นประกายดุจดวงดาว “ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ฉันนะคะ ถังจิ้นเหยียน คุณจะมีความสุข! มีความสุขกว่าฉัน!"
เธอคว้าร่มและเดินไปในทิศทางที่เขาชี้ไป หัวใจที่เต้นรัวไปตลอดทาง เธอหวังว่าจะไปหาเขาได้ด้วยก้าวเดียว!
หลงเซียว ฟังนะ ฉันไม่ได้ป่วย พวกเราอยู่ด้วยกันได้! พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้!
ฉันไม่กลัวพ่อแม่ของคุณ ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!
เธอต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักและปีนบันไดหินขึ้นไป ในที่สุดก็ยืนอยู่บนหน้าผาสำหรับจอดเครื่องบิน
เมื่อมองขึ้นไปตามสายฝน เธอไม่สามารถหยุดจินตนาการถึงท้องฟ้าที่สดใสในใจของเธอได้ ในเวลานี้เธอเป็นเหมือนเจ้าสาวที่กำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวเพื่อรอเจ้าบ่าว โดยเธอสวมชุดเรืองแสงและมงกุฎ
แม้ว่าตอนนี้เสื้อผ้าของเธอจะเปียกโชกและไม่น่ามองก็ตาม
แต่หลังจากรออยู่ยี่สิบนาทีเต็มก็ยังไม่มีวี่แววของเครื่องบิน เขาบอกว่าครึ่งชั่วโมงไม่ใช่เหรอ? นี่มันผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วนะ
“คุณหมอฉู่ คุณหมอฉู่!แย่แล้ว!”
ในขณะที่เธอกำลังสับสน จินเสี่ยวเย้นก็วิ่งมาด้วยความตื่นตระหนกและเรียกชื่อเธอคล้ายว่าหายใจไม่ออก
“มีอะไร?คนไข้เป็นยังงั้นเหรอ?”
จินเสี่ยวเย้นเหนื่อยหอบ “ไม่ ไม่ใช่ เป็น……เป็นเครื่องบินส่วนตัวที่พูดถึงเมื่อสักครู่ ได้รับข้อมูลมาว่าตก คุณหลงอยู่ในเครื่องบินนั้น! พวกเราเพิ่งได้รับรายงานมา!คุณรีบกลับไปเร็ว!”
อะไรนะ……
ร่มในมือร่วงลงสู่พื้น เธอเดินถอยหลังไปสองก้าว ไม่!เป็นไปไม่ได้!เธอไม่เชื่อ!
“อย่ามาล้อฉันเล่นได้ไหม!เครื่องบินจะตกได้ยังไง!เขาจะเป็นอะไรไปได้ยังไง!เขาคือหลงเซียวนะ ไป!ไปให้พ้น!”
อย่ามาหลอกกันอีกเลย!เธอไม่อยากได้ยินคำพูดหลอกลวงพวกนี้อีกแล้ว!!!
จินเสี่ยวเย้นก้าวไปข้างหน้าจับมือเธอไว้ และเดินตามเธอไปข้างหน้าทำให้เธอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว “คุณหมอฉู่ มันเป็นเรื่องจริง การค้นหาและช่วยเหลือได้เริ่มขึ้นแล้ว หลายคนในโรงพยาบาลของเราถูกส่งไปช่วยชีวิต อย่ากลัว อย่าเป็นห่วง บางทีคุณชายหลงอาจจะไม่เป็นอะไรก็ได้ คุณหมอฉู่ คุณหมอฉู่……”
ฉู่ลั่วหานคว้ามือไปจับคอเสื้อของเธอไว้ “เธอพูดบ้าอะไร!ไป!ออกไปไกลๆ!”
สายตาของจินเสี่ยวเย้นมองไปที่หน้าผาด้านหลัง เธอพูดขึ้นว่า “คุณหมอฉู่ มีคนบอกว่าเครื่องบินของคุณชายหลงตกใกล้ที่นี่ หรือว่าบางที……อาจจะเป็นหุบเขานี้ก็ได้!"
หุบเขา!ฉู่ลั่วหานหันหลังกลับ เมื่อมองลงไปเธอก็ตกใจ!
เธอเดินมาถึงขอบของหุบเขาได้ยังไงกัน! ถ้าเธอก้าวไปอีกเพียงก้าวหนึ่งก็คงจะ……!
“พยาบาลจิน นี่คุณหมายความว่ายังไง!” ฉู่ลั่วหานคว้ามือเธอเอาไว้!
จินเสี่ยวเย้นยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหมอฉู่ สามีของคุณเครื่องบินตกยังค้นหาไม่พบ บางทีคุณควรจะลงไปตามหาดูนะ?”
ฉู่ลั่วหานคล้ายกับเข้าใจอะไรบางอย่าง จินเสี่ยวเย้นไม่ได้กำลังส่งข่าว แต่เธอมีจุดประสงค์อื่น!
“ปล่อยนะ!จินเสี่ยวเย้นฉันบอกให้ปล่อยไง!”
“ปล่อยงั้นเหรอ? น่าจะไม่ทันแล้วล่ะ คุณหมอฉู่คะ มีคนรู้สึกรำคาญเวลาเห็นหน้าคุณและต้องการให้คุณตายๆไปซะ ลองเดาดูสิว่าเป็นใคร?”
ฉู่ลั่วหานไม่แม้แต่จะคิด ใครน่ะเหรอ!เกาหยิ่งจือ?
“พลั่ก!” ฉู่ลั่วหานผลักจินเสี่ยวเย้นออกไป ข้างหลังเธอเป็นหุบเหวถ้าตกลงไปคงไม่รอดแน่!
จินเสี่ยวเย้นลุกขึ้นมา เอาร่มชี้ไปที่ฉู่ลั่วหานแล้วใช้ปลายแหลมกระแทกไปที่หน้าอกของฉู่ลั่วหาน!
“อ๊า!!”
ความรู้สึกเจ็บแปลบในช่องท้อง ฉู่ลั่วหานเดินโซเซล้มลงอีกครั้ง และถูกบีบบังคับให้ไปที่ขอบหน้าผา! เธอคว้าร่มแล้วดึงไปข้างหน้า!
เรี่ยวแรงของจินเสี่ยวเย้นสู้เธอไม่ได้ ทำให้ล้มลงไปที่พื้น!
“ฉู่ลั่วหานเธอมันไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่จริงๆ! เธอมันไม่คู่ควรกับหลงเซียว ไม่คู่ควรกับท่านรอง! แกมันแค่นางบำเรอที่ไม่มีใครเอา!”
แม่งเอ้ย ยังมีอารมณ์มาด่าคนอีกนะ!
ฉู่ลั่วหานเดินหน้าขึ้นไป แต่กลับถูกจินเสี่ยวเย้นกอดขาเอาไว้ ร่างกายขาดสมดุลทำให้ล้มลงสู่พื้น!
“ฉู่ลั่วหานไปตายซะ!”