คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 157 คำข่มขู่สุดท้ายที่มาจากหลงถิง
ตอนที่ 157 คำข่มขู่สุดท้ายที่มาจากหลงถิง
คนโง่!เธอก็คือคนโง่คนหนึ่ง!เวลาไหนแล้วยังมาถามความเป็นความตายของหลงเซียว!
“สถานการณ์ของคุณในตอนนี้อันตรายมาก คุณรู้หรือเปล่า? พูดผิดประโยคเดียวก็มีโอกาสถูกตัดสินจำคุกในความผิดโทษฐานตั้งใจทำร้ายคน คุณเข้าใจไหม?”
ถังจิ้นเหยียนถูกเธอทำให้โมโหจนน้ำเสียงแข็งทื่อไปหมด ตอนนี้เขาแทบอยากจะจับเธอออกไปจากที่นี่จริงๆ ให้เธอได้สติขึ้นมา!
ฉู่ลั่วหานกลับไม่สนใจเขา “บาดแผลที่หัวใจของหลงเซียวรุนแรงมาก คราวนั้นฉันมองเห็นอย่างชัดเจน ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างคะ? ฉันถามคุณ เขาฟื้นตัวได้เป็นยังไงบ้าง? พ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง?”
เธอกลัวเขาผ่านห้องICUออกมาไม่ได้
ถังจิ้นเหยียนไม่มีวิธีที่จะเปลี่ยนเธอได้ ได้แต่พยักหน้าอย่างสิ้นหวัง “เขาไม่เป็นอะไรแล้ว ฟื้นตัวได้ดีมาก คุณวางใจเถอะ”
เช่นนี้ เธอวางใจแล้วจริงๆ
ตัวเองจะเผชิญหน้ากับโชคชะตาที่เป็นยังไง ก็ช่างมันแล้ว
ถามเรื่องของหลงเซียวเสร็จ ฉู่ลั่วหานถึงได้คิดถึงตัวเอง คราวนี้ถึงได้หัวเราะออกมาทีหนึ่งอย่างกะทันหัน “ก่อนหน้าที่จะตาย ยังได้เดินเล่นอยู่ในคุก ประสบการณ์ชีวิตเฟื่องฟูมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
ยัยคนโง่!
ถังจิ้นเหยียนแทบอยากจะชี้นิ้วออกมาสั่งสอนเธอ ตัวเองร้อนรนจะตายอยู่แล้ว เธอกลับมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่ที่นี่ ตระหนักรู้ชีวิตขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ฉู่ลั่วหาน นับจากนี้เป็นต้นไป จำไว้ คุณไม่ได้ตั้งใจทำร้ายโม่หรูเฟย คือเธอเองที่ไม่ระวังล้มลงไป คุณไม่ยอมรับความผิด ก็ไม่มีใครทำอะไรคุณได้”
“ถังจิ้นเหยียน…”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ต่อให้เหลือเวลาเพียงแค่วันเดียว ก็อย่าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ คุณต้องใช้ช่วงเวลาสุดท้ายทำเรื่องที่มีความหมายมากกว่านี้ คุณต้องเห็นทิวทัศน์ที่มากยิ่งขึ้น พบคนที่คุณอยากจะพบ ไม่ใช่มาฆ่าเวลาอยู่ที่นี่!เข้าใจไหม!”
ถังจิ้นเหยียนที่แทบจะสุภาพอ่อนโยนมาโดยตลอดตอนที่โมโหนั้นช่างมีพลังความน่าเกรงขามจริงๆ ฉู่ลั่วหานตกตะลึงไปชั่วขณะ ละทิ้งความแข็งกร้าวยอมเชื่อฟังขึ้นมาเช่นนี้
“ทนายจะยื่นคำร้องในสถานะไร้ความผิดให้กับคุณ ผมก็จะช่วยชีวิตคุณออกมาภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด รอคุณออกมา ผมก็จะพาคุณไปจากที่นี่ ดีไหม?”
ฉู่ลั่วหานแทบจะทำให้ตัวเองพังพินาศอยู่แล้ว แต่ความพยายามของถังจิ้นเหยียนทำให้เธอตระหนักขึ้นมาอย่างกะทันหันได้ว่า หากเธอยังจะพยายามที่จะเสื่อมลงไปอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้แต่ความห่วงใยของเขาก็ยังทำให้ผิดหวัง
เธอจึงพยักหน้า ราวกับจะอยู่รอดต่อไปเพื่อคนคนนึงยังไงอย่างงั้น “ค่ะ”
“คุณคือฉู่ลั่วหาน ไม่ว่าคุณจะปฏิบัติต่อตัวเองยังไง แต่ผมไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนมาทำให้ชื่อของคุณเสื่อมเสีย คุณต้องเข้มแข็ง ขอร้อง”
สี่คำสุดท้ายวนเวียนอยู่ที่ข้างหูของเธอตลอด เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างยาวนาน ดังนั้นในคำให้การในเวลาต่อมาของฉู่ลั่วหาน กลับไม่ได้ยอมรับความผิด
“คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ยอมรับความผิด? เฮอะ ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงสารเลวคนนี้ ความตายมาถึงตัวแล้วคิดไม่ถึงว่ายังจะปากแข็ง !”
“น้ารอง ใจเย็นก่อนค่ะ มันยอมรับหรือไม่ยอมรับไม่สำคัญ ต่อให้ตำรวจตัดสินชี้ขาดว่ามันไร้ความผิด ต่างก็ไม่สำคัญ ขอเพียงแค่คนของตระกูลหลงตัดสินชี้ขาดแล้วว่ามันคือฆาตกร มันก็คือฆาตกร”
คำพูดเดียวทำให้คนตื่นขึ้นมาจากความฝัน ฟู่เหวินฟางพยักหน้า “ใช่แล้ว ถึงฉู่ลั่วหานได้รับโทษตามกฎหมายจะดีกว่าก็ตาม แต่ต่อให้มันไม่ได้รับโทษตามกฎหมาย ที่บ้านตระกูลหลง มันก็คือโทษประหาร!”
โม่หรูเฟยมองไปรอบๆห้องผู้ป่วย เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง “แม่คะ พวกคุณแม่ออกไปก่อน หนูมีเรื่องจะพูดกับพี่”
โม่ล่างคุนเอ่ย “มีเรื่องอะไรพ่อทำแทนลูก ลูกอย่าเปลืองความคิดเลย”
“มีเรื่องอะไรจะไปรบกวนคุณพ่อหมดได้ยังไงกันคะ”
ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงแค่คนสองคน เกาหยิ่งจือเอ่ย “หนามยอกอกของเธอได้ใส่กุญแจมือเข้าคุกไปแล้ว ยังมีอะไรอยากจะทำอีก เธอพูดมาสิ”
โม่หรูเฟยหัวเราะร่าไม่กี่ที นิ้วมือที่เรียวงามจับท้องเอาไว้ จากนั้นลูบที่บนท้องน้อยของตัวเองหยุดลงครู่หนึ่ง “คิดไม่ถึงว่า ผลกระทบของเด็กคนนี้จะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เมื่อก่อนฉันพยายามอย่างเต็มที่จะทำให้ฉู่ลั่วหานล้มลงต่างก็ไม่สำเร็จ พอเขาตาย ฉู่ลั่วหานก็ล้มทันที”
ฝ่ามือของเกาหยิ่งจือปิดปากของโม่หรูเฟยภายในทันที “เธอบ้าไปแล้ว? เวลาแบบนี้พูดอะไร? เธอจำไว้ ที่เธอตั้งท้องคือลูกของหลงเซียว เด็กคนนี้ก็เป็นได้แต่ของหลงเซียว ตอนนี้เด็กไม่อยู่แล้ว เธอจะต้องโศกเศร้าเสียใจกว่าใครๆ เธอต้องใจสลาย สิ้นหวัง จำไว้!”
ดึงมือของเธอออก โม่หรูเฟยหัวเราะเยาะ “พี่คะ พี่ตื่นตระหนกอะไร? ที่นี่ก็ไม่ได้มีคนอื่นสักหน่อย ตระกูลหลงตอนนี้วุ่นวายกันไปหมด ยังจะมีเวลามาสนใจที่นี่หรอ? เด็กไม่อยู่แล้ว ในที่สุดฉันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกได้สักที หากถูกพวกเขาพบว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ของตระกูลหลง คนที่เดินเข้าตารางในวันนี้ เกรงว่าจะเป็นฉันแทน”
เกาหยิ่งจือเบิกตาโพลงขึ้นอย่างตื่นตัว “เธอยังพูด!หน้าต่างมีหู”
“ค่ะๆๆ ไม่พูดแล้ว เชื่อฟังพี่”
“ตอนนี้เธอบำรุงรักษาร่างกายให้ดีๆ อนาคตต่อไปแต่งงานกับหลงเซียวถึงจะสามารถท้องลูกของเขาได้จริงๆ นั่งอยู่บนบัลลังก์คุณหญิงแห่งบ้านตระกูลหลงได้อย่างมั่นคง”
ในเวลานี้ นักข่าวจำนวนมากรวมตัวกันอยู่นอกประตูโรงพยาบาล ได้ยินข่าวการแท้งของโม่หรูเฟย นักข่าวทั้งหลายราวกับปลาฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือด ทั้งหมดรวมตัวเข้ามา ล้อมหน้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาลและทางเข้าลานจอดรถได้ดินจนน้ำไม่อาจจะไหลผ่าน ไม่ว่าจะเห็นหมอพยาบาลหรือบอดี้การ์ดคนรับใช้ของตระกูลโม่ตระกูลหลง ก็แทบอยากจะฉีกปากของฝ่ายตรงข้ามล้วงเอาความจริงออกมา
แต่ตระกูลโม่กับตระกูลหลงเป็นสถานะระดับไหน มีหรือจะยอมให้ข่าวฉาวแบบนี้เผยแพร่ออกไป?
ทั้งข่าวที่ใจกล้าทั้งหลายก็คาดเดาด้วยตัวเองจนเกินความพอดี “ตามข่าวลือที่ได้ยินมา โม่หรูเฟยกับฉู่ลั่วหานเกิดความขัดแย้ง ภายใต้ความโกรธของฉู่ลั่วหานใจร้ายผลักโม่หรูเฟยตกบันได ทำให้เธอแท้ง…”
“โม่หรูเฟยฉู่ลั่วหานความขัดแย้งยกระดับ ยั่วยุให้เกิดคดีฆาตกรรม”
“จากความอับอายกลายเป็นความโกรธทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุผล ฉู่ลั่วหานเพราะรักจนเกิดความแค้นปรารถนาฆ่าคนปิดปาก”
คำศัพท์ไม่น่าฟังที่โผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสายแพร่สะพัดความคิดเห็นของสังคมรอบใหม่ออกมาอย่างบ้าคลั่ง คนของทั้งโรงพยาบาลต่างก็ตกเข้าไปในสงครามทางปาก ฝ่ายที่สนับสนุนฉู่ลั่วหานพยายามต่อสู้ด้วยเหตุผล แฟนคลับของโม่หรูเฟยถกเถียงด่าทออย่างใจกล้า ไม่ช้าข่าวก็กระจายไปถึงแผนกพักฟื้น
เกรงว่านอกจากหลงเซียวแล้ว คนอื่นๆต่างก็ถูกม้วนเข้าสู่สงครามทางปากไปหมดแล้ว
ลู่ซวงซวงรู้ข่าวค่อนข้างช้า ถูกพ่อแม่ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือห้ามดูโทรทัศน์มาโดยตลอด ลู่ซวงซวงรู้ข่าวก็ได้เป็นตอนค่ำของวันแล้ว
“WTF!นางฟ้าของฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้เป็นอันขาด!พ่อคะ แม่คะ หนูต้องช่วยชีวิตเธอ!ลั่วลั่วตอนนี้กองกำลังไม่เพียงพอ หลงเซียวดันเกิดเรื่องขึ้นอีก นอกจากหนูไม่มีใครช่วยเธอแล้ว!”
ลู่ซวงซวงดึงปลายเข็มออกก็จะกระโดดลงจากเตียงไปช่วยชีวิตคน ถูกลู่เฉิงหลินกดเอาไว้ ล็อกไว้บนเตียง “แกนอนให้ฉันดีๆ!เรื่องใหญ่เท่าฟ้าก็สำคัญไม่เท่าสุขภาพของแก ฉู่ลั่วหานคือคุณหญิงของตระกูลหลง คนที่ฟ้องเธอคือตระกูลโม่ แกจะสามารถช่วยอะไรได้? เพิ่มความวุ่นวายให้มากขึ้น!”
“เพิ่มความวุ่นวายหนูก็จะต้องไป!ข้างกายของลั่วลั่วไม่มีญาติมิตร สวะตระกูลฉู่สองคนนั้นอยากจะให้เธอตายใจจะขาด เธอมีหนูเป็นเพื่อนเพียงแค่คนเดียว หากหนูไม่ไป เธอแย่แน่ๆ”
แม่ลู่ดึงมือของลูกสาวเอาไว้ให้คำชี้แนะอย่างจริงใจ “ซวงซวง เรื่องแบบนี้พวกเราบ้านเล็กบ้านน้อยแทรกมือเข้าไปไม่ได้ ลูกรู้ว่าตระกูลหลงและตระกูลโม่คือสถานะอะไรหรือเปล่า? ประโยคเดียวก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของตระกูลลู่ได้”
ลู่ซวงซวงยืนกรานไม่ยอม “พ่อแม่คะ ลั่วลั่วคือพี่น้องที่ดีที่สุดของหนู!หนูไม่อาจนั่งดูอยู่เฉยๆไม่สนใจได้!”
ในขณะเดียวกัน บริษัทMBK
ปิดบังหลงเซียว จี้ตงหมิงปลุกระดมฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทหยุดยั้งการเผยแพร่ของข่าว เจรจาต่อรองโดยตรงกับสื่อใหญ่ต่างๆ ออกคำสั่งเอาข่าวลงภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
ตระกูลหลงคือเนื้อชิ้นใหญ่ แบ่งมาได้สักชิ้นก็พอให้สื่อและบริษัทอินเตอร์เน็ตอิ่มท้องกันไปหนึ่งมื้อ แต่ก็ไม่มีใครกล้าประลองฝีมืออย่างจริงๆจังๆกับMBK หลังจากที่ข่าวเผยแพร่ออกไปอย่างบ้าคลั่งสองสามชั่วโมงก็ถูกเอาลงทั้งหมด
มั่นใจว่าแถบการค้นหาค้นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับฉู่ลั่วหานกับโม่หรูเฟยใดๆไม่เจอแล้ว จี้ตงหมิงถึงได้ไปที่โรงพยาบาลอย่างกระสับกระส่ายร้อนรน
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ งานเก็บความลับในการปิดข่าวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษทำได้อย่างดีมาก หลงเซียวยังไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
“ลั่วหานล่ะ? เธออยู่ที่ไหน?”
เป็นไปตามความคาดหมาย เขาเอ่ยปากก็ถามถึงฉู่ลั่วหาน
“คุณหญิงตากฝน เป็นไข้ ยังคงกำลังพักผ่อนอยู่ครับ รอหลังจากที่เธอหายดีก็จะมาพบคุณทันที บอสวางใจ คุณหญิงไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไร”
ดวงตาที่ล้ำลึกจนมองไม่เห็นพื้นของหลงเซียวหรี่ลงเล็กน้อย ความเยือกเย็นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ราวกับรังสีอินฟราเรดระยะไกลต้องการมองทะลุใจของคนยังไงอย่างงั้น “อาหมิง คุณรู้ว่าโกหกผมผลลัพธ์ที่ตามมาในภายหลังคืออะไร”
จี้ตงหมิงคอตก “ผมไม่กล้าโกหกบอส คุณหญิงร่างกายไม่ค่อยสบายจริงๆ กลัวคุณเห็นเข้าจะเสียใจ”
หลงจื๋อในเวลานี้ก็เข้ามา กลัวพี่ใหญ่ซักไซ้ขึ้นมาลูกน้องตอบกลับไม่สะดวก หลงจื๋อเข้าประตูมาก็หัวเราะก่อกวน “พี่ใหญ่ พี่นี่ช่างลำเอียงจริงๆเลยใช่หรือเปล่า? ตั้งแต่เช้าจนค่ำคิดถึงพี่สะใภ้ใหญ่เพียงแค่คนเดียว พวกเราที่ทั้งเหนื่อยทั้งลำบากอยู่เป็นเพื่อนพี่ เข้าไปในธรรมจักษุของพี่ไม่ได้เลย!”
หลงเซียวถอนหายใจออกมาเบาๆ สีหน้ายังคงไม่ดีนัก ดีที่การหายใจกับชีพจรการเต้นของหัวใจต่างก็เป็นปกติแล้ว กำลังกายก็กำลังฟื้นตัว ดังนั้นถึงได้มีอารมณ์เถียงกับหลงจื๋อ “เสี่ยวจื๋อ แกไม่ได้ไปมหาวิทยาลัย/โรงเรียนมากี่วันแล้ว? นี่คือสภาพของการเป็นนักเรียน/นักศึกษา?”
หลงจื๋อถูกจับจุดอ่อน พูดล้อเล่นขำขันขึ้นมา “เข้าเรียนเสริมวันหลังได้ แต่สุขภาพของพี่ใหญ่หนักยิ่งกว่าภูเขาไท่ซาน จำเป็นจะต้องดูให้ดีๆ หากดูแลไม่ดี หันหลังกลับพี่สะใภ้ใหญ่ตำหนิขึ้นมาจะต้องเคาะกะโหลกผมแตกอย่างแน่นอน”
“เอาโทรศัพท์มือถือให้ฉัน”
พอหลงเซียวพูดว่าจะเอาโทรศัพท์มือถือ บรรยากาศภายในห้องก็ตึงเครียดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หลงจื๋อกับจี้ตงหมิงส่งสายตาหากันแวบหนึ่ง ผู้ที่อยู่ด้านหลังผงกศีรษะ หลงจื๋อถึงกล้าเอาโทรศัพท์มือถือให้กับเขา ลูบสันจมูกหัวเราะเยาะเขาอย่างไม่จริงจังว่า “พี่ใหญ่ก็เป็นสังคมก้มหน้าเหมือนกัน จุ๊ๆๆ”
หน้าจอโทรศัพท์มือถือสะอาดมาก ไม่มีข่าวคราวใดๆที่มาจากฉู่ลั่วหาน
สำหรับท่านเซียวแล้ว ไม่มีข่าวของฉู่ลั่วหาน ข้อความสายเรียกเข้าอีกมากแค่ไหนต่างก็เป็นความว่างเปล่า แต่โทรศัพท์มือถือโทรกลับไป ทางนั้นกลับแจ้งเตือนขึ้นมาว่าไม่สามารถรับสายได้ ทำอะไรอยู่กันแน่นะ?
วันถัดมา ทัณฑสถาน
“ฉู่ลั่วหาน มีคนมาพบคุณ”
ฉู่ลั่วหานที่ถูกกักขังมาหนึ่งคืนขดตัวอยู่ด้านในห้องที่เล็กและแคบ ลืมตาขึ้นมา ปรับตัวไม่ทันกับแสงจ้าที่ย้อนเข้ามาจนต้องยื่นมือขึ้นบัง ปากสั่นขึ้นมาเล็กน้อย “พ่อ?”
หลงถิงตอบรับคำหนึ่งอย่างรังเกียจ ผู้หญิงคนนี้ ให้มองนานขึ้นแม้แต่แวบเดียวเขาก็ไม่ยินยอม
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
“พ่อคะ หนูไม่เข้าใจความหมายของพ่อ”
“ฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องพูดละเอียดมากไปกว่านี้อีก ผลตรวจร่างกายฉบับนี้ เธอคงไม่รู้สึกแปลกหน้ากระมัง?”
ฉู่ลั่วหานตกตะลึงไปชั่วขณะ “ทำไมพ่อถึงได้…”
“นี่ไม่สำคัญ ฉู่ลั่วหาน ตระกูลหลงไม่มีทางอนุญาตให้มีข่าวฉาวอย่างโรคเอดส์แบบนี้ปรากฏออกมา ถึงแม้เธอจะอยู่ในคุก ข่าวแบบนี้ก็จะแพร่กระจายจนทั่วบ้านทั่วเมืองไปหมด ดังนั้น…”
พูดมาถึงตรงนี้ หลงถิงดึงเอาเอกสารฉบับหนึ่งออกมา กระดาษสีขาวอักษรสีดำ ทุกตัวอักษรสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ฉู่ลั่วหานดูเอกสารจบ เยือกเย็นไปทั่วทั้งร่างกาย ลำตัวแข็งทื่อ “พ่อจะเนรเทศหนู?”
หลงถิงคนที่สถานะแบบนี้ สมคบคิดกับเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องปกติ อยากใช้วิธีการเล็กน้อยให้คนคนนึงหายไปตลอดกาลก็ไม่ยาก แต่ฉู่ลั่วหานคิดไม่ถึงว่า เขาจะใช้วิธีการแบบนี้กับลูกสะใภ้ของตัวเอง!
เขาจะเนรเทศฉู่ลั่วหานออกนอกประเทศ อีกทั้งไม่อาจย้อนกลับประเทศจีนได้ตลอดกาล!
ฉู่ลั่วหานกำหมัดแน่น เส้นเลือดฝอยที่อยู่บนใบหน้าเห็นเป็นเส้นๆอย่างชัดเจน “พ่อคะ ทำไมถึงได้เกลียดหนูขนาดนี้?”
หลงถิงที่ทั้งตัวสวมชุดสูทงานฝีมือจากประเทศอิตาลีนั่งอยู่ที่ห้องไต่สวนอย่างสูงศักดิ์ แสงที่หม่นหมองไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความดูแพงของเขาเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าที่บำรุงรักษาดีถึงขั้นสุด บุคลิกประธานคณะกรรมการที่ไม่โมโหก็ยังดูน่าเกรงขาม แล้วก็อำนาจที่ผู้ปกครองที่ร่ำรวยมีโดยเฉพาะ
กับความน่าสังเวชของฉู่ลั่วหาน แตกต่างราวกับเป็นคนละโลก “ตระกูลฉู่ตระกูลแบบนี้ เดิมทีก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกับตระกูลหลง แมลงที่ปีนขึ้นมาจากชั้นล่างคิดไม่ถึงว่าจะคิดฝันไต่ขึ้นมาถึงตระกูลหลง ความฝันฉากนี้ตั้งแต่เริ่มแรกก็ผิดแล้ว คุณฉู่ พื้นที่ทางสังคมแบ่งออกเป็นระดับชั้นต่างๆมากมาย ก็ต้องตักเตือนคนบางกลุ่ม ประพฤติตัวอยู่ในขอบเขตหน่อย อย่าเกินกฏจารีตประเพณี ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีคนมาทำให้กลับคืนสู่ปกติเป็นธรรมดา”