คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 156 ลั่วหานเข้าคุก
ตอนที่ 156 ลั่วหานเข้าคุก
ได้ยินข่าว ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมาอย่างนิ่งเฉย คราบเลือดรอยแผลที่อยู่บนใบหน้าเป็นรอยด่างเต็มไปหมด แต่เธอดูเหมือนลืมความเจ็บ หูสูญเสียการได้ยินไปก็ไม่ปาน
คราวนี้ ต่อให้เธอกระโดดเข้าไปในแม่น้ำเหลืองก็ชำระล้างไม่สะอาดแล้ว เธอก็ไม่อยากจะล้างแล้วเช่นเดียวกัน
ไม่มีการอธิบายอย่างสุดความสามารถ และก็ไม่มีการหลบหนีที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ฉู่ลั่วหานเตรียมความพร้อมที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว ดวงตาที่ไฟตะเกียงมอดดับไม่รู้ว่ากำลังมองไปทางไหนอยู่ ระเบียงทางเดินที่สั่นไหวไม่หยุด เสียงร้องไห้ที่สนั่นฟ้า เสียงด่าทอที่ดังสนั่น เงาคนที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านหน้า ยื่นสองมือและขายาวๆมาทางที่เธออยู่
สิ่งเหล่านี้ ต่างก็กลายเป็นเงาภาพลวงตาที่เลือนราง ระยะห่างกับเธอไปอีกโลก ห่างไกลมาก แปลกหน้ามาก แล้วก็เยือกเย็นมากเช่นเดียวกัน
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวอย่างเงียบๆ เงียบจนดูเหมือนภูติตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บในฝาครอบแก้ว ปล่อยให้โลกที่อยู่ด้านนอกวุ่นวายกันตามอำเภอใจอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง
ฟู่เหวินฟาง โม่ล่างคุน หยวนชูเฟิน แล้วก็เกาหยิ่งจือที่รีบตามเข้ามา ทั้งสี่คนก่อตัวกันกลายเป็นสมาพันธ์การแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ หากไม่ได้ถูกหมอและผู้รักษาความปลอดภัยรั้งเอาไว้ ฉู่ลั่วหานก็จะถูกพวกเขาตบตีจนกลายเป็นชิ้นๆไปในทันที
ตอนที่ได้ยินเกาหยิ่งจือเรียกฟู่เหวินฟางว่า“น้ารอง”นั้น บนใบหน้าที่ไม่มีการตอบสนองใดๆมาโดยตลอดของฉู่ลั่วหานในวินาทีนั้นมีการเคลื่อนไหวขึ้นมาเล็กน้อย
ที่แท้ เป็นเช่นนี้เอง
ทำไมเธอถึงได้คิดไม่ถึงนะ ระหว่างโม่หรูเฟยกับเกาหยิ่งจือ คิดไม่ถึงว่าจะมีสายสัมพันธ์แบบนี้
ถ้างั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกาหยิ่งจือทำกับเธอ ก็สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว
ช่างเป็นการประชดประชันจริงๆ!วนไปวนมา ในวงเวียนนี้ต่างก็คือคนของพวกเขา เธอเหมือนกับหนูตัวเล็กๆสีขาวตัวหนึ่งถูกวางไว้ใต้แว่นขยาย คิดว่าตัวเองสามารถอยู่ด้านนอกของเรื่องทั้งหมดได้ กลับไม่เคยคิดถึงเลยว่า เธอไม่เคยออกไปจากสายตาของคนเหล่านี้มาก่อน
เธอเข้าใจทั้งหมดแล้ว
รูปถ่ายร่วมกันของเธอกับถังจิ้นเหยียน รูปที่อยู่ในห้องอยู่เวร เธอถูกส่งไปยังหมู่บ้านผู้ติดเชื้อเอชไอวี ตำแหน่งงานของเธอถูกปลด สิ่งเหล่านี้อธิบายขึ้นมา ราบรื่นสอดคล้องไปหมด
หลังจากที่คิดจนเข้าใจ ฉู่ลั่วหานก็ไม่ได้ตะโกนร้องโวยวาย เธอเพียงแค่ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นเบาๆ ยิ้มอย่างประชดประชัน และก็ค่อนข้างจนปัญญา ยิ่งเป็นการหัวเราะเยาะตัวเอง
“ฉู่ลั่วหาน!เธอฆ่าหลานของตระกูลหลง!เธอเอาชีวิตมา!เอาชีวิตมา!”
ฟู่เหวินฟางพุ่งทะลุการป้องกันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สองมือจิกไปบนคอของฉู่ลั่วหาน เบิกตาโพลงทุกคำถามที่บีบเอาคำตอบต่างก็กำลังบีบให้คนหมดหนทางที่จะไปต่อได้
ฉู่ลั่วหานเงยศีรษะขึ้นมาอย่างช้าๆ มองเธอด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด “ฟู่เหวินฟาง คุณอยากจะฆ่าฉันงั้นหรอ? ลงมือสิ”
ฟู่เหวินฟางคิดไม่ถึงว่าฉู่ลั่วหานจะพูดคำแบบนี้ออกมา กลับทำให้ตัวเองอึ้งแทนเสียด้วยซ้ำ “เธอนึกว่าฉันไม่กล้า!”
ในขณะที่พูด เธอหมุนตัวชักเอาแท่งไฟออกมาจากเอวของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ชี้ไปทางฉู่ลั่วหาน “เธอนึกว่าฉันไม่กล้า!ฉันจะฆ่าเธอ!”
“น้ารอง!อย่าวู่วามค่ะ!”
เกาหยิ่งจือวิ่งเข้ามารั้งฟู่เหวินฟางเอาไว้ “น้ารอง อีกสักครู่ตำรวจก็มาแล้ว ฆ่าคนเข้าคุก จะต้องมีคนระบายความแค้นแทนเฟยเฟยค่ะ น้ารองลงมือตอนนี้ ก็เสียเปรียบให้นังฆาตกรคนนี้แล้ว”
ฟู่เหวินฟางน้ำมูกน้ำตาไหลเต็มหน้าไปหมด ร้องไห้จนใบหน้าที่แต่งด้วยเครื่องสำอางค์เลอะเลือน ของเหลวสีดำสนิทที่อยู่บนดวงตาเปรอะเปื้อนไปครึ่งค่อนหน้า มุมริมฝีปากกระตุกด้วยความโมโห ท่าทางดุร้ายน่ากลัวเป็นอย่างมาก
หยวนชูเฟินนวดคลึงไปที่บริเวณหัวคิ้วอย่างเจ็บปวด “เหวินฟาง รอตำรวจมาเถอะ”
ตอนที่พูดนั้น ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก โม่หรูเฟยถูกคนเข็นออกมาจากด้านใน นอนพักอย่างห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง ดวงตาทั้งสองข้างหม่นหมอง น่าสงสารเป็นอย่างมาก มือเล็กๆยกขึ้นเล็กน้อยอย่างอ่อนปวกเปียก เรียกออกมาคำหนึ่งอย่างอ่อนแอ “คุณป้า…”
หยวนชูเฟินเข้าไปข้างหน้า คว้ามือของโม่หรูเฟยมาใส่ไว้ข้างในฝ่ามือของตนเอง “ป้าอยู่จ้ะ”
น้ำตาของโม่หรูเฟยเอ่อล้นออกมาจากดวงตา เอ่ยขึ้นอย่างน่าสงสารทั้งยังเป็นผู้บริสุทธิ์ “ขอโทษนะคะคุณป้า หนูไม่สามารถ…รักษาลูกที่มีกับพี่เซียวเอาไว้ได้ ขอโทษนะคะ…”
ในใจของหยวนชูเฟินโกรธแค้น บนใบหน้ากลับไม่แสดงออกถึงการตำหนิใดๆ เธอส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไรจ้ะ ป้าไม่หนู นี่ไม่ใช่ความผิดของหนู”
น้ำตาที่อยู่บนใบหน้าที่ซีดเผือดของโม่หรูเฟยสะท้อนเป็นแสงที่ระยิบ “คุณป้า หนู…ปวดใจมาก เด็กคนนี้ หนูรักเขามากจริงๆ จริงๆค่ะ…”
สะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออก ได้แต่หลับตาลงร้องไห้ สภาพแบบนั้น ต่อให้เป็นใครก็ตามมาเห็นต่างก็สงสารจนใจสลาย
ฟู่เหวินฟางกับโม่ล่างคุนก็ตามเข้ามาด้วยเช่นเดียวกัน “เฟยเฟย ไม่ต้องเสียใจ บำรุงรักษาร่างกายให้ดี ลูกยังมีอีกได้ เชื่อฟังแม่ ดูแลตัวเองให้ดี”
นัยน์ตาของโม่ล่างคุนมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา เขาใช้หลังฝ่ามือเช็ดไปที่ดวงตา กัดแน่นทุกคำพูดว่า “เฟยเฟย ลูกวางใจ ความไม่เป็นธรรมที่ลูกได้รับพ่อจะต้องเอาคืนกลับมาให้ลูกให้ได้”
เกาหยิ่งจือพยักหน้าให้กับเธอ “อีกสักครู่ตำรวจก็มา ทางนี้ส่งให้กับพวกเราจัดการ” จากนั้นเอ่ย “น้ารอง น้าเขย ไปพักผ่อนเป็นเพื่อนเฟยเฟยเถอะค่ะ”
ฟู่เหวินฟางกับหยวนชูเฟินเข้าไปในห้องผู้ป่วย บนระเบียงทางเดินเหลือเพียงแค่เกาหยิ่งจือกับโม่ล่างคุน ทั้งสองคนมองจากข้างบนลงไปหาฉู่ลั่วหาน เตรียมความพร้อมเพียงพอที่จะผลักเธอเข้าไปในเหวลึกโดยสมบูรณ์แบบ
ฉู่ลั่วหานนิ่งสงบมาก เพียงแต่ตอนที่เงยหน้าขึ้นมานั้นรอยเลือดที่เต็มไปทั่วทั้งใบหน้าทำให้คนสองคนตกใจกันไปหมด
มือที่ซีดเผือดของเธอยันเอาไว้ที่บนหัวเข่า เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “เกาหยิ่งจือ วิธีการของเธอช่างดีจริงๆ”
เกาหยิ่งจือกอดอก เหลือบมองฉู่ลั่วหานที่สภาพไม่เป็นคน ยักหางคิ้วขึ้นอย่างเย้ยหยัน “โทษก็โทษได้แค่เธอที่ตาบอดเกินไป ใครๆต่างก็บอกว่าเธอฉลาดเกินคนสติปัญญาสูง ฉันเห็นว่า จริงๆก็ไม่เท่าไร”
ฉู่ลั่วหานไม่ได้โต้แย้ง เธอหัวเราะเยาะต่อ “ให้ฉันใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดภายในคุก วิธีการนี้ใช้ได้ดีจริงๆ”
เกาหยิ่งจือเชิดคางหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชัน “เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ฉู่ลั่วหานคือคนฉลาด!”
ผู้หญิงที่อยู่บนเก้าอี้ยังคงกำลังหัวเราะอย่างนิ่งสงบ “ดีมาก สำหรับฉันแล้วที่ไหนก็เหมือนกัน ในคุก บางทีอาจจะสะอาดกว่าหน่อย”
เธอพูดดีมากติดต่อกันมาสามครั้ง เป็นเพราะตัวเองมองดูทุกอย่างออกมาตั้งนานแล้ว รู้สึกว่าอะไรต่างก็ไม่มีความหมายแล้วจริงๆ จะตายยังไงก็ช่าง
โม่ล่างคุนกลับไม่ได้พูดอะไรออกมา เป็นเพราะเขารู้สึกไม่คุ้มค่าที่สนทนากับฉู่ลั่วหาน ยิ่งรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะมีส่วนร่วมใดๆกับผู้หญิงชั้นต่ำสารเลวคนหนึ่ง
“พี่สะใภ้ใหญ่!นี่เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น? หมอปากมากพวกนั้นในโรงพยาบาลกำลังพูดจาไร้สาระใช่หรือเปล่า!”
จากห้องICUมากถึงแผนกสูติ-นรีเวช ตอนที่หลงจื๋อได้ยินข่าวได้สายเกินไปหน่อยแล้ว เขาวิ่งมาถึงแผนกสูติ-นรีเวช มองเห็นเหล่าตำรวจกำลังรวมตัวกันอยู่
ฉู่ลั่วหานลุกยืนขึ้น บนมือสวมกุญแจมือที่เย็นเฉียบ เธอชูมือขึ้น เสียงกระทบกันของโลหะถูกส่งออกมา “เป็นเรื่องจริง”
หัวใจของหลงจื๋อแทบจะตกใจจนแยกออกจากกัน มุมริมฝีปากสั่นส่ายศีรษะอย่างไม่อยากที่จะเชื่อ “เป็นไปไม่ได้ ผมเชื่อว่าพี่สะใภ้ใหญ่ของผมไม่มีทางทำเช่นนี้โดยเด็ดขาด!”
ในขณะที่ตะโกนร้อง หลงจื๋อกระชากแขนของตำรวจเอาไว้ “ปล่อยเธอ!พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอคือใคร!เธอคือภรรยาของหลงเซียว!คือคุณหญิงของตระกูลหลง!”
ตำรวจไม่มีความลังเล แขนกั้นแยกหลงจื๋อออก หน้าที่ก็คือหน้าที่ ไม่คำนึงถึงเลยแม้แต่น้อยว่าคู่กรณีนั้นคือใคร นี่คือความยินยอมของหยวนชูเฟิน ไม่ต้องพูดถึงว่าคือภรรยาของหลงเซียว ต่อให้หลงเซียวมาด้วยตัวเอง เกรงว่าก็ต้องผ่านด่านแม่ของตัวเองไปก่อน
“คุณชายรองหลง กรุณาหลีกทาง อย่าขัดขวางการดำเนินงานของพวกเรา”
“ไปทำงานของพวกคุณสิ!คนที่คุณจะพาไปตอนนี้คือพี่สะใภ้ใหญ่ของผม!ปล่อยเธอ!”
ไอ้พวกสารเลว!
ฉู่ลั่วหานมองดูท่าทีที่โมโหจนแทบจะเสียสติของหลงจื๋อด้วยความนิ่งสงบ เอ่ยปลอบใจว่า “ไม่ต้องแล้วหลงจื๋อ พี่จะอธิบายให้ชัดเจนเอง เธอใจเย็นหน่อย ไปอยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่ของเธอ แล้วก็ ตอนนี้เขาไม่สามารถรับแรงกระตุ้นได้ จะให้เขารับรู้ข่าวสารใดๆไม่ได้ หากเป็นไปได้ล่ะก็ ปิดข่าวเอาไว้”
นี่คือคำขอร้องครั้งสุดท้ายจากเธอแล้ว
หัวใจของหลงเซียวได้รับความเสียหายซ้ำสอง หากได้รับแรงกระตุ้น จะอันตรายมาก
หลงจื๋อไม่ยอม หากพี่ใหญ่เป็นปกติดีอยู่ คนเหล่านี้ลองกล้าแตะนิ้วมือแม้เพียงนิ้วเดียวดู!
อยู่ๆเขาก็รู้สึกโทษตัวเองรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน เกลียดที่ตัวเองไม่มีความสามารถและอิทธิพลเหมือนกับพี่ใหญ่ ไม่สามารถปกป้องคนที่ตัวเองอยากจะปกป้องได้
“พี่สะใภ้ใหญ่ ผมจะคิดหาวิธีให้ได้”
โม่ล่างคุนเอ่ย “หลงจื๋อ ฉู่ลั่วหานตั้งใจทำร้ายเฟยเฟย ทำให้เธอแท้ง ลูกของเฟยเฟยกับพี่ใหญ่เธอไม่อยู่แล้ว ฉู่ลั่วหานมีความรับผิดชอบที่ไม่สามารถจะปัดออกไปได้ อย่าขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอหลีกไปก่อน”
หลงจื๋อเดินไปทางโม่ล่างคุนเล็กน้อย ยกมุมริมฝีปากด้านนึงขึ้น หัวเราะขึ้นอย่างอันธพาลทั้งยังชั่วร้าย “แท้งหรอ? พี่หรูเฟยโชคดีจริงๆ ต่อไปไม่ต้องอุ้มท้องสิบเดือนลำบากขนาดนั้น ท่านว่า เรื่องที่ดีขนาดนี้ ดีแค่ไหนกัน”
“หลงจื๋อ!กล้าพูดซี้ซั้วมาอีกประโยคนึง!” ดวงตาที่ดุร้ายของโม่ล่างคุนเบิกกว้าง สายตาดุดันที่ฉลาดในการวางแผนคับแคบชั่วร้ายเป็นอย่างมาก
หลงจื๋อหัวเราะร่า “ลุงโม่ ที่ผมพูดหรือว่าไม่ใช่ครับ? อย่าวู่วาม โมโหจนเป็นอันตรายต่อชีวิต ผมก็ต้องเข้าคุกด้วยใช่หรือเปล่า?”
เกาหยิ่งจือเดินแซงขึ้นมาหนึ่งก้าว ขวางไว้ที่ด้านหน้าของหลงจื๋อ “คุณชายรองหลง ก่อกวนโดยไร้เหตุผลไม่มีความหมายอะไร อย่าทำตัวเป็นเด็กขนาดนี้”
ต่อให้เขาก่อกวนมากกว่านี้ ไร้เหตุผลสร้างความวุ่นวายมากกว่านี้ ฉู่ลั่วหานก็ยังคงถูกพาขึ้นรถตำรวจอยู่ดี
บ้าจริง!คิดไม่ถึงว่าจะกล้าให้พี่สะใภ้ใหญ่ของเขานั่งรถตำรวจ!ใส่กุญแจมือ!ไอ้พวกสารเลว!รอรับความตายเถอะ!
หลงจื๋อขึ้นลิฟต์ด้วยความโมโหจนถึงขีดสุด แต่พอเข้ามาในลิฟต์คิดถึงคำที่ฉู่ลั่วหานพูด ก็กลัดกลุ้มจนชกไปบนผนังเหล็กของลิฟต์ จุดที่กระดูกนูนออกมาด้านหลังฝ่ามือมีเลือดไหลทะลักออกมา
หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น นิ้วของเขากดไปที่ชั้น24
“ถังจิ้นเหยียน!”
หลงจื๋อเข้าประตูมาก็ร้องเรียกชื่อนามสกุลของถังจิ้นเหยียนภายในทันที “ถังจิ้นเหยียน คุณออกมา!”
ถังจิ้นเหยียนทำการผ่าตัดบวกกับตรวจห้องผู้ป่วยในตอนกลางวัน ช่วงบ่ายเหนื่อยมากจริงๆ จึงได้นอนพักที่ห้องทำงานของตัวเองสักครู่ คิดไม่ถึงว่าคนที่เรียกเขาตื่นจะเป็นหลงจื๋อ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ถังจิ้นเหยียนนวดคลึงไปบนบริเวณหัวคิ้ว งานที่ต่อเนื่องทำให้สีหน้าของเขาในตอนนี้เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
หลงจื๋อไม่อ้อมค้อม ไม่มีการให้เขาเตรียมใจใดๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ของผมถูกตำรวจพาไปแล้ว”
“คุณพูดอะไรนะ!”
ขึ้นมาบนรถ หลงจื๋อนำต้นสายปลายเหตุทั้งหมดของเรื่องพูดไปจนจบหนึ่งรอบ ถังจิ้นเหยียนกำหมัดทุบไปบนพวงมาลัยรถยนต์ด้วยความหงุดหงิดปวดใจ “คนโง่!”
หลงจื๋อนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ “ใครโง่?”
ถังจิ้นเหยียนกวาดตามองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาอ่อนเยาว์ของหลงจื๋อ “พี่สะใภ้ใหญ่ของคุณ”
“คุณกล้าด่าพี่สะใภ้ใหญ่ของผม!” หลงจื๋อยกมือกระชากคอเสื้อของเขาเอาไว้จะต่อย
ถังจิ้นเหยียนออกแรงขัดขืน หลุดออกมาจากมือของเขาอย่างราบรื่น “ไม่ใช่แค่โง่ ยังทำให้ตัวเองพังพินาศ!”
“คุณลองพูดอีกประโยค!”
ถังจิ้นเหยียนไม่สนใจความโมโหของเขาอีกต่อไป “เวลาแบบนี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือนิ่งเงียบ รอทนายเข้ามาจัดการ พี่สะใภ้ใหญ่ของคุณเธอคือ…เธอคืออยากจะเอาตัวเองส่งเข้าไปในตาราง”
“คุณนี่มันพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอะไร!พี่สะใภ้ใหญ่ของผมไม่มีทางทำแบบนี้แน่!”
ช่างเถอะ ถังจิ้นเหยียนไม่อยากพูดกับเด็กคนหนึ่งมากเกินไป
รถมาถึงสถานีตำรวจ ถังจิ้นเหยียนยื่นเสนอเข้าพบฉู่ลั่วหาน
แต่ฉู่ลั่วหานปฏิเสธที่จะพบไม่ว่าใครก็ตาม
หลงจื๋อร้อนรนจนใช้มือจิกหัว “พี่สะใภ้ใหญ่นี่กำลังทำอะไรอยู่? ทำไมไม่พบ?”
ถังจิ้นเหยียนใช้มือทาบหน้าผาก ออกแรงนวดไปบนขมับ “อีกสักครู่ทนายก็เข้ามา จะต้องรีบพบเธอก่อนที่พี่สะใภ้ใหญ่ของเธอจะยอมรับความผิดให้ได้ ไม่ว่าเธอจะอยากตายแค่ไหน ก็ยอมรับผิดไม่ได้เป็นอันขาด!”
หลงจื๋อมึนงงไปหมด “อะไรกับอะไร!พี่สะใภ้ใหญ่ของผมจะอยากตายได้ยังไงกัน!คุณนี่มันหุบปาก!”
ทนายมาถึงสถานที่ ฉู่ลั่วหานในฐานะที่ถูกฟ้องจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับคำให้การตามขั้นตอนปกติ
กั้นด้วยโต๊ะยาวตัวหนึ่ง ฉู่ลั่วหานนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว บนใบหน้ายังมีรอยเลือด ริมฝีปากแห้งและซีดเผือด เส้นผมปกคลุมอยู่บนร่างกาย คนทั้งคนแห้งเหี่ยวราวกับผู้ลี้ภัย
ถังจิ้นเหยียนหายใจด้วยความเจ็บปวดจนหัวใจแทบจะแตกออกเป็นสองซีด พยายามเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งสงบ “ลั่วหาน ผมเชื่อว่าโม่หรูเฟยไม่ใช่คุณที่จงใจทำร้าย ดังนั้นคุณจะยอมรับไม่ได้ หากคุณยอมรับ ก็จะต้องใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอยู่ที่นี่จริงๆแล้ว”
ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้น ดวงตาว่างเปล่ามืดหม่น “หลงเซียวเป็นยังไงบ้างคะ? เขาไม่ได้ยินข่าวใช่หรือเปล่า? สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ไม่สามารถรับแรงกระตุ้นได้แม้แต่นิดเดียว ยิ่งไม่สามารถโมโห คุณรู้นะคะ!”