คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 137 ปิดปากเธอด้วยความอ่อนโยน
ตอนที่ 137 ปิดปากเธอด้วยความอ่อนโยน
เธอวางโทรศัพท์ลงราวถูกไฟช็อต หน้าจอที่ยังไม่ดับสนิทปรากฏชื่อบุคคลปลายสาย “รองคณบดี” ตัวอักษรที่บันทึกเบอร์โทรศัพท์ ฉลาดปราดเปรื่องเยี่ยงหลงเซียว มีหรือจะไม่รู้ได้ว่าปลายสายคือใคร
ฉู่ลั่วหานถูกย้อมด้วยความตกใจราวถูกสามีจับได้ตนคุยกับชายอื่น เธอช็อคไร้สติทำอะไรไม่ถูก
“ฉัน…..”
“โทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลหรือ?” หลงเซียวขัดคำเธอ ในชั่วพริบตา เขานึกขึ้นได้ ไม่ว่าเธอจะยอมรับหรือไม่ คำตอบนั้นสำหรับตนแล้วไม่ใช่เรื่องดี เขาจึงขัดขึ้น
แม้ฝ่ายตรงข้ามเป็นคู่แข่งที่ทำให้เขาเสียการควบคุมอย่างถังจิ้นเหยียน ท่านเซียวยังคงรักษาความสุขุมนิ่งสงบเอาไว้
ฉู่ลั่วหานมือเย็นเฉียบ ราวกุมน้ำแข็งไว้ในฝ่ามือ ท่าทางเขาจะรู้แล้วจริงๆ
“หลงเซียว คือว่า…..”
“วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงาน ทางโรงพยาบาลคงโทรมาตาม ฉันเข้าใจ หากเธออยากไปทำงาน ฉันจะไปส่ง”
กายกำยำของหลงเซียวยืนอยู่ในห้อง ตะวันสาดส่องผ่านหน้าต่างไปยังร่างบางใบหน้าได้รูป จมูกที่โด่งเป็นสัน ริมฝีปากที่ปิดสนิท เขาทลายความอึดอัดเมื่อครู่ได้อย่างง่ายดาย
ความตระหนกเมื่อครู่ในใจฉู่ลั่วหาน พลันคลายออก เธอพลิกโทรศัพท์ปิดไว้ด้วยฝ่ามือ ยังดีที่เขาไม่ได้ยิน ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องแน่
เพียงแค่ เขาไม่รู้ว่าเธอได้ลาออกแล้ว
“ด้านโรงพยาบาล ฉันลาพักร้อน เตรียมตัวไปต่างประเทศ จึงไม่ต้องไปทำงาน” ฉู่ลั่วหานเบือนหน้าหนีพร้อมสูดหายใจลึกเข้าเต็มปอด ในขณะที่เธอสูดหายใจเข้า ชายหนุ่มได้ก้าวขายาวหยุดลงต่อหน้าเธอ
เขากุมมือเธอแน่นอย่างมั่นคง เพียงแตะลงที่ปลายนิ้ว เขาพบว่ามือเธอเย็นเฉียบจนน่าตกใจ อุณหภูมิหน้าร้อนที่สูงกว่า30องศา ฝ่ามือเธอราวถูกแช่กับหิมะละลอกใหญ่
“เห็นข่าววันนี้แล้วใช่ไหม? มือถึงได้เย็นแบบนี้ โกรธขนาดนั้นเลย?”
ข่าว?
เธอไม่ได้ดูจริงๆนั่นแหละ ต่อให้ไม่ดูก็รู้อยู่แล้วว่านักข่าวจะเขียนว่าอย่างไรบ้าง เธอชินชากับคำวิพากษ์วิจารณ์เสียแล้ว
ฉู่ลั่วหานยิ้มพลางส่ายหน้า “เรื่องแบบนี้กระทบต่ออารมณ์จิตใจ ฉันว่าไม่ดูจะดีกว่าไหม? และฉันเชื่อ ความสามารถระดับท่านเซียว อะไรพูดได้ อะไรพูดไม่ได้ นักข่าวต้องกลั่นกรองก่อนอยู่แล้ว”
หลงเซียวอารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อได้ยินประโยคเธอ ลืมเรื่องเมื่อครู่ที่เธอคุยโทรศัพท์กับถังจิ้นเหยียนจนสิ้น เพียงแต่เหลือบตาเห็นโทรศัพท์ที่เธอวางทิ้งเอาไว้ อารมณ์พลันขุ่นมัวขึ้นมาทุกที
เมื่อเผชิญกับความเชื่อใจของเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาปกคลุมไปด้วยรอยยิ้มแกมหยอกล้อ “ได้รับความเชื่อใจของหมอฉู่ไม่ง่ายเลย เธอว่า ฉันควรฉลองหรือเปล่า?”
ฉลองหรือ?
ฉู่ลั่วหานมีกระจิตกระใจฉลองในเวลาแบบนี้ที่ไหนกัน?
“ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว เธอไปเตรียมตัวให้เรียบร้อย ฉันจะพาเธอออกไป” หลงเซียวกดมือเธอเบาๆ ไม่ให้เวลาเธอได้ไตร่ตรองที่จะออกไปกับเขาแม้แต่น้อย เพียงตัดสินใจเองอย่างเอาแต่ใจ
เขาสละห้องให้เธอเตรียมตัวเปลี่ยนชุด หลงเซียวถอยออกจากห้อง หลังพิงกับประตูห้อง ร่างสูงใหญ่แนบกับประตู หลงเซียวหัวเราะชอบใจกับการกระทำของตน
อดีต ระหว่างเขาและเธอราวลิ้นกับฟันต่างกลืนกันไม่ลง หนามแหลมคมบนตัวเธอทิ่มแทงเขาอย่างไร้ความเกรงใจเสมอ และตัวเขาเองไม่เคยไตร่ตรองถึงการกระทำของตนจะทำร้ายเธอหรือไม่
ตอนนี้ ตัวหลงเซียวเองยังตกใจ เขากลับนิสัยดีเช่นนี้
เขาส่ายหน้า พร้อมเดินลงไปยังชั้นล่าง ต่อสายหาจี้ตงหมิง
“ไปตรวจสอบ รายชื่อหมอที่ไปต่างประเทศในครั้งนี้ ถังจิ้นเหยียนอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่
“ครับ!”
“อีกอย่าง ตรวจสอบเวลาเครื่องออก และสถานที่อย่างละเอียด”
“ครับ เจ้านาย!”
เขามีความอดทน แต่ความอดทนของเขา มีขีดจำกัด
ในขณะที่ยุ่งอยู่กับการเสาะหา โทรศัพท์ของหลงเซียวพลันดังขึ้น
ประหลาดนัก บุคคลที่ไม่กล้าติดต่อเธออย่างฟางหลิงหยู้กลับติดต่อเขากะทันหัน
ริมฝีปากบางของชายหนุ่มเย็นเยียบ แต่ก่อนความสัมพันธ์ของเขาและฉู่ลั่วหานยังไม่ถูกเปิดเผย
ฟางหลิงหยู้กระทำเช่นไรต่อเขา ท่านเซียวจำได้อย่างละเอียดยิบ
เมื่อคืนเพิ่งเปิดตัวไปอย่างอลังการ เธอกลับติดต่อเขามากะทันหัน
“ฮัลโหล”
น้ำเสียงดูถูกเล็กน้อย เพียงแค่ฟางหลิงหยู้รู้ตัวสักนิดเธอจะได้รู้ว่าเขาไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธอมากแค่ไหน
ฉู่ซีหรานโอบแขนข้างหนึ่งของฟางหลิงหยู้ สองแม่ลูกนี้พยายามที่จะจับหลงเซียวถุงถังใบใหญ่นี้ ส่วนชื่อเสียงและศักดิ์ศรี พวกเขาโยนทิ้งได้ทุกเมื่อ
ฟางหลิงหยู้เอ่ยอย่างนอบน้อมเกรงใจ แต่ยังคงไม่ลืมสถานะแม่ยายของตน “หลงเซียว เธอกับลั่วหานไม่ได้กลับมาบ้านสักพักแล้ว ในเมื่อพวกเธอเปิดตัวกันแล้ว หาเวลาว่างมานั่งเล่นบ้างสิ”
ฉู่ซีหรานหูเพิ่งฟังปฏิกิริยาของอีกฝ่าย แต่หลงเซียวกลับนิ่งสงบ สองแม่ลูกสบตากันและกัน รอดูปฏิกิริยาหลงเซียวตอบโต้
นานจนกระทั่งพวกเขาคิดว่าหลงเซียววางสายไปแล้ว ที่สุดอีกฝ่ายตอกกลับอย่างไร้ความอดทน “คุณฟาง คงรู้ข่าวเมื่อคืนแล้วสินะ”
ฟางหลิงหยู้ดีใจออกนอกหน้าเมื่อได้ยินเสียงของหลงเซียว “ใช่แล้วๆ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร สิ่งที่เธอทำให้กับลั่วหาน ซาบซึ้งใจมากเลยหละ ฉันดูวีดีโอตั้งหลายรอบ ฉันน้ำตาไหลทุกครั้งเลยลั่วหานเป็นลูกสาวที่เก่งที่สุดของตระกูลฉู่ สำหรับมารดา ฉันดีใจแทนเธอจริงๆ…..”
เขาไม่ให้โอกาสเธอได้พร่ำต่อไป ท่านเซียวเหวี่ยงปิดประตูตู้เย็น “หากคุณฟางเป็นห่วงเธอจริงๆ ไม่ใช่ควรถามก่อนหรือ เหตุใดเธอถึงบอกว่าตนมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน? ผมว่าคุณมีอื่นใดแอบแฝงนะครับ”
สู้กับคนอย่างคุณฟาง แม้ตอบคำถามหลงเซียวยังเหนื่อยหน่าย สิ่งเดียวที่เขาสงสัย ตระกูลฉู่มีสมาชิกเช่นนี้ได้อย่างไร!
ดีที่ ฉู่ลั่วหานเข้มแข็งพอ ไม่เคยเรียกเธอแม่แม้แต่คำเดียว
ฟางหลิงหยู้ถูกแดกดันจนพูดอะไรไม่ออก พลางหัวเราะกลบเกลื่อน “ฉันก็แค่คิดว่า พวกเธอมาบ้านฉันคืนนี้ ค่อยถามให้ละเอียดอีกที เพื่อ…..”
“ไม่ต้อง ลั่วหานเป็นภรรยาผม ทั้งหมดของเธอผมจะดูแลเอง”
จับจ้องยังสายที่ถูกตัด ฟางหลิงหยู้นิ่งอึ้งราวถูกแช่แข็ง เธอกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ “นังแพศยาไร้จิตนึกฉู่ลั่วหาน บินสูงแล้ว ลืมตระกูลฉู่สิ้น!”
ฉู่ซีหรานหรี่ตาลงอย่างชั่วร้าย “บริษัทฉู่ซื่อถูกซื้อกิจการ เธอไม่แม้กระทั่งถาม พูดดิบดีว่าจะปกป้องบริษัทฉู่ซื่อ มันก็แค่นังแพศยาไร้จิตใจ”
บริษัทฉู่ซื่อล้มละลาย แต่ก่อนเก่าเป็นคู่แม่ลูกมีหน้ามีตามีชื่อเสียงในบรรดาแวดวงไฮโซ บัดนี้กระทั่งงานเลี้ยงธรรมดายังเข้าร่วมไม่ได้ เธอไม่ยอมรับชะตากรรม
“รอก่อน คนที่เกลียดฉู่ลั่วหานในตอนนี้มีไม่น้อย คงไม่มีใครเกลียดเธอเท่าโม่หรูเฟยอีกแล้ว เพียงแต่การติดต่อกับโม่หรูเฟย ได้ความช่วยเหลือจากเธอ หวนคืนสู่แวดวงไฮโซ เรายังมีโอกาส”
ฟางหลิงหยู้กุมมือลูกสาวแน่น “หรานหราน อย่าลืมว่าก่อนแต่งเข้าบ้านตระกูลฉู่ เรามีชีวิตอยู่ยังไง ไม่มีทางที่เราจะกลับไปตายรังเก่าที่เล็กเท่ารูหนูอีก! ไม่ได้เด็ดขาด!”
นึกถึงอดีต ฉู่ซีหรานเต็มไปด้วยความหวาดผวา ตระหนกกลัวจนเหงื่อแตกโชก “ไม่…..ฉันไม่อยากกลับไป! ฉันไม่กลับไป!”
ฉู่ลั่วหานเปลี่ยนชุดกระโปรงเรียบง่ายดูดี จัดการหวีผมให้ตนเองต่อหน้ากระจก พลางยิ้มอย่างขมขื่น ความสัมพันธ์ของเธอและหลงเซียวมันอะไรกันแน่?
อีกอย่าง เหตุใดเธอถึงเปลี่ยนความตั้งใจเดิม กลับตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกันไปจนถึงหัวหงอก?
รู้ทั้งรู้ ทุกอย่างจบลงแล้ว ตอนนี้อยู่ใกล้เขามากเท่าไหร่ อนาคตความทรงจำที่เหลือไว้จะทำให้เขาเจ็บยิ่งขึ้น เธอจะสร้างความทรงจำที่ทำร้ายเขาในอนาคตต่อไปอย่างนั้นหรือ?
“ตุ้บ” หวีตกหล่นลงพื้นในขณะที่เธอคิดไปเรื่อยเปื่อย
ไม่คิดแล้ว!
หลงเซียวที่ยืนอยู่ในห้องโถง เงยหน้าจ้องมองเงาร่างที่เคลื่อนลงมา กระโปรงสีฟ้าน้ำทะเล ไม่แต่งแต้มใดๆแต่กลับสวยสง่าเป็นธรรมชาติ บัดนี้ยิ่งมองยิ่งสวย
เขาอ้าแขนให้เธอคล้องเอาไว้ “อยากกินอะไร?”
“คุณกลับมาเที่ยง เพื่อกินข้าวหรือ?
ปฏิกิริยาช้าเสียจริง เธอเพิ่งนึกขึ้นได้เดี๋ยวนี้เองเขาหนีงานกลับมา
เขาจ้องมองด้วยรอยยิ้ม “ฉะนั้น คุณนายหลงต้องให้อาหารมื้อนี้คุ้มค่าที่สุด”
หรูหราสบายตา ภัตตาคารอาหารตะวันตกที่แสนอบอุ่น หลงเซียวจับจ้องไปยังหญิงสาวฝั่งตรงข้ามที่เกรงเล็กน้อย พลางยิ้มอ่อนโยน “เป็นอะไร? ไม่อยากร่วมโต๊ะอาหารกับฉันหรือ? หรือว่าฉันขี้เหร่เกินไปจนเธอไม่อยากอาหาร?”
ฉู่ลั่วหานเบ้ปาก “แล้วยังไง? เตรียมไปศัลยกรรมที่เกาหลีเลยไหม?”
เขาอารมณ์ดีพลางหัวเราะออกมา “หากหมอฉู่สามารถหาแบบที่หล่อกว่าผม ผมจะลองคิดดู”
“ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่สังเกต ว่าคุณชายหลงจะหลงตัวเองถึงขั้นนี้”
ไปตามบทสนทนา เธอคลายกังวลลง หลงไปกับเสน่ห์ของหลงเซียวอย่างไม่เอาไหน
หลงเซียวเปิดสมุดเมนู อย่างไม่เกรงใจ “เรื่องที่เธอยังไม่ค้นพบ มีอีกเยอะ ฉะนั้นคุณนายหลง ทีหลังอย่าเอาชีวิตตนเองมาล้อเล่น เธอต้องอายุยืน ค่อยๆค้นพบความสามารถของเขา”
ฉู่ลั่วหานเจ็บจี๊ดในใจ ไม่ตอบโต้ใดๆ
บนโต๊ะอาหารตะวันตก ทั้งคู่นิ่งเงียบ บนโต๊ะมีเพียงเสียงเครื่องเงินและอุปกรณ์ชั้นสูงราคาแพงกระทบกัน ทานมื้อหนึ่ง น้อยลงมื้อหนึ่ง ฉู่ลั่วหานจึงเห็นคุณค่าเป็นพิเศษ
“ลั่วหาน” น้ำเสียงทุ้มต่ำ อ่อนโยนไม่เปลี่ยน
เธอชะงัก เงยหน้าขึ้นสบตาเขา “มีอะไร?”
เขาลากเก้าอี้ออกเดินตรงเข้าไปหยุดอยู่ข้างเธอ ลมหายใจที่ร้อนแผ่วโอบล้อมเธอเอาไว้ ซ่อมในมือเกือบหล่นทิ่มแทง
หลงเซียวประคองตัว จ้องมองเข้าไปในดวงตาเธอที่คลอเบ้าอย่างแน่วแน่ “หลับตา”
ฉู่ลั่วหานไม่เข้าใจ “อะไร?”
ผู้หญิงคนนี้ ข้อเสียของเธอคือไม่เชื่อฟัง
และแน่นอน เป็นจุดเด่นของเธอเช่นกัน
ท่านเซียวเผชิญหน้ากับหมอฉู่ พลางหยิบกล่องที่เต็มไปด้วยความอดทนและอ่อนโยน
เธอไม่น่ารัก หลงเซียวยื่นแขนปิดตาเธอเอาไว้ มือหนาบดบังใบหน้าเธอไปครึ่งหน้า เหลือให้เห็นเพียงปลายจมูกและริมฝีปากอมชมพู ชายหนุ่มลำคอแห้งฝาด ทนไม่ไหวที่จะจุมพิตเธอ!
ควักกล่องกำมะหยี่ออกจากกระเป๋ากางเกง ดีดออกด้วยมือเดียว นาฬิกาหรูวางลงบนฝ่ามือเธอ
เธอรู้สึกเพียงหนาวเย็นบนฝ่ามือ ฉู่ลั่วหานลืมตาขึ้น ปรากฏภาพนาฬิกาบนฝ่ามือ ไม่เห็นโลโก้ของนาฬิกา แต่ผลิตโดยนักออกแบบฝีมือดี ไม่ต้องบอกก็รู้ราคาไม่ธรรมดา
“หนึ่งเดียวในโลก สั่งทำเพื่อเธอโดยเฉพาะ ชอบไหม?”
หรูหรามีระดับจริงๆนั่นแหละ เพียงแค่เพชรด้านในล้อมรอบอย่างไร้ที่ติ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น
“ทำไมให้นาฬิกาฉัน?” ไม่ใช่วันพิเศษใดๆ
หลงเซียวยกยิ้มหวาน รอยยิ้มของเขาสว่างไสวกว่าดวงตะวันนอกหน้าต่างเสียอีก “คุณนายหลง เธอไม่รู้ตัวเลยหรือ ฉันกำลังทำเพื่อให้เธอมีความสุข?”
“…..” ทำให้เธอมีความสุข? ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าตนเองกำลังติดกับ
“นาฬิกาเรือนนี้ เธอต้องใส่ไว้ตลอดเวลา เวลาที่เหลือของเรา ใช้มันในการจดจำ ทุกวินาทีต้องจดจำให้ได้ทุกรายละเอียด พวกเราเสียเวลามา3ปี ฉะนั้น เวลาที่เหลือของเรา ต้องชดเชยกลับมา”
ฉู่ลั่วหานนิ่งอึ้งอยู่กับที่
“หลงเซียว คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ความทรงจำนั้นหวนคืนกลับไปไม่ได้ ชายผู้เย็นชาอย่างหลงเซียว บัดนี้เขาเปลี่ยนไปราวกับคนละคน เธอไม่ได้ฝันไปจริงๆใช่ไหม? หรือโรคเอดส์กัดกินสมองเธอสิ้น เริ่มปรากฏภาพจินตนาการ
“เป็นสิ รับประทานอาหาร ให้ของขวัญกับเธอ เป็นเรื่องใหญ่”
ฉู่ลั่วหานฉงนอีกครั้ง ชายคนนี้สมองมีปัญหาหรือเปล่า?
“อีกอย่าง นาฬิกานี้มีชื่อที่ดีเลยหละ”