เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 273 ไม่อยากลองอีกเหรอ
บทที่ 273 ไม่อยากลองอีกเหรอ
นิสัยของหลวนจื่อง่ายๆสบายๆ คุยแค่ไม่กี่คำ ก็เอาเวินเที๋ยนเที๋ยนดึงเข้ากลุ่มของตัวเองแล้ว
เวลาที่ไม่มีงาน ก็จะมาหาเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ตระกูลหล่อนบ่อยๆ ขอให้เธอบอกเรื่องเกี่ยวกับหมินอันเกอ
ตอนที่เจอกันครั้งแรก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกว่าเธอรู้สึกดีกับหมินอันเกออย่างชัดเจน
ตอนนี้เห็นเธอมาพัวพันกับตัวเองทุกวัน ก็ยิ่งแน่ใจในความคิดของตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างแปลกใจ “ตอนนี้คุณยังไม่บอกหมินอันเกอ ว่าคุณกลับมาประเทศแล้ว?”
หลวนจื่อส่ายหัว
“ฉันหาโอกาสไม่ได้เลย จู่ๆจะไปเจอเขาแบบนี้ได้ไง?ต้องหาโอกาสดีๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ค่อยเข้าใจ
โอกาสแบบไหนถึงเป็นโอกาสดี?
หรือว่ายังต้องเดินพรมแดน?ผ่านกระดานวาดรูปกับขาตั้งถึงจะได้เจอกัน?
แต่ว่าหลวนจื่อกลับพูดอย่างจริงจัง “รอฉันหาโอกาสดีๆ จะต้องบอกเขาแน่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังเธอพูด ขมวดคิ้วเล็กน้อย
กำลังจะพูด จู่ๆเลขาก็เข้ามา เคาะประตู
“รองประธาน คุณหมินอยากเจอคุณ”
ได้ยินชื่อนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ทันอ้าปากตอบไป
หลวนจื่อที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็กระโดดตัวขึ้น
“เขามาเหรอ?ตอนนี้เหรอ?”
เลขาพยักหน้ามองเธออย่างตกใจ
จากนั้นหลวนจื่อก็มองไปรอบๆอย่างร้อนใจ อยากหาที่ซ่อนตัวเอง
หาไปรอบหนึ่ง ก็ยัดตัวเข้าไปใต้โต๊ะ
“หลวนจื่อ?คุณทำอะไรน่ะ?”
หลวนจื่อหดตัวอยู่ด้านใน สองมือพนมมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
“อย่าบอกเขาว่าฉันอยู่นี่”
พูดจบ เธอก็ปิดปาก กดตัวเหมือนลูกบอล
แต่ว่าเธอสูงไป มองยังไง การกระทำนี้ก็น่าอึดอัดเล็กน้อย
เธอเพิ่งจะซ่อนไป ประตูก็ถูกเปิดอีกครั้ง หมินอันเกอปรากฏตรงด้านหน้าประตู
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเห็นเขา ก็คิดว่าใต้โต๊ะยังมีคนซ่อน พูดอย่างกังวล “พี่หมินมีธุระไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้สึกอะไร เดินเข้ามา พร้อมพูดไปว่า “วิดีโอที่ให้คุณครั้งที่แล้ว ยังอยู่ไหม?”
“ผู้จัดการบอกว่า คอนเสิร์ตครั้งต่อไปน่าจะต้องใช้เนื้อหาในวิดีโอนั้น อยากเอากลับไปตัดต่อสักหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพยักหน้า รีบเปิดลิ้นชักหา
ขยับขา ไม่ทันระวังก็เตะหลวนจื่อที่กำลังหลบอยู่ใต้โต๊ะ
การกระทำของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดลงทันที
หมินอันเกอรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติทันที ขมวดคิ้วถาม “คุณเป็นอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะ”
หมินอันเกอกลับมองเธอ อดไม่ได้ที่จะถาม “ตอนนี้คุณกับจี้จิ่งเชินเป็นไงบ้าง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำถามนี้ มุมปากที่ยกขึ้นนิดๆก็ค่อยๆหุบลง
“ฉันเองยังไม่รู้เลย เขาไม่บอกอะไรฉันสักอย่าง ฉันจะเป็นยังไงได้?”
มองเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนท่าทางหดหู่ หมินอันเกอขมวดคิ้วทันที
ในความคิดเขา ถึงจี้จิ่งเชินจะมีอะไรที่ลำบากจริงๆ ก็ไม่ควรทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเสียใจขนาดนี้
มองเห็นท่าทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเสียใจ เขาก็ทนไม่ไหวอยากอ้าแขนออกแล้วแย่งเธอมา
แต่ว่าเขากลับรู้ชัดเจน เธอไม่ได้ชอบตัวเอง
หมินอันเกอยิ้มอย่างเจ็บปวด
“ไม่ว่าอย่างไร แค่คุณต้องการอะไร ผมช่วยคุณได้เสมอ”
“ขอบคุณค่ะ พี่หมิน”
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หาแฟลชไดร์ฟเจอแล้วส่งให้
พอยืนขึ้น ใต้โต๊ะทำงานก็มีเสียง “ตึก”เข้ามา
เหมือนมีอะไรชนบนโต๊ะ
“ไอ้หยา……”
มีคนร้องออกมา
หมินอันเกอขมวดคิ้ว รีบถอยหลังไป ก้มมอง
เห็นคนที่แอบอยู่ใต้โต๊ะ ร้องอย่างแปลกใจ “หลวนจื่อ?ทำไมคุณมาอยู่นี่?”
เห็นตัวเองถูกเจอ หลวนจื่อก็ลูบหัวที่ชนจนเจ็บ ยิ้มอย่างน่าอาย โบกมือให้หมินอันเกอ
“สวัสดี หมินอันเกอ”
หมินอันเกอขมวดคิ้วมองเธอ แล้วมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
“คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?รู้ไหมพ่อแม่คุณเอาแต่หาคุณ?สองวันก่อนก็ติดต่อผม”
หลวนจื่อพยายามออกมาด้านนอก พร้อมกับพูดไปว่า “หาฉัน?ฉันทิ้งข้อความให้พวกเขาแล้วนี่?”
“ทิ้งแล้วเหรอ?”
สายตาของหลวนจื่อรู้สึกผิดทันที
“อาจจะ?ฉันเขียนแล้ว ลืมเอาออกมา”
หมินอันเกออดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เห็นเธอยังคลานตรงพื้น จึงยื่นมือไปดึงเธอขึ้นมา
“ถึงแบบนี้ คุณก็ไม่ควรไม่รับสายพวกเขา อีกอย่างคุณแอบด้านในนั้นทำไม?”
“เปล่า ก็แค่……กลัวเจอคุณ ……”
หน้าเธอแดง ไม่รู้ว่าอาย หรือว่าหลบอยู่ใต้โต๊ะนานเลยได้รับผลกระทบไป
หมินอันเกอมองเธอ ถอนหายใจออกมา
ตอนนี้เองเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูด “หลวนจื่อคือนักแสดงของกิจกรรมครั้งนี้ที่บริษัทเราเชิญมาเป็นพิเศษ ช่วงนี้เธอจะอยู่ในประเทศ”
หลวนจื่อรีบพยักหน้าตามที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูด
“ต่อไปฉันจะไม่ไปแล้ว”
หมินอันเกอขมวดคิ้ว “งั้นพ่อแม่คุณจะทำไง?”
คนในครอบครัว จะให้ลูกสาวสุดที่รักของพวกเขา ใช้ชีวิตด้วยตัวเองคนเดียวแบบนี้ได้ไง?
หลวนจื่อขมวดคิ้วไม่พอใจ
“ฉันโตแล้ว ฉันมีชีวิตของตัวเอง ไม่ต้องสนพวกเขาจะคิดอย่างไร”
“ตอนแรกพวกเขาสอนภาษาจีนฉัน สอนหลายอย่างเกี่ยวกับในประเทศให้ฉัน ไม่ใช่หวังว่าให้ฉันกลับมาเหรอ?”
หมินอันเกอลูบหน้าผากอย่างทุกข์ใจ
เขาหมดหนทางกับคนตรงหน้านี้ พอคิดถึงครอบครัวนั้นที่อยู่ด้านหลังเขา ในใจก็ยิ่งสับสน
“วันนี้ผมจะแจ้งครอบครัวคุณ ดูว่าเขาจะเอาอย่างไร จะให้ส่งคุณกลับไหม”
“อย่าสิ หมินอันเกอ”หลวนจื่อร้อนใจขึ้นมาทันที“นี่ฉันจงใจมาดูคุณเลยนะ”
หมินอันเกอโบกมืออย่างไม่สนใจ เอาแฟลชไดร์ฟที่อยู่บนโต๊ะมา พูด “ผมกลับก่อนละ”
พูดจบ ก็ดึงหลวนจื่อ“ผมส่งคุณกลับโรงแรม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองทั้งสองคนอย่างประหลาดใจ แล้วก็เห็นหมินอันเกอดึงหลวนจื่อออกไป
หลวนจื่อตามหลังเขา ขอร้องอย่างน่าสงสาร
เธอเป็นซูเปอร์โมเดลระดับโลก สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบ
แต่ว่าตอนนี้อยู่ตรงหน้าหมินอันเกอ กลับดูตัวเล็ก เตี้ยไปประมาณครึ่งหัวเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนน้อยมากที่จะเห็นหมินอันเกอดูทำตัวไม่ถูกแบบนี้ จ้องพวกเขาอยากแปลกใจ ยิ้มออกมาอย่างทนไม่ไหว
ทั้งสองออกไปจากบริษัทหลวนจื่อยื่นมือไปดึงหมินอันเกอ
“จะบอกพ่อฉันจริงๆเหรอ?”
“ไม่เพียงแค่นั้น”หมินอันเกอพูด “พ่อแม่คุณ ปู่ย่าคุณ อากับน้า ผมจะแจ้งทุกคน”
หลวนจื่อสะบัดเขาออกอย่างไม่พอใจ
“หมินอันเกอ คุณมากเกินไปแล้วนะ”
หมินอันเกอพูดเปิดประตูรถ ให้เธอเข้าไป พูด “ผมตอบรับพ่อแม่คุณไปแล้ว?”
หลวนจื่อหันหน้าทันที มองไปนอกหน้าต่าง จู่ๆก็พูด “ฉันเห็นคนที่คุณชอบแล้ว ไม่เหมือนจริงๆ ไม่น่าล่ะคุณถึงชอบขนาดนี้”
หมินอันเกอไม่พูดอะไร
หลวนจื่อตาเคลื่อนไหวไปมา เข้ามาพูด “ฉันได้ยินว่าตอนนี้จี้จิ่งเชินไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว คุณไม่อยากลองอีกจริงๆเหรอ ?”