เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 272 ซูเปอร์โมเดล
บทที่ 272 ซูเปอร์โมเดล
มือของจี้ยี่หยันถูกเปิดออก สายตามองขึ้นไป สบตากับจี้จิ่งเชิน
แป๊บหนึ่ง จึงถอนกลับมา
จี้จิ่งเชินพูดด้วยเสียงเยือกเย็นต่อ “กลับไปนั่งที่นั่งของคุณดีๆ”
จี้ยี่หยันกัดฟันแน่น เผชิญหน้ากับจี้จิ่งเชินพักหนึ่ง ยืนขึ้น
“ในเมื่อพวกคุณอยากได้พื้นที่ส่วนตัว งั้นผมก็จะให้ ยังไงพวกคุณก็ไม่เจอกันนานแล้ว อีกอย่างต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีก”
พูดจบ เขาหัวเราะ แล้วหมุนตัวออกไป
จี้ยี่หยันออกไป จี้จิ่งเชินก็นั่งลงข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าลง จ้องข้อมูลในมือตัวเอง ไม่พูดอะไร
แป๊บหนึ่ง จี้จิ่งเชินจึงพูด “ทำไมต้องเข้ามาตระกูลหล่อน?เมื่อก่อนคุณไม่ชอบงานพวกนี้นี่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปข้างหน้า ไม่มองจี้จิ่งเชิน
“ไม่ชอบ ไม่ได้หมายความว่าทำไม่ได้”
ด้วยเสียงที่ไม่พอใจ ทำให้จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป คุณไม่ต้องอยู่ที่ตระกูลหล่อนอีก ผมจะแจ้งหลักสูตรของคุณต่อไปให้ท่านเปิง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเขาจะควบคุมชีวิตตัวเองอีกครั้ง จึงพูดตอบโต้ไปอย่างไม่พอใจ “นี่เป็นเรื่องของฉัน ฉันจัดการด้วยตัวเองได้”
พูดจบ เธอก็หันหน้าไปมองจี้จิ่งเชิน
“ทำไมคุณไม่ให้ฉันอยู่ที่บริษัทของตระกูลหล่อนต่อ?เพราะว่าคุณตอบรับคำขอร้องพวกเขา จะจัดการตระกูลหล่อนเหรอ?”
คิดไม่ถึงว่าแม้แต่อันนี้จี้ยี่หยันก็บอกเธอ ขมวดคิ้วพูดทันที “เรื่องไม่ง่ายเหมือนที่คุณจินตนาการไว้”
“ฉันคิดง่ายเกินไป หรือว่าทุกเรื่องคุณปิดบังฉัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดลมหายใจ ให้อารมณ์ตัวเองสงบลง
“ฉันหวังว่าจะกลายเป็นคนที่อยู่ข้างๆคุณได้ ไม่ใช่ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกคุณเลี้ยงในปราสาท คุณเข้าใจไหม?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว ขัดกับใจอย่างรุนแรง
“เวลาอื่นได้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองท่าทางจี้จิ่งเชินที่ยืนหยัด ในใจก็เหมือนถูกหินก้อนหนึ่งกดทับไว้
“ฉันก็สามารถใช้วิธีของฉันมาแก้ปัญหานี้ได้”
จี้จิ่งเชินได้ยินคำพวกนี้ ยื่นมือไปดึงเธอไว้
“เที๋ยนเที๋ยน อย่าให้ผมเป็นห่วงอีก เคไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูด “งั้นคุณสามารถเอาเรื่องทุกอย่าง บอกฉันหมดไหม?”
จี้จิ่งเชินเม้มปาก ไม่พูดอะไรอยู่นาน
ในใจเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆเย็นลง ไม่อยากรออีกต่อไป รีบยืนขึ้น กระโดดเหมือนจะเดินออกไป
“ผลออกมาแล้ว”
พูดจบ เธอรีบเข้าไป ออกจากจี้จิ่งเชิน
เจ้าหน้าที่หลายคนมองทุกคน แล้วเปิดปากพูด “จากที่พวกเราปรึกษากัน ฝ่ายพันธมิตรของโครงการครั้งนี้ พวกเราตัดสินใจเพื่อตระกูลหล่อน”
พูดประโยคนี้จบ ทุกคนต่างไม่ได้ตกใจอะไรมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปอย่างแปลกใจ รับหนังสือความร่วมมือในมือเขา
ฝ่ายตรงข้ามพูดด้วยรอยยิ้ม “หวังว่าพวกคุณจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างแน่วแน่
“แน่นอน”
ผู้จัดการหยางมองอยู่ข้างๆ ปรบมืออย่างดีใจ
ในห้องประชุม เสียงปรบมือดังก้อง
จี้จิ่งเชินอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร เอาแต่มองเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้ยี่หยันเดินเข้ามา มาอยู่ข้างๆเขา พูดเบาๆ “ไม่ว่าเธอเป็นแบบไหน ต่างน่าหลงใหล ไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าจี้ยี่หยันเย็นชาอย่างไว หันไปมองจี้ยี่หยัน
“อยู่ให้ไกลจากเธอหน่อย!”
จี้ยี่หยันค่อยๆพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คุณเหมือนจะไม่มีคุณสมบัติพูดประโยคนี้นะ”
พูดจบ มองหน้าของจี้จิ่งเชินที่ดูแย่ยิ่งขึ้น จี้ยี่หยันจึงหมุนตัวออกไป
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ที่เดิม มองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ถูกกลุ่มคนล้อมรอบ สายตาหม่นลงยิ่งขึ้น
เป็นอยู่นาน ในที่สุดก็หมุนตัวออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปอย่างตระหนักได้ เห็นด้านหลังของจี้จิ่งเชินออกไปจากห้องทำงาน
คนรอบๆต่างกำลังยินดี แต่ว่าในใจเธอกลับรู้สึกไม่มีความสุขใดๆ
ตอนนี้ผู้จัดการหยางเดินมาข้างๆเธอ พูดเบาๆ “คุณเวิน ยังมีงานอีกมากรอเราอยู่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า พูดไปว่า “เอากิจกรรมและโครงการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ปบอกฉันให้หมด”
ได้ยินประโยคนี้ ผู้จัดการหยางตะลึงเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้า
“ผม จะไปทำเดี๋ยวนี้”
เรื่องจากกิจกรรมตรุษจีนของโครงการตระกูลหล่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เวินเที๋ยนเที๋ยนเตรียมตัวไป ก็มองผู้จัดการหยางหยิบข้อมูลมา
ดูจบจึงพบว่า ที่แท้ตระกูลหล่อนกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ต่างมีความร่วมมือกับความสัมพันธ์ด้านการแข่งขันในหลายที่
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองข้อมูลในมือไป ก็ขึ้นลิฟต์ไป มาที่หน้าห้องผู้จัดการหยาง
ยังไม่เข้าไป ก็เห็นคนหลายคนเดินออกมาจากด้านใน
เดินอยู่ด้านหน้าคือผู้ชายที่สวมหมวกแก๊ป ท่าทางสี่สิบกว่า ใบหน้ามีรอยยิ้มที่ดูดี
ด้านหลังเขามีผู้หญิงสูงๆ สวมยีนกับเสื้อยืดขาว มองดูธรรมดา แต่ว่าเผยรูปร่างที่สวยงาม
ยืนอยู่แบบนี้ เหมือนกับภาพวาด
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกว่าเธอดูคุ้นๆ อีกอย่างหุ่นของฝ่ายตรงข้ามก็สูงมาก ถึงร้อยแปดสิบได้
ถึงแม้จะสวมรองเท้าไม่มีส้น แต่ยืนอยู่ท่ามกลางชายหนุ่ม ก็ยังสะดุดตามาก
พวกเขาเดินออกมาผู้จัดการหยางก็ตามพวกเขาอยู่ด้านหลัง
พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน รีบแนะนำกับเธอ “คุณเวิน นี่คือซูเปอร์โมเดลที่เข้าร่วมแผนกิจกรรมตรุษจีนครั้งนี้ หลวนจื่อ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงคิดออก เมื่อก่อนผู้จัดการหยางเคยคุยกับเธอ จะเชิญซูเปอร์โมเดลมาเปิดตลาดระหว่างประเทศ
แต่คิดไม่ถึง ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้จะเป็นคนผมดำตาดำ
ผู้จัดการหยางพูดจบ ก็หันหน้าไปที่ทั้งสองคนแล้วพูด “ทั้งสอง นี่คือ……”
ยังพูดไม่จบ หลวนจื่อที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาก็เดินเข้ามา มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างละเอียด
“คุณคือเวินเที๋ยนเที๋ยน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอย่างแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้จักตัวเอง พยักหน้าพูด “ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ”
หลวนจื่อมีรอยยิ้มที่สวมยงามออกมาทันที พูดอย่างดีใจ “คุณจริงๆด้วย!ก่อนหน้านี้เราได้ยินหมินอันเกอพูดถึงคุณ!”
ได้ยินชื่อนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มองเธอตาโตเล็กน้อย
“คุณรู้จักหมินอันเกอ?”
“แน่นอนค่ะ”หลวนจื่อพยักหน้า พูดตรงๆ “เมื่อก่อนฉันกับเขารู้จักกันที่ฝรั่งเศส เพราะว่าได้ยินเขาพูดถึงเรื่องในประเทศ จึงตัดสินกลับมาพัฒนาที่ประเทศค่ะ”
เธอยื่นนิ้วชี้ ไปที่ปาก
“ครั้งนี้ฉันแอบเขากลับมาค่ะ เซอร์ไพรส์ คุณอย่าบอกเขานะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังน้ำเสียงของเขา พักหนึ่งถึงได้สติคืนมา
“ไม่ ไม่มีปัญหา”
พูดจบ ก็มองหลวนจื่อตรงหน้า
เธอจำได้คลุมเครือ เมื่อก่อนผู้จัดการหยางเคยเอาข้อมูลของหลวนจื่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนดู
อายุของหลวนจื่อไม่มาก เพิ่งจะ20ปี ก็มีพรสวรรค์ที่แสดงออกมาระดับโลก กลายเป็นซูเปอร์โมเดลที่มีชื่อเสียง
คิดไม่ถึง ครั้งนี้หมินอันเกอจะรู้จักเธอได้ที่ฝรั่งเศส
หลวนจื่อตรงหน้ามองดูไม่สนใจอะไร ท่าทางไม่เหมือนกับที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเห็นในนิตยสาร
ในรูปดูเย็นชา แต่ว่าตอนนี้กลับเหมือนเด็กคนหนึ่ง แต่เทียบกับอายุของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็แก่กว่า
เธอดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยน เดินไปด้านใน แล้วพูดไปว่า “ฉันรับความร่วมมือของพวกคุณแล้ว ต่อไปจะเจอกันบ่อยๆ คุณจะต้องรู้เรื่องของหมินอันเกอเยอะมากแน่ จำไว้ว่าต้องบอกฉันนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ถูกความกระตือรือร้นของเธอชนเข้าจึงไม่มีสติมากเท่าไหร่
“ค่ะ”