เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 204 ปีศาจร้าย
บทที่204 ปีศาจร้าย
เวินเที๋ยนเที๋ยนสงสัย แต่จี้จิ่งเชินไม่ได้อธิบายอะไรให้เธอฟัง แต่กลับยื่นมือไปโอบเอวเธอไว้
“เรื่องบางเรื่องคุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
ความมืดมนที่ผ่านมานั้นเขาเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว เขากลัวว่าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้เรื่องราวที่ผ่านมาของเขาแล้วเธอจะทิ้งเขาไป……
ทำอย่างไรดีละ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความสงสัย
หลังจากที่เธอออกจากคฤหาสน์ของจี้จิ่งเชิน วันต่อมาเธอถูกท่านเปิงเรียกให้ไปเรียน
ปกติเธอจะเป็นคนที่ตั้งใจเรียน แต่ครั้งนี้ทั้งคาบเรียนไม่มองแม้แต่ท่านเปิง
ท่านเปิงถามว่า: “เป็นอะไรไป?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมามองเขา ในเมื่อท่านจางรู้ท่านเปิงก็ควรจะเข้าใจด้วยเช่นกัน
เธอมองหน้าท่านเปิงพร้อมทั้งถามด้วยความแปลกใจว่า: “อาจารย์คะ อาจารย์รู้ไหมคะว่าตอนนั้นจี้จิ่งเชินทำอะไรไว้กับคุณปู่คุณย่าของเขา?”
เมื่อท่านเปิงได้ยินคำถามนี้สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที “เธอได้ยินมาจากไหน? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจว่า “เมื่อวานก่อนที่ฉันจะออกมาจากคฤหาสน์ของจี้จิ่งเชินฉันได้เจอกับจี้คาง ดูเหมือนว่าจี้คางกำลังไปขอร้องให้จี้จิ่งเชินปล่อยปู่ย่าของเขาออกมา”
ท่านเปิงถอนหายใจและค่อย ๆ นั่งลงบนเก้าอี้
“ก่อนหน้านี้อาจารย์เคยโน้มน้าวเธอแล้วใช่ไหมว่าอย่าคบกับจี้จิ่งเชิน เธอจำได้ไหม? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า ท่านเปิงพูดเบา ๆ ว่า: “ก็เป็นเพราะว่าเรื่องนี้นี่แหละ”
จี้จิ่งเชินเคยบอกว่าหลังจากที่จี้ยี่หยันเกิดเขากับคุณแม่ของเขาถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่บ้านของตนเป็นเวลานานเจ็ดถึงแปดปีกว่าจะถูกปล่อยออกมา
แต่ออกมาได้ไม่ถึงปีแม่ของเขาก็ถูกลอบฆ่า
ในวันเกิดของเขาในวันนั้น จี้จิ่งเชินจ้องหน้าเธอเขม็ง
คนที่ฆ่าพ่อแม่เขาก็คือคุณท่านที่อยู่ในบ้านของจี้จิ่งเชินนั่นเอง
นั่นก็คือคุณปู่คุณย่าของจี้จิ่งเชิน
เดิมทีพวกเขาวางแผนหาคนมาแทนที่ฉวีช่วยฉิน แต่ต่อมากลับกังวลว่าจี้จิ่งเชินจะคุกคามทรัพย์สมบัติของพวกเขา
ในตอนที่พวกเขาถูกปล่อยออกมานั้นทั้งสองก็ยังไม่วางใจ จึงให้คนตามฆ่าพวกเขา
แต่ห้าปีที่แล้วการกลับมาของจี้จิ่งเชินเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก
สุขภาพของคุณท่านทั้งสองของตระกูลจี้ในขณะนั้นแย่มากจึงถูกส่งเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลบ้า
ก็มีแต่คนในตระกูลจี้เท่านั้นที่รู้ดีว่าทั้งสองไม่ได้เป็นบ้าแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้จี้จิ่งเชินเป็นคนทำ
เขาส่งทั้งสองที่ยังมีสติดีอยู่นั้นเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ขังทั้งสองไว้อยู่กับพวกคนบ้า และคนดุร้ายเหล่านั้น
ต่อให้ไม่ได้เป็นบ้าจริง ๆ แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในนั้นหลังจากหนึ่งปี ทั้งสองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนบ้า
คุณท่านทั้งสองของตระกูลจี้ก็เป็นแบบนี้แหละ
ทั้งสองถูกส่งเข้ามาในโรงพยาบาลบ้าได้ครึ่งปี หลังจากนั้นสติของพวกเขาก็ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว
จี้คางเคยคิดจะเอาทั้งสองออกมาจากที่นั่น แต่เป็นเพราะว่าโรงพยาบาลบ้าแห่งนั้นเป็นของจี้จิ่งเชิน ต่อให้แลกด้วยชีวิตเขาก็ไม่ยอมปล่อยทั้งสองให้ออกมาง่าย ๆ เด็ดขาด
แต่สิ่งที่จี้จิ่งเชินทำให้คุณปู่คุณย่าของตัวเองแบบนั้นทำให้เป็นที่ตกใจกันทั้งบ้านทั้งเมือง
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าคนคนหนึ่งจะโกรธแค้นได้ถึงเพียงนี้
คืนนั้น จนกระทั่งมีคนได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากบ้านตระกูลจี้ทั้งคืน
มีคนเคยไปที่โรงพยาบาลบ้าแห่งนั้น และได้ไปเจอกับคุณท่านทั้งสอง พวกเขาต่างก็พรรณนากันว่าโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน
หลังจากนั้นมาจี้จิ่งเชินก็ได้รับฉายาว่า “ปีศาจร้าย” ในที่สุด
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้น: “ดังนั้นทุกคนจึงเรียกเขาว่าปีศาจร้าย ให้ฉันอยู่ห่าง ๆ เขาไว้ใช่ไหมคะ?”
ท่านเปิงพยักหน้าพร้อมทั้งพูดว่า: “กับคุณปู่คุณย่าตัวเองยังทำได้ขนาดนี้ แต่ก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่าจิตใจของเขาทำด้วยอะไร”
พูดจบก็กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะหวาดกลัว ก็เอามือแตะบ่าเธอเบา ๆ : “แต่เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก ดู ๆ แล้วจี้จิ่งเชินก็จริงจังกับเธอมาก กับเธออาจารย์ไม่เป็นห่วงหรอก แต่กับจี้คางนี่สิ……”
เมื่อพูดจบเขาก็เห็นว่าดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นแดงก่ำไปแล้ว
ท่านเปิงดูเธอด้วยความแปลกใจ: “แม่สาวน้อย ไม่ใช่ว่าจะตกใจจนจะร้องไห้นะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า: “ฉันมีธุระที่จะต้องไปทำ ขออนุญาตเลิกเรียนก่อนเวลานะคะ”
ท่านเปิงมองเธอด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไรแต้ก็พยักหน้าตอบเธอไป
“ถ้ามีธุระก็ไปเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำความเคารพและรีบเก็บของออกไปขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ของจี้จิ่งเชิน
“รบกวนช่วยขับเร็วกว่านี้หน่อยนะคะ! ”
เมื่อถึงคฤหาสน์ของจี้จิ่งเชินเธอก็เข้าไปด้านในอย่างรีบร้อน และดึงตัวพ่อบ้านถามว่า “จี้จิ่งเชินอยู่ไหนคะ? ”
นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อบ้านเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนลุกลี้ลุกลนแบบนี้ เขารีบถามว่า: “คุณจี้เข้าบริษัทไปแล้วครับ ไม่ทราบคุณหนูเวินมีเรื่องเร่งด่วนอะไรเหรอครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ตอบ อีกทั้งยังเดินออกจากคฤหาสน์ไปและมุ่งหน้าไปที่บริษัทของจี้จิ่งเชิน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงเธอยืนอยู่หน้าบริษัทเอ็มไอกรุ้ป เธอเงยหน้าขึ้นมองบนตึกระฟ้า จากนั้นย่างเท้าเดินเข้าไปด้านใน
เมื่อเธอเดินเข้าไปพนักงานด้านในก็ต่างกันจ้องมองเธอ
ไม่มีใครรู้ว่าเธอมาที่นี่ตอนนี้ด้วยเหตุผลอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่คำนึงถึงสายตาของผู้คนเหล่านั้น เธอเดินตรงขึ้นไปหาจี้จิ่งเชินด้านบน
เธอขึ้นลิฟต์ไปแป๊บเดียวก็ถึงชั้นบนสุดของตึกระฟ้าแล้ว
ยังไม่เจอจี้จิ่งเชิน เจอแต่คนที่ต้อนรับเธอนั่นก็คือจงหลี
“คุณหนูเวิน” จงหลีทักทายเธอ เมื่อเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนมีท่าทีที่รีบร้อนแบบนี้เขาจึงรีบถามว่า: “คุณหนูเวินมาหาประธานจี้ใช่ไหมครับ? ท่านประธานอยู่ในห้องทำงานครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
จากนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบเข้าไปด้านใน
เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของจี้จิ่งเชิน เธอนั่งลงและหายใจหอบ ๆ จากนั้นดวงตาทั้งสองของเธอก็เริ่มแดงก่ำขึ้น
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินเสียงเปิดประตูก็เงยหน้าขึ้น พร้อมทั้งถามด้วยความแปลกใจว่า: “คุณมาได้ยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ตอบคำถามของเขา แต่กลับเดินเข้าไปหาเขา
ดูเหมือนว่าจี้จิ่งเชินจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เขามองหน้าเธอด้วยความแปลกใจพร้อมทั้งยืนขึ้น
เขากำลังจะพูดขึ้นแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยื่นมือทั้งสองออกมากอดเขาไว้แน่น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ”
จี้จิ่งเชินเห็นท่าทางเธอแปลก ๆ จึงเอ่ยถามขึ้น เขาเอามือแตะบ่าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบา ๆ: “คิดถึงผมขนาดนี้เลยเหรอ ทนไม่ได้ก็เลยต้องมาหาผมถึงที่นี่เลยใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำนี้แล้วก็อดที่จะขำไม่ได้ ถึงแม้ดวงตาทั้งสองของเธอจะแดงก่ำอยู่ก็ตาม
เธอเงยหน้าขึ้นมองจี้จิ่งเชิน ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่จี้จิ่งเชินคาดเดาไม่ได้เลย
เมื่อจี้จิ่งเชินเห็นตาเธอแดงก่ำก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที: “ใครทำคุณร้องไห้บอกผมมา ผมจะไปสั่งสอนมัน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าและจับแขนเสื้อเขาไว้แน่น
“จี้จิ่งเชิน……”เรียกชื่อเขาแล้วก็หยุดชะงักไป เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดออกมาอย่างไร
ในเมื่อจี้จิ่งเชินปกปิดเรื่องนี้กับเธอมาโดยตลอด นั่นก็หมายความว่าเขาไม่อยากให้เธอรู้
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า: “เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะคะ?”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วก็แปลกใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างมองเธอ: “เรื่องนี้เองเหรอ แล้วทำไมคุณต้องร้องไห้ด้วยละ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าพูดว่า: “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเลี้ยงข้างคุณ คุณจะไปไหม?”