เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 126 เชื่อใจที่สุด
บทที่ 126 เชื่อใจที่สุด
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “ฉันเห็นด้วยกับวิธีการจัดการของทางมหาวิทยาลัยนะคะ ก็เอาตามที่ทางมหาวิทยาลัยเห็นชอบเลยแล้วกันค่ะ”
เมื่ออาจารย์หลีได้ยินดังนั้นเขาก็ยิ้มออกทันทีแล้วจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความตื่นเต้น
“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริงๆ”
ท่าทางของเขาดูกระตือรือร้นมากเกินไป เวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามหลบหลีกมือของเขาอยู่สองครั้ง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันไปก่อนนะคะ”
“ เดี๋ยวก่อน ! คุณช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหม?”ทันใดนั้นอาจารย์หลีก็พูดขึ้น
“อะไรคะ?”
อาจารย์หลีชี้ไปที่กองสมุดการบ้านที่วางไว้ข้างๆพลางพูดว่า “มือของผมบาดเจ็บนิดหน่อยไม่สามารถถือของเยอะๆได้ คุณช่วยผมยกกลับไปหน่อยได้ไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่คิดอะไรมากมายแล้วพยักหน้ารับ
“ได้ค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนช่วยถือของกลับมาที่หอพักอาจารย์แต่ยืนอยู่แค่ตรงประตูไม่ได้เข้าไปด้านในนั้น
“งั้นฉันกลับก่อนนะคะอาจารย์หลี”
เมื่อเห็นว่าเธอหันกลับไป อาจารย์หลีก็รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า
“รอผมครู่หนึ่ง ผมมีบางอย่างจะให้คุณ เข้ามาดื่มน้ำสักแก้วก่อนไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปข้างในทั้งที่ยังลังเลอยู่
“อาจารย์!”
เธอกรีดร้องด้วยความตกใจแต่อาจารย์หลีไม่ยอมปล่อยแล้วดึงเธอเข้ามาในห้องนอน
“ผมแค่มีบางอย่างจะให้คุณก็เท่านั้น ไม่ต้องกังวลไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่กังวลได้อย่างไร เธอพยายามดิ้นแล้วแต่ก็ไม่หลีกหนีได้
ในนานอาจารย์หลีก็พาเธอไปที่ลิ้นชักพลางดึงรูปหนึ่งออกมา
“นี่ไง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรูปใบนั้นมาดูพบว่าเป็นรูปถ่ายของเธอที่โดนถ่ายไว้เมื่อครั้งที่เข้าร่วมการแสดงในเทอมที่แล้ว
เธอชำเลืองมองอย่างระมัดระวังและพยายามสะบัดมือของอาจารย์หลีออกไป
“แค่รูปนี้ใช่ไหมคะ? ฉันรับไว้นะคะแต่อาจารย์หลีฉันอยากกลับแล้วจริงๆ”
คราวนี้อาจารย์หลีไม่ได้บังคับอะไรอีกแล้วเขาพยักหน้าตอบรับ
“กลับดีๆล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลอบมองเขาแล้วรีบออกจากหอพักอาจารย์ทันที
อาจารย์หลีมองด้านหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยนจนเธอกลับไปแล้ว พลันใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันที
“ได้หรือยัง?”
เขาถามอย่างเงียบ ๆ
พูดจบเจี่ยงเนี่ยนเหยาก็เดินออกมาจากตู้ข้างๆนั้น
“ อาจารย์หลี นี่คุณจะตื่นเต้นไปทำไมกัน? เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง”
อาจารย์หลีไม่พูดสิ่งใดออกมา
เจี่ยงเนี่ยนเหยาเหลือบมองที่เขาพลางหยิบเช็คเงินสดออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วส่งให้เขาทันที
“ฉันให้คุณ ชัดเจนว่าคุณก็เห็นด้วยกับฉันและดูไม่ใช่การบังคับให้มาทำ”
อาจารย์หลีมองเช็คเงินสดในมือของเธอในที่สุดก็เอื้อมมือไปหยิบมันมา
“ถ้าไม่ใช่เพราะโรคที่แม่ผมเป็น ผมไม่มีทางทำแบบนี้แน่…..”
เขาพูดออกมาอย่างหน้าซีด
เจี่ยงเนี่ยนเหยาโบกมือไปมาอย่างไม่สนใจ
“บ๊ายบายค่ะอาจารย์ รู้สึกผิดกับตัวเองต่อไปนะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไปปราสาทเก่าแก่สลัดเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทิ้งอย่างรวดเร็ว
วันต่อมาเมื่อเธอไปที่มหาวิทยาลัยลืบซานก็พบว่ามีบางอย่างแปลกไป
ทันทีที่เดินเข้าประตูมาก็รู้สึกได้ว่ามีคนแอบมองเธออยู่ตลอดเวลา
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปมอง อีกฝ่ายจะรีบหลบสายตาเธออย่างรวดเร็ว
เธอเดินต่อไปพักหนึ่งทันใดนั้นก็เห็นผู้คนมากมายมุงกันอยู่ตรงหน้ากระดานข่าวของมหาวิทยาลัย
พร้อมกับเสียงพูดที่ผสมผสานกันไปหมด
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อมีคนหันมามองแล้วพบเข้ากับเธอ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปพลางยื่นมือไปแตะคนที่อยู่ถัดจากเธอ
ทุกคนหันมาแล้วมองเธอด้วยสายตาดูถูก
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแล้วเดินเข้ามา
เมื่อเห็นรูปถ่ายบนกระดานข่าวนั่นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
เธอหันไปมองดูที่กระดานข่าวอื่น ๆ กระดานข่าวทั้งหมดเต็มไปด้วยภาพเดียวกัน
เป็นภาพในหอพักของอาจารย์หลีและปรากฏใบหน้าของบุคคลหนึ่งซึ่งถึงแม้จะคลุมเครือแต่ก็ดูออกได้ไม่ยากว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ผิดแน่
และในภาพถ่ายเป็นช่วงที่มือของทั้งสองคนดึงเข้าหากันอย่างแนบแน่น
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เธอช่วยอาจารย์หลียกเอกสารไปที่หอเมื่อวานนี้
ใครเป็นคนทำ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูรูปภาพที่คลุมเครือเหล่านี้ด้วยความวุ่นวายใจ
หรือเป็นเพราะความไม่ปกติของอาจารย์หลีเมื่อวาน
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วพลางมองไปรอบๆพลันได้ยินคำพูดที่โพล่งออกมาอย่างไม่ระวัง
แม้ว่าเสียงจะเบามากแต่ถือว่าชัดเจนมากสำหรับเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ไร้ยางอายจริงๆหลอกล่อได้แม้กระทั่งอาจารย์ของตัวเอง”
“ แต่งงานแล้วด้วยไม่ใช่เหรอ? เมื่อวานก็มีเรื่องอื้อฉาววันนี้ก็มามีเรื่องแบบนี้กับอาจารย์อีกไม่มีใครจัดการหน่อยเหรอ?”
“เฮ้ ตอนแรกฉันก็คิดว่าอาจารย์หลีก็คงดูแลเธอในแบบทั่วๆไปแต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขามีความสัมพันธ์แบบนั้นกันซะได้”
“ไม่รู้ว่าถ้าจี้จิ่งเชินรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะรู้สึกยังไง…..”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอื้อมมือไปดึงรูปถ่ายที่ติดอยู่บนกระดานข่าวเหล่านั้นมาฉีกพลางหันไปรอบๆแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของอาจารย์หลี
ในขณะนี้เองเจี่ยงเนี่ยนเหยาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาแล้วโทรหาจี้จิ่งเชิน
“สวัสดี จิ่งเชินคะ? ฉันคิดแล้วคิดอีกว่าเรื่องนี้จะบอกคุณดีไหม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตรงไปที่ห้องทำงานของอาจารย์หลี เมื่อเธอไปถึงที่นั่นเธอก็พบว่าอาจารย์หลีได้ลาออกไปแล้ว
“เขาลาออกตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองคนอื่นๆในห้องทำงานด้วยความประหลาดใจ “ฉันเพิ่งพบเขาเมื่อสองวันก่อนนี้เองนะ”
อาจารย์หลายคนในห้องทำงานต่างก็พากับมองมาที่เธอ
“เขาก็ลาออกไปเมื่อสองวันก่อนนั้นไง เธอไม่รู้เหรอ?”
พวกเขาจ้องมองที่เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาแบบเดียวกันกับที่คนเหล่านั้นจ้องมองเธอที่หน้ากระดานข่าวเมื่อครู่
เธอขมวดคิ้วหันหลังแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที
ไม่นานภาพถ่ายนั้นก็กระจายไปทั่วทุกที่
ทันทีที่เวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏตัวทุกคนก็มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
เธอไม่กล้าไปสถานที่ที่คนพลุกพล่านทำเพียงเดินวนไปมาในห้องเรียนเก่าของเธอ
เธอไม่กล้ากลับไปบ้าน ถ้าหากจี้จิ่งเชินรู้เข้าเธอควรจะทำอย่างไรดี?
ไม่รู้ว่าเดินวนอยู่แบบนั้นนานแค่ไหนแล้วท้องฟ้าก็ใกล้จะมืดลงเต็มที
เธอกำลังลังเลว่าจะกลับหรือไม่กลับดีแต่เมื่อเธอหันกลับไปก็พบว่าจี้จิ่งเชินปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเธอแล้ว
“จี้จิ่งเชิน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจทันทีเมื่อเจอเขา
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไปหาเธอทันที สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาทำเพียงเดินเข้าไปอย่างช้าๆ
“คุณจะคิดไปจนถึงเมื่อไหร่ถึงจะกลับบ้านได้?”
เขาพูดออกมาอย่างจนใจ
เขามาที่นี่ทันทีหลังจากรับสายนั้นและยืนดูเธอคิดแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเศร้าในใจเหมือนเต็มไปด้วยหยาดน้ำในใจ
“รูปพวกนั้นไม่ใช่เรื่องจริง”
จี้จิ่งเชินเอื้อมมือไปกอดเธอเอาไว้
“ชู่ว ผมจะพาคุณกลับบ้าน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงเสื้อของเขาเอาไว้
“คุณเชื่อฉันไหม?”
จี้จิ่งเชินยื่นมือออกมาลูบสร้อยคอที่ประดับอยู่บนคอของเวินเที๋ยนเที๋ยน
หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า
“ผมเชื่อคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกตะลึงในทันที เธอคิดเลยว่าจี้จิ่งเชินจะเชื่อเธอ
เธอลอบมองเขาอย่างเป็นกังวลและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเห็นว่าจี้จิ่งเชินไม่ได้ใส่ใจจริงๆ
จี้จิ่งเชินโน้มศีรษะลงไปแล้วจูบที่หน้าผากของเธอราวกับว่าเขากำลังออดอ้อนเธอและบอกกับตัวเองไปด้วยในคราวเดียวกัน
“ไม่ต้องอธิบายอะไรผมก็เชื่อคุณ”
“แต่ว่า……”
“ไม่ต้องกังวลที่เหลือผมจะจัดการให้เอง ดีไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วจึงพยักหน้าตกลง
“อื้ม”