เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 127 ความบ้าระห่ำของจี้จิ่งเชิน
บทที่ 127 ความบ้าระห่ำของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินพาเธอเดินออกมาจากห้องเรียนเก่า
ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้เดี๋ยวนั้น
ไม่มีใครคิดว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจี้จิ่งเชินจะยังคงปฏิบัติต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างดีเช่นเดิม
จี้จิ่งเชินเชื่อมั่นในตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างที่สุด เขาไม่เอาความคิดของคนอื่นมาคิดให้รกสมอง
เหมือนกับที่เขาให้คำมั่นสัญญาเอาไว้
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ใช่คนที่เชื่อถือคนอื่นมากนักแต่หากความจริงปรากฏเขาก็จะไม่ลังเลแม้แต่นิด
จี้จิ่งเชินจับมือเธอแน่นแล้วจูงพาเดินผ่านฝูงชนโดยไม่มองแม้แต่น้อย
แม้แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็ยังแปลกใจที่จี้จิ่งเชินเชื่อใจเธอ
ต้องใช้ความรู้สึกมากขนาดไหนถึงจะเชื่อใจได้มากขนาดนี้กัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอบอุ่นวาบหวามในใจแต่หารู้ไม่ว่าในใจของจี้จิ่งเชินนั้นกำลังค่อยๆลดลงที่จะนิดอย่างมีขีดจำกัด
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกพากลับไปที่ปราสาทเก่าแก่ หลังจากคุยกับจี้จิ่งเชินจนสบายใจแล้วเธอก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ดึกมากเท่าไหร่จี้จิ่งเชินก็ออกมาจากปราสาท
เขาเดินเข้าไปในสวนภายใต้ความมืดสลัวนั้น
เขาหยุดตรงที่ลานบ้านโดยมีพ่อบ้านยืนอยู่ข้างๆ
“เจอตัวแล้วครับคุณท่าน”
จี้จิ่งเชินเปิดตาขึ้นแล้วพบกับชายคนนั้นนอนอยู่บนพื้นโดยผูกติดอยู่อีกด้านหนึ่งแล้วเดินเข้าไปหา
อาจารย์หลีถูกมัดอย่างแน่นหนาชนิดดิ้นไม่หลุด ปากถูกปิดผนึกด้วยพลาสติกเทป
เขายังคงดิ้นรนต่อสู้ แว่นกรอบดำที่ชอบใส่ก็ไม่รู้ตกไว้ที่ไหน กำลังหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
จี้จิ่งเชินเดินเข้ามาหาพลางโน้มศีรษะลงและมองเขาอย่างท้าทาย
กลางคืนมืดสลัวแต่เขาก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของจี้จิ่งเชินเย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับคนไร้ชีพจร
บอดี้การ์ดก้าวไปข้างหน้าพลางดึงเทปกาวออกจากปากของเขาเช่นนั้นแล้วเขาจึงตะโกนออกมาทันที
“คุณจะทำอะไร? นี่มันผิดกฎหมายนะ….อุ๊บ”
ทันทีที่เขาพูดออกมาจี้จิ่งเชินก็ใช้เท้าเหยียบไหล่ของเขาแล้วกดลงไปที่พื้นทันที
“แกทำอะไรกับภรรยาของฉัน”
อาจารย์หลีสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“ไม่ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยเป็นเธอที่…..”
ปึก
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ดวงตาของจี้จิ่งเชินฉายแววเดือดดาลอย่างชัดเจน เขาย่อตัวลงแล้วเตะเข้าอย่างแรงตรงอกของอาจารย์หลีเสียงคล้ายซี่โครงหักตามหลังทันทีที่เตะลงไป
เขาหรี่ตาลงภายในยังฉายความดุเดือดในสายตา
“ฉันให้โอกาสแกอีกครั้ง”
อาจารย์หลีตัวสั่นเทาแล้วเริ่มร้องไห้ออกมา
“ผมแค่ต้องการเงิน ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ”
เขาลอบมองที่จี้จิ่งเชินและเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ขัดจังหวะตัวเองอีกต่อไปแล้วเขาจึงพูดต่อไปว่า
“เธอให้เงินผมโดยขอให้ผมทำแบบนี้…..ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไม่มีเงินไปผ่าตัดแม่และแม่ผมอาจจะต้องตาย ปล่อยผมไปเถอะนะ”
“ฉันปล่อยแกไปแล้วใครจะปล่อยฉันล่ะ?”
ดวงตาของจี้จิ่งเชินฉายแววเย็นชาออกมา
“แกทำอะไรกับเธอบ้าง?”
ตาของอาจารย์หลีกะพริบและพูดอย่างระมัดระวังว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรเธอเลยจริงๆ ผมแค่จับมือเธอเท่านั้น….”
จี้จิ่งเชินยังคงใบหน้าไว้เช่นเดิม
“มีอะไรอีกไหม?”
“ไม่…ไม่มีแล้ว!”
จี้จิ่งเชินมองดูเขาสักพักจากนั้นก็โน้มตัวลงไปเล็กน้อย
“หลังจากนี้ฉันต้องการให้แกเงียบ อย่าทำให้ภรรยาของฉันตื่นล่ะ”
“ได้ ผมจะ…..” อาจารย์หลีรับปากยินยอมและทันทีที่เห็นว่าจี้จิ่งเชินหยิบมีดออกมาจากด้านหลังใบหน้าของเขาซีดเสมือนไร้เลือดหมุนเวียนทันที
“คุณจี้ คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ไม่ได้นะ……”
บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและปิดปากของอาจารย์หลีเอาไว้
จี้จิ่งเชินง้างมือขึ้นแล้วแทงดาบสั้นในมือทะลุลงไปบนหลังมือของอาจารย์หลียึดตรึงเอาไว้กับพื้นดิน
อาจารย์หลีดิ้นรนอย่างรุนแรง
จี้จิ่งเชินยืนขึ้นพลางเหยียบมีดแล้วกดลงไปอีก
“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเธอ”
เลือดพุ่งออกมาจากอุ้งมือซึมลึกลงไปในดินพลันทำให้ดินบริเวณนั้นเกิดสีแดง
พ่อบ้านมองจี้จิ่งเชินอย่างเป็นห่วง
นานมากแล้วที่คุณชายไม่เป็นแบบนี้…..
ถ้าให้พูดก็คือครั้งนั้น หลิวอ้านทำผิดชนิดที่ไม่อาจยกโทษให้ได้ส่วนอาจารย์หลีที่อยู่ต่อหน้านี้เขาเองก็มีความผิด การลงโทษก็จะโหดร้ายนิดหน่อยเท่านั้น
เขาเงยหน้าขึ้นมองแต่ก็รู้สึกประหลาดใจกับสีหน้าของจี้จิ่งเชินในเวลานี้
ใบหน้าแข็งทื่อและดูมืดมนไม่ชัดเจนภายใต้แสงจันทร์ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
ความปรารถนาที่จะได้มาซึ่งเวินเที๋ยนเที๋ยนทำให้เขาเปลี่ยนไป
ครั้งนั้นที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอโดนกล่าวหาว่าเป็นชู้กัน คุณผู้ชายก็ชอบทิ้งรอยจูบไว้บนคอคุณผู้หญิง ไม่ให้หายไปจางลงก็ทำรอยใหม่อยู่อย่างนั้น
คราวนี้ก็เหมือนกันแต่กลับมาลงที่มือของเขาแทน
ครั้งหน้าล่ะ?
พ่อบ้านขมวดคิ้วและรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
ร่างที่นอนอยู่บนพื้นเจ็บปวดอย่างที่สุดแล้ว ในที่สุดจี้จิ่งเชินจึงดึงเท้ากลับ
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้การแสดงออกบนใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิม
เขาเช็ดคราบที่มีอยู่ในมือของเขาพลางมองลงไปยังร่างที่กองอยู่บนพื้นโดยไร้ซึ่งความสงสาร
“เอามันออกไปแล้วให้มันมาชี้แจงทุกอย่างพรุ่งนี้”
พูดจบแล้วเขาก็จ้องมองเลือดบนพื้นพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ล้างเลือดให้สะอาดอย่าให้เธอเห็น”
“ครับ”
บอดี้การ์ดทั้งสองพาร่างนั้นออกไปทันที
จี้จิ่งเชินหันกลับและเดินไปที่ปราสาท
พ่อบ้านรีบตามหลังเขาไปทันที
“คุณผู้ชายครับ จะเอายังไงกับตระกูลเจี่ยงดีครับ?”
คราวนี้เหตุการณ์เกิดจาก “ญาติห่างๆ” ของตระกูลเจี่ยงดูจากการกระทำของเธอที่ผ่านมาแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
“พรุ่งนี้ฉันจะไปบ้านตระกูลเจี่ยง”
จี้จิ่งเชินเดินไปที่ประตูแล้วชะงักไปครู่หนึ่งพลางพูดเสริมว่า “อย่าบอกเธอล่ะ”
“ครับท่าน”
เมื่อได้ยินคำตอบแล้วจี้จิ่งเชินก็ก้มศีรษะลงตรวจร่างกายของตัวเองให้แน่ใจว่าไม่มีกลิ่นเลือดและคราบเลือดก่อนที่จะยกมือขึ้นและเปิดประตูเข้าไป
แสงในห้องนอนสลัวและมีแสงเล็ก ๆ บนหัวเตียง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับไปแล้ว
จี้จิ่งเชินนั่งลงที่เตียงพลางมองเธอไปด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนสะลึมสะลือเปิดตาของเธอขึ้นมาอย่างงุนงง
เมื่อพบเข้ากับจี้จิ่งเชินเธอก็พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “คุณมาที่นี่ทำไมคะ?”
“วันนี้ผมอยากนอนกับคุณ” จี้จิ่งเชินกล่าว
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าตอบรับแล้วกำลังจะหลับไป ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้กับสิ่งที่เขาพูดแล้วจ้องมองเขาด้วยตาเบิกกว้าง
จี้จิ่งเชินยืนยันคำพูดตัวเอง “ วันนี้ผมอยากนอนกอดคุณ”
ดวงตาของเขาแน่วแน่จนปฏิเสธไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมา
“จี้จิ่งเชิน คุณจะ….”
“ผมแค่กอด” จี้จิ่งเชินแทรกขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าตอบรับ
ในวินาทีต่อมาเธอก็ถูกกอดโดยจี้จิ่งเชิน
เขากอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างมั่นคงและลูบผมด้วยมือของเขาอย่างเบามือ
“นอนเถอะ” เขากล่อมเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนง่วงมากเกินไปที่จะตอบสนองสิ่งใดกลับคืนเพียงไม่ช้าเธอก็หลับลงไปอีกครั้ง
ลมหายใจของเธอเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
ในความมืดจี้จิ่งเชินค่อยๆก้มศีรษะลงและจูบลงบนผมของเธอ
“ใครก็เอาคุณไปจากผมไม่ได้”
เสียงของเขาเบามากแต่พูดออกมาด้วยความมุ่งมั่น
ลมยามค่ำคืนจากหน้าต่างพัดพาเสียงของเขาออกไป
วันถัดมาเมื่อความเห็นของทุกคนเริ่มหนักข้อขึ้น อาจารย์หลีจึงออกหน้าชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้น