เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 104 ปีกกล้าขาแข็ง
บทที่ 104 ปีกกล้าขาแข็ง
จางม้างหรูมองเธออย่างก้าวร้าว ใช้ทั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาบังคับและข่มขู่
ผ่านไปสักพัก เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงส่ายหน้า
“ไม่ตกลง…เรื่องนี้ฉันไม่เห็นด้วยจริงๆ…”
“ให้เธอทำ เธอก็ต้องทำ”
น้ำเสียงโมโหโกรธของเจี่ยงหงซึ่งดังมาจากประตู
เขาค้ำไม้ค้ำ สีหน้าเคร่งขรึม
“ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ พวกเราพูดอะไร ทางที่ดีเธอก็ทำอย่างนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำมือที่วางไว้ข้างลำตัวแน่น
“ฉันไม่เห็นด้วยจริงๆ…”
เธอส่ายหน้า “พวกคุณรีบตามเจี่ยงเนี่ยนเหยากลับมาเถอะ ฉันไม่อยากหลอกเขาต่อไปแล้ว”
เจี่ยงหงซึ่งหรี่ตามองเธอ
“ทำไมละ เธอกลัวเหรอ หรือว่าชอบเขา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกัดริมฝีปากล่าง ไม่พูดอะไร
เขาทำเสียงเย็นชา
“เธออย่าลืมละ จี้จิ่งเชินไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก ถึงเวลาถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ…”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าซีด กัดริมฝีปากไม่พูดอะไร
เจี่ยงหงซึ่งพูด “ถึงเวลาผลจะออกมาเป็นยังไง เธอก็คิดดูเองละกัน”
เขาเงยหน้าสบตากับจางม้างหรูแวบหนึ่ง รอเพียงคำตอบของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงียบขรึมอยู่นานมาก ในที่สุดถึงพูด “ไม่ตกลง…”
สีหน้าของจางม้างหรูเคร่งขรึม กำลังจะพูด แต่ก็ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนแย่งพูดก่อน
“พวกคุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันไม่ทำ”
เธอยืนขึ้น สีหน้ากลับมาเย็นชาตามเดิม
“ตามข้อตกลงก่อนหน้า ฉันจะพยายามหาตัวเจี่ยงเนี่ยนเหยากลับมาให้ได้ ถึงเวลาฉันจากไปเอง ถึงแม้จี้จิ่งเชินจะโทษ นั่นก็โทษฉัน”
เจี่ยงหงซึ่งโกรธจนโยนไม้ค้ำในมือ กระแทกกับพื้นเสียงตึงตัง
“จี้จิ่งเชินต้องฆ่าพวกเราแน่ๆ เธออยากทำร้ายพวกเราให้ตายใช่ไหม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่หันหน้ากลับ หมุนตัวแล้วเดินออกไป
เพิ่งเดินถึงสวนหย่อม ก็พบกับจี้จิ่งเชิน
เขายืนมือไปกอดเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เป็นยังไงบ้าง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไร”
จี้จิ่งเชินเงยหน้า มองไปที่ทั้งสองคนที่กำลังสีหน้าไม่ดียืนอยู่ที่ประตู
หลังจากกินข้าวเสร็จ
เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินก็ไม่ได้อยู่ต่อนาน
สีหน้าของเจี่ยงหงซึ่งและจางม้างหรูดูไม่ดี แม้แต่มารยาททางสังคมขั้นพื้นฐานก็ขี้เกียจจะทักทาย
รอให้พวกเวินเที๋ยนเที๋ยนจากไปแล้ว ยิ่งกังวลมากขึ้น
จางม้างหรูโกรธจนเดินไปเดินมาในห้องรับแขก
“เธอไม่ยอมจริงๆ”
“อีนังเด็กนั่น ความกล้านับวันยิ่งมากขึ้น ตอนแรกฉันเคยพูดแล้ว ไม่ควรให้เธอมา”
เจี่ยงหงซึ่งยืนหน้าเครียดอยู่อีกด้าน
“ตอนนี้ยังมีวิธีไหนอีก ฉันดูแล้วเธอคิดว่ามีจี้จิ่งเชินคอยหนุนหลังถึงได้กำเริบเสิบสานขนาดนี้”
“ตอนนี้พวกนั้นจะมีประโยชน์อะไร ตอนนี้คุณจะทำยังไง”
จางม้างหรูมองเขาแวบหนึ่ง นั่งลงบนโซฟา ร้องไห้ขึ้นมา
“เนี่ยนเหยาที่น่าสงสารของฉัน ความจริงต้องตกอับมาถึงขันนี้…”
เจี่ยงหงซึ่งถูกเธอรบกวนจนรู้สึกรำคาญนิดหน่อย
“ร้องไห้อะไร นี่ไม่ใช่เพราะเธอรนหาที่เองเหรอ”
“เจี่ยงหงซึ่ง คุณ…”
ทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกัน ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้นมา
เจี่ยงหงซึ่งยกมือขัดจังหวะคำพูดของเธอ มองดูเบอร์ แล้วกดรับสาย
“ฮัลโหล”
“เป็นยังไงบ้างละ”
เจี่ยงหงซึ่งขมวดคิ้ว พูดอย่างโมโห “เธอไม่ยินยอม คุณจี้ คุณควรทำอย่างไร”
คนที่อยู่ตรงข้ามกับไม่สนใจ
“นี่เป็นเรื่องของพวกคุณเอง ถึงเวลาคนที่ลำบากไม่ใช่ฉัน แต่เป็นลูกสาวของพวกคุณ”
เจี่ยงหงซึ่งขมวดคิ้วอย่างกังวล
“แต่ว่า…”
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจี่ยงเนี่ยนเหยาจำเป็นต้องมีสักเหตุผลให้เข้าตระกูลจี้”
เจี่ยงหงซึ่งกัดฟันแน่น
“ฉันรู้แล้ว…”
กดวางสาย จางม้างหรูเดินมาต่อหน้า
“เป็นไงบ้าง เขาทำไมเหรอ”
เจี่ยงหงซึ่งจ้องเธออย่างดุร้ายแวบหนึ่ง
“ทั้งหมดเป็นเพราะลูกสาวสุดที่รักของคุณ ไม่มีเธอ จะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ไหม”
จางม้างหรูถลึงตา เสียงแหลมขึ้นมา
“เจี่ยงหงซึ่ง คุณกำลังโทษฉันอยู่เหรอ ตอนแรกเป็นใครที่ส่งเธอไปต่างประเทศ”
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น”
เจี่ยงหงซึ่งขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เด็กที่เนี่ยนเหยาคลอดออกมา ต้องเป็นลูกของจี้จิ่งเชิน”
อีกด้าน เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่บนรถ ในใจคิดถึงคำพูดของเจี่ยงหงซึ่งและจางม้างหรูที่พูดกับเธอก่อนหน้านี้
พวกเขาอยากเก็บลูกของจี้จิ่งเชินไว้ วางแผนพอถึงเวลาใช้เด็กข่มขู่จี้จิ่งเชินเหรอ
หรือว่ายังมีจุดประสงค์อื่น
ถ้าเป็นแบบนั้น หรือว่าจี้จิ่งเชินจะไม่ทำให้พวกเขาลำบากเหรอ
พวกเขาไม่ใช้ตัวเอง แล้วจะเป็นใคร
หรือว่าจะเป็นเจี่ยงเนี่ยนเหยา
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว นึกขึ้นได้ก่อนหน้านี้หมินอันเกอ หาเบาะแสของเจี่ยงเนี่ยนเหยาเจอแล้ว
แท้จริงแล้วคือปัญหาอะไร
อีกอย่างช่วงนี้ ก็ไม่เห็นร่องรอยของหมินอันเกอเหมือนกัน
“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” จี้จิ่งเชินเอ่ยปาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้า เห็นเขามองตัวเอง ในใจตื่นตระหนกอย่างมาก
“จี้จิ่งเชิน ก่อนหน้านี้คุณถามฉันไม่ใช่เหรอว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน”
“อึม คิดได้หรือยัง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ไปเมืองซานย่าปะ”
ในเมื่อพวกเขาหาไม่เจอ งั้นเธอก็ไปดูด้วยตัวเอง
ตามเจี่ยงเนี่ยนเหยากลับมา
มณฑลไหหลำ
เมืองซานย่า ในโบราณเรียกว่าหยาโจว เป็นสถานที่ที่เลือกแรกของหลายคนในการฮันนีมูนหลังแต่งงานของพวกเขา
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสองเมืองของเกาะไหหลำ ที่นี่ไม่ถือว่าใหญ่ แต่ก็ไม่เล็ก
ถ้าจะตามหาใครสักคนที่นี่ ช่างยากเย็นเหลือเกิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนลงเครื่องแล้วก็ส่งข้อความให้หมินอันเกอ
อีกสองวัน หมินอันเกอก็มีงานคอนเสิร์ตอยู่ที่นี่พอดี
เธอหันหน้า ก็เห็นโปสเตอร์เดี่ยวขนาดใหญ่อยู่ด้านข้างพอดี
จี้ยี่หยันมองแวบหนึ่ง ก็ขมวดคิ้วขึ้น
“เขาก็อยู่ที่นี่เหรอ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนสืบเรื่องนี้มาก่อน ก็รู้ว่าหมินอันเกอก็อยู่ที่นี่ ถึงได้มาที่นี่
เธอคนเดียวเดิมทีไม่มีทางตามหาเจี่ยงเนี่ยนเหยาเจอ
เธอลากจี้จิ่งเชิน
“พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
รีสอร์ทฮ่านเฉ่าเซวียนคือราคาแพงที่สุดในมณฑลไหหลำ นอกจากนี้ยังเป็นรีสอร์ทบนภูเขาที่มีน้ำพุร้อนที่มีเอกลักษณ์โดนเด่นมากที่สุด
น้ำพุร้อนในรีสอร์ทบนภูเขา ยังเพิ่มวัตถุดิบที่สำคัญ มีประสิทธิภาพในการบำรุงร่างกาย
รีสอร์ทบนภูเขาทั้งลูกก่อสร้างตามแบบรีสอร์ทบนภูเขาสมัยโบราณ มีกลิ่นอายความเป็นโบราณ แม้แต่สิ่งของที่วางประดับตกแต่งอยู่ข้างใน ก็ล้วนเป็นวัตถุลายครามสมัยโบราณ
จี้จิ่งเชินรู้ว่าเธอชอบ จึงเลือกที่นี่โดยเฉพาะ
ทั้งสองคนยังไม่เข้าไปข้างใน มีคนสวมชุดฮั่นเป็นแนวเดียวกันก็ยืนอยู่หน้าประตูรีสอร์ทฮ่านเฉ่าเซวียนทั้งสองด้าน
พอมองไป มีประมาณสามสิบหกคน
พอสองคนเดินเข้าไป คนพวกนั้นก็โค้งคำนับให้พวกเขาอย่างช้าๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนสะดุ้ง มองพวกเขาอย่างตกใจ
คนตรงหน้าพวกนี้เหมือนกับเป็นนักแสดง ตามมาด้วยเสียงตีกลอง พวกเขายกเท้าวางเท้าอย่างสุภาพ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแวบหนึ่ง ราวกับพวกเขายกให้จี้จิ่งเชินเป็นผู้ครองเมือง
จี้จิ่งเชินเห็นเธอยืนทึ่ม ก็เรียก “นี่เป็นจุดเด่นของรีสอร์ทฮ่านเฉ่าเซวียน เข้ามาดูสิ”
สองคนผ่านประตูใหญ่เข้าไป เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแวบหนึ่ง อดไม่ได้ค่อยเบิกตากว้าง
ที่นี่ มหัศจรรย์มากเลย