เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 103 ต้องการลูกของจี้จิ่งเชินลักคน
บทที่103 ต้องการลูกของจี้จิ่งเชินลักคน
คนแก่พวกนี้ทำงานอย่างตรากตรำอยู่ในห้างมาครึ่งชีวิต ผู้อาวุโสของครอบครัวที่มีชื่อเสียงหลายคนในเมืองหลวงก็ยืนอยู่ที่นี่
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
ท่านจางจ้องเขาอย่างไม่พอใจ แต่ไม้นี้ของตัวเองไม่มีประโยชน์ต่อคนตรงหน้า
“ฮึ ไม่ไปก็ได้”
เขาส่งเสียงรำคาญ แล้วหันหน้ามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก “สาวตัวน้อย พวกเราค่อยนัดเวลากันใหม่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพยักหน้า
“ดี”
รอในที่สุดส่งพวกท่านจางกลับไปแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดขึ้น “ที่จริง ไปพิพิธภัณฑ์ซานซิงดวนก็ดีนะ เครื่องทองสัมฤทธิ์ที่นั่นมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ”
จี้จิ่งเชินมองไปทางประตูแวบหนึ่ง ตอนแรกไม่ควรให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้จักพวกคนแก่พวกนี้
แก่แล้วแก่แล้ว ยังเรียนที่จะแย่งคนของคนอื่น
“ไปดูเครื่องลายครามมีอะไรน่าสนุก ฉันจะพาเธอไปอื่น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามองเขา
“จริงเหรอ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้าเล็กน้อย “เธออยากไปไหนก็ได้ เธอเป็นคนเลือกสถานที่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว คิดอย่างละเอียด
“ไปพิพิธภัณฑ์ซานซิงดวนไหม”
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินแข็งทื่อ “นอกจากที่นี่”
“พิพิธภัณฑ์หม่าหวางดวนละ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างเต็มไปด้วยความรอคอย
จี้จิ่งเชินเบือนสายตาหนี ตั้งใจไม่มองเธอ
“นอกจากพิพิธภัณฑ์”
ถ้าไปพิพิธภัณฑ์ เวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องมองเครื่องลายครามพวกนั้น อย่างตาประกาย เขาก็ต้องอดไม่ได้อยากจะซื้อให้เธอ
แต่นั่นเป็นสิ่งของในพิพิธภัณฑ์
ห้าปีขึ้นไป สิบปีลงมา
เห็นเธอคิดไม่ออกจริงๆ จี้จิ่งเชินก็พูด “ยังมีเวลา คุณสามารถดูเพิ่มเติมได้ หลายปีมานี้คุณอยู่ต่างประเทศตลอด น่าจะมีหลายสถานที่ในประเทศจีนที่ยังไม่เคยไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
เพิ่งพูดจบ ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบออกมาดู ที่แท้เป็นเจี่ยงหงซึ่งโทรมา
มองจี้จิ่งเชินแวบหนึ่ง ถึงกดรับอย่างลังเล
“ฮัลโหล”
พอรับสาย อีกฝ่ายก็พูดตรงๆ “คืนนี้คุณมาที่นี่ ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษากับคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลนิดหน่อย
“อึม มีเรื่องอะไรเหรอ”
“มาถึงคุณก็รู้เอง”
กดวางสาย เวินเที๋ยนเที๋ยนมองโทรศัพท์ ไม่พูดอะไร
“เป็นอะไรเหรอ” จี้จิ่งเชินถาม
“คืนนี้ ฉันต้องกลับบ้าน”
จี้จิ่งเชินไม่ได้สังเกตความกังวลบนหน้าของเธอ แล้วพูด “ฉันไปกับคุณด้วย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งคิดอยากจะปฏิเสธ แต่คิดไปคิดมา สุดท้ายถึงยอม
พลบค่ำ
เจี่ยงหงซึ่งเห็นจี้จิ่งเชินเดินเข้ามากับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ตกใจแป๊บหนึ่ง แล้วถึงค่อยๆยิ้มออกมา
“จิ่งเชิน คุณก็มาด้วยเหรอ”
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนแวบหนึ่ง แล้วพูด “ก็แค่ภรรยาฉันคิดถึงเนี่ยนเหยา เลยก็ตามเธอมา ไม่เห็นต้องเอิกเกริกขนาดนี้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆเบือนสายตาหนี ก่อนหน้านี้เธอยังสงสัยเล็กน้อย แต่พอได้ยินประโยคนี้ ก็รู้ว่าครั้งนี้เจี่ยงหงซึ่งให้เธอมาก็เพราะเจี่ยงเนี่ยนเหยา
จี้จิ่งเชินยิ้มจางๆแล้วพูด “ผมมาส่งค่อนข้างวางใจกว่า”
“เห็นความสัมพันธ์ของพวกคุณดีขนาดนี้ ผมก็วางใจ”
เจี่ยงหงซึ่งพยักหน้าอย่างพอใจ แต่ดวงตาที่มองเวินเที๋ยนเที๋ยน สายตานั้นกลับมีความหมายอื่นซ่อนอยู่ลึกๆ
กำลังคิด ในเวลานี้จางม้างหรูก็เดินเข้ามา มองทั้งสองคน
“ให้พวกเขาไปเตรียมกับข้าว เนี่ยนเหยา คุณมากับฉันก่อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางของจางม้างหรูและเจี่ยงหงซึ่ง แล้วก็พยักหน้า
สองคนเพิ่งเดินออกไป สีหน้าของจางม้างหรูก็เปลี่ยนทันที หันหน้ากลับมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างรังเกียจตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง
“ดูเหมือนว่าเธอจะใช้ชีวิตอยู่ข้างกายจี้จิ่งเชินอย่างดีมากนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปาก
“มีธุระอะไรไหม”
จางม้างหรูผลักประตูห้องนอนของเจี่ยงเนี่ยนเหยา แล้วหันหน้ามา
“เธอกับจี้จิ่งเชิน ตอนนี้ไปถึงขั้นไหนแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่เข้าใจ “นี่ หมายความว่าไง”
เธอเงยหน้ามองจางม้างหรูแวบหนึ่ง
“พวกคุณหาตัวเจี่ยงเนี่ยนเหยาเจอแล้วเหรอ”
“มีเบาะแสแล้ว” จางม้างหรูตอบกลับอย่างถูๆไถๆ แล้วพูด “ที่เรียกเธอมา ก็เพราะตอนนี้มีเรื่องหนึ่งต้องการให้เธอช่วย”
จางม้างหรูค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ เหลือบมองเวินเที๋ยนเที๋ยนแวบหนึ่ง
“ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับจี้จิ่งเชินดีขนาดนี้ เรื่องนี้สำหรับเธอแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร”
เธอไม่เคยอารมณ์ดีกับเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก่อน ตอนนี้เกรงใจขนาดนี้ ยิ่งทำให้เธอไม่เข้าใจ ในใจรู้สึกไม่สงบเล็กน้อย
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ลูกหนึ่งคนของจี้จิ่งเชิน” จางม้างหรูพูดอย่างเมินเฉย
“อะไรนะ”
กับเวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาโต ไม่กล้าเชื่ออะไรจางม้างหรูแล้ว
“อะไรเรียกว่าลูกของจี้จิ่งเชินเหรอ”
จางม้างหรูกลับทำสีหน้าไม่สนใจ แล้วพูดช้าๆ “ตอนนี้เธอหลอกจี้จิ่งเชินถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าต่อไปจี้จิ่งเชินรู้ว่าเธอเป็นตัวปลอม เธอคิดดูเขาจะทำกับเธอยังไง”
“แต่เรื่องนี้ไม่ใช่พวกคุณเป็นคนจัดการกันเองเหรอ”
“จะจัดการยังไง”
จางม้างหรูจ้องเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วพูดใส่อย่างโมโห “ฉันให้เธอเป็นตัวแทนเนี่ยนเหยาอยู่ตระกูลจี้ชั่วคราว ไม่ใช้ให้เธอให้ท่าจี้จิ่งเชิน”
เธอลุกขึ้นยืน ชี้ไปด้านนอก
“คุณดูด้านนอกเผยแพร่ออกไปยังไง เธอทำให้ต่อไปเนี่ยนเหยากลับมาจะทำยังไง”
เดิมทีเธอไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นตัวแทนเนี่ยนเหยา ถ้าไม่ใช่เพราะจี้จิ่งเชินเข้าใจไปเองว่าเธอเป็นเจี่ยงเนี่ยนเหยาก่อน เธอจะไปเห็นด้วยได้ยังไง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอ
พวกเขาอยากได้ลูกของจี้จิ่งเชินสักคน เพื่อใช้ข่มขู่เขาเหรอ”
“แต่ว่านั่นก็เป็นไปไม่ได้…”
จางม้างหรูพูด “วางใจเถอะ พวกเราไม่ได้ให้เธอคลอด”
“อะไรนะ”
“เธอต้องเอาของของจี้จิ่งเชินออกมา พวกเรามีวิธี”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ รีบส่ายหน้า
“นี่เป็นไปไม่ได้…ยังไงก็เป็นไปไม่ได้…”
“มีอะไรเป็นไปไม่ได้”
จางม้างหรูขมวดคิ้ว จ้องเธอแล้วพูด “ตอนนี้เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเหรอ นี่สำหรับเธอแล้ว ไม่ยากใช่ไหม”
“แต่เดิมทีพวกเราไม่มีอย่างนั้น…อีกอย่าง ตอนแรกฉันตกลงพวกคุณเป็นตัวแทนของเจี่ยงเนี่ยนเหยา แต่ข้อเสนออื่นไม่ได้ตกลง”
“ตอนแรกก็คือตอนแรก แต่ตอนนี้ละ”
จางม้างหรูลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน เดินไปตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยอารมณ์รุนแรง
“เธอยังจะเสแสร้งอะไร หรือเธอคิดว่า รอให้จี้จิ่งเชินรู้แล้วว่าเธอหลอกเขา เขาจะปล่อยเธอไปเหรอ ปล่อยให้อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหรอ เธอรู้เล่ห์เหลี่ยมของจี้จิ่งเชินเหรอ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธอ ไม่พูดอะไร
จางม้างหรูพูดช้าๆ“สองวันก่อนหลิวอ้านถูกคนพบที่หน้าสถานีตำรวจ มือเท้าถูกหัก ทั้งตัวไม่มีชิ้นดี คนไม่ใช่คน ผีไม่ใช่ผี”
“จี้จิ่งเชินเป็นคนทำเหรอ”
มิน่าละหลังจากที่ถูกช่วยออกมาจากห้องเช่า จี้จิ่งเชินก็ไม่พูดถึงเรื่องของหลิวอ้านเลย”
จางม้างหรูก้าวเข้ามาทีละก้าว มาถึงตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน หน้านิ่วขึ้นมา
“ไม่ใช่เขาแล้วยังจะมีใคร เธอหวังให้ตัวเองเปลี่ยนเป็นแบบนั้นเหรอ หรือว่าให้เด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งหมดเป็นแบบนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยหลังหนึ่งก้าว นั่งบนเตียงโดยตรง