วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 849 ถ้าธัชชัยรู้เรื่องพ่อแท้ๆ ของเขา
ตอนที่ 849 ถ้าธัชชัยรู้เรื่องพ่อแท้ๆ ของเขา
บนถนนที่รถสัญจรกันอย่างแออัด มีรถแลนโรเวอร์คันหนึ่งกำลังแอบตามรถเบนซ์ของธัชชัยมา
เมื่อเห็นว่ารถเบนซ์ของธัชชัยเข้าไปใน Richbaby คนที่อยู่บนรถแลนโรเวอร์ก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ “ไอ้เด็กคนนี้ มีเมียมีลูกอยู่แล้วยังจะมาในสถานที่มั่วสุมอะไรแบบนี้ทำไมกันเนี่ย? ”
เมื่อความแค้นในจิตใจถูกทำให้สลายไปเสียสิ้น สายตาที่อำเภอพัดรักมองธัชชัยนั้นก็เต็มไปด้วยความรักและหวงแหน
ไม่ว่ายังมองยังไงธัชชัยก็ดูหล่อเท่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าเขาได้ทำเรื่องราวร้ายแรงมากเพราะใบหน้าของเขา แต่ว่าตอนนี้นั้นมันก็เป็นเพราะใบหน้านี้ด้วยเหมือนกัน เขาจึงอยากที่จะดูแลเขาให้ดีๆ
ลูกชายของเขาพรมมินคนนี้สมควรที่จะมีพื้นฐานประดุจคนเป็นเจ้านายไม่ว่าจะรูปลักษณ์หรือความอาจหาญ
“ไอ้เด็กคนนี้รูปร่างหน้าตาเหมือนแม่ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องจิตวิญญาณแล้วเนี่ย ได้ฉันมาเต็มๆ”
อำเภอพัดรักพูดกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่ตามธัชชัย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก
อำเภอพัดรักที่เป็นแบบนี้นั้นช่างแตกต่างจากตัวเขาเองเมื่อสองเดือนก่อนอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่ธัชชัยจะจากปราสาท sky dream ของเขาไปนั้น เขาได้เผารูปปั้นหล่อขี้ผึ้งของกุลปฏิกิริยาผู้เป็นทิ้งไป ด้านธัชชัยนั้นก็เศร้าสลดเสียใจกับห้องที่ถูกไฟเผานั่นอยู่นาน กว่าเดือนเต็มๆ นั่นแหละก็เขาจะออกมา
เมื่อออกมาแล้วนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะมาแก้ไขในสิ่งที่เขาเข้าใจผิดไปที่เมือง S
เมื่อได้ยินอำเภอพัดรักพูดคุยกับตัวเอง สิบสองก็เป็นกังวล ตอนนี้เขากลับใจเข้ามาอยู่ในเส้นทางที่จะขอร้องให้ลูกชายเข้าใจเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังคงมีปัญหาข้อหนึ่งที่ค่อนข้างจะชัดเจน
คือถ้าธัชชัยรู้ว่าตัวเขาเองเป็นลูกของอำเภอพัดรัก….เขาจะตระหนกตกใจมั้ยนะ?
เขาจะยอมรับมั้ย หรือเขาจะปฏิเสธ?
ถ้าเป็นตัวเขาเอง แน่นอนเลยว่าจะปฏิเสธ เพราะที่ผ่านมาเรื่องต่างๆ ที่อำเภอพัดรักทำกับธัชชัยนั้น มันเกินกว่าคำว่าร้ายแรงไปมากจริงๆ
ถ้าธัชชัยอยากที่จะฆ่าอำเภอพัดรัก เขาคิดว่าอำเภอพัดรักจะไม่ทัดทานต่อต้านอย่างแน่นอน บางทีอาจจะตัดสินใจได้ภายในเสี้ยววินาทีเลยด้วยซ้ำ
ถ้าหากว่าถึงเวลานั้นแล้ว ตัวเขาเองควรที่จะจัดการ หรือจะยืนดูดีหล่ะ?
สิบสองนั้นเคยประมือกับธัชชัยมาก่อน ในเรื่องของกายภาพ ธัชชัยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย แต่ในเรื่องสติปัญญาแล้ว มันก็ยากที่จะพูด
“โทรหาสิบห้าสิ ฉันเริ่มจะคิดถึงเจ้าเด็กนั่นขึ้นมาซะแล้ว”
ดั่งคำที่ว่า เมื่อเห็นสิ่งหนึ่งก็ทำให้นึกถึงคนหนึ่ง เมื่ออำเภอพัดรักเห็นลูกชายของเขา จู่ๆ ก็กลับคิดถึงหลานชายขึ้นมา
“ตอนนี้เลยมั้ยครับ?” สิบสองก้มลงมองดูเวลาในมือถือ
“อืม”
โทรศัพท์โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของวัจสา ซึ่งเธอเองก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าจะเป็นเขา เธอแค่มองไปที่ลูกชายที่กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ก่อนจะลุกขึ้นช้าๆ
“หม่ามี๊ ใครโทรมาหน่ะครับ? ใช่พ่อเฮงซวยรึเปล่า? ”
“ไม่ใช่จ่ะ ป้าแววโทรมาหน่ะ ลูกอ่านไปก่อนนะ เดี๋ยวหม่ามี๊ไปรับโทรศัพท์ก่อน”
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร วัจสาถึงไม่อยากที่จะให้ลูกชายได้คุยกับอำเภอพัดรัก อาจจะเป็นเพราะความขื่นขมในหัวใจของเธอ“สา สิบห้าหลับไปแล้วเหรอ?”“หลับไปแล้ว” วัจสารีบตอบทันที“อืมมม….หลับซะแล้ว” อำเภอพัดรักดูเหมือนจะถอนใจอย่างเศร้าโศก“น่าจะเพราะเล่นที่โรงเรียนเยอะไปหน่อย กลับมาจึงนอนไวหน่ะค่ะ” วัจสาพูดขึ้นอีก“อื้อ จริงสิ สา ทำไมเธอถึงไปอยู่ที่บ้านคนอื่นหล่ะ?”วัจสาได้ฟังก็ตกใจ ชัดเลย ที่แท้แล้วอำเภอพัดรักก็ส่งคนให้มาตามพวกเธอ “ที่นี่เป็นบ้านของญาติฉัน พวกเขาก็ค่อนข้างจะดีกันเราด้วย”“เอางี้มั้ย เธอกับสิบห้าก็มาอยู่ที่อ่าวตื้นสิ”อำเภอพัดรักพูดขึ้นโดยที่ไม่ทันจะคิดอะไร“มันจะไม่เหมาะมั้ยหล่ะคะ? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าลูกชายของคุณเขาจะเป็นยังไง? ” วัจสาขมวดคิ้ว ก่อนจะหายใจทิ้งและพูดต่อ “คุณเองก็รู้ดี”แน่นอนหล่ะว่านั่นทำให้อำเภอพัดรักเงียบไป และเมื่อใช้ความคิดอยู่ครู่เขาก็พูดอย่างหนักแน่น “งั้นเดี๋ยวฉันจะซื้อบ้านให้เธอกับสิบห้าเอง”“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้วหล่ะ”“แล้วทำไมถึงไม่กลับไปอยู่ที่บ้านตระกูลศรีทองหล่ะ? เธอยังมีปัญหากับอาชัยอยู่เหรอ? ตอนนี้ก็มีลูกกันแล้ว ทำไมถึงไม่ทำเพื่อลูกกันนะ”อำเภอพัดรักพูดอย่างตำหนิ ทั้งยังพูดคำว่า ‘อาชัย’ ได้อย่างคล่องปากวัจสาอยากที่จะแย้งกลับไป แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้วก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เพราะถึงแม้เขาจึงถูกถอดเขี้ยวถอดเล็บแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังเป็นเจ้าป่า อีกอย่างสองเดือนที่ผ่านมาเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แม้ว่าวัจสาจะรู้สึกว่าเขาจะยังดูมีความสุขก็ตามทีอย่างไรก็ตามแค่ช่วงเวลาสั้นๆ อยู่ๆ ก็เพิ่งจะมารู้ว่าตัวเองมีลูกกับผู้หญิงที่ตัวรัก ซ้ำยังมีหลานอีก แน่นอนหล่ะว่านั่นก็ทำให้ชีวิตของเขาดูจะมีทั้งความหวังและอะไรที่จะฝากฝังขึ้นมา“ตะวันไม่อยากไปอยู่ค่ะ “วัจสาตอบเรียบๆอำเภอพัดรักจึงกวดถามต่อไปอีก “ทำไมหล่ะ? ”“ก็อาจจะเพราะเขากลัวกนิษฐาลูกบุญธรรมของคุณหน่ะสิ เด็กน้อยตอนที่ยังอยู่ในท้องของฉันหน่ะก็ถูกเธอกระทำใส่ไม่น้อย ตั้งแต่ตอนนั้นมาก็คงจะรู้สึกหวาดกลัวในใจ ดังนั้นฉันก็เลยไม่อยากที่จะให้ตะวันรู้สึกไม่ดีวัจสาพูดได้อย่างมีวาทะพอควร“เธอไม่ต้องกังวลอะไรเลยนะ ตอนนี้สิบห้าเป็นหลานของฉัน ไม่ว่าใครที่จะมาแตะต้องเขาแม้แต่ปลายก้อยหล่ะก็ ฉันจะไปฆ่าคนคนนั้นทันที!”ความโกรธของอำเภอพัดรักพุ่งปี๊ดขึ้นมารวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด“ช่างเถอะค่ะ ยังไงซะลูกสาวบุญธรรมของคุณก็เป็นสุดที่รักของลูกชายคุณ ทั้งยังเป็นคนทำลูกให้กับพี่ชายของลูกชายคุณ ถ้าคุณไปยุ่งวุ่นวายกับเธอเพราะว่าตะวันหล่ะก็ ฉันเกรงว่าธัชชัยก็คงไม่ปล่อยคุณไปแน่นอน”วัจสาใช้คำพูดที่ค่อนข้างจะร้ายลึก แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจอะไรมากนัก เธอเพียงอยากจะเห็นปฏิกิริยาของอำเภอพัดรักว่าคิดยังไงกับกนิษฐา อีกนัยน์หนึ่งก็อยากที่จะให้อำเภอพัดรักได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของกนิษฐากับสองชายในตระกูลศรีทองด้วย“นี่อาชัยเป็นยังไงกันนะ? ตัวเองไม่ใช่ว่ามีลูกมีเมียอยู่แล้วหรอกหรือยังไง ทำไมยังไปคิดห่วงอะไรกับผู้หญิงของพี่ชายตัวเองด้วย? ความรู้สึกมั่นคงของฉันมันส่งไม่ถึงเขารึยังไงนะ? ”เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ฟึดฟัดโมโหอะไร วัจสาก็หมดคำพูด ความมั่นคงอะไรนั่นทำเอาหญิงสาวทนไม่ได้“คุณพรมมินคะ งั้นฉันไปอยู่เป็นเพื่อนตะวันก่อนนะคะ คุณเองก็นอนไวๆ หล่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”วัจสาไม่รอให้อำเภอพัดรักได้ตอบอะไรกลับ เธอก็ชิงวางสายไปก่อนเธอทอดมองท้องฟ้าที่มืดสนิท ก่อนจะหายใจทิ้งออกไปยาวๆแน่นอนหล่ะ เธอเองก็คงจะต้องปกป้องลูกของเธอถึงจะถูกวันต่อมาเป็นวันเสาร์ เดิมทีวัจสาอยากที่จะพาลูกชายไปทำอะไรดีๆ แต่เมื่อกำลังรออยู่ที่ป้ายรถเมล์นั่นเอง เธอก็พบเข้ากับรถเบนซ์ที่ไม่คุ้นเข้าเจ้าของรถคันนั้นคือกวีวัธน์ที่เพิ่งจะหย่ากับภาวินีไปวัจสาไม่ได้รู้สึกยินดีอะไร แต่ลูกชายของเธอนั้นค่อนข้างที่จะชอบเขา“กวีวัธน์ นายจะมาพาพวกผมไปขี่ม้าอีกแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นกวีวัธน์เด็กน้อยก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่ไม่รอให้เขาได้พูดอะไร วัจสาก็ตัดบทพูดกับลูกชายก่อน “ตะวัน ลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้หม่ามี๊จะพาลูกไปไหน? ”“แต่ว่า….”“เมื่อกี้ตอนที่ขับผ่านบ้านตระกูลเดิมขุนทดมา ผมเห็นรถเบนซ์ของธัชชัยด้วยหล่ะ หรือว่าที่คุณวัจสาอยากที่จะพูดก็คือจะไปกับสามีเก่าหล่ะ?”กวีวัธน์เอ่ยถามเรียบๆ ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นถึงความคิดของวัจสาก็ไม่ปาน“คุณกวีวัธน์ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ เอาตัวเองให้รอดก่อน”วัจสาไม่อยากที่จะไปยุ่งกับผู้ชายแบบเขา ใครจะไปรู้หล่ะบางทีเขาอาจจะหาเรื่องยุ่งให้เธออีกก็เป็นได้กวีวัธน์ตอบกลับอย่างสบายๆ “คุณวัจสา อยากที่จะลองพาตัวเองกับลูกหายไปสักวันดูมั้ยหล่ะ ดูสิว่าสามีเก่าของคุณจะทำยังไง? ”“ก็แค่เกมๆ หนึ่งเท่านั้นแหละ หรือว่าสำหรับคุณวัจสาแล้วเกมแค่นี้ก็เล่นไปได้?”“ว้าวดีจริง หม่ามี๊ เราลองหายไปสักวันหนึ่งกัน ให้พ่อเฮงซวยลองพลิกโลกหาดู! ”เด็กน้อยชิงตอบรับเกมขึ้นมาอย่างสนุกสนานวัจสาจึงจำต้องขึ้นรถเบนซ์ของกวีวัธน์ไปอย่างจำยอมเธอเองก็ไม่ได้โง่ เธอรู้ว่ากวีวัธน์ต้องการที่จะทำอะไร แต่เธอแค่ไม่ค่อยจะเข้าใจนักก็ตรงที่ว่า มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะ ทำไมเขาถึงไม่สนใจ เขาจะมายุ่งอะไรกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วด้วย?แต่เหตุผลที่วัจสาขึ้นรถนั้น หนึ่งก็เพราะลูกชาย สองก็เพราะอยากที่จะกระตุ้นธัชชัยสักหน่อย เธอนึกไปถึงว่าธัชชัยนั้นมีเวลาพอที่จะตัวติดกับลูกคนอื่นเป็นวันๆ ถ้าอย่างนั้นก็ลองมาหาลูกเมียตัวเองสักวันหนึ่งเป็นไงดังนั้นวัจสาจึงปิดเครื่องทันทีเธอเองก็อยากจะเห็นปฏิกิริยาของเขาเช่นกันกวีวัธน์ยิ้มขึ้นน้อยๆ “ถูกต้องแล้ว”กวีวัธน์ไม่ได้ขับรถเร็วมากนัก ดังนั้นตอนที่เขาขับเข้ามาสู่สนามม้า ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อำเภอพัดรักมาถึงพอดีเด็กน้อยรุดรีบวิ่งไปสู่ทุ่งกว้างใหญ่ ดูเหมือนว่าตัววัจสาเองก็ไม่ได้ออกมาใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้นานมากแล้วเช่นกันในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นอำเภอพัดรักที่เดินเข้ามาพอดี“พ่อบุญธรรม……พ่อบุญธรรม! ”เด็กน้อยวิ่งไปหาอำเภอพัดรักด้วยความรวดเร็วราวกับเสือควบเมื่อเด็กน้อยวิ่งเข้าไปถึงอำเภอพัดรักก็อุ้มเขาขึ้น “สิบห้าของฉัน ฮ่ะๆๆๆๆ ป่ะไปกันเถอะ เดี๋ยวพ่อบุญธรรมจะพานายไปขี่ม้า! ”เด็กน้อยจึงไปขี่ม้ากับอำเภอพัดรักด้านวัจสานั้นก็เตรียมที่จะนั่งดูอยู่ข้างๆ ใครจะไปรู้หล่ะว่ากวีวัธน์เกิดจะอยากสอนเธอขึ้นมาเด็กน้องไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร แต่เขาไม่ชอบเลยที่จะให้กวีวัธน์อยู่ใกล้ๆ แม่ของเขา ดังนั้นจึงพูดกับสิบสองที่อยู่ข้างๆ “สิบสอง นายไปสอนหม่ามี๊ผมขี่ม้าสิ”ตอนที่สิบสองยังไม่ได้ไป กวีวัธน์ก็กำลังเชิญชวนให้วัจสาขึ้นมา“ทำไมหล่ะ? แม้แต่ความช่วยเหลืออย่างบริสุทธิ์ใจของผู้ชายคนหนึ่งก็ไม่รับอย่างนั้นเหรอ? ”คำพูดของเขาแทงเข้ามาที่ใจของวัจสา จวบจนกระทั่งตอนนี้ที่ตัวเธอเองเป็นอิสระแล้ว แต่จิตใจของเธอก็ยังคงเหมือนกับถูกครอบงำโดยเงาของอำเภอพัดรักกับธัชชัยเธอลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะยอมรับความช่วยเหลือของกวีวัธน์ โดยการเกาะเขานิดหน่อยเพื่อที่จะขึ้นมาเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนของสองแม่ลูก ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ธัชชัยกำลังพลิกโลกเพื่อที่จะหาคนด้วยโทสะการพูดคุยของสองหนุ่มผ่านไปได้อย่างไม่ง่ายเมื่อคืนที่ผ่านมา พอตอนเช้าเขาก็รีบรุดตัวมาที่บ้านตระกูลเดิมขุนทด โดยคิดว่าจะไปถึงก่อนที่สองแม่ลูกจะออกจากบ้านแต่ว่าเขาก็ช้าไปแล้วก้าวหนึ่งภาวินีบอกว่าวัจสาจะพาลูกชายไปที่สถานสงเคราะห์ซึ่งเป็นที่ที่วัจสาตัดสินใจจะไปตั้งแต่แรก พาลูกชายไปทำอะไรที่มีความหมายนั้น ก็คือการพาลูกชายไปช่วยเหลือคนที่สถานสงเคราะห์นั่นเองแต่ใครจะรู้หล่ะว่าจะต้องหันเหไปอีกทางเพราะกวีวัธน์ ดังนั้นจึงเปลี่ยนไปขี่ม้าแทนเมื่อธัชชัยไปถึงที่สถานสงเคราะห์ ก็ไม่เจอสองแม่ลูก เขาจึงคิดว่าวัจสาคงจะยังอยู่บนรถโดยสารเขาจึงนั่งรอกว่าชั่วโมง บวกกับวัจสานั้นก็ปิดเครื่องตลอด ธัชชัยจึงรอคอยด้วยใจที่หงุดหงิดภายหลังเขาจึงไปที่สถาบันสอนเต้น จากนั้นก็บ้านแวววัย แม้กระทั่งที่อ่าวตื้น แม้ว่าจะไม่เข้าไปก็ตามทีจนท้ายสุด ธัชชัยก็ได้รับสายจากรสรินซึ่งโทรมาบอกข่าวแก่เขา