วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 848 สมรรถภาพ
ตอนที่ 848 สมรรถภาพ
“ธัชชัยไม่ได้แก้ต่างที่มิ้นเข้าใจเขาผิด เขารู้ว่าไม่ใช่เพราะตัวเขาเองไม่รักเธอ แต่ให้เธอรู้ว่ามีคนที่รักเธอมากกว่า และให้เธอได้รู้ว่าวรพลพ่อของเธอนั้นรักเธอมากที่สุดแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นมิ้นก็ไม่รักพ่อเล็กแล้ว”
“เด็กน้อยกลิ้งตัวออกจากธัชชัยทันที จากนั้นก็ปีนขึ้นไปที่อ้อมกอดของวรพลตามเดิม
“หึ มิ้นมีพ่อรักมิ้นแล้ว ไม่สนใจแล้ว!”
ท่าทางมั่นใจในตัวเองแบบนั้น ธัชชัยจะไม่ชอบไปได้ยังไง? แต่การที่เขาทำท่าทีใจร้ายแบบนั้น วรพลที่โดนเจ้าตัวเล็กกอดอยู่ตอนนี้กลับเข้าใจดี
วรพลจึงถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ชัยมาที่นี่มีอะไรรึเปล่า? ”
“ก็แค่คิดถึงพี่เฉยๆ หน่ะ”
ธัชชัยเดินเข้ามาใกล้ๆ พี่ของเขา ก่อนจะใช้มือไปวางบนไหล่ของพี่ชายเบาๆ “สบายดีมั้ยช่วงนี้? ”
วรพลชะงัก ก่อนจะตอบ “ก็เดิมๆ จะไม่สบายได้ยังไงเล่า! ”
พูดจบพักหนึ่งก็พูดเสริมต่ออีก “ถ้าแกพาสากับตะวันกลับมาอยู่ด้วย ฉันถึงจะรู้สึกดีมากๆ ”
“ก็พี่ๆ ยังเป็นคู่ใหม่ปลามัน ไม่กลัวว่าพวกผมจะไปรบกวนพวกพี่อย่างนั้นเหรอ?”
คำว่าพวกผมพวกพี่ แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูเป็นคนนอกอะไร แต่ก็ทำให้คนฟังไม่สบายใจอยู่ดี
วรพลเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างเงอะๆ งะๆ “มีเด็กอยู่กับเราที่นี่ด้วยนะ แกช่วยสนใจหน่อยสิ! ”
“มิ้น ไปหาอาไมเคิลตรงนู้นไป พ่อเล็กซื้อผลไม้เคลือบน้ำตาลมาให้ ไปกินได้อย่างสบายใจเลยนะ เดี๋ยวพ่อเล็กจะดูพ่อของหนูให้เอง”
ด้วยเพราะปกติแล้ววรพลจะไม่อนุญาตให้เด็กน้อยกินของหวาน แต่ว่าตอนนี้มีธัชชัยเป็นแรงช่วยให้เธอได้กินแล้ว เด็กน้อยจึงยิ้มจนตาหยี ก่อนที่จะวิ่งไปที่ห้องเลขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเหลือเพียงชายหนุ่มเพียงแค่สองคนแล้ว เขาก็เริ่มพูดคุยถึงปัญหาระหว่างกัน
“ชัย ทำไมแกยังให้มิ้นกินขวางหวานอีก? ก่อนหน้านี้ฟันของเธอ….”
“เฮ้ พี่จะไปกังวลอะไรเล่า ฟันแท้มิ้นยังไม่ขึ้นเลยไม่ใช่เหรอ?”
ธัชชัยหยิบเอาน้ำชาที่วรพลยื่นให้ก่อนจะค่อยๆ จิบมันเบาๆ “คุยเรื่องของพี่กับกนิษฐาเถอะ พวกพี่นอนเตียงเดียวกันรึเปล่า? ”
วรพลหยุดการเคลื่อนไหวไปพักก่อนจะพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “ก็เป็นสามีภรรยากันแล้วก็ต้องนอนเตียงเดียวกันสิ”
“งั้นพี่ได้จูบเธอ หรือว่า มีความสัมพันธ์กับเธอแล้วรึยัง?”
ธัชชัยถามอย่างจัง ไม่มีท่าทีล้อเล่นแต่อย่างใด
ใบหน้าของวรพลเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์
“ธัชชัยแกเป็นน้องชายแล้วมาถามเรื่องอย่างว่านี่ของพี่ชายกับพี่สะใภ้แบบนี้มันสมควรมั้ย?” วรพลเพียงแค่ตอบอย่างเล่นๆ
“สมควรสิ ทำไมจะไม่หล่ะ?”
ธัชชัยลุกขึ้นยืน ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าวรพลจงใจที่จะหลบเลี่ยงคำตอบ“คืนนี้ไปสปาที่ Richbaby กันเถอะ ผมเลี้ยงพี่เอง”วรพลเพียงตอบเรียบๆ “คงไม่ได้ คืนนี้ฉันต้องนอนกับมิ้น”“ก็ให้กนิษฐาทำสิแล้วพี่ก็ไปกับผม ถ้าหากว่าพี่ไปมาหล่ะก็…..ผมจะไปตามถึงที่ตระกูลศรีทองเลย”หลังจากที่กอดพี่ชายเขาเสร็จธัชชัยก็เดินหันตัวกลับไปเมื่อมองร่างของธัชชัยที่เดินจากไป วรพลเองก็อดสงสัยในใจไม่ได้ว่า ไอ้เด็กนี่มันคิดที่จะทำอะไรกันแน่?ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรขึ้นมาได้ วรพลจึงรีบปรี่ตรงไปที่ห้องเลขาของเขา แต่ด้านในนั้นกลับไร้ซึ่งวี่แววของมิ้นลูกสาวของเขา“มิ้น!”สามนาทีหลังจากนั้น วรพลก็ได้รับโทรศัพท์จากมิ้น“พ่อคะ…มิ้นออกมาเที่ยวเล่นกับพ่อเล็กนะคะ เรากำลังจะไปรับพี่ตะวันที่โรงเรียนกัน! คืนนี้พ่อมารับมิ้นนะคะ มารับที่ ริช….พ่อเล็กคะ ริชอะไรนะคะ?”“Richbaby!”……ในขณะที่วรพลกำลังรีบเร่งไปที่Richbabyเพื่อที่จะรับลูกสาว มิ้นก็ได้ถูกบุรีนำไปส่งที่บ้านตระกูลศรีทองเรียบร้อยแล้วดังนั้นที่มิ้นว่านั้นก็เป็นแค่ทริคที่ธัชชัยเอาไว้หลอกวรพลก็เท่านั้นด้านวรพลที่เข้าไปที่ Richbaby แล้วนั้น การที่จะกลับออกมาก็ไม่ได้ง่ายอย่างเขาคิดเมื่อเข้าไปเขาก็ถูกธัชชัยจับไปแช่น้ำอุ่น ซึ่งเดิมทีธัชชัยอยากที่จะไปตรวจสอบด้วยตัวเอง แต่ว่าตัวเขาเองนั้นก็เป็นชายหนุ่มเช่นเดียวกัน เกรงว่าจะไม่ได้ผลดังนั้นเขาจึงส่งเบอร์เด็ดๆ ของ Richbaby ไปบริการวรพลถึงสองคนและเมื่อทำการตรวจสอบครู่หนึ่งเสร็จสิ้นไป ก็ส่ายหน้าท่าทีผิดหวังสายตาของธัชชัยจมไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะให้คนเหล่านั้นออกไป“ธัชชัย หน่ะ…นี่แกให้คนพี่นั้นมายั่วพี่ชายของแกอย่างนั้นเหรอ?”มันน่าอับอายจนวรพลแทบจะทนไม่ได้ กับวิธีอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะที่ธัชชัยยังจะมาแช่อ่างได้อย่างสบายใจได้อยู่ด้วยนี่อีก“จะตกใจอะไรเล่า? ก็แค่จูบนิดจับหน่อย ไม่ได้จะทำอะไรพี่ซะหน่อย”ธัชชัยพูดเสียงเรียบในขณะที่คิ้วขมวดเป็นปมแน่น “ทำไมอาการมันถึงไม่ดีขึ้น? นี่พี่ไม่ได้ทำมันเลยเหรอ? ”“……”วรพลไม่รู้จะพูดอะไรยังไงมันถึงจะถูกจะควร เดิมทีเขาก็ไม่อยากจะคุยอะไรกับธัชชัยเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อเขากำลังจะออกจากห้องแช่น้ำไป ธัชชัยก็ขึ้นมาขวางทั้งยังดันให้เขาตกลงไปในน้ำอีก“เราสองพี่น้องไม่ได้คุยด้วยกันมานานแล้ว ยังไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกน่า”ธัชชัยพูดพลางช่วยดึงตัววรพลให้โผล่พ้นน้ำขึ้นมาหาหายใจ ในขณะที่วรพลนั้นตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ“ฉันไม่มีอะไรอยากจะคุยกับแก มิ้นอยู่ที่ไหน?!” ใบหน้าของวรพลที่เปรอะเปื้อนน้ำถามอย่างเหี้ยมโหด“ให้บุรีเอาไปส่งแล้ว ดังนั้นพี่ก็สามารถคุยกับผมได้อย่างสบายใจเลย”ธัชชัยพูดเพื่อที่จะไม่ให้วรพลมีเหตุผลที่จะหนีเขา“ธัชชัย แกจะพอได้แล้วหรือยัง ไม่เคารพฉันยังไม่พอ ยังเอาผู้หญิงคนนั้นมาทำให้ฉันขายหน้าอีกอย่างนั้น แกยังจะให้เราคุยกันดีๆ อีกอย่างนั้นเหรอ?”วรพลจมอยู่กับความโกรธที่ถูกหญิงสาวเมื่อครู่มาจู่โจมจูบลูบแทะเขา…“น้องชายที่ดีของพี่เขาไม่ใช่ว่าเพื่อที่จะให้ส่วนร่างของพี่ได้รับความสุขมั่งหรือไง? ใจแคบจริงๆ ..”ธัชชัยพูดพลางมองไปที่วรพลที่เสมองไปทางอื่น ถ้าจะดูจากภายนอกนั้นพี่ของเขาก็ดูปกติดี แต่สมรรถภาพนั้นดูเหมือนมันจะยังผิดปกติอยู่“แกไปสนเรื่องของแกเองเถอะ เอาสากับตะวันกลับมาให้ได้ก่อนค่อยมาพูด นั่นหน่ะคือสิ่งที่คนอย่างแกต้องทำ เรื่องความสุขอะไรของฉัน ฉันจะรับผิดชอบมันเอง”การที่ศักดิ์ศรีความเป็นชายของวรพลถูกเหยียบย่ำ นั่นเป็นปกติที่เขาจะโกรธเมื่อมองวรพลที่กำลังโกรธทั้งยังเอาแต่อยากกลับนั้น ธัชชัยก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรเลยด้วยเพราะพี่ชายของเขาไม่มีความสุข ไม่ใช่แค่ไม่มีความสุขเฉยๆ แต่ยังดูหดหู่อีกด้วย“ทำไมพี่ถึงแต่งงานกับกนิษฐา? พี่ไม่ได้พอใจเธอไม่ใช่หรือไง? ”ธัชชัยถามอย่างมีความหมาย นั่นทำให้วรพลนิ่งงันไป“มันเป็นเรื่องของฉันกับกนิษฐา ไม่จำเป็นที่ต้องให้แกมาไล่กวดถาม!”คำตอบของวรพลนั้นเหมือนกับกัดฟันพูดออกมาอย่างไรอย่างนั้น……ในตอนที่แวววัยออกจากโรงพยาบาลนั้นคู่ปู่ตระกูลดาราจักรก็ให้คนของเขามารับ วัจสารู้สึกว่ามันเป็นการดีที่เขาจะทำอะไรให้แวววัยแบบนี้ วัจสาจึงเห็นด้วย ทั้งยังสนับสนุนวัจสาพาตะวันกลับมายังบ้านของปยุตอีกครั้งจริงๆ แล้วสภาพแวดล้อมของบ้านนั้นมันไม่เหมาะแกการที่จะให้เด็กอายุห้าขวบอาศัยอยู่ด้วย แต่วัจสาเองก็คิดไม่ออกว่าตัวเองจะพาลูกไปอยู่ที่ไหนดีอัตราค่าจ้างที่เมือง S ไม่ได้สูง ดังนั้นราคาของที่อยู่อาศัยต่างๆ นั้นก็ทำให้คนทั่วไปถึงกับเลือดตาแทบกระเด็น ดังนั้นสำหรับเธอเองแม้แต่จะเช่าเธอก็ไม่มีปัญญาและอีกเหตุผลหนึ่งที่เธออยู่บ้านตระกูลเดิมขุนทดนั่นก็คือ คนที่บ้านนั้นสามารถที่จะกันธัชชัยออกไปได้ ถ้าเกิดมีเพียงแค่เธอกับลูกแค่เพียงสองคนนั้น ธัชชัยจะต้องยิ่งได้ใจทำอะไรตามอำเภอได้มากขึ้นแม้ว่าตัวเธอเองกับธัชชัยจะหย่าขาดกันแล้ว แถมยังถูกธัชชัยตามตื๊อซะแบบนี้ วัจสาก็ยังไม่ได้มีความรู้สึกกล้าพอที่จะรักอีกครั้งเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเธอถึงรู้สึกว่ามันมีช่องว่างอะไรบางอย่างระหว่างเธอกับธัชชัย บางทีมันอาจจะเป็น…กนิษฐาวัจสายังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเธอ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่กล้านะ มันเพียงแค่เพราะเธอไม่อยากให้ตัวเธอเองกับลูกต้องช้ำใจ ดังนั้นก็เลยคิดที่อยากจะซ่อนตัวไว้หล่ะมั้ง“หม่ามี๊ของผม หม่ามี๊กำลังคิดถึงธัชชัยอยู่ใช่มั้ยครับ?”เด็กน้อยที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยซุกเข้ามาในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ก่อนจะเอาตัวเบียดๆ อย่างที่ทำเป็นประจำ“หม่ามี๊จะคิดถึงเขาทำไมหล่ะครับ?”วัจสาหยุดความคิดของเธอลงเอาไว้ ก่อนจะดึงลูกชายออกจากอ้อมอก “ตะวันตอนนี้ลูกก็โตแล้ว มาใกล้แม่แบบนี้ไม่ได้แล้วนะรู้มั้ย? ”เด็กน้อยไม่ฟัง ทั้งยังยกมือขึ้นรวบคอของวัจสาและกอดเธอเอาไว้“หม่ามี๊ วันนี้มิ้นได้อยู่ตัวติดกับพ่อทั้งวันเลยหล่ะ” น้ำเสียงของเด็กน้อยดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักวัจสาจึงตกใจ “แล้วลูกรู้ได้ยังไงหล่ะจ้ะว่าพ่อของลูกอยู่กับน้องมิ้นทั้งวัน? หรือว่าลูกโดดเรียน? ”“ไม่ใช่สิ ลูกชายสุดที่รักของหม่ามี๊น่ะเป็นเด็กดีแล้ว แต่เป็นเพราะว่ามิ้นบอกกับผมเองต่างหาก”เด็กน้อยนั่งยืดตัวขึ้น ดูเหมือนอยากจะถอนใจ “เพราะตอนกลางวันหน่ะน้องมิ้นมารับผมที่โรงเรียนกับพ่อเฮงซวยด้วย”วัจสาเงียบไป ไม่คิดเลยว่าธัชชัยยังจะมีเวลาไปอยู่กับมิ้นมากขนาดนั้น“ตะวัน น้องมิ้นเธอเป็นลูกของลุงลูก เป็นน้องสาวของลูกนะ การที่พ่อของลูกรักเธอมันเป็นเรื่องปกติ เพราะมิ้นเป็นหลานของเขา อย่าไปหวงเลย อีกอย่างมิ้นยังอายุน้อยกว่าลูก ลูกต้องเสียสละ”วัจสาพยายามสอนลูกชายที่กำลังอิจฉาและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“อื้อช่างเถอะ ให้พ่อได้ไปรักลูกของคนอื่นบ้างบางครั้งบางคราว ผมอนุญาต ลูกชายสุดที่รักของหม่ามี๊ไม่ใช่คนขี้งกสักหน่อยนี่เนาะ!”เด็กน้อยยักคิ้วอย่างไว้ตัว ทำท่าสมเป็นชายสุภาพบุรุษแม่ว่าใบหน้ายังฉายความไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง“นั่นแกล่ะถึงจะถูกต้องครับ ตะวันของหม่ามี๊นี่เก่งที่สุดเลย”วัจสากอดลูกชายของเขา ก่อนจะจุ๊บไปที่ข้างแก้มหนึ่งทีเด็กน้อยนอนพลิกไปพลิกมา ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ “คืนนี้พ่อเฮงซวยไม่กลับมานอน ผมหน่ะก็คิดถึงเขานิดหน่อย หม่ามี๊หล่ะคิดถึงเขาบ้างมั้ย? ”“หม่ามี๊ไม่คิดถึงหรอกจ่ะ ลูกรีบนอนเถอะนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”“แต่ว่าไม่มีกอดของพ่อเฮงซวย ตะวันหลับไปได้นะ….”“ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่ sky dream ลูกก็ไม่ได้กอดพ่อของลูกไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนั้นยังนอนหลับได้หล่ะจ๊ะ? ”วัจสาตำหนิเสียงนุ่ม“ก็มันไม่เหมือนกันนี่นา…ถูกพ่อเฮงซวยกอดหน่ะมันรู้สึกดีๆ สุดๆ ไปเลย”“รู้สึกดีสุดๆ ไปเลยเหรอ? หม่ามี๊กอดลูกมาหลายปีไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเหรอจ๊ะ? ”“หม่ามี๊ นี่หม่ามี๊กำลังหึงพ่อเฮงซวยอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย?” เด็กน้อยมุดเข้าไปในอ้อมกอดของวัจสา “ตะวันหน่ะรักหม่ามี๊ที่สุดในโลกแล้ว!”เด็กน้อยนับวันยิ่งปากหวาน แต่นับวันก็ยิ่งเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไปควรจะเป็นเช่นเดียวกัน