ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 184 เถียงชุ่นหลิว
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง ซุนหรานหรานก็ได้กลอกตาใส่เข้าแล้วพูดว่า" เธอนิกินที่ชามมองที่หม้อนะ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ทำให้เธอพอใจไม่ได้พี่ไม่มีทางรับปากเธอเด็ดขาด แต่ว่าวางใจได้ เพียงแค่เธอจัดการซ่งยวี่ชิงให้เรียบร้อย พี่สะใภ้จะช่วยเธอจัดการจ้าวเสี่ยวหลิงและหลี่ชุ่ยฮวาเอง
หลังจากจ้าวเสี่ยวกังได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะและพูดว่า" เรื่องพี่ยวี่ชิงนั้นยังต้องพึงพี่ชุ่ยฮวา ฉันจัดการด้วยตัวเองไม่ได้"
หลี่ชุ่ยฮวามองไปที่สายตาที่คาดหวังของจ้าวเสี่ยวกังก็ยิ้มและพูดว่า" เธอวางใจได้เลย ยวี่ชิงก็ชอบเธอเหมือนกัน แต่เธอหน้าบางไปหน่อยเท่านั้นเอง ไม่งั้นก็คงจะเสร็จเธอไปตั้งนานแล้ว รอคืนนี้กลับแล้วค่อยไปคุยกับเธอแล้วกัน. "
ขณะที่พูด หลี่ชุ่ยฮวาก็ได้เดินออกจากถ้ำไป จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าของทุกคนออกมา
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย จ้าวเสี่ยวกังก็ให้หลี่ชุ่ยฮวาและซุนหรานหรานพักในถ้ำก่อนสักพักค่อยออกไป เพราะการออกกำลังกายเมื่อกี้ทำให้ทั้งสองคนเหนื่อยมาก เมื่อเห็นการใส่ใจของจ้าวเสี่ยวกัง ทั้งสองคนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ
"ได้ ถ้างั้นฉันกับพี่ชุ่ยฮวาของเธอขอหลับพักสักครู่แล้วกัน วันนี้ช่วงบ่ายเราก็จะไม่ไปเก็บเห็ดแล้ว เธอให้พวกเรา75ก็พอ"
"พี่สะใภ้ พี่พูดแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ระหว่างพวกเราจะต้องคิดละเอียดขนาดนั้นเลยหรือ?ถ้างั้นแบบนี้ฉันให้พวกพี่10000ก็ไม่ถือว่ามากเกินไป ฉันกับพี่สะใภ้……."
ก่อนที่จ้าวเสี่ยวกังจะพูดจบ ซุนหรานหรานก็พูดว่า"พอๆๆ รีบไปทำงานของเธอเถอะ ต่อไปไม่ต้องพูดอะไรแบบนี้อีกแล้ว เข้าใจไหม"
เมื่อเห็นใบหน้าสีแดงของซุนหรานหราน จ้าวเสี่ยวกังไม่ได้พูดต่อ เพราะมีบางสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องพูด แค่เข้าใจซึ่งกันและกัน
"หึๆ ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ"
จ้าวเสี่ยวกังสวมเสื้อผ้าและเดินออกจากถ้ำทันที หลังจากเดินไปรอบๆฟาร์มบนภูเขา เขาก็โล่งใจที่พบว่าไม่มีใครมาที่ฟาร์มภูเขาของเขาเพื่อขโมยเห็ดสน
เมื่อนึกถึงท่าทางที่กวนตีนของหวังป้าเทียนและหวังเซี่ยงหรุและดูถูกเขา จ้าวเสี่ยวกังก็รู้สึกอัดอั้นในใจ
แม้ว่าเห็ดจะทำเงินได้มาก แต่มันก็ไม่ใช่แผนการระยะยาว จ้าวเสี่ยวกังออกจากฟาร์มและไปที่สระบัว เขาจะมาดูว่ากุ้งมังกรเป็นยังไงบ้าง ถ้าหากดีล่ะก็เขาเตรียมที่จะเลี้ยงในปริมาณที่มากขึ้น เพราะใต้สระบัวเต็มไปด้วยดินและปลาชนิดอื่นๆนั้นอยู่แทบไม่ได้
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังมาถึงที่สระบัว และเห็นดอกบัวที่เบิกบาน ก็คิดว่าถ้าหากดอกบัวพวกนี้อยู่ในเมืองจะต้องมีคนมาถ่ายรูปมากมายอย่างแน่นอน แต่เสียดายที่อยู่ในชนบท ไม่งั้นจะกลายเป็นจุดชมวิวที่สวยงามได้เลย
ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้น จ้าวเสี่ยวกังก็ชะงัก และเมื่อคิดถึงภูเขาโดยรอบของหมู่บ้านบางจื่อ ฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยดอกไม้นาๆพันธ์ุ และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็เต็มไปด้วยสีสันมากมาย นี่มันสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามชัดๆ
เมื่อมีความคิดนี้ออกมา ในหัวจ้าวเสี่ยวกังก็มีแผนการที่ยิ่งใหญ่ผุดออกมา
รอให้เขามีเงินก่อน เขาจะต้องทำให้หมู่บ้านบางจื่อกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
ข้างสระบัว จ้าวเสี่ยวกังได้กากุ้งมังกรที่เขาเลี้ยงในกรงไม้ไผ่ เมื่อเขาเอาขึ้นมาก็พบว่ากุ้งมังกรโตกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า การเติบโตที่เร็วแบบนี้ทำให้เขาดีใจเป็นอย่างมาก
หลังจากคำนวณเงินในมือแล้ว จ้าวเสี่ยวกังตัดสินใจยังไม่คืนเงินจ้าวหวู่ก่อน จัดการเรื่องกุ้งมังกรก่อนค่อยว่ากัน
มองไปที่กุ้งมังกรที่อยู่ในกรง แม้จะมีบางส่วนหนีไป แต่ที่เหลือก็ยังตัวโตมาก แม้จะไม่เจริญเติบโตเต็มที่ แต่จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกว่ากุ้งพวกนี้สามารถเอาไปขายได้แล้ว
เขาค่อยๆว่างกุ้งกลับไป แล้วมองบนท้องฟ้า จ้าวเสี่ยวกังก็ได้วิ่งไปยังร้านขายของ เขาอยากจะยืมตั้งชั่งไฟฟ้า แบบนี้การรับซื้อเห็ดสนก็จะเร็วขึ้นไม่น้อย
เมื่อเขามาที่ร้านค้าเล็กๆแห่งเดียวในหมู่บ้าน จ้าวเสี่ยวกังไม่ได้พูดเรื่องยืมตาชั่งไฟฟ้าก่อน แต่กลับซื้อไอศกรีมก่อน
สามีของเถียงชุ่นหลิวเป็นคนขับรถบรรทุก ถ้าไม่ใช่เพราะสามีเธอขับรถอยู่ข้างนอก ร้านของเธอก็คงจะไปไม่รอด ทุกครั้งที่จ้าวเสี่ยวกังมา เถียงชุ่นหลิวก็จะมองไปที่จ้าวเสี่ยวกังทุกครั้ง
เพราะทั่วทั้งหมู่บ้านบางจื่อมีคนมาซื้อของที่ร้านเธอมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มาซื้อของใช้ในครัวมากกว่า
เมื่อมาหลายครั้ง เธอก็ได้คุยกับคนในหมู่บ้านเยอะ และเมื่อเวลาผู้หญิงมาซื้อของก็จะพูดคุยเรื่องของของจ้าวเสี่ยวกังนั้นใหญ่มาก
เพราะสามีตัวเองขับรถอยู่ข้างนอกและไม่ค่อยกลับบ้านเป็นปกติ ตอนเพิ่งแต่งงานก็ประมาณครึ่งเดือน แต่ตอนนี้หลายเดือนก็ไม่กลับมาทีหนึ่ง และนี้ก็ทำให้เธอที่เพิ่งจะแต่งงานได้ไม่กี่ปีลำบากมาก
เมื่อเห็นจ้าวเสี่ยวกังกินไอศกรีมหน้าประตูและยังไม่ไป เถียงชุ่นหลิวก็รู้ว่าจ้าวเสี่ยวกังต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ แต่คิดอยู่นานก็ไม่รู้ว่าจ้าวเสี่ยวจะทำอะไรกันแน่
จ้าวเสี่ยวกังยังกังวลว่าจะพูดยังไง ไอศกรีมอันที่สองก็จะกินหมดแล้ว
"เสี่ยวกัง เธอมีเรื่องอะไรใช่ไหม?"
ในที่สุดเถียงชุ่นหลิวก็พูดก่อน ความจริงเธอชอบที่จะพูดคุยกับพูดชายเป็นอย่างมาก เพราะเธอตัวคนเดียวและเหงามานาน และชอบคิดอะไรแบบนั้นตลอด
เมื่อได้ยินเสียงที่นุ่มนวลของเถียงชุ่นหลิว จ้าวเสี่ยวกังก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ
"หึๆ พี่สะใภ้ ฉันอยากจะยืมตาชั่งไฟฟ้าของพี่ไปใช้หน่อย เมื่อฉันรับซื้อเห็ดเสร็จแล้วก็จะคืนพี่ทันทีได้หรือเปล่า?"
"โถ ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร รอก่อนนะ จะเอาให้เธอเดี๋ยวนี้"
หลังจากพูดจบ เถียงชุ่นหลิวก็ได้ยกตาชั่งไฟฟ้ามาให้กับจ้าวเสี่ยวกังและพูดว่า"เอาไปใช้เถอะ วันหนึ่งพี่ใช้ไม่กี่ครั้งเอง"
จ้าวเสี่ยวกังพูดอย่างเขินอาย: "ขอบคุณ พี่สะใภ้ ฉันไม่รู้ว่าจะขอบคุณยังไงแล้ว ต่อไปถ้าจะใช้ฉันก็ขอให้บอกนะ ฉันสัญญาว่าเมื่อพี่สะใภ้เรียกก็จะมาทันที"
เมื่อเถียงชุ่นหลิวได้ยินแบบนี้ ไฝบนก็ยกขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
"ไม่ต้องเกรงใจกับฉัน ต่อไปถ้าพี่มีอะไรให้ช่วยจะต้องเรียกใช้เธออย่างแน่นอน"
ขณะที่พูดเถียงชุ่นหลิวก็คิดว่า ถ้าคืนนี้เธอมาก็คงจะดีมากเลย
จ้าวเสี่ยวกังรับตาชั่วไฟฟ้าแล้วก็ขอบคุณเป็นเวลานาน จากนั้นก็จากไปด้วยความเขินอาย
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังที่แข็งแรงของจ้าวเสี่ยวกัง เถียงชุ่นหลิวก็คิดถึงคำพูดที่หญิงสาวในหมู่บ้านชอบพูดคุย
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ตอนที่เธอยื่นตาชั่งให้จ้าวเสี่ยวกังก็ได้สำรวจแล้ว และใหญ่จริงๆ อีกอย่างยังมีกางเกงกั้นอยู่ด้วย เพียงแค่คิด ร่างกายของเถียงชุ่นหลิวก็รู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา
จากนั้นก็รีบปิดประตู และเดินไปที่ห้องแล้วหยิบไม้สั่นที่สามีของเธอซื้อมาจากข้างนอกแล้วก็สอดเข้าไป
เมื่อความแรงเพิ่มขึ้น เถียงชุ่นหลิวก็ได้นึกถึงแผ่นหลังที่แข็งแกร่ง ก็ได้กอดผ้าห่มไว้แน่น แล้วเธอก็ตัวสั่นขึ้นมา
จ้าวเสี่ยวกังไม่ได้พูดอะไรมากมายกับเถียงชุ่นหลิวเมื่อสักครู่ แต่ทำให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกมากขนาดนี้ เมื่อเขากลับถึงบ้าน ก็ถูกภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้ตะลึง