คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 321 ผลการตัดสินคดี ตลอดชีวิต
ตอนที่ 321 ผลการตัดสินคดี ตลอดชีวิต
ในที่สุดภายในห้องคนไข้ก็สงบลง ฉู่ลั่วหานยังคงนั่งอยู่ที่โซฟา เธอถอนหายใจออกมายาวๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าหลงเซียวกำลังมองมายังเธอ
สายตาของทั้งสองประสานกัน ฉู่ลั่วหานยิ้มออกมาแล้วซุกหน้าด้วยร่างกายที่อ่อนล้าลงไปบนโซฟา เธอเอื้อมมือไปคว้าหมอนมาไว้ในอ้อมกอด “มีอะไรหรือเปล่าคะ? คุณหลงใช้สายตาแบบนี้มองมาที่ดิฉัน รู้สึกกดดันยังไงไม่รู้”
ร่างสูงกำยำของหลงเซียวยืนพิงอยู่ที่หน้าต่าง แสงไฟครึ่งหนึ่งกระทบมายังเขา ทำให้ชายผู้นี้มีมิติเพิ่มมากขึ้น “คุณนายหลงวันนี้ก็ให้ผมเปิดหูเปิดตาอีกแล้วเก่งจริงๆ ผมชื่นชมคุณครับ”
ฉู่ลั่วหานก้มลงกอดหมอนเอาหน้าซุกหมอน เธอยิ้มแล้วส่งสายตาสดใสไปยังเขา “การได้รับคำชมจากคุณหลงเนี่ย ฉันรู้สึกภูมิใจมากที่เลยละค่ะ”
หลงเซียวยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกาแล้วพูดว่า “อีกเดี๋ยวคุณหมอจะเข้ามาดูอาการแล้ว คุณนอนพักหน่อยนะครับ”
ฉู่ลั่วหานได้ยินคำว่านอนพักก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดี เธอนั่งอยู่ที่โซฟาไม่ยอมขยับ “ฉันนอนพักมาตั้งนานแล้วนะคะ ถ้าให้นอนต่อไปคงจะกลายเป็นมนุษย์ยุคหินแน่เลย”
หลงเซียวเดินตรงเข้ามาที่โซฟา เขาไม่ต่อปากต่อคำกับเธอแต่กลับอุ้มเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ตัวเธอช่างบอบบางเสียจริง แต่น้ำหนักไม่ได้เบาเหมือนรูปร่าง “ถ้าหากมนุษย์ยุคหินจะเก่งเหมือนคุณ ผมก็ยอมเป็นมนุษย์ยุคหินด้วยคนนะครับ”
เสียงทุ้มต่ำของเขาพูดขึ้นที่ข้างหูเธอ เสียงแผ่วเบาทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้ ฉู่ลั่วหาน อดไม่ได้ที่จะจับคอของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง และพาตัวเองไว้ในอ้อมแขนของเขา เธอพูดขึ้นว่า "โม่หรูเฟยและซุนเจียลี่ต่างก็อยู่ในคุก ช่วงนี้โม่หรูเฟยคงจะไม่สามารถก่อกวนฉันได้ ในที่สุดก็ได้นอนพักผ่อนเต็มที่เสียทีนะคะ”
หลงเซียววางเธอลงบนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้เธอ “หากผมอยู่ที่นี่ ไม่ว่าเมื่อไหร่คุณก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ คุณนายหลงไม่เชื่อผมเหรอ?”
ฉู่ลั่วหานหมดคำบรรยายกับคำพูดและท่าทีของหลงเซียว แต่เธอก็ชื่นชอบมันนัก!
ในเวลาต่อมาทีมแพทย์เข้ามาตรวจร่างกายของเธอ ผลออกมาว่าส่วนเลือดที่คลั่งในหัวไม่ส่งผลร้ายแรง ฤทธิ์ยาได้ผลดีเกินคาด อีกทั้งเธอเข้าใจถึงการดูแลและใช้ยาอย่างถูกต้อง จึงทำให้ร่างกายตอบสนองแก่ยาได้อย่างดี
เพียงแต่เมื่อแพทย์ทำการตรวจที่แขนขวาของเธอก็พูดขึ้นว่า “คุณหมอฉู่ครับ แขนขวาของคุณจากเดิมก็ยังไม่หายดี คุณน่าจะพอรู้อยู่ว่าห้ามทำงานหนัก ครั้งนี้ต้องใช้เวลารักษาตัวนานกว่าเดิมหน่อย”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “รบกวนหาหมอนวดเฉพาะจุดให้หน่อยนะคะ ฉันอยากหายเร็วๆ ฉันรับปากกับหวังเค่ยไว้แล้วว่าจะรักษาลูกสาวเขาน่ะค่ะ สองวันนี้เขาจะเดินทางมายังโรงพยาบาลหวาเซี่ยพร้อมลูกสาว เมื่อถึงเวลาฉันจะต้องลงมือทำการผ่าตัด หากเป็นแบบนี้คงไม่ดีแน่”
หลงเซียวเอื้อมมือของเขาไปจับมือของเธอไว้ “แขนคุณเป็นแบบนี้ยังจะไปผ่าตัดให้ใครอีก คุณนายหลงไม่อยากได้มือนี้แล้วใช่ไหม?”
“ฉันรับปากกับหวังเค่ยไว้แล้วนะคะ แล้วเธอเองก็ทำตามที่สัญญาไว้ทุกประการ ถ้าอยู่ๆฉันบอกว่าฉันทำการผ่าตัดให้ไม่ได้แล้ว เขาจะเป็นอย่างไรคะ? เขาเป็นพ่อคนนะ คนเป็นพ่อก็ล้วนรักลูกสาวทั้งนั้น ถ้าลูกสาวเขาเป็นอะไรขึ้นมาเขาคงเป็นบ้าแน่ๆ”
หลงเซียวหน้านิ่วคิ้วขมวด “ครับๆๆ เรื่องย้ายโรงพยาบาลผมจะให้จี้ตงหมิงจัดการให้ แต่หากว่าแขนคุณยังไม่หายดีละก็ห้ามทำการผ่าตัดใดๆเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผมจะปิดโรงพยาบาลซะ คุณจะได้เอาแต่ใจตัวเองไม่ได้อีก”
ลั่วหานหัวเราะแล้วซบลงที่บ่าของเขาพูดว่า “คุณหลงโมโหทีไรก็ชอบขู่จะปิดโรงพยาบาลอยู่เรื่อย แบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ”
หลงเซียวบีบแขนข้างขวาของเธอเบาๆไปมาเพื่อนวดให้เธอ “ต่อให้ผมปิดโรงพยาบาลจริงๆ ก็หยุดความตั้งใจรักษาผู้ป่วยของคุณหมอฉู่ไม่ได้หรอกครับ ในเมื่อคุณชอบ ผมก็จะสนับสนุนคุณเอง”
“ขอบคุณนะคะ ฉันหมายถึงขอบคุณที่เข้าใจฉันและสนับสนุนฉันน่ะค่ะ”
ใบหน้าของหลงเซียวเต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอม มือใหญ่ของเขาโอบมือของเธอ “คุณเป็นภรรยาของผม ผมต้องเข้าใจและสนับสนุนคุณอยู่แล้วล่ะครับ”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น มือถือของหลงเซียวก็ดังขึ้น
เมื่อมองไปยังชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอว่า “พ่อ” หลงเซียวขมวดคิ้วขึ้น ฉู่ลั่วหานเองก็เห็นว่าเป็นสายของหลงถิง หัวใจของเธอเย็นวาบเพราะการที่หลงถิงโทรมาต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
หลงเซียวจะตัดสายทิ้งไปแต่ฉู่ลั่วหานห้ามการกระทำของเขาไว้ “อย่าค่ะ ยังไงเขาก็คือพ่อของคุณนะคะ คุณลองคุยดูก่อนเผื่อท่านมีธุระอะไร หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัทล่ะคะ?”
ในใจหลงเซียวไม่ยินยอมนัก แต่ภรรยาของเขาสนับสนุนให้เขารับสาย เขาจึงกัดฟันรับสายนั้นแล้วนั่งลงที่ตรงหน้าต่างถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “พ่อครับ มีอะไรหรือเปล่า?”
ฉู่ลั่วหานรู้สึกตกใจกับน้ำเสียงของเขาหลังรับสาย หลงเซียวช่างเยือกเย็นกับหลงถิงคล้ายกับเป็นศัตรูกันก็ว่าได้ นี่เขาเป็นพ่อลูกภาษาอะไรกันเนี่ย?
หลงถิงนั่งอยู่ที่ห้องโถงในคฤหาสน์ น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นยิ่งกว่าหลงเซียวเสียอีก “หลงเซียว ได้ยินว่าพี่และพี่สะใภ้แกเดินทางไปเยี่ยมฉู่ลั่วหานที่โรงพยาบาล แต่แกไม่ให้พวกเขาเหยียบเข้าไปข้างใน เรื่องจริงหรือเปล่า?”
หลงเซียวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องราวนี้ เขาหัวเราะตอบกลับไปว่า “อืม? พ่อรู้เรื่องได้ยังไงกัน? แต่ก็ถูกต้องแหละครับ พวกเขาขี้ฟ้องนี่หน่า แค่คิดไม่ถึงว่าโตป่านนี้แล้วยังติดนิสัยเด็กๆแบบนี้อีก”
น้ำเสียงเสียดสีช่างเย็นยะเยือก หลงเซียวกำมือถือไว้แน่น มืออีกข้างหนึ่งยังคงนวดให้ฉู่ลั่วหานไม่หยุด คล้ายกับคุยกับพ่อถึงเรื่องราวทั่วไปโดยไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร
หลงถิงหัวเราะด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “หลงเซียว ตอนนี้ช่างปีกกล้าขาแข็งเชียวนะ ฉันเป็นพ่อแกถ้าต้องการเจอจะต้องนัดล่วงหน้ากับเลขาแกไหม?”
หลงเซียวหัวเราะเหอะๆ แต่แววตาของเขาไม่มีความตลกแม้แต่น้อย “ผมต่างหากที่จะถามพ่อว่าใครกันแน่เป็นลูกพ่อแท้ๆ?ผม?หรือหลงยี่?”
“หลงเซียว ทำไมพูดแบบนี้หะ! ปีกกล้าขาแข็งนักใช่ไหม? เหอะๆ!ฉันจะบอกแกให้นะไม่ว่าเสี่ยวจื๋อหรือว่าหลงยี่ก็เป็นคนของตระกูลหลงทั้งนั้น! ในเมื่อเป็นคนตระกูลเดียวกันก็อย่าคิดว่าจะทำอะไรตามอำเภอใจได้! อีกอย่างแกใช้โรงงานหลงยี่โดยพลการอีกทั้งไม่อธิบายพูดอะไรสักคำ แกไม่เห็นลุงอยู่ในสายตาแต่ก็ไม่เห็นฉันอยู่ในตายตาด้วยหรือไง! ตระกูลหลง เหอะๆ แกคิดว่าอยู่ในกำมือแกคนเดียวหรือไง!”
หลงเซียวเอามือถือยื่นออกห่างจากหูไปแล้วพูดว่า “ผมไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อพูดนะครับ แต่ผมจำได้ว่าพ่อเคยบอกกับผมด้วยตัวเอง ในบ้านตระกูลหลง ไม่มีคำว่าพี่น้อง มีแต่คำว่าศัตรู ถ้าอยากได้รับตำแหน่งสืบทอดmbkก็จำเป็นต้องใจเด็ด ผมจำได้ดีว่าตอนนั้นผมอายุแค่สิบขวบ พ่อบอกว่าไม่ให้เชื่อใจใครทั้งสิ้น ลืมแล้วเหรอครับ?”
หลงถิงทุบกำปั้นลงบนโซฟาอย่างแรง “หลงเซียว!แกจะขัดขืนงั้นเหรอ!”
หลงเซียวยิ้ม เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายว่า “เปล่าครับ ตรงกันข้าม ตอนนี้ผมเองก็ยังเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อในตอนนั้น คำสอนของพ่อผมจะไม่ฟังได้ยังไง?”
หลงถิงลุกขึ้นยืน เขาโกรธเสียจนเป็นฟืนเป็นไฟ โกรธเสียจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ “หลงเซียวแกระวังตัวไว้ให้ดี ฉันจะไม่ให้โอกาสแกทำตัวตามอำเภอใจอีกต่อไป!”
เมื่อพูดจบก็วางสายไปแล้วเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
หลงยี่ที่ยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นหนึ่งเขย่าแก้วไวน์แดงของเขาเบา ๆ “ท่าทีของคุณลุงที่มีต่อหลงเซียวดูเหมือนจะแย่กว่าที่เราคิดไว้”
“คุณคะ คุณลุงกับหลงเซียวเมื่อก่อนเขาผูกพันกันจะตายไม่ใช่เหรอคะ? เขาให้หลงเซียวเป็นผู้สืบทอดMBKเชียวนะ แต่ตอนนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้กัน”
หลงยี่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณลุงคิดจะทำอะไรกันแน่?เป็นการอบรมสั่งสอน หรือในใจของคุณลุงไม่ต้องการให้หลงเซียวสืบทอดแล้วจริงๆ?”
ดวงตาของหญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นประกายขึ้นทันที “ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ตอนนี้คุณลุงให้ความสำคัญกับหลงจื๋อมากกว่า แม้หลงจื๋อจะเป็นบุตรนอกสมรส แต่เขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณลุง ยิ่งกว่านั้นบุคลิกของหลงจื๋อนั้นดีมาก ไม่เหมือนกับหลงเซียวที่ดูเอาแต่ใจและดื้อรั้น เหมือนว่าหลงจื๋อจะเชื่อฟังเขามากกว่า "
หลงยี่หัวเราด้วยความเยือกเย็น “คุณลุงคิดว่าMBKเป็นของเขาคนเดียวหรือไง? หากมีผมอยู่ก็คงไม่ง่ายนัก”
——
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ซุนเจียลี่ที่ถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีหวังเค่ยเป็นพยาน อีกทั้งหลักฐานมัดตัว ผลจากการตัดสินคดีคือซุนเจียลี่จะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตตามกฎหมาย
เมื่อเห็นผลการตัดสินในศาลชั้นต้น คนทั้งโรงพยาบาลหวาเซี่ยต่างก็เดือดดาลและพูดออกมาว่า “ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วจริงๆ อย่าคิดว่าเวรกรรมตามไม่ทัน ดูซุนเจียลี่เป็นตัวอย่างไว้!”
“เหอะๆ ฉันบอกแล้วไง! ก่อนหน้านี้ที่เธอได้รับตำแหน่งรองศาสตราจารย์ก็แค่ใช้อำนาจเท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถจริงๆหรอก!”
“ใช่ๆๆ! รู้ไหมว่าตอนนั้นมีใครเข้ารับคัดเลือกบ้าง? มีคุณหมอฉู่ด้วยนะ! ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าคุณหมอฉู่ดีกว่าร้อยเท่า แต่ผลออกมาว่าซุนเจียลี่ได้รับคัดเลือกเสียอย่างนั้น คุณหมอฉู่เลยไม่มีแม้ตำแหน่งรองศาสตราจารย์”
“พระเจ้า! แย่จริงๆ!คุณหมอฉู่ที่เก่งกาจขนาดนั้นยังถูกเธอเอาเปรียบ ให้ตายเหอะ”
หลินซีเหวินตบเบาๆที่บ่าเธอ “ทำใจเถอะนะ สมัยนี้ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ”
หลังผลการตัดสินจากศาลชั้นต้น บ้านตระกูลซุนก็พากันอยู่ไม่ติด
ซุนปิงเหวินนั่งอยู่ที่เตียงผู้ป่วย ร่างกายของเขายังคงเจ็บปวดอย่างมาก เขาตะโกนออกมาว่า “หลงเซียว! ฉู่ลั่วหาน! ฉันจะฆ่าพวกแก!"
โม่ล่างคุนนั่งอยู่ข้างๆแล้วถอนหายใจยาว “ปิงเหวิน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาแก้แค้นพวกเขา หลงเซียวมีอำนาจแข็งแกร่งเกินไป พวกเรารวมกันยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ถ้าอยากจะแก้แค้นก็ต้องวางแผนระยะยาว”
ซุนปิงเหวินก้มหน้าลง “พ่อตาพูดถูกแล้วครับ แต่ตอนนี้ผมยังทำใจไม่ได้! เจียลี่เป็นน้องสาวผม ก่อนที่พ่อแม่จะเสียท่านฝากฝังไว้ว่าให้ดูแลน้องให้ดี แต่ตอนนี้……”
ซุนปิงเหวินกำผ้าห่มไว้ในมือแน่นเสียจนแขนขึ้นเป็นเส้นเอ็นปูดออกมา
โม่หรูเฟยเดินเข้ามา เธอส่งชาให้แก่โม่ล่างคุน “ฉู่ลั่วหาน ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมนัก ฉันเองเคยมีเรื่องกับเธอมาก่อน ดูจากสถานการณ์แล้วเธอไม่หยุดแค่นี้แน่นอน หากเราต้องการจะตั้งเนื้อตั้งตัวกันใหม่ ก็จำเป็นต้องกำจัดสองคนนี้ไปเสียก่อน แต่ตอนนี้……"
โม่หรูเฟยเมื่อพูดถึงฉู่ลั่วหานก็ขนลุกขึ้นมาทันที พวกเราจะประมาทไปไม่ได้ อีกทั้งจะต่อสู้กันทางธุรกิจยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่”
โม่ล่างคุนพยักหน้าเห็นด้วย “ถูกต้อง มีบริษัทระดับนานาชาติไม่กี่แห่งที่สามารถแข่งขันกับ บริษัทMBK ได้ ในปัจจุบันมีเพียงบริษัทเดียวที่สามารถแข่งขันกับ MBK ได้ก็คือบริษัทเซิ่งซื่อในเมืองA แต่ผู้คนในบริษัทเซิ่งซื่อ…..ก็ยากจะเข้าถึง”
โม่หรูเฟยหลับตาลง “ถ้าหากสามารถร่วมมือกับบริษัทเซิ่งซื่อได้ก็คงจะดี……น่าเสียดาย ฉันเคยลองหลายครั้งแล้วก็ไม่เป็นผล พวกเขาไม่ให้แม้แต่ย่างกายเข้าไปในอาคาร”
ซุนปิงเหวินกัดฟันทน “ผมจะไม่ยอมให้เจียลี่ต้องอยู่ในคุกตลอดไปแน่ๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ผมต้องพาเธอออกมาให้ได้ พ่อตาครับ โม่หรูเฟย ช่วยผมติดต่อคนพวกนี้ให้หน่อยได้ไหม”