Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 349 สามทีมกับภารกิจรวบตัว
ตอนที่ 349 สามทีมกับภารกิจรวบตัว
ทางเท้าบริเวณหน้าประตูฉินอวสวมเสื้อกันกระสุนขณะนําคนนับสิบเข้าไปด้วย
“เดี๋ยวก่อน!” สาวบริกรที่เคาน์เตอร์บาร์ถามด้วยความประหลาดใจ “พวกคุณคือ…”
“หมอบลง” ฉินอวี่ชี้ไปยังใบอนุญาตทํางานบนหน้าอกของเขาพลางโบกมือตะโกน “นี่เจ้าหน้าที่ตํารวจรัฐพื้นทมิฬ”
เมื่อสาวบริกรเห็นทุกคนถือปืนในมือ เธอจึงรีบกุมหัวและนั่งลงอยู่ในเคาน์เตอร์ทันที
“ขึ้นไปชั้นสอง!”
ฉินอวตะโกนก่อนนําทุกคนขึ้นบันไดไป
ในเวลาเพียงยี่สิบวินาทีทุกคนก็รีบวิ่งไปยังหน้าประตูห้องส่วนตัวและยกขาขึ้นเพื่อถีบประตูไม้
ภายในห้อง ชายวัยกลางคนหัวล้านกําลังคุยเรื่อยเปื่อยกับหญิงสาวคนหนึ่ง พอได้ยินเสียงประดูเขาจึงหันกลับมาทันที
“อย่าขยับนี่เจ้าหน้าที่ตํารวจ! ยกมือขึ้นเหนือหัว!”
“เอามือประสานท้ายทอยไว้ใ”
เจ้าหน้าที่ตํารวจหลายคนตะโกนและรีบวิ่งไปยังโซฟาเพื่อจับชายวัยกลางคนหัวล้านไปไว้บนเตียง
“นี่มันบ้าอะไร?! จับผมทําไม?” วัยกลางคนสับสนอย่างมาก เขานอนคว่าอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าสับสน
ฉินอวี่จับคางอีกฝ่ายแล้วยกขึ้นมา “แกชื่ออะไร?!”
“ผมทําอะไรผิด? พวกคุณทําบ้าอะไรเนี่ย?!”
“ผัวะ!”
ฉินอวกระแทกสันปืนใส่หน้าอีกฝ่ายแล้วตะโกนอีกครั้ง “ฉันถามว่าชื่ออะไร?!”
“หยางกัง!”
“แกรู้จักชื่อเหมารือในจางจีใช่ไหม?” ฉินอวก้มหน้าถามทันที
“ผม..ผมไม่รู้จัก…ใครคือซื้อเหมาจ๋อ?!”
“อ๋อ ไม่รู้จักเหรอ? งั้นเดี๋ยวฉันจะคืนความจําให้ละกัน!” ฉินอวกดคออีกฝ่ายพลางเงยหน้าตะโกน “เอาตัวหมอนี่ไปแล้วพาไปที่ห้องสอบสวนด้วย!”
“ทราบแล้ว!” เจ้าหน้าที่ตํารวจด้านข้างพยักหน้า
ย่านถนนหนานหยางภายในอาคารที่พักอาศัย
“ปัง ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น ชายผมขาวคนหนึ่งพิงราวบันไดพลางตะโกนเสียงดัง “ฉันมีตัวประกันอยู่นะเว้ย!ขึ้นเข้ามาฉันจะฆ่ามันเดี๋ยวนี้!”
“เป็นตัวประกันจริงเรอะ?!” แมวเฒ่าขมวดคิ้วถาม
“เหลวไหล! ข้างบนมีแค่เขาคนเดียว!” เจ้าหน้าที่ตํารวจด้านข้างส่ายหัว
“งั้นก็เตรียมตัวบุกเข้าไปได้แล้ว!” แมวเฒ่าเอื้อมมือไปดึงสายรัดเสื้อกันกระสุนให้แน่นสูดหายใจเข้าสองครั้ง“จู่โจมเลย!”
เมื่อเหล่าตํารวจได้ยิน พวกเขาก็ออกคําสั่งในอินเตอร์คอมทันที “ชั้นบนเตรียมตัวบุกลงมา!”
“สาม!”
“สอง!”
หลังจากนับตัวเลขสามตัวแล้ว ตํารวจจากชั้นสามและชั้นหนึ่งก็บุกเข้าชั้นสองไปยังห้องของผู้ต้องหาทันที
“ปัง! ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นหน้าบันได แมวเฒ่าถูกยิงเข้าที่หน้าอก ควันขาวก็ลอยขึ้นมา!
“โครม!”
ข้างบนตํารวจสวมเสื้อเกราะกันกระสุนหนักกระโจนลงมาทับร่างผู้ต้องหาทันที
แมวเฒ่าเอื้อมมือไปคว้าแขนของอีกฝ่ายที่ถือปืนเอาไว้ ก่อนจ้องตาเขม็งแล้วดึงลงไปด้านล่าง
ทั้งสามคนล้มลงกับพื้นในเวลาเดียวกัน
“ไอ้เวรเอ๊ย ฉันจะฆ่าแกซะ!” โจรคํารามอย่างเกรี้ยวกราดขณะก้มหน้าเตรียมจะดึงปืนลูกซองออกมา
“ฆ่าฉันเหรอ?!”
แมวเฒ่าตาแดงก่ํา เขาก้าวเท้ากระโดดขึ้นไปบนหลังของอีกฝ่ายก่อนใช้สองมือจับผมแล้วดึงลงบันไดทันที“ไอ้หนูคิดจะยิงฉันยังเร็วไปร้อยปี!”
“ปัง!”
เจ้าหน้าที่ตํารวจวิ่งเข้ามาและยิงไปยังปืนลูกซองในมือของอีกฝ่ายออกไปสองนัด
“อาก!”
ผู้ต้องหาแผดเสียงร้องอย่างน่าสังเวชและปืนในมือก็กระเด็นหลุดไป
“แกชื่ออะไร?!”
“บอกมาสิวะ แกชื่ออะไร!?”
เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้งหมดก้าวไปข้างหน้าและถามอีกฝ่ายอย่างเกรี้ยวกราด “เงียบทําส้นตีนอะไร?!”
“หืม…ปากแข็งมากสินะ!” แมวแก่ดึงหัวอีกฝ่ายแล้วโขกไปที่ขอบบันไดหลายที่จนอีกฝ่ายสลบไป
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากจุเหว่ยลงจากรถพร้อมกับทีมสาม เขาก็ตะโกนใส่อินเตอร์คอมทันที “ทุกคนระวังตัวและรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด!”
สิบวินาทีต่อมาคนเจ็ดถึงแปดคนก็พังประตูเข้าไปในร้านขายบริการ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงปืนก็ดังขึ้น
วันนี้เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วหนานหยาง พวกลูกน้องของหนิวเจนและเปียเตอหยงต่างถูกจับอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา
ภายห้องทํางานของบริษัทหยวนเจียซินเขตเจียงหนาน เสียงโทรศัพท์เปียเตอหยงก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล?!”
“เฒ่าเปย…แย่แล้ว! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! “หวังหงตะโกนอย่างร้อนรน”ลุกน้องหลายคนของเราหยางกังน้องชายหนิวเจิ้นน้องเจ็ดและอาหมิงได้ถูกพวกตํารวจรวบตัวกันหมดเลย!”
“ว่าไงนะ?!” เปียเตอหยงลุกขึ้นยืนทันที“เมื่อไหร่กัน?!”
“เพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ เลย!”
เมื่อเปียเตอหยงได้ยิน ใบหน้าก็ซีดเผือดและยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆ
“เฒ่าเปุ๋ย! พอฉันอวกลับมามันก็จัดคนไปจับกุมพวกนั้นทันที หรือว่าเรื่องในชางจี…” หวังหงถามด้วยสีหน้าที่วิตกอย่างยิ่ง
เปียเตอหยงนิ่งไปพักใหญ่ ขาทั้งสองข้างของเขาอ่อนยวบและนั่งลงบนโซฟาอีกครั้งพลางก้มหน้าตอบ “ฉินอวนําบางอย่างกลับมาจากชางจีด้วย!”
“แล้วเราควรทําไงต่อดี?!” หวังหงถามด้วยเสียงที่ดังอยู่หลายรอบ “ตอนนี้พวกเขายังทําอะไรเราไม่ได้ใช่ไหม?
เป่ยเตอหยงพยายามข่มกลั้นความตื่นตระหนกก่อนออกคําสั่งอย่างรวดเร็ว “แจ้งคนรอบข้างให้หลบซ่อนไปก่อนหาที่กบดานซะ!อย่าเพิ่งโผล่หัวออกมาตอนนี้!”
“แล้วนายล่ะ?” หวังหงถาม
“นายไม่ต้องรอหรอกฉันปลอดภัยแล้ว ไปเองเถอะ! ไว้ฉันจะติดต่อไปอีก!”
เมื่อหวังหงได้ยินดังนั้นเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่อาจโต้แย้งได้จึงทําได้เพียงเตือนเขาด้วยเสียงสั่นเทา“เฒ่าเป่ยถ้านายจะหนีนายต้องพาฉันไปด้วยนะ!”
“อย่าห่วงเลย! รีบไปทําที่บอกก่อน!”
“ได้ เข้าใจแล้ว”
หลังจากทั้งสองพูดจบ ทั้งสองก็วางสายไปทันที
“มีอะไรเหรอ?!” หยวนเค่อถามออกไปทันทีเมื่อเห็นว่าเขาวางสาย
กชางจีแน่! หลังพวกนั้นถูกจับเม้นก็คงมีหลักฐานเอาผิดฉันแน่”
หยวนเค่อตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาที่มองไปยังเป่ยเตอหยงพลันเปลี่ยนไป
“เสียวเค่อ!! ฉันจะออกไปทําธุระบางอย่างก่อน นายช่วยหาแหล่งกบดานให้ฉันหน่อย!เป๊ยเตอหยงตาแดงก่ํา “ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ”
หยวนเค่อมองอีกฝ่ายขณะลังเลเล็กน้อย “ได้…ฉันจะจัดการให้เอง”
ภายในสํานักงานตํารวจ
ฉินอวี่ยืนอยู่ในพื้นที่ทํางานของกองหนึ่งพลางสั่งการอย่างรัดกุม ส่งรายงานไปยังทหารประจําการและกรมตํารวจอื่นๆ หากพบตัวเป่ยเตอหยงให้จับเขาให้ได้!”
“กรมตํารวจยังพอเป็นไปได้ แต่กองทัพกับทหารประจําด่านจะให้ความร่วมมือรึเปล่า?” แมวเฒ่าถาม
“เอาเถอะ มองข้ามอคติไปก่อน” ฉินอวี่เกาจมูกขณะพูดต่อ “ถ้าเราต้องจัดการเรื่องนี้เอง! ล่าพังทีมสามทีมของเราคงไม่ทันการ! และเดาได้เลยว่าเป่ยเตอหยงคงเริ่มคิดหนี้แล้ว!”
“เข้าใจแล้ว!” แมวเฒ่าพยักหน้า
บนถนนในเขตเจียงหนาน
เปียเตอหยงกดหมายเลขโทรออก ก่อนออกคําสั่งอย่างรีบร้อน “ออกมาพบฉันเดี๋ยวนี้!เดี๋ยวนี้เลย!”