Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 348 ความร่วมมือของชื่อเหมาคือ
ตอนที่ 348 ความร่วมมือของชื่อเหมาคือ
ห้านาทีต่อมา
เป่ยเตอหยงรีบออกจากบริษัทและเรียกหวังหงให้รีบไปส่งเขาที่เขตเจียงหนานเพื่อเตรียมพบกับหยวนเค่อ
ทีมหนึ่งอยู่ในห้องสอบสวน
ฉินอวี่เอนหลังพิงกับโต๊ะขณะกอดอกถาม “ใช่ สิ่งที่ฉันต้องการก็คือตัวเปียเตอหยง”
“นายจะจับเฒ่าเปย ธุรกิจเขาอยู่ในฮ่งเจียงทําไมถึงมาจับฉันล่ะ?” ซื้อเหมาจ่อรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมและยังสงสารชายชราทรงอํานาจสองคนที่ตายอย่างน่าอนาถด้วย
“เป๊ยเตอหยงไม่ได้ทําธุรกิจค้ามนุษย์ในฮ่งเจียงแล้ว นายไม่รู้เหรอ?” ฉันอวถาม
ชื่อเหมาจ๋อได้ยินดังนั้นก็นึกขึ้นได้ “เออนั่นสิ ฉันลืมไปว่าไม่ได้ติดต่อเขามาตั้งนานแล้วนี่นาใช่ตอนนี้เขาไม่ได้ค้ามนุษย์…ได้ยินว่าเขาเปลี่ยนไปขายยาแทน”
“เอาเถอะอย่าเพิ่งนอกเรื่อง มาเข้าประเด็นกันดีกว่า” ฉินอวี่เร่งเร้า
ชื่อเหมาซื้อกะพริบตาปริบๆ ก่อนพูดหลังจากครุ่นคิดสักพัก “ธุรกิจของเราก็ง่ายๆเขาติดต่อฉันผ่านเพื่อน…ทีแรกก็คิดว่าเขามันไก่อ่อน แต่พอได้ร่วมธุรกิจก็พบว่าพวกเขาเป็นมืออาชีพมากส่งสินค้าก็รวดเร็วมาก ฉะนั้นฉันเลยติดต่อเขาเป็นประจํา
“นายมีบันทึกตอนทําข้อตกลงกับเขารึเปล่า?” ฉินอวถามต่ออย่างรวดเร็ว
“แน่นอน” ซื้อเหมาจ่อยิ้มพลางตอบกลับไป “สถานเลี้ยงเด็กไม่ใช่ว่าจะมีแค่ในเฟิงหลินที่เดียวฉะนั้นค่าใช้จ่ายในการซื้อขายก็ต้องมีบัญชีอยู่แล้ว”
เมื่อฉันอวได้ยินเขาก็มั่นใจขึ้นมาก “ฉันต้องการหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป่ยเตอหยงมีความผิดจริง”
“ได้สิ” ซื้อเหมาคือพยักหน้าอย่างสบายใจเพราะหลี่หยวนจือได้รับรองความปลอดภัยกับเขาแล้วและคดีเป๊ยเตอหยงเขาก็ต้องให้ความร่วมมือ “ฉันสามารถเอาผิดเฒ่าเปยได้หรือจะเอาบันทึกการชําระหนี้ของพวกเขาให้ก็ได้ จากหลักฐานคนที่ชื่อหนิวเจนกับลูกน้องเขา”
“ไม่ต้องหรอก คนที่ชื่อหนิวเจนถูกจับไปแล้ว” ฉินอวี่ส่ายหัว “นายบอกให้คนอื่นเอาผิดเบี้ยเตอหยงโดยตรงดีกว่า”
ซื้อเหมาจ๋อคิดทบทวนอย่างละเอียดก่อนจะนึกขึ้นได้ “การเงินของบริษัทขนส่งเฉิงไงพวกเด็กเจ้าหนิวเงินก็น่าจะพอแล้วสําหรับเอาผิดเฒ่าเบี้ย”
ฉินอวถอนหายใจยาวก่อนรีบหันกลับไปตะโกน “งูเหว่ย ช่วยเอารูปสมาชิกหลักของบริษัทขนส่งเฉิงออกมาให้เขาระบุตัวหน่อย”
“ได้ๆ” จู่เหว่ยพยักหน้า
หลังจากได้รับโทรศัพท์จากหลี่หยวนจือ ซื้อเหมาจ๋อก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด“นี่…เอาบุหรี่มาให้ฉันหน่อยสิ”
ฉินอวี่เหลือบมองเขาและไม่พูดอะไร
“เอาบุหรี่มาให้ฉันเร็ว!” ชื่อเหมาจ่อขมวดคิ้วพลางพูดเร่งเร้า
ฉินอวี่เดินไปหยิบกระบองยาวประมาณหนึ่งเมตรออกมาจากกําแพงแล้วถามด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “จะสูบนแทนมั้ยล่ะ?”
ชื่อเหมาจ่อได้ยินดังนั้นก็ตะลึงงัน “จะบ้าเรอะ?”
“วางตัวให้มันดีๆ หน่อย นี่ซ่งเจียงนะ!” ฉินอวพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึมขณะใช้ปลายกระบองจิ้มแก้มของอีกฝ่าย
ซื้อเหมาจ๋อจ้องมองสีหน้าของฉันอวอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป“ก็ได้ บ้าเอ๊ย!”
สิบนาทีต่อมา
ชื่อเหมาจ่อเริ่มก้มหน้าดรูปชี้นิ้วไปที่สมาชิกหลักทีละคน เพราะหลายคนในนี้เคยไปชางจีและได้ติดต่อธุรกิจกันประจํา
เขตเจียงหนาน ภายในบริษัทของหยวนเค่อ
เป่ยเตอหยงถามด้วยสีหน้าร้อนรน “อะไรกัน ไอ้ฉินอวมันออกมาได้ยังไง?!”
“ฉันยังไม่ได้ถามรายละเอียดเรื่องนี้เลย” หยวนเค่อส่ายหัว “ที่แน่ๆ คือเจ้านั่นมันออกมาได้ยังไง?”
เป่ยเตอหยงได้ยินคําพูดหยวนเค่อเขาก็มีสีหน้าหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้สิ่งที่เราควรกังวลคือทางชางงี้กับพวกฉันอวีมีข้อตกลงอะไรกันรึเปล่า” หยวนเค่อเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าฉันอวี่ไม่ได้กลับมาด้วยตัวเองแต่ยังแอบจัดการบางอย่างอยู่พี่ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว”
“เป็นไปได้เหรอ?!”เปียเตอหยงพูดอย่างไม่แน่ใจ “ทั้งที่ฉินอวก่อความวุ่นวายในชางจีแท้ๆแต่กลับเขาออกมาได้ง่ายๆเลยไม่รู้ว่าเฒ่าหลี่และคนอื่นจะใช้ความพยายามไปมากแค่ไหนแถมฝ่ายทหารยังร่วมมือกับพวกเขาอีก…หรือมันจะเจอหลักฐานอะไร?”
“เรื่องนี้มันแปลกฉินอวี่ถูกจับไปไม่ถึงสองวันพวกเขาก็กลับมาฮ่งเจียงแล้ว” หยวนเค่อขมวด คิ้วพูด “ถ้าไม่มีความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งช่วยเขา พี่คิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ?”
เปียเตอหยงได้ยินดังนั้นก็เงียบ ขณะที่ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“เรื่องยากขนาดนี้มันก็ผ่านมันมาได้ ฉะนั้นตอนนี้เราคงเอาอะไรกลับมาไม่ได้หรอก” หยวนเค่อวิเคราะห์ “ฉันว่าตอนนี้พี่ควรระวังตัวไว้”
เปียเตอหยงลูบหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด“ถ้านายไม่รู้ว่าเขาได้หลักฐานอะไรมานายไม่มีทางป้องกันได้หรอกเสี่ยวเค่อ…นายช่วยหาวิธีสืบข้อมูลในกรมตํารวจมาหน่อยสิว่าฉันอวีมีจุดประสงค์อะไรในชางจีหรือเปล่าเราจะได้โต้กลับเขาได้
“ฉันกําลังถามอยู่ พี่เองก็ต้องคิดหาวิธีด้วยสิอย่าเพิ่งแต่ฉัน” หยวนเค่อตอบด้วยเสียงแผ่วเบา“ฉันบอกพี่แล้วว่าตั้งแต่ฉันออกจากกรมตํารวจความสัมพันธ์ของฉันที่สํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬก็แย่กว่าเมื่อก่อนมาก”
เป่ยเตอหยงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา “ฉันจะโทรไปที่ชาง”
“จะโทรไปถามตรงๆ เลยเหรอ?”
เป่ยเตอหยงส่ายหัวพลางรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนโทรหาพวกของชื่อเหมาจ่อคนหนึ่ง
หลายสิบวินาทีต่อมาเสียงก็ดังขึ้นในโทรศัพท์ “ฮัลโหล นั่นใครน่ะ?”
“สวัสดีเสี่ยวฉวี ฉันเฒ่าเบี้ยเอง เป็นไงบ้างล่ะ?” เปียเตอหยงพูดด้วยรอยยิ้ม
ภายในลานจอดรถของสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ
ฉินอวี่ยืนขมวดคิ้วอยู่ข้างรถพลางกล่าวอย่างเร่งรีบ “ทุกคนรีบหน่อยเร็ว”
“จะไปตอนนี้เลยเหรอหัวหน้า?” จู่เหว่ยถาม
“ใช่” ฉนผู้พยักหน้า “เรื่องที่ฉันกลับมาไม่ได้เป็นความลับ ฉันกลัวว่าเป๊ยเตอหยงจะไหวตัวทันแล้วทําลายหลักฐาน…ดังนั้นเราต้องรีบแล้ว”
“แต่ตอนนี้หลักฐานในมือเราก็มากพออยู่แล้วนี่” จู่เหว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “ลําพังแค่สิ่งที่จ่าวเปาทิ้งไว้ให้พวกเราก็สามารถเอาผิดเขาได้สบายๆ”
“หยวนเค่อกับเป่ยเตอหยงฉลาดทั้งคู่แถมยังมีตระกูลไป๋อยู่เบื้องหลังพวกเขาด้วย” ฉินอวีพูดเสียงเบา“ฉันไม่แน่ใจว่าเราอาจรวบตัวเขาได้ ฉะนั้นต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็ว”
ขณะทั้งสองกําลังพูดคุยกัน ที่มหนึ่งและทีมสามจํานวนมากก็มารวมตัวกันด้านข้างรถ
ฉินอวี่เงยหน้าขึ้นตะโกน “ส่งรูปให้ทุกคนและเริ่มออกเดินทางได้”
“รับทราบ!”
“รับทราบ!”
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา
หน้าทางเข้าสถานที่แห่งหนึ่งรถออฟโรดสองคันก็แล่นมาจอดอย่างเงียบเชียบฉินอวก้มหน้าและเตรียมปืนพกออกมา “ลงรถ”
ในเวลาเดียวกัน ซื่อเหมาจ่อก็ติดต่อพี่ชายของเขาในห้องสอบสวนเพื่อให้พวกเขาส่งอีเมลนิรนามไปยังสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ
ภายในห้องทํางาน
เป๊ยเตอหยงส่ายหน้าและมองหยวนเค่อ “อีกฝ่ายบอกว่าเกิดเรื่องกับซื้อเหมาจ่อแต่คนที่ทําธรกิจกับเรามาก่อนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“เป็นเพราะพวกเราคิดมากไปเหรอ?”หยวนเค่อถามด้วยสีหน้าสงสัย