Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 350 จะถอนตัวหรือจะสู้ต่อดี?
ตอนที่ 350 จะถอนตัวหรือจะสู้ต่อดี?
ในบริษัทของหยวนเค่อเขตเจียงหนาน
เสี่ยวจิ๋วยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ก้มหน้าสูบบุหรี่ “กรมข่าวกรองทหารไม่ได้ขัดขวางแผนของฉินอวี่แล้วสินะ งานนี้เฒ่าเปุ๋ยคงจะคิดหนักน่าด”
หยวนเค่อได้ยินดังนั้นก็ไม่ตอบอะไร
“เฒ่าเงียบอกอะไรบ้างล่ะ?” เสี่ยวจิ๋วถามอย่างแข็งขัน
“ฉันคิดว่าเขายังมีวิธีจัดการกับฉินอวี่” หยวนเค่อเงยหน้าขึ้นพลางพูดต่อ “แต่ก็ไม่ได้บอกฉันว่า เขาจะทําอะไรกันแน่”
“เขาอาจพูดไปอย่างนั้นก็ได้” เสี่ยวจิ๋วพูดอย่างไม่แน่ใจ “ถ้าพูดถึงอานาจในย่านรัฐพื้นทมิฬ เฒ่าเปยอาจยังคงมีสิทธิ์พูด แค่จะเปรียบเทียบกับเบื้องหลังของฉันอวได้ยังไง? เห็นได้ชัดว่าเขาทําเอากรมทหารปั่นป่วนเลยทีเดียวแถมกําลังรวบรวมหลักฐานต่ออีก คงถึงเวลาเตรียมตั้งรับอีกครั้ง ขนาดเฒ่าหวี่ที่ว่ายากแล้วสุดท้าย เขาก็ยังล้มลงง่ายๆ แบบนั้น!”
หยวนเค่อจิบชา ขณะขมวดคิวครุ่นคิดอย่างหนัก
“เสี่ยวเค่อ ฉันคิดว่าปืนของเขาตอนนี้คงไม่มีกระสุนแล้วล่ะ ควรถึงเวลาสลัดออกไปให้พ้นได้แล้ว” เสี่ยวจิ๋วพูดอย่างตรงไปตรงมา
หยวนเค่อถอนหายใจ “ฉันก็คิดเรื่องนี้ไว้แล้วเหมือนกัน”
“แล้วยังต้องพิจารณาอะไรอีก?!” เสียวจิ๋วขมวดคิ้วพูดพลางอย่างเขาก็มั่นคงในความคิดของตน “ถ้าไม่ทิ้งเนื้อร้ายไปตอนนี้ นายจะต้องช่วยเขาและทําอะไรที่เสี่ยงกับบริษัทอีกแน่!”
“ไม่…ยังก่อน พี่ยังคิดไม่ถี่ถ้วน” หยวนเค่อส่ายหัว “ฉินอวี่เล่นแรงไปจริงๆ ในรัฐพื้นทมิฬเขาเป็นผู้กํากับนะ หม่าเหลาเอ๋อก็มีอิทธิพลไม่น้อยไปกว่าเรา แล้วถ้าเฒ่าเป่ยดันจบเห่ซะตอนนี้ แผนของเราในเขตเจียงหนานและ เขตเถ้าธุลีจะยากมากกว่าเดิม เพราะเฒ่าหลี่เดิมทีเขาก็เป็นศัตรูกับอยู่แล้ว”
เสี่ยวจิ๋วรู้สึกเศร้าเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“อย่าเพิ่งตื่นตูมไป ให้ฉันคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องเฒ่าเป๊ยก่อน” หยวนเค่อลุกขึ้นพลางพูดเสียงแผ่วเบา “ฉันจะไปธุระข้างนอก
เสี่ยวจิ๋วมองหยวนเค่อ ขณะถามหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “จริงๆ แล้วฉันมีเรื่องที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ”
“เรื่องอะไรล่ะ?” หยวนเค่อหยิบเสื้อคลุมขึ้นพาดแขน
“สถานการณ์ของเฒ่าเปยรัฐพื้นทมิฬมันแย่จริงๆ อย่างแรกคือหนิวเจนถูกจับ หยางหนานก็ตายอีก และจนถึงตอนนี้ฉวีหยางกับฉินอวี่…” เสียวจิ๋วมองหยวนเค่อด้วยความไม่เข้าใจ “นายบอกว่าเฒ่าเปยอยู่ในสถานการณ์นี้ แล้วทําไมฉินอวี่ถึงต้องหาหลักฐานมาจับเขาอย่างเป็นทางการล่ะ? ให้หม่าเหลาเอ่อฆ่าเฒ่าเปยอย่างลับๆ แค่นี้ไม่ง่ายกว่าเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า!” หยวนเค่อหัวเราะ “นั่นมันต่างกัน!”
“ต่างกันยังไง?” เสี่ยวจิ๋วแย้ง “ถ้าเฒ่าเบี้ยตายขึ้นมา คนที่เหลือก็คงเชื่อฟังฉวีหยางกันหมด และเขาก็จะเป็นหุ้นส่วนกับฉินอวี่แน่นอน พวกเขาทําแบบนี้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลย แถมยังไม่ต้องไปก่อเรื่องแบบนั้นในชางงี้อีกด้วย”
“พี่พูดอย่างกับเหมือนว่าฉันอวกับคนธรรมดา ซึ่งคิดผิดแล้ว” หยวนเค่อถามต่อถามอย่างรวดเร็ว “ถ้าอยู่ๆ เฒ่าเบี้ยตาย นั่นจะเป็นคดีอาญา…แต่ถ้าโดนข้อหาหนักจนถูกประหารชีวิตมันจะเป็นยังไงล่ะ?”
เสี่ยวจิ๋วตกตะลึง
“นั่นแหละคือความสําเร็จทางการเมือง! พี่เข้าใจความสําเร็จทางการเมืองรึเปล่าล่ะ?” หยวนเค่อสวมเสื้อคลุมในขณะวิเคราะห์คําพูดของเขาอย่างต่อเนื่อง “เรื่องที่เฒ่าหรูตายฉันอวกลายเป็น ผู้กํากับการและแมวเฒ่าก็ได้ผลประโยชน์ด้วย…แล้วสมมุติว่าเฒ่าเปยและเหล่าลูกน้องทั้งหลายถูกจัดการอีก…ความสําเร็จในหน้าที่การงานของพวกนั้นจะเป็นไงต่อ?”
“ฉันเข้าใจที่นายพูดแล้ว” เสี่ยวจิ๋วพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง” หยวนเค่อหันกลับมาพูดกับเสี่ยวจิ๋วด้วยรอยยิ้ม “เรื่องฉวีหยาง บางทีเราอาจไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเรื่องจะเป็นไงต่อ อย่าเพิ่งดูถูกเฒ่าเปย คนผู้นี้หัวของเขาไม่เคยว่างเปล่า ถ้าเขาไม่มีโอกาสตอนนี้จริง ๆ จะให้ฉันจัดการถอนตัวหรือจะสู้ต่อดีล่ะ?”
“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง” เสี่ยวจิ๋วเข้าใจความคิดอีกฝ่ายแล้ว
“ปล่อยเขาไปก่อน” หยวนเคอพูดตรงหน้าประตู “ฉันจะไปธุระสําคัญ พี่ก็หาอะไรทําอยู่ที่บริษัทไปก่อนละกัน”
“ได้” เสี่ยวจิ๋วพยักหน้า
ภายในสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ
ทีมทั้งสามต่างก็ยุ่งกับการสอบสวน เพื่อเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อสร้างรูปคดีอย่างละเอียดและถี่ถ้วน