Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 365 รัฐพื้นทมิฬที่ไม่มีตระกูลหยวน
ตอนที่ 365 รัฐพื้นทมิฬที่ไม่มีตระกูลหยวน
เปียเตอหยงยืนอยู่ข้างถนน ขณะมองไซเรนตํารวจที่กะพริบอยู่ทางซ้ายและขวาของถนนอย่างสิ้นหวัง
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้งซ้ายและขวาหลบอยู่หลังโล่ป้องกันกระสุน ขณะก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
เป้ยเตอหยงหลบหลังกําแพงอย่างใกล้ชิด เขาหันหน้าไปมองรอบด้านและก็พบประตูทางซ้ายมือ แม้จะล็อกไว้แต่ก็มีกระจกอยู่ตรงกลางประตู
“ปัง!”
เป่ยเตอหยงยิงใส่ตรงกลางกระจกสองนัด ก่อนยกขาขวาขึ้นถีบ
“ปัง เพลง!”
เศษแก้วขนาดใหญ่แตกออก เปียเตอหยงไม่สนใจว่ากรวดแก้วที่กระจายอยู่จะโดนร่างกายตัวเองและปักลึกแค่ไหน เขาก้มตัวมุดเข้าไปตามช่องเล็กๆ
ร้านนี้เป็นร้านธรรมดาที่ขายเสื้อผ้าฤดูหนาวราคาถูก ภายในนั้นมีชั้นวางของและหุ่นโชว์วางเรียงรายอยู่มากมาย กระเบื้องปูพื้นก็ถูกขัดสะท้อนเงาอย่างเงางาม
เมื่อเป่ยเตอหยงเดินเข้ามาก็ทิ้งรอยเท้าเปื้อนเลือดบนพื้น เขาเดินโซซัดโซเซไปข้างหน้าสองสามก้าวเพื่อยื่นมือไปคว้ากระดาษทิชชูคุณภาพต่ําที่อยู่บนเคาน์เตอร์มาอุดแผลไว้ และเดินขึ้นชั้นสองไปอย่างเชื่องช้า
ฉินอวนติงถั่วเซินและคนอื่นไล่ตามไปข้างร้าน เขาหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาถาม “เขาเข้าไปแล้ว ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” ตํารวจเข้ามาล้อมรอบพื้นที่จากระยะไกลก่อนตะโกนตอบ
“เตรียมปะทะด้านในได้เลย เขาหมดหนทางแล้ว” ฉินอวี่โบกมือพลางตะโกนออกคําสั่ง “ทุกคนเข้าประชิดและเอาโล่มาเพิ่มด้วย!”
บนบันไดชั้นสอง เป่ยเตอหยงก้มตัวลงนั่งลงพิงศีรษะไว้กับกําแพงพลางหอบหายใจอย่างหนัก
หลังจากนั่งพักได้ประมาณครึ่งนาที เปุ๋ยเตอหยงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก
“บัดซบ เข้ามากันแล้วเหรอ?!” เปุ๋ยเตอหยงก้มหน้าหยิบปืนขึ้นมาเปลี่ยนซองกระสุน
“หลบในนั้นไปมีแต่จะยืดเยื้อเปล่าๆ จะหนีไปไหนได้?” ฉันอรี่ตะโกน
“ฉันหนีไม่พ้นงั้นเหรอ?” เบี้ยเตอหยงดึงมือสองข้างออกมาจากกระเป๋าเสื้อตอบ “ในเมื่อฉันจะตายที่นี่แล้ว ยังไงก็ต้องมีคนตายไปกันฉัน…อย่างน้อยก็สองคนล่ะวะ
คนอย่างแกไม่ตายดีหรอก! ติงถั่วเซินขบกรามแน่นขณะด่าทอ
“หึหึ เข้ามาเลยสิ แล้วฉันจะฆ่าแกเอง!” เป่ยเตอหยงหัวเราะเบาๆ ขณะจับระเบิดมือเตรียมที่จะดึงสลัก
ด้านนอกฉินอวีปาดเหงื่อบนหน้าผากพลางพูดกับคนด้านข้าง “เอาชุดกันระเบิดมาให้หน่อย ฉันจะเข้าไปเอง”
“เขากําลังจะตายต้องทําเรื่องโง่ๆ แน่” ติงกั่วเซ็นเตือน “เข้าไปด้วยกันเถอะครับ ชุดป้องกันการระเบิดไม่ได้รับประกันร้อยเปอร์เซ็นต์นะ!”
“เข้าไปเยอะๆ ก็เปล่าประโยชน์” ฉินอวี่ตะลึงงัน ก่อนเงยหน้าตะโกนใส่เงียเตอหยง “สงสัยวันนี้ฉันคงต้องกลับไปทํางานเก่าแล้ว…ฉันจะเข้าไปเล่นกับนายเอง”
“หัวหน้า!”
“ไม่เป็นไร รีบเอาชุดป้องกันระเบิดมาให้ฉันเร็วเข้า!” ฉินอวี่ถอดเสื้อออก เผยให้เห็นร่างกาย และกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
ชั้นบน
เป้ยเตอหยงหันไปมองรอบด้าน เขาอยากจะหาจุดซุ่มยิงแต่ก็ยังหาไม่เจอ เพราะถ้าเขาเจอแก๊สน้ําตาก็คงไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
“มานี่”
ตอนนั้นเอง เสียงแผ่วเบาก็ดังขึ้นภายในห้องหนึ่งบนชั้นสอง
เป้ยเตอหยงได้ยินดังนั้นก็หันหน้าไปยิ้มเยาะ “บ้าจริง! ยังมีคนที่อยากตายไปพร้อมกับฉันอีกเหรอเนี่ย?”
บนถนน
พี่ไล่เหยียบคันเร่งอย่างแรงขณะตะโกนบอกหยวนเค่อ “เสี่ยวเค่อ ต้องขับไปทางไหนอีกเนี่ย!”
“เลี้ยวขวา เดินหน้าต่อไปอีกสามร้อยเมตรแล้วก็เลี้ยวขวา!” หยวนเค่อหันกลับไปยังพร้อมกับตะโกน
“แล้วขวาแรกมันอีกไกลแค่ไหน?!” หน้าผากคนขับรถมีเหงื่อออก “พวกเวรนั่นมีรถตั้งสองคัน”
“เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้เลย!” หยวนเค่อคุกเข่าลงที่เบาะหลัง ก่อนจะลุกขึ้นเล็งปืนไปยังกระจกรถด้านหลังเพื่อยิงรถของหม่าเหลาเอ่อทันที
รถอีกฝ่ายจึงทําได้เพียงขับหลบไปมาเป็นเพื่อหลบกระสุน และด้วยความเร็วขนาดนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพลิกคว่าบนถนนแบบง่ายๆ
ดวงตาหม่าเหลาเอ่อแดง…เขาตะโกนเสียงดัง “ขับไปที่ข้างถนน! อย่าให้มันรอดไปได้นะโว้ย!”
“แม่งเอ๊ย!”
คนขับรีบเร่งไปทางขวาทันที อาศัยความสูงของทางเท้าหลบกระสุนและเร่งความเร็วตามให้ทัน
“จะไล่ไปถึงไหนเนี่ย?” อาไล่หมุนพวงมาลัยโค้งขวาสองโค้งติดต่อกัน ก่อนจะถลึงตาตะโกน
“ระวังด้วย!” หยวนเค่อเตือน
อาไล่หันหน้าไปมองรอบด้านเมื่อได้ยิน จากนั้นเขาก็ต้องตะลึงงันไปชั่วขณะ
ด้านหน้ามีลานขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ อาคารหลักดยิ่งใหญ่และยังมีธงร่วมรัฐบาลของเขตเก้ากับธงระบบตํารวจ
อาไม่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมาถามทันที “นายหมายความว่ายังไง?!”
“หม่าเหลาเอ่อที่อยากจะแก้แค้นมานานแล้ว! เมื่อมันมีโอกาสก็คงไปปล่อยไปเราง่ายๆหรอก หยวนเค่อตาแดงก่ำ”คืนนี้เป็นความผิดพลาดของฉันจริงๆ ฉันยอมรับ! ”
“ฉันก็บอกให้เจ้าลงจากรถ!” อาไล่ถลึงตาใส่พลางตะคอก “ทําไมถึงไม่ฟังล่ะ?!”
หยวนเค่อได้สติกลับมาจึงหันไปมองอาไล่ หลังจากเงียบไปพักใหญ่เขาก็พูด “ฉันทําผิดไปมากแล้ว..ฉันจะไม่ทําอีกในอนาคต ฉันไม่อยากให้พวกพ้องของพี่ฉันหายไปอีก”
อาไล่นิ่งไป
“พุ่งเข้าไปเลย!” หยวนเค่อถือปืนขณะตะโกน
ริมฝีปากอาไลไม่ขยับเขยื้อนเขาพูดอะไรไม่ออก
“ไปเลย” หยวนเค่อตะโกนสุดเสียง “ตายเป็นตาย!”
อาไล่หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายทันทีก่อนเหยียบคันเร่งจนสุด
ไม่กี่วินาทีต่อมา
หน้าประตูของสถานีตํารวจเจียงหนาน เจ้าหน้าที่ตํารวจสามนายชี้ไปยังรถที่พุ่งเข้ามาและตะโกนอย่างตื่นตระหนก “หยุด หยุดนะเว้ย!”
“โครม!”
รั้วไม้ถูกชนจนแหลกละเอียด รถพุ่งเข้าไปในลานกว้างอย่างไม่มีอะไรขวางกั้นได้ ก่อนที่รถจะสูญเสียการทรงตัว แล้วพุ่งชนเข้ากับเสาหินทันที
“พลั่ก!”
หยวนเค่อผลักประตูลงจากรถพลางเหนี่ยวไกปืนขึ้นฟ้า
“ปัง!”
หลังเสียงปืนดังขึ้นหยวนเค่อตะโกนเสียงดัง “ฉันเป็นอาชญากร…ฉันมามอบตัว! มามอบตัวแล้ว!”
“เอ๊ยด!”
นอกรั่ว รถออฟโรดสองคันแล่นมาจอด หม่าเหลาเอ่อมองหยวนเค่ออย่างเกรี้ยวกราด
หยวนเค่อหันหลังกลับอย่างทุลักทุเลก่อนจะชูมือขึ้นสูงพลางยิ้มด้วยใบหน้าซีดเผือด “เจ้าหม่าเหลาเอ๋อ จะเข้ามาฆ่าฉันหรือ? มาส์แล้วฉันจะไม่ตอบโต้อะไร!”
หม่าเหลาเอ๋อหันหน้าไปมองรอบด้าน เมื่อเห็นตํารวจสามคนอยู่หน้าประตู เขาก็รีบผลักประตูลงจากรถทันที
“หมับ!”
คนในรถรีบดึงแขนของหม่าเหลาเอ่อทันที “จะบ้าเรอะ?! เจ้านั้นมันจนตรอกแล้วถึงได้ทําแบบนี้!”
หม่าเหลาเอ่อมองหยวนเค่อด้วยสายตาหม่นหมอง หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่ก็ตะโกนขึ้น “ได้ ฉันจะรอแกออกมา!”
“อย่าขยับ!”
“อยู่นิ่งๆ คุกเข่าลงและเอามือกุมหัวไว้!”
เจ้าหน้าที่ตํารวจสองคนถือปืนจ่อ พลางคว้าตัวหยวนเค่อไว้และสั่งให้เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างเป็นระเบียบ
“หยุดนะ!” เจ้าหน้าที่ตํารวจอีกคนเดินตรงไปยังประตูด้วยความหวาดหวั่น
หม่าเหลาเอ๋อหันหน้าไปมองหยวนเค่อ ในใจพลันสงบลงไปบ้างก่อนที่เขาจะยกปืนขึ้นฟ้าแล้วเหนี่ยวไก
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น
หม่าเหลาเอ๋อตะโกนเสียงดัง “นับจากวันนี้เป็นต้นไป รัฐพื้นทมิฬจะไม่มีตระกูลหยวนอีกต่อไป!
“บรื่น!”
รถสองคันแล่นออกไป
ที่ลานกว้าง หยวนเค่อคุกเข่าลงกับพื้นด้วยดวงตาหมองหม่น เขาคิดในใจ “ฉันทําได้แค่คุกเข่าเหรอ!”