Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 357 หลอกลวง
ตอนที่ 357 หลอกลวง
ประตูหลังโรงแรม
ฉวีหยางเดินเหงื่อแตกพลั่กเข้าไปในซอย หลังจากหันหน้าไปมองรอบด้าน จึงโยนศพลงบนพื้นทันที “พอเถอะ ลุกขึ้นได้แล้ว”
หลังสิ้นเสียง ศพที่ห่อด้วยผ้าห่มสีขาวก็ลุกขึ้นนั่งกับพื้น “ให้ตายสิ ตอนลงมาข้างล่างก็ระวังหน่อยสิพี่ หัวฉันแทบจะแตกซ้ําสองแล้วเนี่ย”
“เออๆ หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว” ฉวีหยางขมวดคิ้ว “รีบลุกขึ้นเร็วเข้า”
ผ้าห่มถูกคลื่ออก ชายหนุ่มใช้มือขวาลูบหลังศีรษะพลางสบถด่า “วันซวยจริงๆ โดนทุบหัวอยู่นั่นแหละ
ฉวีหยางก้มหน้ามองอีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไร
“พี่ครับ การแสดงของผมพอไหวไหมครับ? ทั้งทําตัวแข็งแกล้งไม่หายใจชายหนุ่มยิ้ม กว้าง”ฮ่าฮ่า! ตอนนี้ไอ้บ้านั่นต้องคิดว่าฉันตายไปแล้วแน่ๆ กลับไปฉันต้องได้เงินให้สมกับที่เจ็บตัวด้วยล่ะ”
“แสดงดีบ้าอะไรล่ะ?” ฉวีหยางขมวดคิ้วก่นด่า “ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเข้าไปเร็วแถมยังส่งคนมากดกริ่งข้างนอกนะ นายก็โดนจับไม่ได้แน่”
“เพราะช่วยกันหรอกหน้า ถ้าไม่มีผมแผนนี้ก็ไม่สําเร็จใช่ไหมล่ะพี่?” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากผ้าห่ม
“เก็บของซะ” ฉวีหยางไม่ได้ตอบคําถามนั่น เขาสั่งการต่อไป “เอาผ้าห่มกับของในกระเป๋าใบนั้นไปด้วย เร็วๆล่ะ”
“ครับพี่ๆ”
ชายหนุ่มเห็นว่าแผนการดําเนินไปอย่างราบรื่น เขาก็รู้สึกใจในทันที เขาลุกขึ้นเก็บข้าวของพลางกระซิบ “เมื่อไหร่เราจะกลับไปพบเฒ่าเบี้ย? ฉันจะบอกอะไรให้นะ คนพวกนั้นเป็นตํารวจ เขาอาจจะตื่นตระหนกและเริ่มสืบเรื่องนี้แล้วก็ได้ ดังนั้นทางที่ดีก็คือให้ฉันเอาเงินออกไปจากเขตก่อนเพื่อให้เขาไม่สามารถหาตัวฉัน”
ฉวีหยางมองเขาพลางพยักหน้า ก่อนหันหลังเดินลึกเข้าไปในซอย
“นี่ ผมรอเงินอยู่นะ” ชายหนุ่มหอบผ้าห่มขณะวิ่งเหยาะ ๆ เดินตามอีกฝ่ายไป
สิบวินาทีต่อมา
ฉวีหยางเลี้ยวเข้าไปในซอย ชายหนุ่มขมวดคิ้วอีกครั้งพลันตะโกน “นายเดินช้าๆ หน่อยสิ อาจมีกล้องวงจรปิดอยู่นะ”
ทันใดนั้นเอง เงาหนึ่งก็พุ่งผ่านฉวีหยางไปขวางทางชายหนุ่มไว้
“กะ…แก” ชายหนุ่มตะลึงงัน เขามีสีหน้าตื่นตระหนกเล็กน้อย “ทําไมถึงมาอยู่ที่นี่?!”
ร่างเงานั้นไม่ตอบก่อนจะชักปืนออกมาเล็งไปที่ศีรษะชายหนุ่ม
“ไอ้เวรนี่!” ชายหนุ่มอุทานออกมาพลางหันไปมองแผ่นหลังของฉวีหยาง “นะ…นี่มัน หมายความว่าไง?”
ฉวีหยางหันหลังให้ทั้งสองพลันเดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุด
“แกกล้าหลอกฉันเหรอ?!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาด้วยความร้อนใจ ก่อนกางผ้าห่มไปคลุมศีรษะร่างเงาตรงหน้า
“ปัง! ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นสองครั้ง ร่างเงายกขาขึ้นถีบหน้าอกอีกฝ่ายก่อนหันกลับมาตะโกน “กําลังรออยู่เลย!”
ไม่ไกลนัก ฉวีหยางหันกลับไปมองร่างเงาแวบหนึ่ง เขาไม่ได้พูดอะไรและเดินต่อไป
ที่ห้องแห่งหนึ่งในเขตเจียงหนาน
หลังจากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เปียเตอหยงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล?”
“พี่ ฉวีหยางจัดการเรียบร้อยแล้ว” อีกฝ่ายพูดเสียงทุ่มต่ํา “แมวเฒ่าวิ่งออกจากห้องไปโดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้า และผมก็เห็นฉวีหยางอุ้มเจ้าเด็กนั่นลงบันไดด้วยตาตัวเอง”
“แล้วไงต่อ?” เปียเตอหยงถาม
“พอพวกเขาลงไปข้างล่างไม่ถึงสิบนาที เสียงปืนก็ดังขึ้นในซอย”
“ดังกี่ครั้ง?” เปียเตอหยงถามหลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“สอง” อีกฝ่ายตอบ
“อืม เข้าใจแล้ว” เป่ยเตอหยงพยักหน้า “ที่นี่นายก็หาทางหนีไปก่อน”
“ครับ”
หลังจากทั้งสองคุยกัน เป่ยเตอหยงก็วางสายก่อนนั่งสูบบุหรี่บนเก้าอี้
ผ่านไปประมาณสิบนาที เป่ยเตอหยงยังคงไม่นั่งนิ่ง ก่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฉวีหยาง “ฮัลโหล?”
“ฉันจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว” ฉวีหยางพูดเข้าประเด็น
“แมวเฒ่ามันเชื้อเหรอ?” เปียเตอหยงถามตรงๆ
“เขาตกใจมาก” ฉวีหยางตอบเสียงเบา “ก่อนที่ฉันจะเข้าไป เขาก็คิดว่าได้พลั้งมือฆ่าคนไป แล้ว”
“วิดีโอล่ะ?”
“ฉันได้มาแล้ว” ฉวหยางตอบตามความจริง
เป่ยเตอหยงครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะถามต่อ “จัดการเขาที่ไหนล่ะ?”
“ในซอย” ฉวีหยางพูดเสียงเบา “ตอนนี้คงอยู่ที่คน้ําแข็งแล้ว”
“จัดการเขายังไง?”
ฉวีหยางลิ้งไป “ก็ใช่ปืนน่ะสิ”
“ยิ่งไปกี่นัด?” เป่ยเตอหยงถามอีกครั้ง
“พี่จะอยากรู้ไปทําไม?”
“ฉันถามว่ายิงไปกี่นัด?!” เป่ยเตอหยงยืนกรานที่จะถาม
“สองนัด” ฉวีหยางตอบด้วยสีหน้าหงุดหงิด
เป่ยเตอหยงครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ “ฉันจะให้ที่อยู่นาย และส่งวิดีโอให้เขาก่อน”
“ทําไมไม่ออกมาเอาเองล่ะ?” ฉวหยางตะโกนเสียงดัง “ฉันจัดการแมวเฒ่าแล้ว พี่ยังจะมาสงสัยฉันอีกเหรอ?!”
“ตอนนี้ฉันต้องไปคุยกับหยวนเค่อเพื่อหารือเรื่องคลิปนั่นคงไม่มีเวลาไปรับนาย เข้าใจไหม?”เป๊ยเตอหยงขมวดคิ้วตอบ “ฉวีหยาง ตอนนี้พวกเราเป็นลงเรือลาเดียวกันแล้วอย่าระแวงเลย โอเคไหม?”
เมื่อฉวีหยางได้ยินคําพูดเป่ยเตอหยงเขาก็กําหมัดแน่น “โอเค ตอนนี้ฉันไม่ต้องเจอพี่แล้วสินะ งั้นพี่ให้ลูกเมียฉันมากับคนนั้นได้ไหม?”
“ฉวีหยาง วางใจเถอะครอบครัวนายจะปลอดภัยถ้าอยู่กับฉัน นายเข้าใจไหม?”
“พี่เป่ย พี่พูดอะไรอยู่?! พูดตรงๆนะ ส่งเมียกับลูกฉันมาและฉันจะเอาวิดีโอให้!” ฉวีหยางถลึงตาตะโกน
เป๊ยเตอหยงครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ “ได้ ในเมื่อยังไม่เข้าใจฉัน ฉันจะให้คนพาลูกเมียของนายไป
ด้วย
ฉวีหยางกะพริบตา พลางสูดหายใจเข้าเต็มปอด “งั้นพี่บอกที่อยู่มาสิ”
“ไปเขตกรมสงเคราะห์ทางซ้ายของสะพานซานหยวน แล้วหาประตูหมายเลขสอง” เป่ยเตอหยงกระซิบบอกที่อยู่
ไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากที่ทั้งสองวางสายไปหวังหงก็ก้าวไปข้างหน้าและถาม “ฉันจะไปรับ วิดีโอเอง?”
“อม” เป่ยเตอหยงพยักหน้า
“ให้ฉันพาลูกเมียเจ้าฉวีหยางไปด้วยมั้ย?” หวังหงถามอีกครั้ง
“ไม่ต้อง” เป่ยเตอหยงส่ายหัวตอบ “ถ้าฉันยังไม่ได้วิดีโอฉวีหยางก็จะยังไม่เห็นหน้าลูกเมีย”
“ถ้าสมมุติได้วิดีโอมาแล้วล่ะ?” หวังหงยิ้มและมองไปที่เป่ยเตอหยง
เป๊ยเตอหยงครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ “อย่าเพิ่ง..เฉันยังต้องใช้งานเขาอยู่”
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว” หวังหงยิ้มก่อนหันกลับไปตะโกน “พวกนายสองคนขึ้นรถไปกับฉัน”
ภายในบริษัทหยวนเจียซิน
ขณะที่หยวนเค่อกําลังคุยกับชายหนุ่มจากตระกูลไป๋อยู่นั้น ชายหนุ่มก็ผลักประตูเข้ามา
“มีอะไร?!” หยวนเค่อเงยหน้าถาม
“มีคนมาหาพี่ครับ เขารออยู่ด้านล่าง” ชายหนุ่มตอบเสียงเบา
“ใคร?” หยวนเค่อตกตะลึง
ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินไปกระซิบข้างหูหยวนเค่อ “ฉวีหยางครับ”