Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 356 พลั้งมือ
ตอนที่ 356 พลั้งมือ
“ไอ้บ้านี่!!”
แมวเฒ่าลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือไปหยิบแจกันดอกอีกใบบนโต๊ะ แล้วกระแทกใส่หัวอีกฝ่ายอย่างแรงอีกครั้ง
“เพลง!”
เสียงแจกันแตกดังขึ้นอีกครั้ง แจกันดอกไม่ใบที่สองก็แตกเป็นเสี่ยงๆ หลังกระแทกท้ายทอยของชายหนุ่ม
แมวเฒ่าหอบหายใจก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาจากพื้น และนํามาพันรอบเอวก่อนตะโกน “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
แสงไฟในห้องมืดสนิท ชายหนุ่มนอนอยู่ข้างโซฟาไม่ขยับเขยื้อน
“อย่ามาแกล้งตายนะ เอามาให้ฉันเร็ว” แมวเฒ่าใช้เท้าแตะหัวอีกฝ่ายเบาๆ
อีกฝ่ายหมอบลงกับพื้นและยังคงนิ่งไม่ไหวติง
แมวเฒ่าขมวดคิ้วก่อนก้มลงไปโยกไหล่อีกฝ่าย เขาพยายามหาโทรศัพท์ที่ใช้บันทึกวิดีโอ แต่พบว่าท้ายทอยของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยเลือดและมีแผลขนาดใหญ่
แมวเฒ่าอึ้งไปนาน ก่อนจะพลิกไหล่อีกฝ่ายกลับไปอีกครั้ง “เฮ้ยนี่! นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อีกฝ่ายไม่ตอบสนองใดและร่างกายแข็งกระด้างเล็กน้อย เพราะตอนที่แมวแก่พลิกตัวร่างกายท่อนบนของอีกฝ่ายก็พลันตะแคง
แมวเฒ่ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเอานิ้วมือไว้หน้ารูจมูกของอีกฝ่าย รออยู่หลายวินาที จากนั้นเขาก็ตกตะลึงอย่างมาก
“แอ๊ด!”
ในตอนนั้นเอง เสียงประตูเปิดออกและมีคนวิ่งเข้ามา
แมวเฒ่าวิ่งไปหลบตามสัญชาตญาณในห้อง แต่แสงจากภายนอกทําให้รู้ว่าคนที่มาคือฉวีหยาง
“เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินเสียงเอ๊ะอะโวยวายในห้องนาย” ฉวีหยางที่กลิ่นเหล้าคลุ้งเอ่ยถาม
แมวเฒ่าอึ้งไปครู่หนึ่ง ขณะกําลังจะก้าวเท้าไปเขาก็ไปสะดุดร่างเด็กหนุ่มที่นอนอยู่กับพื้น ฉวีหยางจึงสังเกตเห็นร่างมนุษย์ทันที “นะ…นี่ใครเนี่ย? ทําไมถึงมานอนอยู่บนพื้นล่ะ?”
สีหน้าของแมวเฒ่าดูลนลานเล็กน้อย เขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ฉวีหยางเดินเข้ามา ก้มหน้าเพ่งมองคนที่นอนอยู่ ก็พบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงสีหน้าเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง “บอกฉันหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“ฉะ…ฉัน…ก็มันเข้ามาแล้วใช่โทรศัพท์มาถ่ายมั่วๆ พอฉันคุยกับมันดีๆ ก็ไม่ยอมฟังแถมยังลงมืออีก ฉันเลยรีบทบหัวมันด้วยแจกันตั้งสองใบ” แมวเฒ่าพูดอย่างตื่นตระหนก “จากนั้นมันก็ไม่ขยับแล้ว”
ฉวีหยางนิ่งไปสองวินาที ก่อนจะก้มลงไปตรวจสอบอาการของชายหนุ่ม ก่อนยื่นมือไปจับเส้นเลือดใหญ่ที่คออีกฝ่าย
“เป็นไงบ้าง?” แมวเฒ่าถามอย่างร้อนรน
หลังสิ้นเสียงฉวีหยางก็แข็งกระด้างไปทันที “ชาย…ชายคนนี้ตายแล้ว”
“พับผ่าสิ ฉันแค่ทุบหัวมันแค่สองรอบเองนะ!” แมวเฒ่ายิ่งทําท่าทางตื่นตระหนกมากขึ้น “ทําไมถึงได้ตายง่ายๆแบบนี้ล่ะเนี่ย?!”
“ไม่เชื่อก็มาดูเองสิ ชีพจรเขาไม่เต้นแล้ว แถมร่างกายก็แข็งไปหมด” ฉวีหยางตอบด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ
แมวเฒ่าได้ยินดังนั้นก็ก้าวเข้ามา และก้มหน้าเตรียมจะจับชีพจรของอีกฝ่าย
“ติ๊งต่อง!”
ขณะนั้นเองเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น และมีคนตะโกนจากด้านนอกเขามา “นี่บริกรนะครับ มีคนมาส่งอาหารให้พวกคุณข้างล่าง ให้ผมเอามาส่งให้ไหมครับ?”
แมวเฒ่าเหงื่อออกเต็มหน้าผาก เขาหันกลับไปที่ประตูและตะโกนกลับไป “ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจะเรียกนายอีกที”
“เข้าใจแล้วครับ” อีกฝ่ายตอบกลับแล้วเดินออกจากประตูไป
ภายในห้อง ฉวีหยางลุกขึ้นยืนพลางมองหน้าแมวเฒ่า “นายออกไปก่อนเถอะ”
“ทําไมล่ะ?!” แมวเฒ่าถาม
นายอยู่ที่นี้ไม่ได้ ถ้าเรื่องมันหลุดออกมานายล่าบากแน่ เพราะตํารวจอย่างนายจะเป็นข่าวแบบนี้ไม่ได้ ฉวีหยางพูดอย่างรวดเร็ว “นายออกไปก่อน ฉันจะจัดการตรงนี้เอง”
“จะให้หนีไปได้ยังไง?” แมวเฒ่ากําหมัดแน่น
“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ถ้าถูกคนเจอสภาพนี้เข้านายจะทํายังไง?” ฉวีหยางขมวดคิ้วถาม
แมวแก่ที่รู้งานมาตลอดแต่ตอนนี้กลับงุนงงจนดูไร้สติ “…แล้วเราจะทํายังไงกันดี?”
“นายไม่ต้องห่วง” ฉวีหยางผลักแมวเฒ่าออกไป “ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย นายจําไว้นะ คืนนี้นายไม่ได้มารอผู้หญิงคนนั้นในห้องนี้…เข้าใจแล้วก็ออกไปก่อน ฉันจะจัดการที่เหลือเอง”
แมวเฒ่ายืนอยู่กับที่ด้วยความลังเล
“หยุดคิดได้แล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายเฒ่าหลี่ต้องล่าบากแน่ เข้าใจไหม?” ฉวีหยางตะโกนอีกครั้ง
แมวเฒ่ากัดฟันแน่นพลางตบไหล่ฉวีหยางเบาๆ “รบกวนด้วยนะเพื่อน”
“รีบไปได้แล้ว”
“อ๋อ มีผู้หญิงอีกคนนะ” แมวเฒ่าเตือน
“รู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” ฉวีหยางโบกมือเร่งเร้า “รีบไปซะ!”
แมวเฒ่าพยักหน้าเมื่อได้ยิน เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ชายหนุ่มบันทึกวิดีโอไว้ หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแล้ววิ่งออกประตู หลังจากมองอย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีใครเขาก็วิ่งออกไปอย่างว่องไว
ในห้อง
ฉวีหยางเห็นแมวเฒ่าออกไปเขาก็รีบหยิบถุงมือออกมาจากกระเป๋าแล้วเดินไปยังประตูห้องส่วนตัว ก้มหน้าเก็บกุญแจประตูที่ถูกถีบจนพัง
หลังจากทําเสร็จแล้ว ฉวีหยางก็กลับมาที่เตียงพลางเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มลงกับพื้น แล้วยกร่างชายหนุ่มขึ้นไป
หลังจากห่อชายหนุ่มด้วยผ้าห่มแล้ว ฉวีหยางก็เดินไปตามโซฟาเพื่อรวบรวมเศษแจกันที่แตกกระจาย และหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดพื้นเปื้อนเลือดให้สะอาด
หลังจากท่าความสะอาดร่องรอยรอบข้างชายหนุ่มแล้ว ฉวีหยางก็เดินไปยังห้องน้ําอย่างใจเย็นและหยิบกาต้มน้ํามาที่ปล็กไฟข้างหัวเตียง
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ฉวีหยางก็เทน้ําเย็นทั้งกาลงในปลั้กไฟ
เสียงไฟฟ้าช็อตดังขึ้นจนไฟทั้งชั้นสาม ชั้นสี่และห้ากะพริบและดับลงในที่สุด
ในห้องส่วนตัวบนชั้นสี่ หม่าเหลาเอ๋อตะโกนทันที “หม…เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“ไม่รู้สิคะ” ผู้หญิงด้านข้างส่ายหัว
“ต้องเกิดเรื่องอะไรแล้วแน่ๆ” หม่าเหลาเอ่อพลิกตัวลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง
ชั้นล่าง
แมวเฒ่าที่ดูสับสนไปเมื่อครู่ตอนนี้ดวงตาทั้งคู่บนใบหน้าของเขาก็แจ่มชัดอาการเมาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เขายืนอยู่หน้าประตูหลังพลางกดโทรออก “ฮัลโหล? ออกมาเดี๋ยวนี้…ใช่ เร็วเข้า!”
ภายในทางเดินชั้นสาม
ฉวีหยางเอื้อมมือไปผลักประตูไม้ออก ขณะกัดฟันอุ้มห่อศพแล้วรีบวิ่งไปที่บันได
“ตุบ ตับ!”
ขณะเดินลงบันได เนื่องจากแสงไฟมืดสลัวฉวีหยางจึงมองไม่เห็นบริเวณโดยรอบ เขาเอาหัวชายหนุ่มโหม่งเข้ากับกําแพงตลอดทางและผ้าห่มก็กระพือไปมาอย่างแปลกประหลาด
เขตเจียงหนาน
หยวนเค่อนั่งไขว่ห้างพลางถามสี่ยวจิ๋ว “พี่ว่าเฒ่าเปุ๋ยคิดจะทําอะไรกันแน่?”