Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 336 นายพลหลินเฉิง
ตอนที่ 336 นายพลหลินเฉิง
บนทางเดิน
หลินเฉินมองหลี่ฉุ่ขณะเอามือไขว้หลังพลางหันหน้าแล้วตะโกน “หลินเซียว พาน้องสาวนายไปด้วย”
“ตึงตึง!”
หลินเซียวชกหลี่หยวนจือจนล้มลง ก่อนจะหันไปพูดกับกับหลี่ฉุ่ด้วยความโมโห “พวกนายจะไม่ได้แค่โดนคดีแพ่งอย่างเดียวแน่ แต่พวกนายจะต้องโดนลงโทษทางทหารอีกด้วย”
หลี่ฉุ่กัดฟันและไม่พูดไม่จา
“แกตื่นได้แล้ว รอแก้ผ้าเถอะ” หลินเซียวชี้หลี่หยวนจือพลางตะโกนด่าและเอื้อมมิจับแขนของหลินเหนียนเล่ย “เดินไป”
แขนหลินเหนียนเลยบวมช้ําพลางหันหน้ามองพี่ชายด้วยผมกระเซอะกระเซิง และพูดด้วยน้ําเสียงรีบร้อน “เพื่อนของฉัน…”
“กลับไปค่อยว่ากัน” หลินเซียวขมวดคิ้วพลางตัดบท
“ไม่ พี่ต้องเอาเขา…” หลินเหนียนเลยอยากจะเถียง
“ฉันบอกว่ากลับไปค่อยว่ากันไง!” หลินเซียวจ้องตาเขม็งพลางตะคอก
หลินเหนียนเลยลังเลอยู่นาน ก่อนจะหันหน้ามองสมาชิกที่อยู่ในเหตุการณ์และแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองของอาแล้วจึงเลือกที่จะเชื่อฟัง
“ไปล่ะ”
หลินเฉิงกล่าวลาก่อนจะเดินจากไป
หลินเหนียนเลยครุ่นคิดอยู่นานแล้วจึงตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน “เสี่ยวอวี่ อย่าเพิ่งร้อนรนไป พวกมันไม่มีหลักฐาน ไม่กล้าทําอะไรนายหรอก”
คําพูดที่ตะคอกออกมาเป็นคําพูดที่ชาญฉลาด และทําให้ฉินอวี่ที่อยู่ในห้องขังได้รับข้อมูลมากมาย ทําให้จิตใจที่แตกสลายในตอนแรกกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
หลินเซียวมองน้องสาวด้วยแววตาตกตะลึงพร้อมกับความรู้สึกโกรธในใจ “แกพูดให้มันน้อยๆ หน่อยนะ รีบไปได้แล้ว”
หลินเหนียนเล่ยได้ยินแล้วจึงเงียบไปพลางหันหลังแล้วเดินไปกับคนในบ้านของตัวเอง
บนทางเดิน เฒ่าหลี่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของหลินเหนียนเล่ยและมีความหวังเกิดขึ้นในใจ
“งั้นเราก็ไปกันเถอะ” หลิวตาขมวดคิ้ว
“เพี้ยะ!”
เฒ่าหลี่คว้าแขนของหลิวต้าด้วยความตื่นเต้นก่อนจะเอ่ยปากกะทันหัน “ได้เวลากลับมากู้หน้าแล้ว”
หลิวตาได้ยินจึงนิ่งไปพร้อมกับแววตางุนงงไม่เข้าใจ
เฒ่าหลี่มองอีกฝ่ายด้วยแววตาแข็งที่อพลางคิดในใจว่า สุดท้ายแล้วฝ่ายบริหารก็ยังไม่เห็นหัวผู้กํากับอย่างตัวเองอยู่ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งคนโง่ๆ แบบนี้ไปเจรจา
“…นายพลจัดการแล้ว พวกมันไม่กล้ากล้าบังคับฉินอวี่มากแล้ว” เฒ่าหลี่รีบพูด “ถ้าไม่คุม เข้มมากก็คงไม่งัดหลักฐานอะไรออกมาหรอก นายเข้าใจไหม?”
หลิวต้าฟังแล้วจึงนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะรีบปรับท่าทางแล้ววิ่งไปหาหลี่ฉุ่ทันที “ถ้าพวกนายเอาหลักฐานการทําผิดของฉินอวี่ออกมาไม่ได้ภายในเวลาที่กําหนด สํานักงานใหญ่อย่างพวกนายก็เตรียมส่งหนังสือรายงานไปที่กองทหารเองได้เลย”
หลี่ฉุ่นิ่งไป
“ถ้าฉินอวี่ได้รับบาดเจ็บ สํานักงานเขตซ่งเจียงต้องฟ้องนายกับกองทหารแน่” หลิวต้าชี้หน้าหลี่ฉุ่พลางตะโกนด่า ก่อนจะหันตัวจากไป
“เหอะๆ แม่งเอ๊ย มีพลจัตวาหน่อยทําเป็นเห่าหอนไปทั่ว” หลี่ฉุ่ตะโกนด่าด้วยแววตาโมโห
“ตึง!”
หลี่หยวนจือเอามือบังหน้าขณะคลานขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะพูดเอ่ยปากพูดด้วยท่าทางที่ดุร้าย “หัวหน้าฉุ่ ไม่ต้องสนใจความคิดของคนอื่นหรอก เราคุมเข้มไอ้ฉินอวี่นั่นไปเถอะ…ถ้านายพลนั่นจะเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย นั่นก็แสดงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังต้องจ้องจะเล่นงานสถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้าแน่นอน”
หลี่ฉุ่เท้าสะเอวพลางเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง “ไม่ เราจะยังไม่ แตะต้องไอ้ฉินอวี่นั่น ไม่งั้นถ้านายพลทําอะไรขึ้นมา แล้วข่าวที่มันถูกทารุณหลุดออกไป แล้วถ้าเราต้องขึ้นศาลกันก็ต้องช่วยกันทั้งหมด
“แล้วจะทํายังไงล่ะ เราคงจะไม่โดนเล่นงานในเขตของตัวเองหรอกนะ?” หลี่หยวนจือพูดด้วยน้ําเสียงตื่นตระหนก
หลี่ฉุ่ครุ่นคิดสักพัก “ไอ้พวกตํารวจคุมเข้มพวกนั้นน่ะ จัดการพวกมันให้หมด ถ้าพวกมันสาวถึงฉินอวี่เมื่อไหน เราก็จะมีหลักฐานมัดตัวมันได้ ใ เมื่อพวกท่านนายพลกับหัวหน้าพวกนั้นเอ่ยปากกันหมดแล้ว ฉันก็จะไม่ขายหน้าพวกมันแล้วกัน”
“ใช่!” หลี่หยวนจือได้ยินแล้วจึงพยักหน้า
นอกห้อง
เฒ่าหลี่พูดเสียงเบากับรองผู้กํากับตง “นายกลับไปกับนายหลิวก่อน เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย”
“นายน่ะเหรอ?” รองผู้กํากับตงนิ่งไป
“ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว แล้วก็ทําอะไรไม่ได้ด้วย ทําได้แค่พึ่งสาวน้อยเล่ยเล่ยคนนี้เท่านั้น” เฒ่าหลี่พูดเสียงเบา
“โอเค” รองผู้กํากับตงรู้สึกตัวขึ้นพลางพยักหน้าทันที
“ท่านรองหลิว ฉันอยากจะเจอกับเพื่อนของฉัน หน่อย เลยจะให้รองผู้กํากับตงส่งท่านกลับไปก่อน ไว้เจอกันคืนนี้” เฒ่าหลี่กล่าวลาอย่างเกรงใจ
“ได้” ถึงแม้หลิวต้าจะไม่พอใจที่รัฐพื้นทมิฬิก่อเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ถึงยังไงเมื่อครู่นี้เขาก็ได้ปะทะกับพวกทหารแล้ว ดังนั้นในใจของเขาตอนนี้จึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงสามารถที่จะยืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับเฒ่าหลี่ไปโดยปริยาย “เดี๋ยวฉันจะโทรหาผู้อํานวยการหวังตอนนี้เลย ตราบใดที่คนของเราไม่ได้ทําอะไรผิด พวกเขาต้องให้ความยุติธรรมกับเรา”
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ ท่านหลิว” เฒ่าหลี่ยื่นมือออกไปด้วยสีหน้าขอบคุณ “ในสายของเรามีคนที่รักความยุติธรรมอย่างท่าน แล้วให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องแบบนี้ ช่างโชคดีจริงๆ !”
ใครบ้างจะไม่ชอบคําชม? ใครบ้างจะไม่ชอบให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดีบ้างล่ะ? ดังนั้นหลิวต้าจึงยิ้มและจับมือของเฒ่าหลี่ “เรื่องเล็กน่า”
สิบกว่านาทีผ่านไป
เฒ่าหลี่ใช้ขาของตัวเองขวางสกูตเตอร์บนพื้นหิมะเอาไว้ เหมือนคนแก่ที่กําลังจัดการปัญหาให้กับลูกชายอยู่ และกําลังส่งข้อความอย่างต่อเนื่อง
เขาเป็นหัวหน้าสภาเขตของเขตแล้ว แต่เขากลับไม่มีอํานาจใดๆ ในเขตชางจีเลยสักนิด ถึงเขาจะมีเพื่อนเยอะ แต่กลับไม่สามารถรู้ข่าวคราวที่แน่ชัดของฉินอวี่ได้ บวกกับการที่เขาไม่ใช่บุคคลสําคัญของกอง ดังนั้นคนที่ไม่รู้จักเขาก็ไม่มีความจําเป็นต้องไว้หน้าเขา
ถึงเฒ่าหลี่จะตกอยู่ในสถานการณ์ถูกบังคับ แต่ก็ยังคงตั้งใจทําเพื่อฉินอวี่ แต่การที่เขาทําแบบนี้ ก็ไม่ใช่การทําเพื่อจับฉินอวี่ให้อยู่กับเขา หรือมีส่วนได้ส่วนเสียหรือความโด่งดังมีอิทธิพลแต่อย่างใด แต่เขารู้สึกชื่นชมเด็กคนนี้อย่างบอกไม่ถูก
เฒ่าหล่อยู่ในกองตํารวจมาหลายปี อีกทั้งยังอยู่ในตําแหน่งของหัวหน้าอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงมีลูกน้องและลูกศิษย์อยู่ในนั้นเยอะแยะมากมาย แต่หลายปีที่ผ่านมาคนที่สามารถเป็นสายและทุ่มเทกายใจทั้งหมดในการช่วยเหลือเขาได้นั้น นอกจากแมวเฒ่าแล้วคงจะมีแค่ฉินอวีคนนี้คนเดียว
บนรถ
เฒ่าหลี่รับโทรศัพท์ของจ่าวอีกครั้ง
“ฮัลโหล?”
“คดีพลิกแล้วล่ะ” เฒ่าหลี่ตรงเข้าประเด็นทันที “ตระกูลหลินมีนายพลใหญ่เลยพาเล่ยเลยออกไปได้”
“นายพลเหรอ?” ข่าวปู่ตะลึงขณะนั่งอยู่บนโซฟา “บ้านของเธอมีนายพลใหญ่อยู่เหรอ? !”
“ใช่ หลินเฉิงก็คือหนึ่งในนายพลเสือใหญ่ทั้งสี่ แห่งเขตหนานหยางซ่งอยู่ทางใต้ของเขตพิเศษที่เก้า” เฒ่าหลื่อธิบาย “หะ? !” จ่าวตะลึงอีกครั้ง
“นายหยุดพูดก่อนนะ” เฒ่าหลี่รีบพูดอย่างรวดเร็ว “นายช่วยติดต่อน้าชายของหลินเหนียน เล่ยให้หน่อยได้ไหม ให้ผมเจอกับคนตระกูลหลินหน่อย”
ข่าวปู่ได้ยินจึงมีความรู้สึกลังเลเกิดขึ้น
นอกห้องสอบสวน
หลี่ฉ่ถูกแขนเสื้อขึ้นแล้วเอ่ยปากด้วยใบหน้าเฉยชา “เปิดประตู”
ทหารได้ยินแล้วจึงผลักประตูพลางเงยหน้ามองพี่เซียวที่นั่งอยู่ข้างใน
“ปากแข็งนักใช่ไหม? เดี๋ยวฉันจัดการนายเอง” หลี่ฉุ่เดินมุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับมีหมอทหารสามคนถือกล่องใบเล็กๆ