Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 320 ชายดุดันทั้งห้า
ตอนที่ 320 ชายดุดันทั้งห้า
บนทางเดิน
ต้าฮวงไล่ตะเพิดลูกน้องของตัวเองที่กําลังเหม่ออยู่จึงตะโกนเสียงดัง“ให้ตายเถอะโยนระเบิดสิวะ”
พี่เซียวได้ยินแล้วจึงรีบปิดไฟฉายและทําให้ทางเดินมืดอีกครั้งทันที
ตรงหัวบันได ตาหนวดร่างกายกํายําและบึกบนพิงไหลไปที่คานประตู มือขวาจับปืนเอาไว้ส่วนมือซ้ายก็โยนของออกไปตรงทางเดิน
“ด็ดๆๆ!”
เสียงดังขึ้นจากพื้น แล้วชายหนุ่มที่กําลังรวมตัวกันอยู่ตรงกลางด้วยกัน บวกกับในห้องที่มีดมากจึงทําให้พวกเขามองเห็นไม่ชัดว่าโยนของอะไร มา ดังนั้นจึงมีคนตะโกนขึ้นมา “หนีหลบระเบิด!”
เมื่อตะโกนขึ้นมาแล้ว ฝูงชนก็ตื่นตระหนกกันทันทีจากนั้นจึงวิ่งหนีแยกกันเป็นซ้ายขวาสองฝั่ง
“ตึง!”
ทันใดนั้น เพื่อนที่ถูกจับไปพร้อมกับต้าฮ่วงทั้งสองคนก็ลากชายที่จับตัวพวกเขาและกระทืบเอา คืนด้วยความโมโห
“ปังๆ !”
พี่เซียวยิงปืนถึงสองนัดหลังจากยิงทะลุขาขวาของอีกฝ่ายแล้วจึงรีบวิ่งหนีไปข้างหน้าทันที
“ผลบ!”
แสงไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง ชายไว้หนวดถือไฟฉายเอาไว้ในมือซ้ายมือขวาถือปืนชี้ไปด้านหน้าเมื่อจัดการลูกน้องสองคนที่ปะทะกับต้าฮ่วงไปและตอนนี้เขาก็มาถึงตรงกึ่งกลางของทางเดิน
เมื่อต้าส่วงได้รับแสงไฟสนับสนุนจากชายไว้หนวดแล้วเขาจึงลุกขึ้นเดินกะเผลกพลางตะโกน“ปืน”
พี่เซียวได้ยินแล้วจึงโยนปืนในมือของตัวเองส่งไปก่อนจะเปิดเสื้อของตัวเองและหยิบระเบิดจับเวลาออกมา
ชายทั้งห้าคนรวมตัวกันอยู่ในทางเดินจากนั้นจึงกระหน่ํายิงเข้าไปในทางเดิน
ตรงมุมหนึ่งของบันได พี่เซียวพูดเสียงเบา “มีอะไรรึเปล่า?”
“มะ…ไม่มีอะไร แค่โดนยิงที่ขาไปหนึ่งที” ต้าฮ่วงส่ายหน้า
“ยังพอมีโอกาสไหม? ถ้าไม่มีก็แยกย้ายเถอะ”พี่เซียวถามอีกครั้ง
ต้าฮวงลังเลสักพัก “สถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้านี้มันเป็นที่ที่หลอกลวงข้างในยังมีบันไดปลอมด้วยเป็นที่ที่ให้หญิงสาวมีรับใช้ปรนนิบัติเราต้องบุกเข้าไป เรายังมีโอกาส”
“พวกมันมีคนอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ ไม่รู้ว่าเราจะจัดการพวกมันได้ไหม”ชายไว้หนวดตอบกลับเสียงเบา “ต้องเสี่ยงมากแน่นอน”
พี่เซียวชะงักไปสักพักก่อนจะเอ่ยปาก “เสียงปืนดังขึ้นอีกฝ่ายก็ตื่นตระหนกและมากันหมดแล้วการจากไปโดยที่ไม่พยายามสู่สักครั้งไม่ใช่นิสัยของฉัน ฟังต้าฮ่วงทั้งสองคุมตัวเอาไว้ แล้วอีกสามคนเข้าไปในบันไดปลอมนั่น”
“ได้”
“ฉันคุมเอง”
สมาชิกในทีมหลักของพี่เซียวมักจะน้อยเสมอมากสุดก็แค่เจ็ดถึงแปดคนและน้อยสุดก็มีแค่สี่ถึงห้าคนแต่นี่ไม่กลับไม่ใช่เขาหาคนที่จะมาร่วมงานกันไม่เจอและเขายังต้องการสมาชิกที่มีคุณภาพสูงมากอีกด้วยไม่ใช่แค่ต้องเข้าใจในรัฐพื้นทมิฬอย่างเดียวแต่ยังต้องความสามารถในการจัดการและการเป็นผู้ตามที่ดีอีกด้วย
ถ้าพี่เซียวจะบุกก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อชายไว้หนวดจึงจ่อปืนไปข้างหน้า และเริ่มลั่นปืนควบคุม สถานการณ์
“ทางนี้” ต้าฮ่วงเดินขากะเผลกก่อนจะก้มตัวและคลําผนังข้างบันไดขึ้นไป
“ปัง ปัง!”
พี่เซียวกระหน่ํากระสุนปืนออกไปในพริบตาทําให้อีกฝ่ายถูกบีบบังคับให้หลบไปในแยกฝั่งทางซ้าย
ในทางเดิน ซื้อเหมาจ่อถูกกระทืบจนเละไปหมด “อย่าให้พวกมันเข้ามาได้ ยิ่งมันสิโว้ย!”
“ในอาคารมืดเกินไปเราเลยเห็นคนของพวกมันได้ไม่ชัดเท่าไหร่แล้วพวกมันก็ส่องไฟฉายเข้าตาเราตลอดเวลาด้วย…” ลูกน้องที่หลบอยู่ตรงหลัง กําแพงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “สู้ไม่ไหวจริงๆ
“ปังปัง!”
ชื่อเหมาจ่อลั่นปืนออกไป “นายพาคนไปที่ห้องรูปภ.แล้วไปหยิบระเบิดและไฟฉายมาเร็วเข้าเรื่องแบบนี้รอไม่ได้”
เมื่อสิ้นเสียง ชายสองถึงสามคนก็วิ่งไปยังส่วนลึกที่สุดของทางเดิน
ตรงทางแยก ต้าส่วงเป็นคนนําทางอยู่ด้านหน้าและมีชายไว้หนวดรอลั่นปืนปราบปรามอีกฝ่ายจากนั้นพวกเขาก็มาถึงห้องบันไดอย่างรวดเร็ว
“แอ๊ด!”
พี่เซียวเตะประตูเหล็กให้เปิดออกก่อนจะย่องเข้าไป
“ปังปัง!”
เสียงกระหน่ําปืนดังสนั่น พี่เซียวไม่ทันได้หลบจึงถูกยิงเข้าที่แขนและหลังขาสองจุด
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ต้าส่วงพยุงพี่เซียว
“แม่งเอ๊ย!” พี่เซียวโมโหจนตาแดงก่ํา “ข้างในยังมีคนอีกรีบจัดการซะ!”
“ปัง!”
พูดจบ พี่เซียวก็หลบอยู่หลังประตูเหล็กก่อนจะส่องไฟฉายสว่างจ้าอีกครั้ง จากนั้นจึงเดินตรวจสอบในทางเดินอีกหนึ่งรอบ
ส่วนลึกที่สุดของทางเดิน ชายหนุ่มทั้งสามถูกไฟฉายส่องตาจนลืมตาไม่ขึ้น พวกเขาจึงรีบหลบทันที
แสงไฟฉายส่องออกมาจากประตูเหล็กถึงแม้ว่ามันจะทําให้แสบตามากแต่ทั้งสองฝั่งของกําแพงกลับมืดไปหมดดังนั้นต้าส่วงจึงใช้โอกาสนี้แล้วพาเพื่อนร่วมทีมถือปืนพลางเดินไปข้างหน้าทันที
ชายหนุ่มคนหนึ่งหลบไม่ทันจึงถูกยิงและล้มลงกับพื้นพลางโบกมือ“ฝั่งตรงข้ามแสงจ้าไปหมดปืนนี้ก็ยังไม่เคยจะโดนเลยกลับไปแล้วหลบซะ”
“ปัง!”
พี่เซียวปิดไฟฉาย จากนั้นจึงโยนไฟฉายไปพลางตะโกน “ต้าส่วงห้องไหนมีคนอยู่บ้าง?”
“ฉันไม่เคยเข้ามาที่นี่นายไปส่องใกล้ๆสักห้องสิถ้าคนไหนแก่ก็คนนั้นแหละ” ต้าฮวงตะโกนกลับ
พี่เซียวได้ยินแล้วจึงย่องตัวและแนบตัวตามผนังไปข้างหน้า
ไม่กี่วินาทีผ่านไป พี่เซียวก็คลําเจอประตูก่อนจะยกขาขึ้นพลางเตะไปที่กลอนประตู
“ตึง!”
ประตูเปิดออก จากนั้นพี่เซียวจึงตะโกน “ไฟฉาย”
“ปัง!”
ต้าฮวงรีบเปิดไฟฉายส่องเข้าไปในต้องที่ถูกเตะประตูเมื่อครู่ทันที
พี่เซียวเข้าไปตรวจสอบก่อนจะขมวดคิ้ว “ไม่มีคนอยู่”
“ปังปัง!”
ต้าส่วงรีบขยับเข้าไปข้างหน้าพลางปิดไฟฉายจากนั้นก็ลั่นปืนต่อทันที
พี่เซียวหลบอยู่ด้านหลังของลูกน้องทั้งสองก่อนจะเดินไปครั้งหน้าอีกครั้ง แล้วจึงเตะกลอนประตูห้องที่สองออกทันที
ในทางเดินนอกประตูลับ
ชื่อเหมาจ่อตะโกนด้วยแววตาแดงก่ํา“แขกพิเศษอยู่ข้างในถ้าพวกเขาเป็นอะไรไปเราจบเห่แน่บุกให้ถึงที่สุด!”
ชายไว้หนวดชะงักอยู่ที่มุมหนึ่งของกําแพงก่อนจะตะโกนขณะที่หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ “ระวังกระสุนด้วย”
“ปัง ปัง ปัง!”
เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ลั่นปืนไล่ทุกคนกลับไปก่อนจะตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง “ยังเหลือร่องรอยอยู่”
“มาแล้ว”
ทันใดนั้น เสียงดังมาจากทางเดิน คนที่ไปห้องรูปภ.เมื่อครู่กําลังกลับมาที่เดิม
“โยนระเบิดออกไป โยนเข้าไปในห้องส่วนตัวเร็วเข้า” ชื่อเหมาจ๋อโบกมือพลางตะโกน
เมื่อสิ้นเสียง สีแสงไฟฉายนับไม่ถ้วนสว่างนบนทางเดินคนอีกฝ่ายที่เหลืออยู่ก็พากันยืนเป็นแถวก่อนจะเหนี่ยวไกปืนยิงตลอดเวลา
“บูม!”
ในขณะเดียวกัน ก็มีระเบิดสองลูกกลิ้งเข้ามา
“จบแล้ว”
ชายไว้หนวดรีบหลบพลางตะโกน “หมายเลขหนึ่งประตูกันไม่ได้แล้ว”
หลังประตูห้องลับบนทางเดินต้าส่วงได้ยินแล้วจึงหลบไปข้างหลังเตรียมจะบังประตูเพราะถ้าเพียงแค่อีกฝ่ายบุกเข้ามาแล้วปิดประตูทางออกเราต้องตายอยู่ที่นี่แน่นอน
“บูม!”
“บูม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นสองครั้ง ทั้งสถานรับเลี้ยงเด็กกําพร้าก็สนั่นไป
เศษกระเบื้องกระจุยกระจายจนเกิดเสียงของแตกกระจายดังอย่างต่อเนื่อง
ต้าฮ่วงหลบอยู่ตรงประตูพลางจ้องตาเขม็ง “หมายเลขหนึ่งไม่ต้องหาแล้ว แยกย้าย”
ส่วนลึกสุดของทางเดิน
พี่เซียวหันกลับไปมองตรงประตูก่อนจะเตะขาถีบประตูห้องส่วนตัวไป
“แอ๊ด!”
ประตูเปิดออกและมีแสงสว่างลอดผ่านเข้ามา
ในห้อง
พี่เซียวนิ่งไปสักพักก่อนจะถือปืนเดินเข้าไป