Immortal and Martial Dual Cultivation - ตอนที่ 315 เซียวเฉินอยู่ไหน?
ตอนที่ 315 เซียวเฉินอยู่ไหน?
“ฟุบ! ฟบ! ฟุบ!”
เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นมาจากทั่วทิศทาง มันคือคนที่กระจายไปอยู่รอบๆและพวกเขาพบว่ากระแสพลังของเจ้าเพลิงแดงได้หายไปแล้ว พวกเขาจึงมุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ฉ่ฉาวอวิ่นลงถึงพื้น,เข้ามองไปที่ฝูงชนที่กําลังเร่งเข้ามา ความประหลาดใจวูบไหวในดวงตาของเขาแต่ท้ายที่สุด,เขาส่ายหัวและยอมปล่อยแก่นกลางปีศาจไป
มันยังไม่ใช่เวลาที่จะทุ่มสุดตัว ของดีที่แท้จริงมันอยู่ในซากนิกายหลี่เพลิง,ที่พวกเขายังไปไม่ถึงในตอนนี้
หากพวกเขาทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ มันจะกลายเป็นผลดีกับคนอื่น มันไม่ได้คุ้มกับแก่นกลางปีศาจอันเดียว
ฮวาหยุนเฟยส่งซุนเหว่ยและชรือเฟิงลอยไปด้วยดาบของเขา จากนั้นเขาก็คว้าไปที่ดาบยักษ์ เขาหัวเราะและกล่าวขึ้น “อาวุธชิ้นนี้เป็นของข้า!”
ซุนเหว่ยกับช่อเฟิงรวมเข้าด้วยกันยังไม่ใช่คู่มือของฮวาหยุยเฟย ผู้ที่บรรลุถึงวิญญาณโลหิตโบราณ ท้ายที่สุด,ฝีมือของเขาก็เหนือกว่าและสามารถฉวยเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไปได้
“ปะ! ปะ!”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฮวาหยุนเฟยกล่าวจบ,ดาบเล่มยักษ์ก็เริ่มแตกสลาย ผ่านไปครู่หนึ่ง,มีเพียงด้ามดาบที่ยังอยู่สมบูรณ์
ฮวาหยุนเฟยตกตะลึง เขากล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร?”
ซุนเหว่ยและชรือเฟิงตกตะลึงไปเช่นกัน จากนั้น,พวกเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮวาหยุนเฟย,ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้มีชะตาต้องกันกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้”
จีชางควกล่าวอย่างเฉยเมย “อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้น นี้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและถูกใช้งานอย่างหนัก บวกด้วยกับการที่มันก็เก่ามากแล้ว เป็นธรรมดาที่มันจะพังลง”
ใบหน้าของฮวาหยุนเฟยกลายเป็นสีแดง,เขาเดือดถึงขีดสุด เขาไม่คาดคิดว่าจะจบลงด้วยการคว้าน้ําเหลวหลังจากที่ทุ่มความพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้มา
กลับไปตอนที่เขาอยู่ในซากโบราณ,มีเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน เขาเพิ่งจะได้รับดาบผ่านภา มาแต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนั้นกลับเลือกเจ้านายของตัวเอง,ทําให้ขุนนางกุยยี่ได้มันไปเปล่าๆ
“ขยะ!”
ฮวาหยุนเฟยสาปด่าดาบเล่มนี้เอาเกรี้ยวโกรธ จากนั้นเขาก็ปาด้ามดาบลงพื้นอย่างรุนแรง ด้ามดาบกลิ้งไปกับพื้นจนมาหยุดที่เท้าของเซี่ยวเฉิน
เซียวเฉินเหลียวตามองดูที่มัน เขาสังเกตเห็นว่าด้ามดาบมีรอยแตกและดูเหมือนว่าจะมีอะไรบ้างอย่างอยู่ข้างใน เมื่อเขาเห็นว่าฮวาหยุนเฟยยอมแพ้ในด้ามดาบเล่มนี้แล้ว เขาก็เก็บมันขึ้นมา
เมื่อเซี่ยวเฉินมองไปที่คนที่กําลังมารวมตัว,เขาไม่ได้เปิดด้ามดาบอะนนี้ออกมาในทันที เขาเก็บ ซ่อนมันในเสื้อของเขาอย่างเงียบๆ
“เจ้าเพลิงแดงตายลงแล้วใช่หรือไม่? ต้วนมู่ฉิงได้บุปผาเหมันลึกล้ําไปหรือยัง?”
หลังจากที่ทั้งห้าสิบคนที่ช่วยเฝ้าระวังสัตว์อสูรปีศาจในพื้นที่โดยรอบมาถึง,พวกเขาถามขึ้นในทันที คนที่อยู่ก่อนชี้ไปที่ซากศพของเจ้าเพลิงแดง,ผลเป็นที่ชัดเจน
“ชุม! ซุม! ซุ้ม! ซุ้ม!”
ทันใดนั้น,กําแพงน้ําแข็งสี่อันงอกขึ้นมาที่เนิน กําแพงน้ําแข็งเชื่อมต่อเข้าด้วยกันก่อเป็นราชวังน้ําแข็งขึ้นมา,ห่อหุ้มต้วนมู่ฉิงและผู้ช่วยทั้งสี่ของนางเอาไว้ด้านใน
ต้วนมู่ฉิงระมัดระวังเป็นอย่างมาก,เซียวเฉินครุ่นคิด พวกเราได้มาไกลถึงเพียงนี้แล้วแต่พวกเขาก็ยังเป็นกังวล
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ราชวังน้ําแข็ง มีคนกล่าวขึ้น “ข้าได้ยินมาว่าบุปผาเหมันต์ลึกล้ําต้องใช้วิธีการพิเศษเพื่อที่จะเก็บมันมาได้อย่างสมบูรณ์ ข้าสงสัยว่าต้วนมู่ฉิงได้เข้าใจถึงวิธีการนนั้นแล้วหรือไม่?”
คนอื่นหัวเราะ “วิธีการพิเศษอะไร? ตราบใดที่บ่มเพาะพลังทักษะสายเหมันต์ลึกล้ําขึ้นไปถึงชั้นที่สิบ,ขอบเขตของเหมันต์ลึกล้ําเปลี่ยนกลายเป็นพลังฉี จะเป็นการง่ายที่จะเก็บมันขึ้นมา นี่ไม่ใช่ความลับอะไร ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือทักษะสายเหมันต์ลึกล้ําเป็นทักษะที่สืบทอดกันมาไม่ ใครอื่นที่จะสามารถฝึกฝนมันได”
“ทักษะสายเหมันต์ลึกล้ําเป็นทักษะบ่มเพาะระดับปฐพีขั้นสูงสุด ต้วนมู่ฉิงสามารถขึ้นไปถึงชั้นที่สิบ? มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว”
“น่าจะเป็นเรื่องจริง นับตั้งแต่ที่นางพ่ายแพ้ให้กับเซียวเฉินในป่าอํามหิต,นางได้กัดฟันฝึกฝนอย่างหนัก การพัฒนาการบ่มเพาะพลังของนางน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง”
“ข้าสงสัยว่าเซี่ยวเฉินไปอยู่ที่ไหนแล้วในวันนี้ ต้วนมู่ฉิงได้ให้คําสาบานเอาไว้ว่าจะไม่รับช่วงต่อตําแหน่งราชินีแห่งตระกูลต้วนมู่หากว่านางเอาชนะเขาไม่ได้”
หลังจากที่รออยู่นาน,ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายและหันมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลต้วนมู่ ขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกัน หัวเรื่องเปลี่ยนไปเป็นเซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินหมดคําพูด เขานึกถึงวันนั้นที่ฐานสูง เขาได้เอาแหวนมิติของต้วนมู่ฉิงไป
ต้วนมู่ฉิงได้กล่าวกับเขาเอาไว้ “แม้ว่าจะมีบางสิ่งที่เป็นของเจ้า,ถึงแม้ว่าเจ้าจะเอามันไป,เจ้าก็จะต้องอาเจียนมันออกมา”
ดูเหมือนว่าข้าจะกลายเป็นปีศาจเงาในใจของนางไปแล้ว,เซียวเฉินยิ้มขมๆกับตัวเอง เซียวเฉินรือปีศาจในใจของต้วนมู่ฉิง สําหรับตัวเขาเอง,จีชางคง,ขุนนางกุยยี่ และคนอื่นๆไม่ใช่ปีศาจในใจของเขาหรือ?”
เหตุผลหลักที่เชี่ยวเฉินรับภารกิจนี้ก็คือเขาจะได้เห็นความแข็งแกร่งของคนพวกนนี้ด้วยตาของตัวเอง
ถึงอย่างไร,เซี่ยวเฉินก็ได้ฟังมาจากคําของเจ้าหมูเท่านั้น มันยากที่จะรู้ถึงพลังที่แท้จริง มันจะเป็นการดีที่สุดที่ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง เช่นนี้ เขาจะสามารถเข้าใจได้อย่างกระจ่าง
หากเซียวเฉินล้มคนพวกนี้ไม่ได้,เขาไม่มีความคิดที่จะออกไปจากอาณาจักรต้าฉัน มันจะทิ้งเป็นเงาในใจของเขาหากว่าเขาทําเช่นนั้น มันอาจจะทําให้การบ่มเพาะจิตใจของเขาไม่มีทางขึ้นไปถึงระดับบริบูรณ์ตลอดกาล
“ดูนั้น! ต้วนมู่ฉิงออกมาแล้ว ให้นางไปพาพวกเราไปที่ซากนิกายหลี่เพลิงเร็ว!” มีคนตาไวกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขามองเห็นราชวังน้ําแข็งกําลังละลาย ต้วนมู่ฉิงและผู้ช่วยทั้งสี่คนของนางเดินออกมาอย่างรวดเร็ว บุปผาเหมันต์ลึกล้ําบนเนินได้หายไปแล้ว
ฮวาหยุนเฟยกล่าวอย่างมืดมัว “ต้วนมู่ฉิง,เจ้าได้รับบุปผาเหมันต์ลึกล้ําไปแล้ว เจ้าจะช่วยพวกเราเปิดทางเข้าห้องโถงนิกายสาขาหลี่เพลิงได้แล้ว ใช่หรือไม่?”
มองดูความกังวลในสายตาของทักคน,ต้วนมู่ฉิงกล่าวอย่างเยือกเย็น “ตามที่เจ้าต้องการ!”
ต้วนมู่ฉิงเหยียดมือข้างหนึ่งออกไปและกองเนินก็ถูกปกคลุมด้วยน้ําแข็ง พวกเขามองเห็นเกล็ดหิมะโปรยลงไปเหมือนกับดวงดาวผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็กลายเป็นเนินน้ําแข็ง
“บูม!”
ต้วนมู่ซึ่งกําหมัดของนางและกองน้ําแข็งก็ระเบิดออก ชิ้นน้ําแข็งนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงพื้นพร้อมกับเสียงกริ้ง
เนินดินอันเดิมหายไป หลุมมืดมิดปรากฎขึ้นมาแทน หลุมนี้ดูราวกับไร้กันและมีสายลมเย็นเฉียบพัดออกมา
“นี่คือทางเข้านิกายหลี่เพลิง ข้าได้บุปผาเหมันต์ลึกล้ํามาแล้ว ตามที่ได้ตกลงกัน,ข้าไม่สามารถเข้าไปข้างใน เช่นนั้น,ข้าขอตัวก่อน” หลังจากที่ต้วนมู่ฉิงกล่าวจบ,นางหันหลังและจากไปในทันที
วินาทีนั้น,ทุกคนไม่อาจข่มจิตข่มใจเอาไว้ได้ พวกเขาวิ่งกรูกันไปที่ทางเข้าในทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึงที่หลุม,มีคนกล่าวขึ้นมาเสียงดัง “ต้วนมู่ฉิง,เจ้ายังไปไม่ได้ หากเจ้าไป,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําก็ต้องไปกับเจ้าด้วย พวกเราก็ต้องเดินทางผ่านเทือกเขาน้ําหมึก?”
แน่นอน,หากต้วนมู่ฉิงออกไปแล้ว,ราชวังเหม นต์ลึกล้ําก็ต้องตามออกไปด้วยเช่นกัน เป็นไปได้ว่าหลังจากที่พวกเขาออกมา,พวกเขาต้องเดินทางผ่านใจกลางของเทือกเขาน้ําหมึกเพื่อกลับออกมา?!
แม้ว่ามันจะอันตรายน้อยกว่าการบินไปบนฟ้า,แต่ผู้คนที่เหนื่อยล้าหลังจากกลับออกมาจากป่าน้ําหมึก ยังมีอันตรายถึงตาย
การเดินเท้าออกไปจะปลอดภัยกว่านั่งราชวังเหมันต์ลึกล้ําได้อย่างไร?
หากพวกเขาขึ้นราชวังน้ําแข็งไป,พวกเขาไม่ต้องเป็นกังวล
ฝูงชนเห็นตรงกันอย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว,ต้วนมู่ฉิง,เจ้ายังออกไปไม่ได้เจ้าต้องรอพวกเรา หลังจากที่พวกเราออกมา,เจ้าถึงไปได้”
ต้วนมู่ฉิงคิ้วขมวดเล็กน้อยและมองอย่างเย็นชาไปที่คนที่กล่าวออกมา “
ตั้งแต่เมื่อไหรที่เจ้ามาสั่งข้าได้ ข้อตกลงของพวกเราจบลงแล้ว ทางเข้านิกายหลเพลิงก็อยู่ตรงนั้น มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลต้วนมู่”
จีชางคงมองลงไปที่หลุมไร้กัน,และจากนั้นเขา ก็มองไปที่ต้วนมู่ฉิงและกล่าว “แล้วอย่างนี้เป็นเช่นไร พวกเราไม่รู้แม้กระทั่งว่านิกายหลี่เพลงนี้เป็นของจริงหรือไม่ เอาเป็นว่าเจ้าลงไปพร้อมกับพวกเรา?”
หากเป็นเช่นนี้ มันก็เหมือนกับข้อตกลงในตอนแรกของนางก็กลายเป็นลงถังขยะ
อย่างไรก็ตาม,พวกเขาไม่อาจไปกล่าวโทษต้วนมู่ฉิง นี่เป็นการตัดสินใจของพวกเขา ต้วนมู่ฉิงไม่ได้ผิดข้อตกลงของนาง นางเพียงใช้ลูกเล่นเล็กน้อยไม่ให้ถูกจับได้ง่ายนัก
เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชากับตัวเอง มันเป็นอย่างที่ฉวาหยุนเฟยได้กล่าวเอาไว้,ทุกอย่างเป็นประโยชน์ให้กับต้วนมู่ฉิง
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าซากนิกายหลี่เพลงนี้เป็นของจริง
สําหรับเซียวเฉิน,ราชวังเหมันต์ลึกล้ําของตระกูลต้วนมู่ไม่ได้ดึงความสนใจของเขานัก ไม่มีปัญหาที่เขาจะพึ่งพาตัวเองเดินทางออกไปจากเทือกเขาน้ําหมึก
แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลามากขึ้น แต่ก็ไม่มากเกินไป เซียวเฉินสามารถคิดเสียว่ามันเป็นการเดินทางฝึกฝน
ทันใดนั้น,เซี่ยวเฉินสังเกตเห็นว่าฉ่ฉาวอวิ่นเดิน
จากความลังเล,เซียวเฉินตามไปอย่างเงียบๆ
“ฟุ ฟิว!”
ขณะที่ฝูงชนตรงทางเข้ายังตกลงกันไม่ลงตัว, ฉ่ฉาวอวิ่นและเซี่ยวเฉินได้กระโดดลงไปแบบไร้เสียง พวกเขาเข้าไปในนิกายหลี่เพลิงเป็นสองคนแรก
“สองคนนั้นเป็นใคร? ทําไมพวกเขาถึงเร็วนัก ตามไปเร็ว,มิฉะนั้น,ของดีๆจะถูกฉกฉวยเอาไปหมด”
“ให้ตาย! ช่างมัน พวกเราตามไปเร็ว การเผชิญโชคกําลังรอค่อยพวกเราอยู่”
การกระทําของฉ่ฉาวอวิ่นและเซียวเฉินพังความนิ่งเงียบลง มีหมายคนที่ไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเร่งไปที่หลุมและกระโดดลงไปให้รวดเร็วที่สุดที่พวกเขาจะทําได้
มีเพียงสองสามคนที่ยังคงสงบนิ่งอยู่ พวกเขาไม่รีบร้อนกระโดดลงไป พวกเขากลับรอดูว่าต้วนมู่ฉิงจะทําเช่นไร
ไม่ต้องพูดถึงการเดินทางขากลับ,หากปราศจากข้อมูลของซากแห่งนี้, พวกเขาไม่รีบร้อนที่จะลงไป
ในเมื่อต้วนมู่ฉิงได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ นางจะต้องเป็นคนที่มีความเข้าใจมากที่สุด นอกจากนั้น,ด้วยราชวังเหมันต์ลึกล้ําค่อยปกป้องพวก เขา,ไม่มีความสําเป็นที่พวกเขาจะต้องเป็นกังวล เกี่ยวกับการเดินทางผ่านเทือกเขาน้ําหมึก
เห็นได้อย่างชัดเจน ตอนนี้สิ่งต่างๆได้มาถึงขึ้นนี้แล้วการติดตามต้วนมู่ฉิงเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินยอมนัก,แต่พวกเขาก็ไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้
ต้วนมู่ฉิงนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง จากนั้น,นางกล่าว “เอาเถอะ ข้าสามารถไปกับพวกเจ้าเพื่อตรวจสอบซากนิกายหลี่เพลิง”
นี่เป็นสัญญาณว่าหลังจากที่พวกเขากลับออกมา,ทุกคนจะมีโอกาสได้นั่งราชวังเหมันต์ลึกล้ํา บางครั้งก็ไม่มีความสําเป็นที่ต้องตรงไปตรงมา
ทุกคนมีความรู้สึกแปลกประหลาดในใจขณะที่ต้วนมู่ฉิงนําหน้าพวกเขา,ค่อยๆกระโดดลงไปในหลุมมืดมิด
“เวง!”
เซี่ยวเฉินและฉ่ฉาวอวิ่นต่างลงถึงพื้นพร้อมกัน พวกเขาเหลียวมองกันและเมินไป จากนั้น,สายตาของพวกเขาก็จ้องมองไปที่ฉาก ด้านหน้า