เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 56 ภายใต้ชายคาเดียวกัน
บทที่ 56 ภายใต้ชายคาเดียวกัน
ไม่รู้ว่าประโยคนี้ไปแตะเกล็ดมังกรส่วนไหนของจี้จิ่งเชิน
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
สายตาแอบมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน ดูไม่ออกว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไร
“คุณชอบทำก็ทำ เมื่อถึงเวลาลำบาก ก็อย่ามาหาฉัน”
“อืม”เวินเที๋ยนเที๋ยนขานรับเสียงเบา
เมื่อเห็นว่าเธอไม่กล้าตอบ สีหน้าของเขายิ่งดูไม่ดี สายตาพุ่งทะยานด้วยความโกรธ ท้ายที่สุดก็เก็บทุกอย่างกลับไป แล้วเดินกลับไปที่รถอย่างรวดเร็ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ที่เดิม
เมื่อจี้จิ่งเชินไม่เห็นเธอมา ก็เตะไปที่ประตูรถ
“ยังไม่มาอีกเหรอ? คุณอยากจะเดินกลับเองเหรอไง?”
น้ำเสียงที่เบื่อหน่าย ไม่รู้ว่ากำลังโกรธใคร
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปขึ้นรถโดยพูดอะไร
เมื่อกลับมาถึงบ้าน จี้จิ่งเชินก็สะบัดเวินเที๋ยนเที๋ยนออก แล้วเดินเข้าห้องรับแขกอย่างเย็นชา
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นใบรายชื่อที่อยู่ในมือให้พ่อบ้านดู
“พ่อบ้าน ถ้าหากมีคนมาร่วมงานฉลองวันเกิดเยอะ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?”
พ่อบ้านรู้ว่าที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาที่ตระกูลจี้ในครั้งนี้ เพราะงานฉลองวันเกิดของจี้คาง แต่คิดไม่ถึงว่าฉวีช่วยฉินจะให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรับผิดชอบงานฉลองวันเกิดที่ใหญ่นี้คนเดียว
งานฉลองวันเกิดครบรอบ 60 ปีของจี้คางไม่สามารถทำอย่างสะเพร่าได้ เมื่อก่อนนั้นต้องใช้คนตั้งมากมายจัดการ
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะให้เวินเที๋ยนเที๋ยนจัดการ อีกทั้งยังมีเวลาแค่ 5 วันเท่านั้น
พ่อบ้านขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าคุณหญิงจะไม่ค่อยชอบลูกสะใภ้ที่ตัวเองเป็นคนเลือก
แต่ไม่ใช่เป็นเพราะพวกเขาบีบบังคับให้คุณชายต้องแต่งงานเหรอ?
เขาสงสัยอยู่ในใจ พ่อบ้านคลายการขมวดคิ้วออก แล้วตอบตามหน้าที่
“เมื่อก่อนฉันและพ่อบ้านตระกูลอื่นได้เคยจัดเตรียมงานเลี้ยงที่คล้ายกัน หลังจากฉันจัดการข้อมูลเสร็จ จะมอบให้คุณ”
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความสุข
“ถ้าอย่างนั้น ถ้าจะไปหยิบกับคุณตอนนี้เลย”
“เอ่อ…..”
พ่อบ้านหันหน้ามามองจี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นว่าเข้าไม่พูดอะไร ก็พยักหน้า
“ได้ เชิญท่านมากับฉัน”
“ได้”
ห้องของพ่อบ้านตระกูลจี้อยู่หลังปราสาทขนาดมโหฬาร เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามพ่อบ้านออกจากประตูไป
รถสปอร์ตสีแดงเพลิงขับมาอย่างรวดเร็วจากไกลๆ แม้ถึงหน้าประตูก็ยังไม่ลดความเร็ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนและพ่อบ้านตกใจจนหยุดเดิน
เมื่อรถสปอร์ตปะทะเข้ากับประตู ก็เลี้ยวหลบจนเสียงดังเอี๊ยด ล้อถูกับพื้นเสียงดัง จนได้ยินกันหมด
เมื่อประตูรถถูกเปิดออก ก็เห็นเพียงเจียงหยู่เทียนใส่แว่นกันแดดเดินลงมา
เธอแต่งหน้าค่อนข้างเข้ม หลังจากลงจากรถ ก็ได้กำชับคนขับที่นั่งในห้องโดยสาร
“เอากระเป๋าและเสื้อผ้าพวกนี้กลับไป แล้วจัดเก็บแต่ละชุดให้ดี ฉันขอเตือนคุณ ว่ามีกี่ชุดฉันจำได้ทั้งหมด ถ้าหากคุณกล้าขโมยไปแม้แต่ชุดเดียว ฉันจะให้คุณติดคุก”
ดูเหมือนคนขับรถจะเป็นชายอายุ 40 ที่ซื่อสัตย์
เมื่อได้ยินที่เจียงหยู่เทียนพูด ก็ขมวดคิ้ว
“คุณหนูเจี่ยง ฉันไม่เคยขโมยอะไร”
เจียงหยู่เทียนสบถออกมา
“เมื่อก่อนไม่เคยขโมย ไม่ได้แสดงว่าต่อไปจะไม่ขโมย กระเป๋าราคาแพงวางอยู่ต่อหน้าคุณ ใครจะไปรู้ว่าคุณจะทำอะไร?”
เธอเก็บแว่นกันแดด แล้วพูดต่อ “จริงสิ ต่อไปคุณไม่ต้องมาอีกแล้ว ฉันจะขับรุเอง”
คนขับรถพูดอย่างตกใจ “แต่ว่า ท่านยังไม่มีใบขับขี่”
“เมื่อสักครู่ ฉันขับไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น”
“จะเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?จี้จิ่งเชินจะช่วยฉันทำให้มันเงียบได้ทุกเรื่อง”
พูดจบ เธอก็หันหลังถือกระเป๋าใบเล็กเดินจากไป
เมื่อปะทะเข้ากับเวินเที๋ยนเที๋ยนและพ่อบ้าน เธอก็หยุดตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
“พี่เนี่ยนเหยา วันนี้ฉันอยากจะไปดูงานแสดงรถกับจี้จิ่งเชิน คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเจียงหยู่เทียนด้วยรอยยิ้มที่สดใส
เธอแน่ใจว่าเจียงหยู่เทียนมองเธอออก แต่ทำไมถึงยังแสดงละครอยู่?
สายตาจ้องมองเล็กน้อย เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่พูดอะไร ได้แต่ทำให้เจียงหยู่เทียนเป็นอากาศ
“พ่อบ้าน พาฉันไปเถอะ”
“รับทราบ”
พ่อบ้านพาเธอเดินไปทางด้านหลัง
เธอยืนมองพวกเขาอยู่ที่เดิม กัดฟันแน่นและเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปาก
“เหมือนกับเมื่อก่อน”ช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์เสียจริงๆ
ทันทีเห็นจี้จิ่งเชินอยู่ในห้องรับแขก รอยยิ้มที่ดุร้ายบนใบหน้าก็หายไปในทันที
“พี่จี้จิ่งเชิน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามพ่อบ้านจนมาถึงห้องด้านหลัง เธอยืนรอที่ประตูด้านนอก
ผ่านไปไม่กี่นาที เขาก็หอบเอาเอกสารสูงหลายเซนติเมตรเดินออกมา
“คุณหนูเจี่ยง ทั้งหมดอยู่ที่นี่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเอกสารลับๆนั้น ก็อดที่จะเบิกตากว้างไม่ได้
“ทำไมถึงได้เยอะอย่างนี้?”
พ่อบ้านกล่าว “นี่เป็นแค่ข้อมูลงานเลี้ยงเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ฉันและพ่อบ้านตระกูลอื่นทั้ง 3 ท่าน ใช้เวลาสองอาทิตย์ถึงทำเสร็จ”
พูดจบ เขาก็มองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน เพื่อต้องการบอกเธอว่า ขอบเขตของงานเลี้ยงเช่นนี้ เธอไม่สามารถทำสำเร็จได้ภายใน 5 วัน อย่างแน่นอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปาก แล้วยื่นมือออกไป
“ส่งมาให้ฉัน”
เมื่อพ่อบ้านเห็นเธอไม่ยอมลดละความพยายาม ก็ทำได้แค่พูดว่า “ฉันจะให้คุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับมาเล็กน้อย ช่วยให้เธอไม่หนักมาก
ทั้งสองคนเพิ่งกลับมา เมื่อเดินเข้าประตู ก็ปะทะกับจี้จิ่งเชินและเจียงหยู่เทียนเดินออกมา
ใบหน้าของเจียงหยู่เทียนมีรอยยิ้มที่หวานชื่นมีความสุข และซบที่ไหล่ของจี้จิ่งเชิน
“ฉันเอารถคันนั้น ไม่มีใบขับขี่แล้วจะเป็นยังไงเหรอ? ฉันขับเป็นตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ได้จริงๆ ถึงเวลาค่อยให้คุณพาฉันไปนั่งรถรับลม”
จี้จิ่งเชินส่ายหน้าอย่างจำใจ
“ถ้าคุณทำไมได้ ฉันจะให้พวกเขาไปรับกลับมา”
“พี่จี้จิ่งเชิน คุณช่างดีกับฉันจริงๆ”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นทั้งสองเดินออกมา ก็ละสายตาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น
แต่เจียงหยู่เทียนกลับตั้งใจเรียกให้เธอหยุด
“พี่เนี่ยนเหยา คุณจะไปด้วยไหม? แต่ว่า…..
เธอประเมินเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่สักพัก
“คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ครั้งนี้พวกเราจะไปงานแสดงรถยนต์ระดับวีไอพี คนข้างในนั้นรวย ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าอย่างนี้ไป…..”
เจียงหยู่เทียนแสร้งยิ้มอย่างยากลำบาก
“ฉันไม่ได้บอกว่าชุดของคุณไม่ดี แต่ฉันเป็นกังวลหน้าตาของพี่จี้จิ่งเชินจะดูไม่ดี”
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่สักครู่ ก็ตั้งใจไม่มองเธออีก
“ถ้าคุณอยากจะไป ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“ฉันไม่ว่าง”
ยังไม่ทันที่จะรอให้เขาพูดจบ เจียงหยู่เทียนก็กอดเอกสารที่อยู่ในมือแน่น แล้วเดินเข้าไปข้างใน
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นชาไปทั้งแถบ ราวกับปกคลุมด้วยน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาอย่างนี้มาก่อน
พ่อบ้านรีบพูดอธิบาย “คุณหนูเจี่ยงต้องรีบไปจัดการเรื่องงานเลี้ยง อารมณ์อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไร”
เดิมทีเจียงหยู่เทียนไม่อยากเอ่ยปาก พวกเขายิ่งทะเลาะกันยิ่งมากยิ่งดี
แต่เมื่อเห็นพ่อบ้านพูด เธอก็พูดโน้มน้าว “พี่เนี่ยนเหยาลำบากขนาดนี้ อย่าโกรธไปเลย”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินถึงได้ยิ้ม แล้วสบถออกมา
“ใครให้เธอรับ”
เมื่อทั้งสองคนออกไป พ่อบ้านก็ถือเอกสารตามเวินเที๋ยนเที๋ยนไป เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดไปให้เธอที่ห้อง
พ่อบ้านคิดแล้วคิดอีก แล้วกล่าว “ถ้าหากท่านมีปัญหาอะไร ฉันสามารถให้คำตอบท่านได้”
“อืม”
เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายของเขา พ่อบ้านก็รู้สึกไม่วางใจ
“คุณหนูเจี่ยง ความหมายของฉันคือ ท่านสามารถขอให้คนมาช่วยคุณเตรียมงานเลี้ยง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนละจากเอกสาร แล้วเงยหน้าขึ้นมา
“ไม่ต้อง ฉันทำเองได้”
ฉวีช่วยฉินตั้งใจกลั่นแกล้งเธอ หากเธอหาคนมาช่วยทำจนเสร็จ ฉวีช่วยฉินคงจะไม่พอใจ
มีแค่เธอที่ทำคนเดียวจนสำเร็จ ถึงทำให้ปากของเธอสงบลงได้