เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 40 มีพ่อแต่ไม่มีแม่
บทที่ 40 มีพ่อแต่ไม่มีแม่
คนในห้องพักอาจารย์ทุกคนหันมามอง ทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปยุ่ง ทำได้แค่เป็นผู้ชมที่ดี
ฉวีฮุ่ยมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความตกใจ แสยะยิ้มออกมา ราวกับได้ฟังเรื่องตลกขบขัน
“ขอโทษ?นี่เธอตาบอดเหรอ?ไม่รู้หรือไงว่าเมิ่งเซวียนเป็นใคร?ยังจะกล้ามาบอกให้พวกฉันขอโทษอีก?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามควบคุมตัวเอง แล้วตอบกลับว่า:“ถอนคำพูดที่เธอเมื่อกี้นี้ซะ!”
“ฉันพูดว่าอะไรเหรอ?”
ฉวีฮุ่ยทำท่าครุ่นคิด แล้วจู่ๆก็ยิ้มร่าออกมา:“อ่อ ไม่มีการศึกษา?ได้สิ ถ้าเธอไม่ชอบประโยคนี้ เดี๋ยวฉันเปลี่ยนให้ใหม่”
เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“ฉันจะบอกให้ฟังนะ ยัยเด็กกำพร้า……”
เพี๊ยะ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนง้างมือ ตบเข้าไปเต็มๆ
เธอโมโหจนมือสั่นเบาๆ
“ฉันบอกให้เธอขอโทษ!”
ฉวีฮุ่ยเบิกตาโพลง แต่ยังไม่มีการตอบสนองใด ๆ
ห้องเรียนเงียบขึ้นมาในทันใด ทุกคนมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความตกใจ
ใคร ๆก็รู้ว่า ลุงของอู๋เมิ่งเซวียนเป็นรองอธิการบดีของมอ ลืบซานก็เป็นเหมือนบ้านของพวกเธอ
ปกติแล้วเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครกล้าลงมือได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ
เคยมีคนหาเรื่องกับเธอ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็ถูกไล่ออกจากมอ
แต่ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนตบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นอย่างอู๋เมิ่งเซวียน และเธอคงจบไม่สวยแน่
เพิ่งจะเปิดเรียนวันแรก ก็อาจถูกไล่ออกจากมหาลัยได้เลย
ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉวีฮุ่ยเริ่มมีการตอบสนอง
เธอลูบไปที่หน้าที่โดนตบ
“แกกล้าตบฉัน?เมิ่งเซวียน มัน!มันตบฉัน!”
เมิ่งเซวียนขมวดคิ้วเป็นปม ถึงเธอจะรู้สึกว่าฉวีฮุ่ยน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม
แต่ฉวีฮุ่ยก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดี
แต่ตอนนี้ฉวีฮุ่ยโดนตบต่อหน้าคนทั้งห้อง แล้วจะให้เธอเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“นี่เธอกล้าตบคนอื่นเลยเหรอ?เพิ่งมาวันแรกก็มีพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้!เชื่อมั้ยว่าฉันสามารถทำให้เธอหายไปจากมหาลัยนี้ได้เลย!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนในใจเต้นแรงมาก แค่มองก็รู้แล้วว่า ทั้งสองคนตรงหน้าเธอนั้นต่อกรไม่ได้ง่ายๆแน่
แต่ฉวีฮุ่ยล้ำเส้นเข้ามาในพื้นที่ต้องห้ามในใจของเธอ!
มีแค่สิ่งนี้เท่านั้น ที่เธอไม่ยอมให้โดนดูถูกเหยียดหยาม!
“ฉันแค่อยากให้เธอถอนคำพูดของตัวเองแล้วขอโทษ”
“ขอโทษอะไรของเธอ?เธอพูดอะไรผิดล่ะ?ฉันไม่ให้เธอได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ก็อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถ”
เธอเดินเข้ามา แล้วจิ้มไปที่ไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนหลายครั้ง
“ฉันจะบอกอะไรให้ ที่ลืบซานไม่มีที่ให้พวกบ้านนอกอย่างพวกแก!”
พูดถึงตรงนี้ อาจารย์ผู้ชายที่หอบเอกสารมาเป็นตั้งก็เดินเข้าประตูมา
พอเห็นบรรยากาศมาคุภายในห้อง :“ทุกคนนั่งลง จะเริ่มการปฐมนิเทศแล้ว”
อู๋เมิ่งเซวียนจ้องมาที่เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาเคียดแค้น และเดินผ่านตัวเธอไป ก่อนจะชนเธอไปอีกหนึ่งที
“อย่าคิดว่าเรื่องจะจบแค่นี้ เตรียมตัวไว้ซะ!”
ทุกคนนั่งลงอย่างสงบ
หมี่เซี่ยพยายามผ่อนคลายหมัดที่กำเอาไว้ตลอด และเดินไปนั่งที่แถวหลังสุด
ตอนแรกมีคนที่นั่งข้างเธอ แต่เห็นเธอเดินมานั่งข้างๆ ก็รีบลุกขึ้น แล้วไปนั่งข้างหน้าอย่างไว
ทุกคนต่างรู้ถึงความร้ายกาจของอู๋เมิ่งเซวียน เลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เวินเที๋ยนเที๋ยน และไม่มีใครกล้าคุยกับเธอ เพราะกลัวจะซวยไปด้วย
อาจารย์ประจำคลาสยังหนุ่มมาก ๆ แซ่หลี่ ดูๆแล้วน่าจะอายุไม่เกินสามสิบ ใส่แว่นตากรอบดำ ดูมีการศึกษา
เขาเคาะกระดานดำ เพื่อเรียกบรรยากาศให้กลับมาสดใส
“วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน ทุกคนคงยังไม่ค่อยสนิทกัน ขอให้แต่ละคนออกมาแนะนำตัวกันตามลำดับด้วยครับ”
คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าเดินออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจ
คนที่อยู่ในห้องนี้ล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานของคนรวยทั้งนั้น และยังดูสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวอีกด้วย
พอเริ่มมีการพูดคุยกัน บรรยากาศในห้องก็เริ่มดีขึ้น ถึงขนาดหัวเราะกันสนุกสนาน