เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 35 ต้องไปเรียนแล้ว
บทที่ 35 ต้องไปเรียนแล้ว
พอเห็นว่าจี้จิ่งเชินไม่อยู่ เธอก็ค่อยๆเดินออกมา
“คุณหนูเจี่ยง กำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ?”
เสียงของพ่อบ้านดังขึ้นข้างหลังเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหันมา
“ฉันก็กำลังจะไปกินข้าวไง”
พ่อบ้านมองไปที่เธอ และชูมือขึ้นมาชี้ไปอีกทาง
“เดี๋ยวผมพาไปครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามเขาไปติดๆ และถามด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า
“คุณชายจี้ไปที่บริษัทแล้วเหรอคะ?”
“คุณชายออกไปตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วแล้วครับ”
พอไป พ่อบ้านก็กวาดสายตามองเธอไปหนึ่งที
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มองเขา นี่เขามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นเพราะแค่ฉันตื่นสายเหรอ?
·แต่ในเมื่อจี้จิ่งเชินไม่อยู่ เธอก็เลยโล่งใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามหลังพ่อบ้าน แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เขาไม่อยู่พอดี สร้อยเส้นนั้นซ่อมอีกวันนึง ก็เป็นอันเสร็จ พรุ่งนี้ก็สามารถเอาคืนให้จี้จิ่งเชินได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งเก้าอี้ เตรียมตัวกินข้าว
กำลังเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นจี้จิ่งเชินกำลังเดินเข้ามาจากนอกบ้าน
เวินเที๋ยนเที๋ยนพอเห็นเขา ก็รีบยืนขึ้น
“คุณชายจี้”
จี้จิ่งเชินหยุดเดิน ยืนตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน เขายิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
“เมื่อคืนนี้ เธอพูดเก่งกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?ทำไมวันนี้ถึงได้ตรงข้ามเลยล่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่กล้ามองตา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ใช่เหรอคะ?”
จี้จิ่งเชินไม่ตอบ แต่หันไปพูดย้ำกับพ่อบ้านว่า
“ช่วยไปหยิบถุงกระดาษสีน้ำเงินที่ผมวางไว้ในห้องหนังสือมาให้หน่อย”
พอพ่อบ้านเดินไป เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ก้มหน้าก้มตา จนแทบจะเอาหน้ามุดเข้าไปในชาม
จี้จิ่งเชินเดินไปยืนตรงหน้าเธอ
“พ่อกับแม่เธอส่งของมาให้ บอกว่าเตรียมโรงเรียนไว้ให้เธอแล้ว อีกสองวันก็เริ่มเรียนได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้ามองด้วยความตกใจ
“ไปเรียน?”
“ใช่”
ตอนนั้นเอง พ่อบ้านก็ขนของลงมาพอดี
จี้จิ่งเชินยื่นมือเข้าไปรับ พลิกดู และหยิบเอกสารข้างในออกมาสองสามฉบับ วางลงตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
“นี่คือเอกสารที่ต้องใช้ เธอไปจัดการให้เรียบร้อย อีกสองสามวันเตรียมตัวไปเรียน”
พูดจบ ไม่รอให้หมี่เซี่ยได้เอ่ยปาก เขาก็หันหลังเดินไปแล้ว
พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆก็โน้มตัวลงมา
“คุณชาย เดินระวังๆครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเขาเดินไป ก็รีบหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาดู
เอกสารที่อยู่บนสุดคือจดหมายตอบรับการเข้าเรียน
“มหาวิทยาลัยลืบชาน?คณะบริหารธุรกิจ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกกระดาษไปมา นี่เจี่ยงหงซึ่งช่วยเธอยื่นสมัครเข้าเรียนในฐานะตัวแทนเจี่ยงเนี่ยนเหยา
แค่ไม่คิดว่า พวกเขาคณะที่พวกเขาจะยืนเป็นคณะบริหารธุรกิจ
แถมสามวันหลังจากนี้ก็ต้องเริ่มเรียนแล้ว
ตอนอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอยื่นสมัครเข้าคณะวิจัยและฟื้นฟูวัตถุโบราณ
แต่คิดไม่ถึงว่าด้วยความบังเอิญนี้ ทำให้เธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยลืบชานจริง ๆ แต่ที่ไม่คาดคิดเลยนั่นก็คือความจริงแล้วเธออยู่คณะบริหารธุรกิจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกกระดาษไปมาด้วยความรวดเร็ว นี่เป็นข้อมูลใหม่ของเธอทั้งหมด
รวมไปถึงเอกสารรับรองต่าง ๆ กรุ๊ปเลือด รูปภาพ ทั้งหมดถูกเปลี่ยนใหม่หมด
เธอตักข้าวเช้าของเธอกินอย่างไว จากนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็กลับเข้าห้องไป และเริ่มทำงานส่วนที่ค้างคาไว้
ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าก้มตา เอาชิ้นส่วนโลหะที่ต้องซ่อมใส่อันใหม่เข้าไป
เป่าลงไปเบาๆ สร้อยคอในมือของเธอส่องกระทบแสงจากหลอดไฟวิบวับ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจ และนวดไปเบาๆที่ต้นคอที่ปวดนั้น
เธอนั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือทั้งวัน แต่ในที่สุดก็ซ่อมสร้อยคอนี้เสร็จจนได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปิดดูสร้อยคอ ตำแหน่งที่เอาไว้ใส่รูปภาพยังคงว่างเปล่า ยิ่งทำให้อยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้นไปอีก
จี้จิ่งเชิน ทำไมถึงได้สนอกสนใจสร้อยคอเส้นนี้กันนะ?
และเวินเที๋ยนเที๋ยนก็สัมผัสได้ตลอดว่า ความสัมพันธ์ของจี้จิ่งเชินกับตระกูลจี้มันมีอะไรแปลกๆ
เธอเอาสร้อยใส่ลงไปในกล่องเหมือนเดิม และปิดมันลงเบาๆ
นี่เป็นผลงานชิ้นแรกที่เธอค่อยๆ ปรับปรุงซึ่งมันมีมูลค่าของมันนับไม่ได้เลยก็ว่าได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบสร้อยคอเดินลงไป เห็นว่าจี้จิ่งเชินยังไม่กลับมา จึงได้แต่นั่งรอเขาที่โซฟา