เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 305 เด็กหาย
บทที่ 305 เด็กหาย
จี้จิ่งเชินเดินออกไปด้วยความโกรธ เมื่อออกไปนั้นก็พบว่าบริเวณลานที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยหิมะถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
เขาขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับถามพ่อบ้านที่อยู่ข้าง ๆ ว่า
“พ่อบ้านทำความสะอาดเหรอ? ”
เขาจำได้ว่าเมื่อคืนหิมะตกลงมาอย่างหนัก
พ่อบ้านกับแม่บ้านไม่กี่คนไม่น่าจะทำความสะอาดได้เร็ว และสะอาดได้
พ่อบ้านส่ายหน้าพร้อมทั้งยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “เด็ก ๆ ตื่นมาช่วยกันทำความสะอาดตั้งแต่เช้าแล้วครับ เด็ก ๆ เหล่านี้น่ารักมากเลยนะครับ น่ารักเหมือนคุณหนูเวินเลย”
จี้จิ่งเชินได้ยินเช่นนี้แล้วก็หันไปมองทันที
และทันใดนั้นเด็ก ๆ สองสามคนก็เดินออกมาพอดี
ไม่รู้ว่าไปเล่นซุกซนที่ไหนมาหน้าตาถึงได้มอมแมมขนาดนี้ แถมน้ำมูกยังไหลออกมาพร้อมทั้งยิ้มอย่างไร้เดียงสา
จี้จิ่งเชินมองดูแล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
เป็นไปไม่ได้
เด็กแบบนี้ทำไมถึงได้เหมือนเที๋ยนเที๋ยนขนาดนี้?
จี้จิ่งเชินมองหน้าพวกเธอด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเขาก็พูดกับตัวเองในใจว่า
สองเดือน สองเดือน
เวลาแค่สองเดือนเท่านั้น
รอกลับจากบริษัทหล่อนซื่อในช่วงบ่ายจี้จิ่งเชินยังต้องใช้เวลาในการเดินทางนี้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป
หลังจากกลับไปที่คฤหาสน์ ทำงานเพิ่มจนถึงดึกดื่นก็คงจะเคลียร์ งานทั้งหมดเสร็จ
จี้จิ่งเชินมองดูเอกสารที่อยู่ในมือไปด้วยพร้อมทั้งเดินลงจากรถเดินเข้าไปในคฤหาสน์
เขายังไม่ทันได้เข้าประตูบ้านก็หันไปเห็นพ่อบ้านที่กำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่ร้อนใจ จากนั้นพ่อบ้านก็ทั้งวิ่งเข้ามาหาจี้จิ่งเชิน
“คุณผู้ชาย ในที่สุดก็กลับมาแล้ว”
จี้จิ่งเชินไม่ค่อยเห็นท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนของพ่อบ้านบ่อยนัก เขาจึงถามขึ้นว่า: “เป็นอะไรไป? ”
พ่อบ้านขมวดคิ้วขึ้นพร้อมทั้งพูดว่า
“เด็กหายไปไหนไม่รู้สองคน”
จี้จิ่งเชินได้ยินเช่นนี้ก็ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า: “หายไปได้ยังไง? ไม่ใช่ว่าให้พวกเขาอยู่แต่ในคฤหาสน์นี้เหรอ?”
พ่อบ้านพูดว่า: “มีเด็กบอกว่าเห็นพวกเขาเดินไปที่สวนหลังคฤหาสน์ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะหลงทางครับ”
จี้จิ่งเชินขมวดปมคิ้วขึ้น
“หายไปนานแค่ไหนแล้ว? ”
“หายไปประมาณสี่ถึงห้าชั่วโมงแล้วครับ ผมเห็นคุณผู้ชายทำงานก็เลยไม่ได้ให้ทราบครับ”
จี้จิ่งเชินยื่นเอกสารในมือให้จงหลีที่ยืนอยู่ด้านหลัง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้านใน
พร้อมทั้งพูดว่า: “สั่งให้คนปิดประตูทางเข้าออกทุกทาง ช่วยกันค้นหาการหายตัวไปของพวกเธอ และกระจายกำลังคนไปหาพวกเธอให้เจอโดยเร็วที่สุด ”
สวนด้านหลังคฤหาสน์เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับป่าอันกว้างใหญ่ หากพวกเธอหลงเข้าไปในป่านั้นอาจจะเจอกับสัตว์ร้ายได้
แถมตอนนี้ก็ใกล้จะค่ำมืดแล้วด้วย หากช้าไปกว่านี้จะเป็นอันตรายได้
จี้จิ่งเชินก้าวเท้าไปสองย่างก้าว จากนั้นก็หันมาถามว่า: “แจ้งเรื่องนี้ก็เที๋ยนเที๋ยนหรือยัง? ”
พ่อบ้านส่ายหน้า
เขารู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความผูกพันกับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก หากเธอรู้ว่าเด็ก ๆ หายตัวไปเธอจะต้องเป็นกังวลใจเป็นอย่างมากแน่
จี้จิ่งเชินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า: “ยังไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับเธอก่อน หากคืนนี้หาตัวเด็ก ๆ เจอห้ามบอกเรื่องนี้กับเธอเด็ดขาด หากคืนนี้ยังหาไม่เจอฉันจะเป็นคนไปบอกเธอเอง”
ขณะที่พูดอยู่นี้จี้จิ่งเชินยังไม่ทันได้เข้าประตูบ้าน แต่กลับหันเดินไปสวนหลังยังคฤหาสน์
จี้จิ่งเชินเงยหน้าพร้อมกับสั่งว่า: “ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปค้นหาทางอากาศสองลำ คืนนี้เราจะต้องหาเด็กให้เจอ”
ไม่นานบอดี้การ์ดที่จี้จิ่งเชินเรียกมาก็ได้มาถึงเพื่อที่จะเข้าไปในสวนหลังคฤหาสน์
เขาที่ยืนอยู่ด้านนอกเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ตอนนี้ยามค่ำแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา และกำลังจะมืด
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น
“แน่ใจใช่ไหมว่าเด็ก ๆ ได้หายเข้าไปด้านใน? ”
พ่อบ้านพยักหน้า
“เด็ก ๆ สองคนเห็นครับ เห็นบอกตอนแรกจะเข้าไปด้วยกัน แต่สุดท้ายเด็กอีกสองคนไม่ได้เข้าไปด้วย เหลือสองคนนั้นนั้นที่เข้าไป”
จี้จิ่งเชินมองดูป่าไม้ที่มืดสนิทอยู่ตรงหน้า
“กำลังคนไม่พอ หากำลังคนมาเพิ่ม และหาเด็ก ๆ ให้เจอโดยเร็วที่สุด หากรอให้มืดกว่านี้เด็กจะเป็นอันตรายได้”
พ่อบ้านหมดหนทางจึงพูดด้วยความรีบร้อนว่า: “แต่ว่ากำลังคนที่มีอยู่ทั้งหมดก็เข้าไปด้านในหมดแล้วนะครับ ตอนนี้ก็เกินกว่าร้อยคนแล้วจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบเลย”
เขามองดูจี้จิ่งเชินด้วยความกังวลใจเป็นอย่างมาก
โดยปกติเวลานี้เป็นเวลาที่จี้จิ่งเชินควรจะรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว และเริ่มที่จะเคลียร์งานที่คั่งค้างอยู่ของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ปแล้ว
จี้จิ่งเชินทำงานสองบริษัท ปกติแล้วเขาเจียดเวลาทำงานสองบริษัท ดึกมากกว่าเขาจะได้พักผ่อน
แต่วันนี้จนถึงตอนนี้แม้แต่ข้าวเขาก็ยังไม่ได้ทาน
พ่อบ้านพูดด้วยความกังวลว่า: “คุณผู้ชายครับ คุณผู้ชายไปหาอะไรทานก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะรอฟังข่าวจากทางนี้เอง หากมีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ”
จี้จิ่งเชินกลับไม่ตอบ แถมยังถอดเสื้อคลุมสูมออกพร้อมทั้งเดินมุ่งหน้าเข้าไปในป่า
“ฉันไปด้วยดีกว่าจะได้ช่วยหากัน ทางนี้ก็อย่าให้เกิดเรื่องอีกละ”
พ่อบ้านได้ยินเช่นนี้แล้วก็รีบห้ามเขาไว้ทันที
“แต่ว่า คุณผู้ชาย คุณผู้ชายยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะครับ? ”
จี้จิ่งเชินไม่สนใจ เขาเดินเข้าไปในป่าอย่างเร็ว
ป่าไม้ที่กว้างใหญ่ทึบขนาดนั้น แถมยังมีเถาวัลย์อีกหากจะตามหาจริง ๆ แล้วล่ะก็เปลืองทั้งเวลาเปลืองทั้งแรง และไม่รู้ว่าจะหาเจอไหม
ดังนั้นจะต้องรีบทำเวลา ใช้วิธีที่เร็วที่สุด ฉวยโอกาสตอนที่เด็ก ๆ ยังเดินออกไปไม่ไกลรีบพาตัวพวกเขากลับมา
จี้จิ่งเชินสั่ง
“กลุ่มหนึ่งไปทางนู้น ช่วยแยกย้ายกันตามหา สังเกตจากรอยเท้าของพวกเขา แบบนี้จะช่วยให้เราตามหาพวกเขาเร็วขึ้น”
พ่อบ้านยืนอยู่ข้างหลังจี้จิ่งเชินดูด้วยความเป็นห่วง
“คุณผู้ชาย คุณผู้ชายทานอะไรก่อนจะดีไหมครับ? ร่างกายเหนื่อยล้ามันจะไม่ดีนะครับ ที่นี่คนเยอะมากแล้วอีกไม่นานก็ต้องเจอเด็ก ๆ แน่ คุณ……”
พ่อบ้านยังพูดไม่ทันจบจี้จิ่งเชินก็ยกมือขึ้นตัดบทเขา
“ถ้าหากจะตามไปกับฉันก็หยุดพูดมากได้แล้ว ไปกับฉัน ไปตามหาเด็ก ๆ ให้เจอก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
พ่อบ้านขมวดคิ้วขึ้นพร้อมทั้งพยักหน้าในที่สุด
เขาคิดมาโดยตลอดว่าจี้จิ่งเชินนั้นไม่ชอบเด็ก แต่ตอนนี้เมื่อเห็นเด็ก ๆ อยู่ในอันตรายเขาก็ไปช่วยโดยที่ไม่ห่วงตัวเองเลย
แต่จี้จิ่งเชินนั้นไม่ได้คิดมากอะไร เขานำทางพ่อบ้านเดินเข้าไปในป่า
จากการตามหาของกำลังคนก่อนหน้านี้นั้น ตรงนี้ได้ถูกสำรวจแล้วรอบหนึ่ง
จี้จิ่งเชินมองดูรอยเท้าของเด็กทั้งสองอยู่กับที่ เด็กทั้งสองคนน่าจะเดินมาไม่ไกลขนาดนี้ถึงจะถูก
เขาขมวดคิ้วขึ้น และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่ามีเส้นทางเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับเส้นทางนี้
และเส้นทางนี้ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครเดินเข้าไปสำรวจ
“คุณผู้ชายครับ เส้นทางนี้เป็นทางตันนะครับ”
พ่อบ้านที่ตามหลังเขาพูดขึ้น
แต่ฝีเท้าของจี้จิ่งเชินนั้นไม่ได้หยุดชะงักแต่อย่างใด เขามุ่งหน้าเดินเข้าไปต่อ
จี้จิ่งเชินย่างเท้าเข้าไปเพียงแค่สองก้าว ทันใดนั้นเท้าของเขาก็สะดุดกับอะไรบางอย่าง
เขาก้มหน้ามองก็ปรากฏว่าเป็นกระเป๋าสะพายใบเล็ก ๆ
เขาจึงก้มลงไปเก็บขึ้นมาดู จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าหนึ่งในเด็ก ๆ เหล่านั้นจะมีเด็กคนหนึ่งที่สะพายกระเป๋าติดตัวไว้ตลอด
จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้นมองไปด้านหน้า จากนั้นก็รีบวิ่งตามเข้าไปทันที
หลังจากที่เดินไปพักใหญ่ ป่าทึบก็ได้ขวางเส้นทางด้านหน้าของเขา
พ่อบ้านรีบตามไปแล้วรีบพูดขึ้นมาอย่างหายใจติดขัด: “ทางนี้เป็นทางตัน เข้าไปไม่ได้หรอกครับ”
“บางทีเด็ก ๆ อาจจะเห็นว่ามันเป็นทางตันก็เลยเดินกลบออกไปก็ได้นะครับ”
จี้จิ่งเชินกลับนิ่งเงียบ เขายืนดูป่าทึบที่อยู่ตรงหน้า
เขาก้มหน้าลงปรากฏว่าพบปากถ้ำที่เห็นอย่างชัดเจนมาก และด้านบนก็เห็นร่องรอยของการลื่นอย่างชัดเจน