เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 292 ค่อนข้างผิดปกติ
“ไม่……ผมไม่ไปด้วยแล้ว”
เจี่ยซิววิ่งหนีทันที แต่เขาจะหนีคนเป็นทหารไปได้อย่างไร ไม่นานก็ถูกจับ
“ตอนนี้ไม่ใช่คุณจะบอกว่าไปหรือไม่ไปก็ได้ แต่คุณจะต้องถูกจับขังนานเท่าไรต่างหาก เอาตัวไป”
พอสั่งการ โจวควนก็รีบนำกองทัพกลับไป
ระหว่างทาง ก็เอาตัวหัวหน้ากรมบังคับคดีไปด้วย
ต้องลงโทษ สถานหนัก
ตุบ
ฉีหยุนก็เอาคนที่ร้องเจ็บดังที่สุด โยนลงพื้น มองไป เห็นหัวหูแดงก่ำ ดวงตาเบิกโต สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว เขาสามารถรับรู้ได้ว่า อีกนิดเดียวเขาก็จะตายแล้ว
“ต่อไป อย่าแกล้งทำแบบนี้อีก”
“ครับๆๆ ผมไม่กล้าแล้วครับ”
เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีคนนั้นก็รีบพยักหน้า เพราะกลัวฉีหยุนไม่พอใจ แล้วจะลงมืออีก
รสชาติความเจ็บปวดนั้น ทำให้ชีวิตนี้เขาไม่อยากจะลองมันอีกแล้ว
“คุณชาย จัดการเรียบร้อยครับ”
พอจัดการแล้ว ฉีหยุนก็กลับมายืนข้างๆ ฉินเฟิง
“อืม”
ฉินเฟิงหยักหน้า
จากนั้น เขาก็พบว่า จูหลินชิงทางด้านหลัง ก็เข้ามาใกล้มากขึ้น แทบจะแนบกับหลังเขาแล้ว ดวงตาโตๆ มองฉีหยุน ด้วยความกลัวๆ
กระต่ายน้อย
กับเสือร้าย
เหมือนจะเป็นแบบนี้แหละ
“ถอยไปสองก้าว ยัยหนูคนนี้ขาอ่อนหมดแล้ว” ฉินเฟิงกล่าว
เขาสัมผัสได้
ว่าจูหลินชิงกลัวมาก ขาสั่นไปหมด
“อ่อครับ”
ฉีหยุนถอยออกไปอย่างน่าสงสาร จากนั้นก็เกาหัวตนเอง ถึงแม้เขาจะมีรูปร่างน่ากลัว แต่นิสัยอ่อนโยนนะ กั่วกั่วและเสี่ยวหยูยังชอบเขาเลย
“ขอบคุณค่ะ”
จากนั้น จูหลินชิงก็พูดขอบคุณด้านหลังฉินเฟิง พูดเบาเหมือนเสียงยุงตอม
“พูดดังหน่อย ไม่ได้กินข้าวหรือไง”
แต่ว่า ฉินเฟิงก็หัวตัวมา ทำหน้าโหดๆ แล้วพูดน่ากลัวๆ
“ขอบคุณค่ะ!”
จูหลินชิงตกใจ แล้วก็รีบพูดขอบคุณออกมา
พอพูดจบ ก็ถอยหลังไปสองก้าวอย่างกลัวๆ เธอก็พูดดังแบบนั้นออกมา
“ไปๆ ไปๆ ”
ฉินเฟิงยิ้ม
ผู้หญิงแบบจูหลินชิงนี้ ไม่ค่อยได้เจอ ไร้เดียงสาเหมือนกระดาษขาว เพราะว่าไร้เดียงสา เลยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดังนั้นก็เลยใจไม่กล้า แบบนี้อาจจะเป็นผู้หญิงจากหมู่บ้านในชนบทมากๆ
แต่ในสถานการณ์ที่เซาเทิร์นแลนด์วุ่นวายแบบนี้ ผู้หญิงแบบนี้จะตายทั้งเป็นได้ง่ายที่สุด
จริงๆ แล้วเหตุผลนี้ จูหลินชิงรู้ดี
ฉินเฟิงมองออกแล้ว
แต่ว่าเธอไม่ได้หลบอยู่ที่หมู่บ้านชนบทของตนเอง แต่มายังเมืองเทียนหนาน เมืองใหญ่ที่สุดในเซาเทิร์นแลนด์ ที่ในอีกไม่กี่วัน ก็จะเป็นจุดสำคัญของเซาเทิร์นแลนด์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ความอันตรายมันจะเพิ่มขึ้นมาก
แถมยังเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวด้วย
เพียงเพราะเพื่อย่าของตนเอง
จะว่าเธอใจไม่กล้า ก็เหมือนจะไม่เหมาะ
มองก็รู้ ว่าเธอเป็นเด็กดี
ดังนั้น ฉินเฟิงยอมที่จะช่วยเธอ โลกวุ่นวายแบบนี้ คนที่ช่วยได้มีไม่มาก ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เขาจะเข้าเมืองเทียนหนาน จะต้องถูกตรวจสอบ ได้เข้าไปกับจูหลินชิง เหมาะสมพอดี
“เอ่อ……เอ่อ……ค่ะ……”
จูหลินชิงก็ไม่กล้าขัดฉินเฟิง
กระเป๋าผ้าของเขายังอยู่ที่ฉินเฟิง
ฉินเฟิงโหดแบบนั้น เธอก็เลยได้แต่พยักหน้าไปรัวๆ
จากนั้น พวกเขาก็ออกไปจากสถานีรถแห่งนี้ มุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองเทียนหนาน เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเซาเทิร์นแลนด์ สิ่งที่ได้เห็น คือตึกรามบ้านช่องสูงเสียดฟ้า รถราผู้คนขวักไขว่
ยังคงคนมีมากมาย
มองไปไม่สุดสายตา
“นายพลครับ คนพวกนี้ ทำไมถึงไม่หนีกันไปล่ะครับ” ฉีหยุนเกาหัวถาม
“หนึ่ง คนหนานเยว่ยังไม่บุกตีเข้ามา สอง ใช้ชีวิตสงบสุขมามาก ยังไม่รู้สึกว่าอันตราย สาม เมืองเทียนหนานเป็นเพื้นที่สำคัญ เศรษฐกิจดี ต่อให้ประเทศหนานเยว่ได้เซาเทิร์นแลนด์ กล้าไม่กล้าตีเมืองเทียนหนาน ไม่อย่างนั้นแค่ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ก็ต้องใช้เวลานานมาก ได้ไม่คุ้มเสีย สี่ เมืองเทียนหนานนี้ น่าจะมีคนเตรียมยกเมืองให้กับประเทศหนานเยว่แล้ว” ฉินเฟิงค่อยๆ พูดออกมา
“ยกเมืองให้งั้น? จะมีคนยกเมืองให้ได้ไง พวกเราเป็นคนต้าหัวนะ”
ทางด้านหลัง จูหลินชิงก็อยู่ด้วย ก็เลยถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“คนต้าหัวงั้นหรือ? แล้วตระกูลซือหม่าไม่ใช่คนต้าหัวหรือไง ความวุ่นวายนี้ ทำให้ชาวบ้านชาวเมืองทั้งเซาเทิร์นแลนด์ พลัดถิ่นที่อยู่ พวกมันมีใจคิดสงสารบ้างหรือเปล่า? ”
ฉินเฟิงส่ายหัว
จูหลินชิงก็เงียบ เธอคิดในมุมของเธอเอง ว่าเป็นคนต้าหัว จะยอมแพ้ได้อย่างไร แต่ว่ามันไม่มีตัวอย่างแบบนั้นแล้ว ตระกูลเก่าแก่ที่สืบทอดมาเป็นพันปีอย่างตระกูลซือหม่า ก็ยังทรยศเลย
ร่วมมือกับคนนอก บุกโจมตีต้าหัว
บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน
โลกนี้ มีคนชั่วอยู่จริงๆ
“ผมไม่ชอบคนทรยศประเทศ ตระกูลซือหม่า เดี๋ยวจะจัดการถอนรากถอนโคนมันเอง”
สายตาของฉินเฟิง เผยความร้ายกาจออกมา
ถ้าถามเขา ว่าแค้นอะไรที่สุด นั่นก็คือการทรยศชาติบ้านเมือง
ต้าหัวเลี้ยงคุณเติบโตมา สุดท้ายคุณกลับขายชาติตนเอง จะเอาไว้ไม่ได้
“ใช่”
ฉีหยุนก็มีสีหน้าโมโห
ตระกูลซือหม่า ช่างชัวช้าสิ้นดี เป็นพันปีมาแล้ว ต้าหัวไม่เคยมีตระกูลใหญ่ทรยศมาก่อน แต่ตระกูลซือหม่าได้ทำมันขึ้นมาเป็นเจ้าแรก แถมยังวางแผนไว้ล่วงหน้าด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ฉินเฟิงอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงพอดี แล้วรู้อะไรบางอย่าง จึงนำทหารม้าหมาป่าแสนคนเข้ามา
ครั้งนี้ก็คงพลิกสถานการณ์อะไรไม่ได้แล้ว
แผนการของตระกูลซือหม่า แทบจะไร้ช่องโหว่
“ไปกันเถอะ ย่าคุณอยู่โรงพยาบาลไหน? ”
ฉินเฟิงเอียงหน้าถาม
เด็กผู้หญิงจากชนบท ดวงตากลมๆ แบ๊วๆ พูดอ่อนโยนว่า “คุณ……จะไปจริงๆ งั้นหรือคะ? ”
“อืม”
ฉินเฟิงก็เขย่ากระเป๋าผ้าในมือ แล้วพูดโหดๆ ว่า “เร็วๆ รีบพาผมไป”
“อ่อ……อ่อ……ได้ค่ะ……”
จูหลินชิงตกใจ เลยรีบพยักหน้า
เธอเพิ่งเจอหน้ากับฉินเฟิง รู้จักกันไม่ถึงชั่วโมง และด้วยนิสัยของเธอแบบนี้ ก็คงไม่อยากให้ฉินเฟิงตามไปด้วย แต่ถูกฉินเฟิงแกล้งขู่ เธอก็เลยไม่มีทางเลือก
ได้แต่ต้องพาไปด้วย
อีกอย่าง เธอรู้สึกว่าฉินเฟิงไม่น่า……บางที……อาจจะ…..ไม่ใช่คนชั่วร้าย
ฉีหยุนต่างหากที่เป็นคนชั่วร้าย หน้าตาก็ร้ายๆ
และตอนที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น พวกเขาก็มาถึงแล้ว โรงพยาบาลที่หนึ่งของเมืองเทียนหนาน เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมืองเทียนหนาน และเป็นโรงพยาบาลที่แพงที่สุดด้วย
“ย่าคุณอยู่ที่นี่อะหรือ?”
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว
เขาดูใบค่าใช้จ่าย ราคาพัก แต่ละวันราคาหลายพัน
พักรักษาตัวที่นี่ ค่ารักษาไม่ต่ำกว่าหลายหมื่น หรืออาจจะหลายแสน
เด็กผู้หญิงอย่างจูหลินชิงคนเดียวที่มาจากชนบท แต่งตัวธรรมดา เงินที่มีก็ใส่กระเป๋าผ้าถือมา ย่าของเธอพักในโรงพยาบาลแบบนี้งั้นหรือ
ผิดปกติ
“อืม เพื่อนของฉันช่วยจัดการให้ เอ่อแล้วก็ ช่วงนี้ก็ได้เพื่อนของฉันช่วยดูแลย่าให้ เขาชื่อว่า จางหง นิสัยดีมาก เป็นคนดี”
จูหลินชิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“คนดีงั้นหรือ?ไม่แน่หรอก”
ฉินเฟิงส่ายหัว
จูหลินชิงไร้เดียงสา อาจจะไม่รู้อะไร แต่เขารับรู้ได้ ว่ามันผิดปกติ