เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 291 นายพันคนหนึ่งที่เป็นกองพันทหารรักษาการณ์
หัวหน้ากรมบังคับคดีโมโหมาก
เพราะว่าเขาพาคนมาล้อม3คนนี้ไว้ สุดท้าย 3คนนี้ยังพูดหัวเราะกันสนุก ทั้งๆ ที่ถูกล้อมไว้ ไม่กลัวอะไรเลย เขาอยู่มาหลายปี ยังไม่เคยเห็นใครโอหังแบบนี้มาก่อน
ทำเอาเขาไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรเลย
จะต้องทำให้หมอนี่รู้ให้ได้ ว่าความร้ายกาจคืออะไร
จากนั้น
ผ่านไป3วินาที หัวหน้ากรมบังคับคดีก็อึ้งนิ่งไป
เจี่ยซิวก็นิ่งไปด้วย
คนที่นั่งอยู่แถวนั้นก็อึ้งไปด้วย
เพราะว่า เพียงแค่3วินาที เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีทั้ง20กว่าคนที่หน้าตาร้ายๆ ก็ร่วงล้มลงพื้นกันหมด ร้องโอดโอยไปตามกัน แต่ว่า คนส่วนใหญ่ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนพวกนี้ล้มลงไปได้อย่างไร
“คุณชายครับ พวกนี้จัดการหมดแล้ว อีก2คนที่เหลือ จัดการเลยไหมครับ? ”
ฉีหยุนปัดมือ แล้วก็ชี้ไปยังหัวหน้ากรมบังคับคดีและเจี่ยซิว
“เอ่อ!”
สองคนนั้นก็ถอยหลังไปพร้อมกัน
เริ่มร้อนรนเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่นี้คนของตนเองยังล้อมพวกนี้อยู่เลย แค่ไม่กี่วินาที สถานการณ์พลิกไปแบบนี้เสียแล้ว ลูกน้องของคนนี้ ล้อมพวกเขาแทนเสียแล้ว
“พี่ครับ หนีเถอะ”
เจี่ยซิวเริ่มกลัว
หัวหน้ากรมบังคับคดี เดิมทีก็คิดอยากจะหนี แต่พอหันกลับไป ก็เห็นคนคนหนึ่ง ก็เลยรีบตบไหล่ของเจี่ยซิว แล้วพูดอย่างได้ใจว่า “ไม่ต้องหนีแล้ว มีทหารมาแล้ว”
เจี่ยซิวก็ไม่คิดหนี แล้วเอียงหน้าไปมอง อีกด้านหนึ่งมีทหารใส่ชุดทหารเข้ามากองหนึ่ง
น่าจะประมาณ1000คน
คนที่นำมา เป็นยศพันจ่า
“โจวควน หัวหน้าโจว”
พอเห็นพันจ่าคนนี้ หัวหน้ากรมบังคับคดีก็รีบเสนอหน้าเข้าไปต้อนรับ
“เกิดอะไรขึ้น?”
โจวควนนำกองทัพเข้ามา เขารับผิดชอบเป็นหัวหน้าดูแลสถานีนี้ ช่วงเวลาพิเศษ เลยต้องดูแลเป็นพิเศษ ทหารในพื้นที่เมืองเทียนหนาน เห็นว่าทางนี้มีเหตุเกิดขึ้น ก็เลยเข้ามา
“หัวหน้าครับ คนพวกนี้ทำร้ายร่างกายคน ยังทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีด้วย”
ยังไม่ทันรอให้หัวหน้ากรมบังคับคดีเอ่ยปาก เจี่ยซิวเสนอหน้าพูดออกมาเลย ยืนอยู่ข้างโจวควน ชี้นิ้วไปทางฉินเฟิง แล้วก็ชี้ไปยังเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีที่นอนเกลื่อนพื้นด้วย
“หัวหน้า ผมจะบอกให้นะครับ ไอ้คนนี้มันร้ายมาก ตอนอยู่บนรถ มันเกือบจะฆ่าเด็กคนหนึ่งตายไปแล้ว ถ้าไม่ได้หมอปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยการแพทย์มืองเทียนหนานอย่างผม เด็กคนนั้นก็คงจบชีวิตไปแล้ว ไม่คิดเลยว่า หมอนี่ ยังมาก่อเรื่องที่นี่อีก”
เจี่ยซิวปากดีมาก ที่พูดออกมาทั้งหมด ฉินเฟิงก็ไม่ต่างอะไรกับคนร้ายที่ทำเรื่องชั่วช้าเลย
ราวกับทำเรื่องชั่วช้าทุกอย่าง
“นี่คุณ?”
โจวควนก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่ได้เชื่อคำพูดของเจี่ยซิวทั้งหมด ก็เปลี่ยนสายตาไปมองฉินเฟิง “อธิบายมา ถ้าอธิบายไม่ชัดเจน ก็คงจะต้องนำตัวคุณไป เพราะถึงอย่างไร ตอนนี้คุณก้ได้ทำร้ายร่างกายคนไปแล้ว”
พอได้ยินดังนั้น พวกเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีที่นอนบนพื้นก็ร้องโอดโอยออกมา
“โอ๊ย เจ็บมาก คนร้ายคนนี้ คิดจะฝ่าฝืนกฎหมาย ผมเลยเข้าไปขวางไว้ แถมยังถูกทำร้ายอีก เจ็บมาก โอ๊ยเจ็บ”
“ใช่ หมอนี่เป็นคนร้าย”
“ผมไม่ไหวแล้ว จะหมดลมแล้ว”
มีอีกคนแสดงได้ดีมาก ทำท่าทางเหมือนจะสิ้นลม
แต่ว่า วินาทีต่อมา ฉีหยุนก็เข้ามาบีบคอเขาไว้ คว้าชายคนนั้นลอยขึ้นมาจากพื้น แล้วก็ออกแรงนิดหน่อย ทำให้ชายคนนั้นหมดลมไปจริงๆ หน้าแดงก่ำ ตาถลนออกมา
แต่ฉีหยุนก็ยังพูดที่ข้างหูเขาอีกว่า “แบบนี้อะหรือ? ”
เขาดิ้นสุดชีวิต แต่ไม่อาจจะดิ้นหลุดออกจากมือของฉีหยุนได้
“หยุดเดี๋ยวนี้”
โจวควนเห็นดังนั้น ก็ตะโกนออกมาทันที แต่ก็พบว่า ฉีหยุนไม่ได้ขยับตัวอะไร สีหน้าของโจวควนก็ขรึมไป สะบัดมือให้ทหารพันคนเข้ามาล้อมพวกของฉินเฟิงไว้
“เป็นไงล่ะไอ้หนู!”
เจี่ยซิวมองอยู่ข้างๆ สีหน้าสะใจ จะเกือบจะปรบมือออกมา
สะใจมากเลย
เขายังนึกว่าหัวหน้าโจวควนจะไม่จัดการคนพวกนี้เสียแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า พวกนี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาก็แล้วไป แต่ยังไม่เห็นหัวหน้าโจวควนอยู่ในสายตาด้วยอีก
ไอ้พวกนี้ตายแน่
“ผมบอกให้คุณปล่อยมือ”
โจวควนหน้าขรึม ตวาดออกมา
“ปล่อยมืองั้นหรือ? ไอ้ทหารใหม่ คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม”
ฉีหยุนโยนสิ่งหนึ่งออกไป
มาหล่นใส่มือของโจวควนพอดี พอโจวควนก้มหน้ามอง ก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เพราะสิ่งนี้มันเป็นสัญลักษณ์ของพันจ่า บนนั้นเขียนไว้ว่า ผู้ยิ่งใหญ่ฉี ยศพันเอก
ยศสูงกว่าเขา และสูงกว่ามากด้วย
“สวัสดีครับ พันจ่า!”
เสียงดังตึบ
โจวควนรีบทำความเคารพให้ฉีหยุน จากนั้น เขาก็มองไปยังทหารรอบๆ ทหารพวกนั้นก็มองสายเขาออกทันที แล้วก็รีบทำความเคารพ “สวัสดีครับ พันจ่า”
ฉินเฟิงมองอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มๆ
บัตรพลทหารอันนั้นเป็นของปลอม ฉีหยุนมีบัตรพลทหาร2อัน อันหนึ่งแสดงตัวตนของเขา คือ ชื่อฉีหยุน หนึ่งในสิบนายพลแห่งอีสเตอร์แลนด์ เขาเป็นถึงคนเก่งที่สุดในกองทัพ จะต้องได้เป็นนายพลแน่นอน
แต่ว่าตอนได้มาทำงานอยู่ในอารักขานั้น เขาก็เลยได้มีบัตรพลทหารอีก1ใบ
ชื่อ ผู้ยิ่งใหญ่ฉี ฉีหยุนตั้งขึ้นมาเอง ยศพันเอก ใช้ได้ผล แต่ไม่ได้น่าเกรงขามเหมือนกับยศนายพล
เพราะถึงอย่างไร ให้นายพลมาเป็นอารักขา เกรงว่าในต้าหัวคงจะไม่มีใครได้เกียรตินี้แล้ว แค่พูดถึงความโอหังของนายพลแต่ละคน ก็ยากแล้ว
นายพลแต่ละคน ล้วนได้มาจากสงครามนองเลือดมากมาย
ให้พวกเขาไปเป็นอารักขา ถือเป็นการดูถูกพวกเขา
แต่ฉีหยุน เป็นเพราะว่าติดตามฉินเฟิงมาหลายปี ก่อนหน้านี้ก็เป็นอารักขาของฉินเฟิง ต่อมาได้เป็นนายพล ก็ยังติดตามอยู่กับฉินเฟิง เขาชอบต่อยตี แต่ก็มีแต่ฉินเฟิง ที่จัดการเขาได้อยู่หมัด
“ถอย”
ฉีหยุนก็ออกคำสั่งมา
ทันใดนั้น ก็ให้ทหารพันคนพวกนี้ถอยออกไปทันที โจวควนไม่กล้าพูดอะไรสักคำ แล้วก็พาคนถอยกลับไป แต่ว่าสายตาของเขาก็ยังมีความกลัวๆ แฝงอยู่ เพราะว่าเขาเห็นว่าบนบัตรพลทหารนั้น มีตำแหน่งอารักขาเขียนอยู่
ให้พันเอกมาเป็นอารักขา!
พระเจ้า
เข้าไม่อยากจะคิด
เขาก็รู้ได้ทันที ว่าฉินเฟิงที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ จะต้องมีตัวตนที่น่ากลัวแน่ๆ แต่เนื่องด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ เขาก็ได้เลยไม่ได้ถาม ได้แต่ฟังคำสั่งไป
แต่ว่าความตกใจในใจนั้น มันมีมาเรื่อยๆ เลย
“หัวหน้าโจวควน เอาผมไปด้วยสิครับ”
เจี่ยซิวเห็นทหารกองนี้ถอยกลับ ก็หน้าเสียๆ จากนั้นก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปมาก ทหารพวกนี้ถอยกลับไปหมดแล้ว ต่อจากนี้ ฉินเฟิงจะต้องจัดการกับตนเองแน่ๆ
ดังนั้น เขาก็เลยรีบตามไปด้วย
เพื่อขอให้ได้เข้าไปด้วย
แต่ว่า เสียงดังตุบ ทหารกองนี้หยุดฝีเท้าลง โจวควนหันมามองเขา แล้วพูดอย่างร้ายๆ ว่า “ผมก็เกือบลืมคุณไปเลย แจ้งความเท็จ แถมยังทำร้ายร่างกายคนอีก จับตัวไว้”
เขาเกือบลืมไปเลย
ว่าหมอนี่ เป็นตัวต้นเหตุทั้งหมด
เกือบจะทำให้เขามาหาเรื่องกับคนลึกลับยศพันเอกที่เป็นอารักขาเข้าแล้ว