เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 280 ทหารนับล้าน เดินทางไปเซาเทิร์นแลนด์
“ครับ!”
ทหารม้าหมาป่านับแสนตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ฮึกเหิมมาก
“เทพสงคราม ผู้ยิ่งใหญ่”
ซูหยางมีใบหน้าที่เคารพ
แต่ว่า จากนั้นฉินเฟิงก็ออกคำสั่งไปอีกว่า “ซูหยาง ปล่อยข่าวออกไป ว่าเทพสงครามอันดับหนึ่งของต้าหัว ได้นำกองทัพในต้าหัวแสนนาย เคลื่อนพลลงใต้ด้วยตัวเอง”
ซูหยาง: “???”
“ปล่อยข่าวจริงผสมเท็จ เรื่องนี้ผมยังรู้ เจ้าหยางเรียนรู้ไว้หน่อย” ฉีหยุนพูดเสริมขึ้นมาข้างๆ
“ปล่อยข่าวจริงผสมเท็จ ทำให้ศัตรูมองสถานการณ์ของเราไม่ออก นี่เป็นกลยุทธ์ เถ่เกอ หมาป่าหางโต เสว่หู่ เหยียนหวาง กูหลาง”
จากนั้น ฉินเฟิงก็เรียกทหารอีกหลายคน
“ครับ”
ทหารพวกนั้นก็เข้ามาฟังคำสั่ง
“แผนปล่อยข่าวจริงผสมเท็จนี้ จะต้องเป็นข่าวจริงครึ่งหนึ่ง ปลอมครึ่งหนึ่ง พวกนายแต่ละคน นำทหารม้าไปคนละสามพัน แยกกันไปโจมตีเซาเทิร์นแลนด์ ยกธงกองทัพขึ้นมา ต้องให้ได้รู้ว่า กองทัพจำนวนมากได้เข้ามาในเซาเทิร์นแลนด์แล้ว”
“ครับ”
ทหารเหล่านั้นก็รับคำสั่ง
ฉินเฟิงมองไปยังทิศใต้ เป็นทิศทางของประเทศหนานเยว่ ที่แห่งนั่นวุ่นวายมาหลายปี อย่างน้อยก็แบ่งกันเป็น10ประเทศ อย่างมากก็แยกกันเป็น100ประเทศ หลายร้อยปีแล้วยังไม่ได้รวมเป็นหนึ่ง
แต่ตอนนี้ กลับได้รวมเป็นหนึ่งแล้ว ดูเหมือนว่า ดินแดนในแถบประเทศหนานเยว่จะมีคนเก่งเกิดมาแล้ว
ณ จิงตู
ที่ศูนย์บริหาร
“ผมรู้สึกว่า นายพลฉินจะทำผิดกฎเกินไปแล้ว ช่วงเวลาคับขันแบบนี้ ยังกล้าควบคุมอำนาจทหารในต้าหัวทั้งหมดไว้อีก หรือว่า อยากจะนั่งตำแหน่งสูงสุดอย่างนั้นหรือ?”
ชายแก่ตาเป็นต้อสีขาวด้วยความชรา นั่งอยู่ที่โต๊ะกลม
“ใช่ เวลาแบบนี้ ทำไมเขาถึงได้อยู่ที่เซาเทิร์นแลนด์พอดี หรือว่าวางแผนทั้งหมดไว้แล้ว?”
“ผมว่า ที่เซาเทิร์นแลนด์แตก จะต้องเกี่ยวข้องกับนายพลฉินแน่ๆ”
หนึ่งในนั้น ก็มีคนเห็นด้วยขึ้นมา
“เหลวไหล!ถ้าเขาอยากจะนั่งตำแหน่งนั้นจริงๆ คงไม่รอจนถึงทุกวันนี้หรอก การประชุมของต้าหัวอนุญาตให้คนพวกนี้มาเข้าร่วมได้ตอนไหนกัน ไม่กลัวผมฆ่าทิ้งที่นี่หรือไง”
เสียงดังตุบ
ฝั่งตรงข้าม มีชายแก่หนวดเคราสีขาว สีหน้าโกรธๆ เอามือตบโต๊ะพูดขึ้นมา
“ท่านหลี่ อย่าโมโหไป ที่ครั้งนี้ให้ตัวแทนของตระกูลเก่าแก่เข้าร่วมด้วย ก็เพื่อที่จะให้พวกเขาเข้ามาอธิบายเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเก่าแก่ซือหม่า ตระกูลเก่าแก่ก่อกบฏ มันเป็นเรื่องใหญ่”
เฉียวหนงในฐานะที่เป็นท่านอาวุโสก็เลยพูดโน้มน้าว
ท่านหลี่ เป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดของกองทัพต้าหัว แต่เนื่องจากอายุมาก ก็เลยอยู่ในช่วงที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการแล้ว ครั้งก่อนก็เตรียมจะสละตำแหน่งให้ฉินเฟิง แต่ฉินเฟิงหนีไปเสียก่อน
หนีกลับบ้านไปก่อน
กลับบ้านไปใช้ชีวิตกลับลูกเมียที่บ้าน
“ทำไม พวกคุณคิดว่าฉินเฟิงคิดอยากจะนั่งตำแหน่งนั้นจริงๆ หรือไง ผมเห็นหมอนั่นมาตั้งแต่เข้ากองทัพใหม่ๆ เวลาว่างๆ ก็จะมานั่งดูรูปถ่าย เป็นรูปถ่ายภรรยาของเขา สำหรับเขาแล้ว ภรรยาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ครั้งก่อนก็หนีกลับบ้านไป ได้ยินว่าไปเป็นลูกเขยบ้านนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้เซาเทิร์นแลนด์แตก เขาก็คงไม่ใช้ป้ายคำสั่งนั้น มาคุมอำนาจทหารทั้งต้าหัวหรอก”
ท่านหลี่เอามือตบโต๊ะ แล้วพูดอีกว่า “คนอารมณ์ร้อนอย่างผม ทำสงครามมาทั้งชีวิต วันนี้ผมขอบอกไว้เลยนะว่า ครั้งนี้ทหารทุกนาย จะต้องฟังคำสั่งของนายพลฉิน ใครกล้าขัดคำสั่ง ก็อย่าโทษว่าผมลงโทษด้วยกฏทหารก็แล้วกัน”
อารมณ์ร้อน ทำให้คนทั้งโต๊ะตกใจกันหมด
ถึงแม้ท่านหลี่จะแก่แล้ว แต่อายุมากก็ยิ่งแข็งแกร่ง อย่างน้อยอารมณ์ก็ยังร้อนได้เหมือนเดิม
“เหอะ……”
ชายแก่ตาฝ้าฟางหนึ่งในนั้น ก็อยากจะพูดประชดอะไรออกมา
แต่ว่า วินาทีต่อมา ท่านหลี่ก็พูดว่า “อารักขา”
ก็มีเงาคนหนึ่ง พุ่งเข้าไปฆ่าทางฝั่งของชายแก่ตาฝ้าฟางคนนั้น
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
ทุกคนก็ตกใจ
แต่ก็ยังห้ามอารักขาคนนั้นไว้ไม่ได้ ทำให้ชายแก่ตาฝ้าฟางคนนั้นเสียใบหูไปหนึ่งข้าง
“นี่คุณ……กล้า!”
ชายแก่ตาฝ้าฟางเอามือปิดที่แผล แล้วมีใบหน้าโมโหมาก
“เรียกคุณอะไรล่ะ? จะสู้กันสักตั้งไหมล่ะ? ตอนนี้ผมยังเป็นผู้รับผิดชอบของกองทัพ เชื่อไหม เดี๋ยวผมให้กองทัพทั้งแปดเข้ามา ยิงปืนใส่พื้นที่ของตระกูลเก่าแก่คุณทุกวันเลยดีไหม!” ท่านหลี่กล่าว
“เอ่อ!”
ชายแก่ตาฝ้าฟาง โมโหจนพูดอะไรไม่ออก
แต่ก็ไม่กล้าคัดค้านไป
เพราะว่า ท่านนี้มีอารมณ์ร้อนมากจริงๆ บอกว่าจะเอาทหารไปยิงปืนใส่ดินแดนของตระกูลพวกเขา คงทำจริงแน่ๆ
“พอได้แล้ว”
ผู้นำมี3คน หนึ่งในนั้นยานเหวินซานอยู่ตรงกลาง ก็ตบโต๊ะพูดขึ้นว่า “นายพลฉิน ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่คนที่พวกคุณจะมาว่าร้าย ได้ง่ายๆ ถ้ามีครั้งหน้า อย่าโทษว่าผมจะลงโทษ ฐานที่ใส่ร้ายวีรบุรุษของแผ่นดิน แล้วก็ที่เรียกพวกคุณมาอธิบายเกี่ยวกับตระกูลเก่าแก่ของพวกคุณ ว่าทำไมตระกูลซือหม่าถึงทรยศต้าหัว”
“เอ่อ เรื่องนี้ผมไม่ทราบเลย”
ชายแก่ตาฝ้าฟางส่ายหัว ด้วยสีหน้าไม่รู้เรื่อง
“พวกคุณไม่รู้งั้นหรือ?”
เยี่ยนหยุนซานหัวเราะเย็นออกมา “ภายใน3วัน ผมต้องการให้พวกคุณส่งคนของตระกูลซือหม่าออกมา ส่งตัวมายังจิงตู พวกเราต้องการสอบสวน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ รับโทษสถานเดียวกัน”
“ครับ”
ชายแก่ตาฝ้าฟางตอบรับไป แต่ว่า เห็นได้ชัดว่า ในใจก็มีแผนอะไรบางอย่าง
พอหลังจากจบการประชุม เหลือเพียงเยี่ยนหยุนซานกับท่านหลี่ ท่านหลี่พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “ผมเห็นพวกคนของตระกูลเก่าแก่เข้ามาที่นี่ แล้วก็โมโห แต่ละคนล้วนแปลกประหลาด ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นพวกเดียวกันกับตระกูลซือหม่า”
“เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าใช่พวกเดียวกันหรือไม่นั้น ผมยังสืบไม่ได้”
เยี่ยนหยุนซานไพล่หลัง ถอนหายใจพูดออกมาว่า “ตระกูลเก่าแก่ทั้ง3ในยันจิง ตระกูลหลง ตระกูลจี ตระกูลเจียง แต่ละตระกูล ล้วนไม่ใช่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ เพราะเป็นตระกูลที่สืบทอดกันมาเป็นพันปี”
“คุณว่า สงครามที่เซาเทิร์นแลนด์ จะทำอย่างไรดี?”
เยี่ยนหยุนซานถามท่านหลี่。
“ปัญหาไม่ใหญ่” ท่านหลี่สะบัดมือ
เยี่ยนหยุนซานก็หัวเราะลั่นออกมา “คุณเชื่อใจเขาจริงจังขนาดนั้นเลยหรือ? ได้ยินว่า ที่ประเทศหนานเยว่มีคนที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์คนนั้น ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นคนที่หายากในพันปีเลยทีเดียว”
“หายากในพันปีบ้าบออะไร ถ้าให้ฉินเฟิงไปจัดการล่ะก็ คงจะรวบรวมแผ่นดินในแถบประเทศหนานเยว่ได้หมดแล้ว ไม่ต้องรอถึงทุกวันนี้หรอก ศึกนี้ เดมทีก็มีความไม่มั่นใจไม่มาก หรืออาจจะไม่มีความมั่นใจเลย อยู่ดีๆ ตระกูลเก่าแก่ซือหม่าก็ก่อกบฏขึ้นมา แถมยังมีกองกำลังอื่นๆ เกี่ยวข้องด้วย เกินความคาดหมายอยู่เหมือนกัน แต่ว่า จุดสำคัญของแผนนี้ก็คือเมืองเจียงเฉิง ถ้าฉินเฟิงมีเมืองนี้อยู่ในกำมือ ก็เพิ่มโอกาสชนะไปได้30เปอเซ็นต์แล้ว”
“แค่30เปอเซ็นต์เองนะ”
“ที่เหลืออีก70เปอเซ็นต์ ขึ้นอยู่กับตัวของฉินเฟิง”
ท่านหลี่พูดไป แล้วก็นึกเรื่องอะไรขึ้นได้ แล้วก็เอาไหล่ไปกระทบไหล่ของเยี่ยนหยุนซาน พร้อมพูดว่า “นี่ พวกเรามาพนันกันดีไหมล่ะ เอาไหม ผมเอาเดิมพันเป็น เหล้านารีแดง ที่คุณฝังไว้ใต้ดิน ถ้าฉินเฟิงเอาชนะได้ เหล้าไหนั้นก็ตกเป็นของผม ดีไหม”
“ไปไหนก็ไป เหล้านารีแดงไหนั้น พ่อผมเป็นคนฝังมันไว้ หลายสิบปีแล้ว ผมไม่ให้หรอก”
เยี่ยนหยุนซานหัวเราะออกมา แล้วก็ต่อยๆ ท่านหลี่ ไม่อยากพนันด้วย
จากนั้นก็หันไปมองเอกสารบนโต๊ะ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับกษัตริย์ประเทศหนานเยว่ที่เกิดขึ้นมาใหม่ แล้วก็มองไปยังทิศใต้ พูดออกมาด้วยสายตาอันซับซ้อนว่า “คู่ต่อสู้ครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ อาจเรียกได้ว่า มีความสามารถไม่เบาเลยทีเดียว”