เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 248 บักหมาน้อยซ่งออกโรง
พอเข้าไป ก็เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ด้านในมีคนสังคมชั้นสูงเดินไปมามากมาย กำลังคบค้าสมาคมกัน คุยกันเรื่องธุรกิจกัน
ฉินเฟิงก็เห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่สวมชุดสูทสีเทา รูปร่างค่อนข้างผอม ในนิ้วโป้งใส่แหวนใหญ่ อยู่ในท่ามกลางผู้คน
เพราะว่า คนนี้ก็คือ บักหมาน้อยซ่ง ซ่งเฉิง
ฉินเฟิงหยิบไวน์ขึ้นมาหนึ่งแก้ว แล้วดื่มลงไปช้าๆ มองบักหมาน้อยซ่งผ่านแก้วไวน์ แล้วภาพที่เห็นมีสีแดงๆของไวน์มาบดบังไว้ เหมือนเป็นรอยเลือด
“เงินบำนาญของไอ้โจว ทำให้มึงมีโอกาสนี้ได้ แต่น่าเสียดาย ของบางอย่าง มึงเอาไปได้ แต่ของบางอย่าง มึงเอาไปไม่ได้ อีกอย่าง มึงยังเป็นคนชอบหลอกกินเด็กอีก” ฉินเฟิงบ่นพึมพำ
เงิน40ล้านนั้น เป็นเงินบำนาญของไอ้โจว ที่แลกมาด้วยชีวิตในสงคราม
แต่ว่า กลับถูกบักหมาน้อยซ่งขโมยไป
ขโมยไปยังไม่พอ ยกจะบีบบังคับครอบครัวของไอ้โจวอีก บ้านถูกรื้อแล้ว นี่เป็นบ้านของพวกเขาเชียวนะ ใกล้จะถูกบริษัท ว่านตง จำกัดสั่งรื้อแล้ว
ให้ตายเถอะ กล้ามากจริงๆ
จะด่าจิตใจเหี้ยมโหด ก็ไม่มากเกินไป
“อ้าว คุณ มาครั้งแรกหรือครับ”
ในตอนนี้ ก็มีชายอายุ20ต้นๆ ท่าทางเหมือนเด็กวัยรุ่นเพิ่งโตเดินเข้ามา ถือแก้วไวน์ไว้ในมือ แล้วเข้ามาทักทายฉินเฟิง
“อืม คุณคือ?”
ฉินเฟิงเงยหน้ามอง อายุน้อย แต่กิริยาท่าทางไม่เด็ก
“ปาวหลงครับ ทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เห็นว่าคุณเพิ่งเคยมาครั้งแรก จะหาซื้อข่าวอะไรไหมครับ? ผมมีข้อมูลของคนที่นี่ทั้งหมด ผมรับรองว่าคุณจะไม่ไปหาเรื่องใครแน่นอน มีข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลของพวกนั้น และก็แนะนำเกี่ยวกับอำนาจต่างๆของพวกเขา ซื้อ1ชุดราคา2พัน ซื้อแล้วไม่พลาดแน่ ซื้อแล้วไม่ติดกับดักแน่นอน”
ปาวหลงคนนั้น เข้ามาใกล้ฉินเฟิง ท่าทางเหมือนคนทำการค้าเล็กๆ ทำท่าแอบพูดซุบซิบ
ไม่ใช่
เป็นแค่พ่อค้าเล็กๆ
“แล้วคุณเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
ฉินเฟิงสงสัย งานแบบนี้ นักธุรกิจเล็กๆ จะเขามาได้อย่างไร?
“ผมมีวิธีของผมแหละน่า”
ปาวหลงเอามือตบหน้าอกพูด จากนั้นก็มีท่าทางจริงจัง “นี่คุณ จะซื้อสักชุดไหมล่ะ รับรองว่าใช้ได้ผลตลอด”
“ไม่เอา”
ฉินเฟิงส่ายหัว
คนในห้องโถงนี้ ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะให้ฉินเฟิงไปสืบข้อมูล
“คุณ จะหัวแข็งแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าเกิดมีคนที่สู้ไม่ไหว แล้วคุณไม่ระวังไปหาเรื่องเขาขึ้นมา มันจะยุ่งเอานา ใช่ไหมล่ะ?”
ปาวหลงเห็นว่าฉินเฟิงไม่สนใจ ก็เลยรีบอธิบายขึ้นมาทันที
แต่ฉินเฟิงก็ยืนไพล่หลังยิ้มไป “ขอโทษทีนะ ที่นี่ ไม่มีใครที่ผมหาเรื่องไม่ได้หรอก”
“นี่คุณ!”
ปาวหลงก็อึ้ง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
นี่มันคนไม่มีสมองเลยนี่ ไม่รู้อะไรเลย แม้แต่ข้อมูลก็ไม่ซื้อ ยังจะปากเก่งบอกว่าที่นี่ไม่มีใครที่หาเรื่องไม่ได้ ต้องรู้นะว่า นี่มันงานประมูลที่บริษัท ว่านตง จำกัดจัดขึ้นมา
คนสังคมชั้นสูงของทั้งเมืองเทียนหลิงล้วนมากันหมด ยังจะบอกว่าหาเรื่องใครก็ได้อีก
เหอะ!
พูดเล่นตลกหรือเปล่า
บางที่อาจจะเป็นพวกโง่จริงๆ ก็ได้ หรือไม่ก็พวกที่เพิ่งรวย ไม่รู้อะไรเลย คิดว่าไม่มีใครสู้ได้แล้ว
ตอนนี้ บักหมาน้อยซ่งก็เดินขึ้นบนเวที “ทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานประมูลที่บริษัท ว่านตง จำกัดเราจัดขึ้นครับ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง……..”
พอพูดเป็นพิธีเสร็จ ก็แสดงว่างานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ส่วนปาวหลงก็ออกไปจากฉินเฟิงแล้ว นึกว่าจะมาเป็นลูกค้า แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นพวกไม่มีสมอง ถ้ายังอยู่ด้วยต่อไป ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหามากมายแค่ไหน
ฉินเฟิงก็เข้าไปนั่ง
มีคนมากมาย ล้วนเป็นคนสังคมชั้นสูงของเมืองเทียนหลิง
เห็นได้ชัดว่า ชื่อเสียงของบริษัท ว่านตง จำกัดนั้นใหญ่จริงๆ
“ทุกท่าน วันนี้ผมจะเปิดประมูลของสิ่งหนึ่ง เป็นดาบรบนี่ไม่ใช่ดาบรบ ธรรมดาๆ แต่เป็นดาบรบ ที่มีคราบเลือด คนของพวกเราพิสูจน์แล้วว่า นี่เป็นดาบติดตัวของนายพลศัตรู มีค่าควรเมือง และมีความความหมายมาก”
พอซ่งเฉิงพูดไป ด้านหลังก็มีผู้หญิงสวมกี่เพ้าเดินเข้ามา ในมือถือกล่องใบหนึ่ง พอเปิดออกมาดู ก็เป็นดาบรบเล่มหนึ่งที่เป็นสนิมแล้ว แต่ต่อให้เป็นสนิมแล้ว ก็ยังสามารถมองเห็นได้ว่า มันน่ากลัว
พอเปิดออก ทุกคนก็เกิดความรู้สึกชะงักในใจ ทุกคนเหมือนได้เห็นทหารหาญคนหนึ่ง ถือดาบต่อสู้อย่างไม่แพ้ใคร
คราบเลือดด้านบน กลายเป็นรอยสนิมไปแล้ว!
กลับทำให้คนรู้สึกว่า มันเป็นรอยแห่งสงคราม รอยแห่งเกียรติยศ
“ดาบเล่มนี้ดีมาก ดีมากจริงๆ ”
“เจ้าของดาบเล่มนี้ เป็นชายชาติทหาร แต่โชคดีที่เป็นของคนประเทศอื่น เจ้าของได้ตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงยุ่งแน่”
“ดาบเล่มนี้เป็นของสะสมของประธานซ่ง เขาเคยพูดว่า ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ขาย แต่ว่าครั้งนี้……….”
ทุกคนก็ซุบซิบกันระงมที่ด้านล่างเวที
ส่วนซ่งเฉิงอยู่ด้านบนเวที ก็ยกมือให้หยุดพูด พร้อมกับเอ่ยว่า “คิดว่าทุกท่านล้วนรู้ดี ว่าดาบเล่มนี้เป็นของสะสมของผม ผมเคยบอกว่าจะไม่ขาย แต่วันนี้ไม่เหมือนตอนนั้น อสังหาริมทรัพย์ว่านตงของพวกเรากำลังจะมีโครงการใหญ่ เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับทั้งเมืองเทียนหลิง ดังนั้น ต้องการเงินทุนจำนวนมาก”
“ส่วนโครงการนั้น ทุกท่านก็ทราบดี ผมหวังว่าทุกท่านจะร่วมมือกัน พัฒนาไปด้วยกัน”
คนด้านล่างก็รู้ว่าอสังหาริมทรัพย์ว่านตงมีโครงการอย่างหนึ่ง ถ้าสำเร็จขึ้นมา บริษัท ว่านตง จำกัดก็จะรุ่งเรืองขึ้นเป็นหลายเท่า และทุกอย่างมันก็ได้พร้อมหมดแล้ว ขาดเพียงเงินทุนอีกส่วนหนึ่งเท่านั้น
เอาดาบชื่อดังที่เป็นของสะสมของตนเองออกมา เพื่อหาเงินทุน อีกด้านก็เพื่อแสดงจุดยืน
แสดงจุดยืนว่าตนเองนั้นตั้งใจจริง
ไม่ใช่ล้อเล่น บริษัทที่อยากจะร่วมลงทุนด้วย ก็สามารถเข้ามาคุยงานกันได้เลย
คนด้านล่างไม่น้อย ล้วนคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้ แล้วได้ผลประโยชน์ให้มากที่สุด แต่ว่าพวกของฉินเฟิงทั้ง3คน กลับจ้องมองไปยังดาบเล่มนั้น
“นี่มัน อาวุธของไอ้โจว!”
ฉินเฟิงตาเป็นประกายออกมา
ดาบรบเล่มนั้น ไม่ใช่ดาบของทหารศัตรูอะไรหรอก แต่เป็นดาบรบของไอ้โจว ฉินเฟิงเป็นคนมอบให้เขาเอง ดาบรบเล่มเดียวก็บุกฆ่าศัตรูได้ ใครได้ยินก็ต้องกลัว!
แต่ว่าวันนี้ กลับถูกเอามาประมูลขาย!
เอามาประมูลขายกันโจ่งแจ้งแบบนี้เลย!
แต่ว่า ที่สำคัญก็คือ ดาบรบเล่มนี้ ถูกฝังไปพร้อมกับไอ้โจว ฝังไว้ที่หลุมฝังศพหมายเลข10 ได้หลับใหลไปพร้อมกับไอ้โจวแล้วนี่
สาเหตุที่มาโผล่ที่นี่ มีเพียงเหตุผลเดียว
โจรขุดสุสาน!
หรือไม่ก็ไปขุดหลุมฝังศพ!
“บักหมาน้อยซ่ง มึงนี่มันกล้านักนะ แม้แต่หลุมฝังศพของพี่น้องกู มึงก็ยังกล้าขุด”
ฉินเฟิงมีรังสีอาฆาตแพร่ออกมาทั้งตัว นี่เป็นถึงพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของเขาเลยเชียวนะ!
“นายพล ให้ผม……”
ฉีหยุนอดไม่ได้แล้ว ในมือก็ปรากฏดาบรบเล่มหนึ่งขึ้นมา หวังเถ่ก็เหมือนกัน ใช้สายตาทั้งสอง บอกเป็นนัยให้กับฉินเฟิง ว่าเขาอยากจะไปฆ่าบักหมาน้อยซ่งคนนั้น
นี่เป็นถึงของที่พี่น้องตนเองเหลืองทิ้งไว้
“รอเดี๋ยว”
ฉินเฟิงส่งสายตาไป “ถ้าบุกเข้าไปแบบนี้ ก็จะง่ายต่อไอ้บักหมาน้อยซ่งนั่นเกินไป ค่อยๆ จัดการ ไปทีละก้าว!”