เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 247 3เมตรรอบตัวเจ้าพระคุณ ห้ามเข้าใกล้
หลังจากร้องไห้ไปแล้ว อารมณ์ของโจวเสี่ยวเมิ่งก็ค่อยๆ ดีขึ้นมา เพราะถึงอย่างไรในใจเธอก็รู้ความจริงนี้แล้ว ครั้งนี้ เป็นเพียงแค่ระบายความรู้สึกออกมาเท่านั้น
“อย่าบอกย่าหนูนะคะ ย่าหนูร่างกายไม่แข็งแรง” โจวเสี่ยวเมิ่งพูดเน้นย้ำ
“อืม ไอ้โจวก็คิดแบบนี้แหละ”
ฉินเฟิงเห็นด้วย
หลังจากนั้น ก็ส่งโจวเสี่ยวเมิ่งกลับไป โจวซูหวน เขา เสี่ยวเมิ่ง คุณยาย หวังเถ่และฉีหยุน ก็กินข้าวเย็นด้วยกันอย่างมีความสุข หลังจากกินข้าวแล้ว ฉินเฟิงก็ออกจากเขตบ้านไป
ลานบ้านนั้นไม่กว้าง เป็นพื้นปูน แสงยามค่ำคืนส่องลงมา
“ฉีหยุน ตอนนี้บักหมาน้อยซ่งคนนั้นอยู่ที่ไหน?”
ฉินเฟิงบิดขี้เกียจ
“อยู่ที่โรงแรมตี้เหา กำลังประมูลขายบางอย่างอยู่ ที่เรียกว่าของล้ำค่า” ฉีหยุนกัดฟันพูด
“ของล้ำค่างั้นหรือ?ดีมาก”
ฉินเฟิงเรียกหวังเถ่ แล้วเดินไปทางประตูพร้อมพูดว่า “พรุ่งนี้ก็จะกลับเมืองเจียงเฉิงแล้ว คืนนี้จะต้องจัดการปัญหาทุกอย่างให้เรียบร้อย บริษัท ว่านตง จำกัดควรจะต้องเปลี่ยนเป็นค่ายกากมนุษย์ได้แล้ว”
“ครับ”
หวังเถ่และฉีหยุนตอบรับ
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดที่หน้าประตู ฉินเฟิงเงยหน้ามอง เห็นเป็นชื่อ โรงแรมตี้เหา ขนาดใหญ่ เป็นโรงแรมที่สูง33ชั้น
ที่หน้าประตูนั้น มีรถหรูจอดอยู่มากมาย ผู้คนพลุกพล่าน ล้วนเป็นคนชั้นสูงที่สวมเสื้อผ้าหรูหรา ใส่นาฬิกาข้อมือแพงๆ เดินกันไปมา ดูคึกครื้น
“นายพลครับ โรงแรมตี้เหาเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนหลิง ระดับ5ดาว เป็นของอสังหาริมทรัพย์ว่านตง ในเมืองเทียนหลิงนี้ อสังหาริมทรัพย์ว่านตงถือว่าเป็นใหญ่”
ฉีหยุนแนะนำอยู่ข้างๆ
บริษัท ว่านตง จำกัด ตั้งตัวจากอสังหาริมทรัพย์ แล้วก็ฝีมือทางด้านการบริหารอย่างรวดเร็ว ขยายไปทั่วทั้งเมืองเทียนหลิง
“ไปกันเถอะ เข้าไปดูไอ้บักหมาน้อยที่ว่ากันหน่อย”
ฉินเฟิงยิ้ม แล้วก็ลงจากรถ
จากนั้น ก็เดินตรงเข้าไปยังโรงแรมตี้เหา
แต่ว่า ในตอนนี้เอง มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกผู้ชายคนหนึ่งฉุดกระชาก อยากจะหาทางหนีออกจากชายคนนั้น แล้วก็มองมาที่ฉินเฟิง
แต่งตัวธรรมดาๆ แต่มีมาดไม่ธรรมดา ใบหน้าก็หล่อเข้ม หล่อคม
ก็ดีใจขึ้นมาทันที
“คุณสามีคะ ฉันอยู่นี่”
พูดไป หลิ่วย่านย่านก็เตรียมจะโผกอดเข้าสู่อกของผู้ชายที่มีมาดไม่ธรรมดาคนนี้ เธอไม่คิดว่าชายคนนี้จะปฏิเสธ เพราะถึงอย่างไรในเมืองเทียนหลิง เธอก็ถือว่าเป็นคนชั่นสูงที่รูปร่างสวยคนหนึ่ง
รูปร่างก็ดี ใบหน้าก็สวย
มีคนสวยแบบนี้โถมตัวเข้าไปกอด ถ้าเป็นผู้ชายก็ไม่มีทางจะปฏิเสธเรื่องดีๆ แบบนี้หรอก ถ้าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ทำได้ดีล่ะก็ บางทีเธออาจจะให้โอกาสเขาก็ได้
แต่ว่า ตอนที่เธอวิ่งจะไปซบอกนั้น กลับไม่มีใครรับกอดไว้
ผู้ชายคนนี้หลบออกไป
“ออกไปห่างๆ ผมหน่อย”
ฉินเฟิงยืนกุมมือ สายตาไม่สนใจ
“ออกไปห่างๆ นายงั้นหรือ?”
หลิ่วย่านย่านหยุดหายใจไปตอนนั้น จากนั้นก็จ้องมองดูตัวเอง ใส่กระโปรงสีขาวโชว์สะโพก โชว์ทรวดทรงองค์เอวขนาดนี้ ที่ควรใหญ่ก็ใหญ่ ที่เล็กก็ควรเล็ก ใบหน้าก็ศัลยกรรมมาตั้งหลายครั้ง เรียกได้ว่าสวยสมบูรณ์แบบมาก
ทำให้คนหลงใหลได้
แต่ ตอนนี้คนนี้กลับบอกให้ออกไปห่างๆ หน่อยอย่างนั้นหรือ?
นี่มัน!
“นายหมายความว่าอย่างไร? คนสวยแบบฉัน นายปฏิเสธงั้นหรือ? ฉันก็อุตส่าห์เรียกออกมาว่าคุณสามี แต่นายยังปฏิเสธอีก คนไม่รักดี”
หลิ่วย่านย่านโมโห
“อย่างแรก คำว่า สามี ไม่ใช่ใครก็จะมาเรียกได้ง่ายๆ คำเรียกนี้ มีคนเดียวเท่านั้นที่เรียกได้ อย่างที่สอง คนสวย งั้นหรือ? เมื่อเทียบกับภรรยาผมแล้ว คุณเทียบได้แม้แต่เส้นผมของเธอด้วยซ้ำ”
หลังจากพูดจบ ฉินเฟิงก็เอามือไพล่หลัง แล้วเดินขึ้นหน้าไป
“อะไรนะ!”
แต่หลิ่วย่านย่านกลับถูกฉินเฟิงพูดจนโมโหขึ้นมาแล้ว ถึงกลับบอกว่าเธอสวยสู้เมียชายคนนั้นไม่ได้แม่แต่ปลายเล็บ เธอเป็นใครรู้ไหม เธอคือหลิ่วย่านย่านเชียวนะ
คุณหนูตระกูลหลิ่ว ปกติก็มีคนคอยตามจีบมากมาย!
แต่ว่า กลับมีคนปฏิเสธเธอเสียอย่างนั้น
“จางเทียนจื๋อ!”
ทันใดนั้น หลิ่วย่านย่านก็ใช้สายตาร้ายๆ มองไปยังคุณชายตระกูลจางที่ตามตื๊อเธออยู่ทางด้านหลัง แล้วพูดว่า “ไปฟันมือมันให้ขาดไปข้างหนึ่งเลย แล้วเดี๋ยววันนี้ฉันจะเป็นของนาย”
“ได้เลย”
จางเทียนจื๋อก็มีสายตาเป็นประกายของความดีใจออกมา
เขาตามจีบหลิ่วย่านย่านมานานแล้ว แต่เธอเล่นตัวอยู่ตลอดเวลา เขาก็เลยจีบไม่ติดสักที แต่ตอนนี้มีโอกาสแล้ว
ส่วนหมอนั่น หลิ่วย่านย่านไปให้โอกาสก็ไม่สนใจ รนหาที่ตายจริงๆ !
“เห้ย หยุดอยู่ตรงนั้น กูคือคุณชายของตระกูลจางในเมืองเทียนหลิง มึงคงจะเคยได้ยินชื่อตระกูลจางของพวกกูนะ ตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนหลิง ทางที่ดีมึงยอมเสียดีๆ ถ้าไม่ฟัง กูสั่งคำเดียว ก็สามารถทำให้มึงตายไร้อย่างที่ฝังอยู่ที่เมืองเทียนหลิงนี้ได้เลย”
จางเทียนจื๋อพูดไปด้วย เดินเข้าไปหาฉินเฟิงด้วย เขายื่นมือหนึ่งออกไป เตรียมจะจับตัวของฉินเฟิงไว้
เขาก็เคยฝึกวิชาต่อสู้มา ต่อสู้ถือว่าเก่ง
สายตาชั่วร้าย เตรียมจะจัดการฉินเฟิง คืนนี้ก็ได้จะได้กลับไปกลับสาวสวยแล้ว
แต่ว่า
“เฮือก……”
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้น
ทุกคนก็อึ้ง ลืมตาอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้า
เห็นข้อมือล่วงลงมาจากขั้นบันได มีคนคนหนึ่งเอาตัวปิดมือไว้แน่น สีหน้ากำลังร้องด้วยความเจ็บปวด คนนั้นก็คือ คุณชายของตระกูลจาง
“3เมตรรอบตัวเจ้านายกู เป็นพื้นที่ต้องห้าม”
ในมือของฉีหยุน ถือดาบไว้เล่มหนึ่ง มาปกป้องฉินเฟิงอยู่ด้านหน้า
เมื่อครู่นี้ก็คือมือของเขา
“ให้ตายเถอะ หมอนี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า นี่เป็นถึงคุณชายของตระกูลจางในเมืองเทียนหลิงเลยนะ เป็นตระกูลใหญ่เลยนะ พวกนั้นกล้าทำขนาดนี้เลยหรือนี่ ไม่อยากมีชีวิตกันแล้วหรือไง?”
“แล้วก็ ยังมีหลิ่วย่านย่านคนนั้น ก็เป็นลูกสาวสุดที่รักของตระกูลหลิ่ว มีฐานะสูงส่ง”
“พวกคุณอย่าลืมนะ วันนี้เป็นงานประมูลของบริษัท ว่านตง จำกัด หมอนี่มันมาก่อความวุ่นวาย บริษัท ว่านตง จำกัดคงไม่ปล่อยมันไปแน่ นี่มันเป็นเหมือนกับหาเรื่องกำลังคนมีอิทธิพลทั้ง3แห่งเลยนะ”
“บ้าไปแล้ว คงจะบ้าไปแล้วจริงๆ ”
คนรอบๆ ก็อ้าปากค้าง แทบจะหยุดหายใจ
คนพวกนี้ น่าจะเป็นคนนอก กล้าทำถึงขนาดนี้เลยหรือนี่ ให้ตายเถอะ ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไง
“ไปกันเถอะ”
แต่ว่า ฉินเฟิงไม่ได้สนใจพวกคนอื่นเลยด้วยซ้ำ แล้วก็พาฉีหยุนและหวังเถ่เดินเข้าไป
และทิ้งให้จางเทียนจื๋อทำหน้าเจ็บปวด จับแขนที่ถูกตัดของตนเองต่อไป ร้องโอดโอยว่า “กูไม่ปล่อยมึงไปแน่ ไม่ปล่อยมึงไปแน่ หลิ่วย่านย่าน โทรหาทางบ้านคุณเลย ครั้งนี้ผมจะทำให้ไอ้หมอนั่นมันได้ตายทั้งเป็น”
“ได้”
หลิ่วย่านย่านรีบโทรออกไป โทรหาตระกูลหลิ่ว แล้วก็รวมคนของตระกูลหลิ่วมา เตรียมจะปิดล้อมโรงแรมตี้เหาแห่งนี้
มีตอนไหนกัน ที่หลิ่วย่านย่านจะถูกเมินเฉยแบบนี้
“พ่อครับ ผมถูกคนเล่นงาน ถูกคนนอกถิ่นมาเล่นงาน มาช่วยผมที!”
ส่วนจางเทียนจื๋อ ก็โทรหาทางบ้านตนเองเหมือนกัน และใช้ท่าทางเหมือนตนเองกำลังจะตายไปร้องขอความช่วยเหลือ ทำเป็นร้องโอดโอยออกมา
ทันใดนั้น
ตระกูลจางก็เคลื่อนกำลังมาทั้งหมด
ครั้งนี้ ตระกูลจางและตระกูลหลิ่ว สองตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนหลิงยกกำลังออกมากันหมดเลย
แต่ว่า พวกเขาไม่รู้ว่า รอบนอกนั้น เหลัยงชิวโม่กำลังรอคำสั่ง