เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 217 อิ่นหนิงหยู่พบเจอแล้ว หงายไพ่
ฉางลี่เสว!
ท่านนี้อยู่ที่อ่าวย่าหลง กินดีอยู่ดี เรียกว่าเป็นบุคคลที่สุดยอดอย่างมากคนหนึ่ง ตอนแรกที่ฉางลี่เสวไปหาหวังเถ่ เจอคนๆนั้นกำลังหาเรื่องที่แผงปิ้งย่างอยู่พอดี
คิดไม่ถึง ครั้งนี้มาเจอกันอีกแล้ว
บังเอิญมากจริงๆ
“แก……เป็นแกเองเหรอ……”
เห็นฉินเฟิง ในสมองของฉางลี่เสวก็ปรากฏเงามืดขึ้นมาแล้ว ไปกินปิ้งย่างเมื่อครั้งก่อน เป็นเพราะว่าเขาไม่ชอบฉินเฟิงคนนี้ หลังจากนั้นก็เข้าไปชกต่อย เดิมทีด้วยพละกำลังของเขาแล้ว ตามที่คาดการณ์ไว้ สามารถต่อยฉินเฟิงให้บาดเจ็บสาหัสได้
หลังจากนั้น เขาก็ถูกต่อยบาดเจ็บสาหัสแล้ว
กระดูกซี่โครงหักห้าซี่แล้ว
และสิ่งสำคัญคือ ฉินเฟิงไม่ได้เป็นคนทำ แต่น้องชายคนหนึ่งของฉินเฟิงเป็นคนทำ!
นี่ถึงเป็นความอัปยศอดสูอย่างมาก!
ส่วนฉินเฟิง ตอนนั้นเขาสัมผัสได้ว่า ไอ้หมอนี่อันตรายอย่างยิ่ง น้องชายของฉินเฟิงมอบความรู้สึกบ้าคลั่งให้กับเขา สามารถตีเขาให้ตายทั้งเป็นได้ และฉินเฟิงก็มอบความรู้สึกที่ทำให้เขาตกใจแทบตายทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่
เขาเพิ่งจะผ่าตัด ถูกหวางลี่เชิญมาที่นี่แล้ว มารักษาบาดแผลที่อ่าวย่าหลง น้ำใสสะอาด แถมยังมีสาวสวยมากมายรายล้อม เพลิดเพลินกับชีวิตคนเป็นมนุษย์ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอไอ้หมอนี่แล้ว
ปีศาจตนนี้!
ปีศาจตนนี้สามารถต่อยให้เขาตายได้จริงๆ ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ต้องถึงหนึ่งหมัดด้วยซ้ำ!
“พี่ฉาง เป็นอะไรไป?เงินไม่พอเหรอ นี่ยังมีอีกหนึ่งล้านนะ”
เฉินเจียงคิดว่าเงินไม่พอ รีบเดินไปทันที แล้วก็ยัดบัตรเอทีเอ็มออกไปอีกหนึ่งใบแล้ว
แต่ว่าครั้งนี้ ฉางลี่เสวไม่เพียงแค่ไม่รับมา ในทางกลับกันเขาดึงบัตรเอทีเอ็มที่ผู้จัดการหยางยื่นออกไป ใช้แรงหักอย่างรุนแรง พูดด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าและขุ่นเคืองว่า : “คนอย่างฉางลี่เสวเป็นคนแบบนี้งั้นเหรอ?คนที่เรียนศิลปะป้องกันตัว จะต้องมีคุณธรรม!”
ไม่เพียงแค่โยนบัตรเอทีเอ็มไปบนพื้นเท่านั้น ยังเหยียบอย่างรุนแรงสามสี่ครั้งด้วย แสดงถึงความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรมของตัวเอง
หลังจากที่พูดจบแล้ว ก็เดินจากไปด้วยความโกรธ
หลังจากที่เดินเลี้ยวโค้งแล้ว ฉางลี่เสวก็เริ่มวิ่ง ยิ่งวิ่งเร็วมากขึ้น ความคิดเพียงอย่างเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือ จะต้องอยู่ให้ห่างจากไอ้หมอนั่นให้มากยิ่งขึ้น ไอ้หมอนั่น ตัวเองไม่อาจจะล่วงเกินได้
“……”
คนที่เหลือ ก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
เกิดอะไรขึ้น?
เรียกได้ว่าหนึ่งคนต่อสู้กับร้อยคน สุดยอดมาก ฉางลี่เสวที่มีฝีมืออย่างมาก ตอนนี้หลังจากที่เจอฉินเฟิงแล้ว วิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายอีกแถมยังทิ้งบัตรเอทีเอ็มไว้อีกด้วย
นั่นมันสองล้านเลยนะ
ตอนที่ผู้คนตกตะลึงจนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก หายใจไม่คล่อง อิ่นหนิงหยู่ที่อยู่ด้านหลังของฉินเฟิงมองไปที่สายตาของฉินเฟิงแล้ว ยิ่งพบความผิดปกติมาขึ้นเรื่อยๆ
“ไอ้เด็กน้อย ฉัน……ฉัน……ฉันยังมีพี่ชายของฉัน หวางลี่”
ในเวลานี้เฉินเจียงไม่รู้จะพูดอะไรดี ทหารที่ซุ่มดักโจมตี ยอดฝีมือที่เขาจัดเตรียมไว้ ตอนนี้ก็ถูกทำลายล้างจนเกือบหมดแล้ว เขาไม่มีไพ่ใบสุดท้ายแล้ว ท้ายที่สุดไม่มีทางเลือกอื่น พละกำลังจะอ่อนแอลงไม่ได้ ทำได้เพียงหยิบยกพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองออกมาแล้ว
ถึงอย่างไรก็เป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวางหนึ่งในห้าวงศ์ตระกูลที่ยิ่งใหญ่
หยิบยกมา ข่มขู่ในคนกลัวก็พอแล้ว
เพียงแต่ว่า ข่มขู่คนทั่วไปน่ะเพียงพอแล้ว ข่มขู่ฉินเฟิง ต่อให้หยิบยกหัวหน้าของประเทศชาติออกมา ล้วนแต่ข่มขู่ให้ฉินเฟิงตกใจกลัวไม่ได้ ไม่เพียงแค่ทำให้ตกใจกลัวไม่ได้แล้ว แถมในสายตาของฉินเฟิงก็เพิ่มความน่าสนใจขึ้นมาแล้ว : “หวางลี่เหรอ?ให้เขามาสิ”
“ห๊ะ!”
เฉินเจียงอึ้ง
เขาคิดไม่ถึงว่า ไอ้หมอนี่จู่ๆจะไม่เกรงกลัวหวางลี่ อย่างที่รู้ๆกันนั่นเป็นคุณชายของตระกูลหวางที่เป็นหนึ่งในห้าวงศ์ตระกูลใหญ่เลยนะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะล่วงเกินกันได้
“หัวหน้า รีบไปเรียกคุณชายหวางลี่มาเถอะ ให้คุณชายหวางลี่ จัดการกับไอ้หมอนี่ให้หนักๆเลย ”
เฉิงหงทนมองต่อไปไม่ได้แล้ว เดินออกมา จ้องมองฉินเฟิงด้วยความโกรธเลย
“ฉัน……”
เฉินเจียงฝืนยิ้มครู่หนึ่ง เขาเป็นแค่สมาชิกของตระกูลเล็กๆ ทรัพย์สินของตระกูลมีเพียงสิบกว่าล้านเท่านั้น เทียบกับตระกูลหวางของห้าตระกูลที่ยิ่งใหญ่นั่นไม่ได้เลย พวกเขาแค่มีความสัมพันธ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเท่านั้น ปกติก็เอามาไว้ข่มขู่คนให้กลัวก็เท่านั้น
ไม่อย่างนั้นอ่าวย่าหลงและฉางลี่เสวนั่น เขาก็ไม่ต้องยัดเงินแล้ว
ปกติแค่ข่มขู่คนเขาก็กลัวแล้ว แต่ว่านี้ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะเจอคนแบบฉินเฟิงแล้ว ไม่เพียงแค่ไม่ตกใจกลัวนะ แถมยังรอคอยให้คุณชายหวางลี่นั่นมาอย่างมาก
นี่เป็นใครกัน
“ฉัน……ถังแก๊สที่บ้านฉันยังไม่ได้ปิด……ฉันต้องรีบกลับบ้าน!”
เห็นทุกคนมองมาที่เขา เขาในเวลานี้ถึงจะเป็นการยากที่จะถอนตัวออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบากจริงๆ สีหน้าอึมครึม ท้ายที่สุดก็ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงหาข้ออ้าง รีบออกจากที่นี่ เรียกหวางลี่มา จะเรียกยังไง!
เขาไม่ได้หน้าด้านขนาดนั้น
แต่ว่า เขาไม่มีทางที่จะคาดคิดได้เลยว่า ยังไม่ถึงหนึ่งวัน หวางลี่คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหวางคนนี้ ก็เป็นคนเริ่มมาหาเขาก่อนแล้ว
“ไม่น่าสนใจ”
ฉินเฟิงส่ายหน้าแล้ว แต่ว่าพูดมุมปากเบาๆว่า : “หวางลี่คนนี้ ช่างสมยอมคนเขาดีจริงๆ”
“คือว่า ถังแก๊สที่บ้านของฉันก็ยังไม่ได้ปิดเหมือนกัน”
ผู้จัดการหยางเห็นภาพฉากนี้แล้ว ก็รีบถอยหลังแล้ววิ่งหนีไป เขาเพียงแค่วิ่งหนีก็เท่านั้น และก็ไม่กล้าเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้อีกแล้ว สำหรับคนที่ต้อยต่ำเช่นนี้ ฉินเฟิงก็ไม่ได้มีความคิดที่จะทำอะไร
ก็ตามนี้แหละ งานเลี้ยงรุ่นในครั้งนี้ จุดจบก็ตกอยู่ในภาพฉากที่ตลกขบขันเช่นนี้แล้ว
คนบางส่วนเหลือที่อยู่ที่นี่ เล่นสนุกต่ออีกหน่อย ส่วนคนอื่นบางส่วนก็รีบออกไปจากที่นี่ทันที หนึ่งในนั้นที่ออกไปจากนี้ก็มีกลุ่มเฉิงหง สีหน้าอึมครึม ครั้งนี้เธอก็โดนอิ่นหนิงหยู่บดขยี้อีกแล้ว
“กลับไปแล้ว?”
ฉินเฟิงเอียงศีรษะมองไปที่อิ่นหนิงหยู่แล้ว
“อืม”
อิ่นหนิงหยู่พยักหน้าแล้ว ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเงียบขรึมอย่างมาก
ผิดปกติ
ฉินเฟิงสามารถสังเกตอะไรบางอย่างได้
ยัยเด็กคนนี้ เกรงว่าจะเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว
ระหว่างทางกลับไป ฉินเฟิงขับรถอยู่ข้างหน้า อิ่นหนิงหยู่นั่งที่เบาะข้างคนขับ ทั้งเส้นทางล้วนแต่เงียบขรึมไม่พูดมาจา แต่เมื่อถึงเส้นทางที่เปลี่ยว จู่ๆอิ่นหนิงหยู่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมพูดว่า : “จอดรถ”
สายตาที่เยือกเย็นสาดส่องเข้ามา
อิ่นหนิงหยู่หยิบมีดออกมาแล้ว จ่อไปที่คอของฉินเฟิง คนทั้งคนพูดถามด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น กัดฟันพูดว่า : “คุณเป็นใครกันแน่?ที่คุณปิดบังไว้ เป็นเพราะอะไรกันแน่?”
เธอพบเจอเข้าแล้ว!
เธอไม่ใช่คนโง่ เมื่อก่อนถูกฉินเฟิงทำให้มึนงง แม้ว่ารู้สึกว่าผิดปกติ แต่ว่าก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่ว่าวันนี้ต่างกันแล้ว ฉินเฟิงเปิดเผยมากเกินไปแล้ว
สายตานี้ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มใหญ่ตกใจกลับจนหนีเตลิดไปแล้ว
เพียงประโยคเดียว ทำให้พวกคนโหดเหี้ยมนั่นตกใจกลัวจนหนีเตลิดไป
เผชิญหน้ากับคนมากมายขนาดนั้น เผชิญหน้ากับชื่อของคุณชายหวางลี่คนนั้นที่เฉินเจียงหยิบยกออกมา ต่างก็พูดแล้วว่าเป็นคุณชายตระกูลหวางที่เป็นหนึ่งในห้าของวงศ์ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ แต่ว่าฉินเฟิงยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเฉย
นี่เป็นสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถทำได้เหรอ?
เพราะงั้น เธอสงสัยว่าฉินเฟิงจะมีเจตนาที่ไม่ดี ซ่อนตัวมาอยู่ข้างกายของเธอโดยเฉพาะ จัดการกับเธอ จัดการกับพี่สาวของเธอ ถึงขั้นกับจัดการหลานสาวตัวน้อยที่น่ารักนั่นของเธอ เพราะงั้นถึงได้หยิบมีดมาด้วยในตอนสุดท้ายที่จะออกไป
ถ้าหากเป็นคนเลวจริงๆ เธอยอมที่จะตายไปพร้อมกับฉินเฟิง และไม่ต้องการให้ฉินเฟิงไปทำร้ายพีสาวของเธอ
“โธ่……”
ฉินเฟิงอุทานเล็กน้อย เหยียบเบรกรถ รถจอดอยู่ที่ข้างทางแล้ว หลังจากนั้นมองไปทางอิ่นหนิงหยู่พร้อมพูดว่า : “วางมีดลงเถอะ มีดเล่มนี้เอามาใช้ตัดเนื้อสเต๊กก็ยังได้อยู่ ถ้าเอามาเพื่อฆ่าคน ทือเกินไปแล้ว อีกอย่าง ปาดน้ำตาของคุณก่อน ถึงอย่างไรก็เป็นถึงดาวโรงเรียน ระวังเรื่องผลกระทบหน่อย อย่าทำให้คนอื่นคิดว่าฉผมรังแกคุณ ”
“จริงสิ อย่าสั่นมือ ถ้ามือสั่นแล้วจะฆ่าคนไม่ได้ ”
มือของอิ่นหนิงหยู่สั่นมาก ดวงตาแบบอัลมอนด์ จับจ้องไปที่ฉินเฟิงอย่างแน่นหนา มีหยาดน้ำตาเล็กน้อย : “คุณเป็นใครกันแน่?