เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 216 เจอฉางลี่เสวอีกแล้ว
“พี่เขย ฉันคิดว่า เขามีกองกำลังทหารที่ดักซุ่ม”
อิ่นหนิงหยู่หลบอยู่ด้านหลังของฉินเฟิงแล้ว แต่ว่าผ่านประสบการณ์ในเมื่อก่อนมากว่าหลายครั้ง แต่เธอรู้ว่าพี่เขยราคาถูกของตัวเองคนนี้ อย่างอื่นไม่โอเค แต่ว่าเก่งเรื่องชกต่อยอย่างมากจริงๆ
ไม่งั้น วันนี้เธอไม่มีทางเรียกฉินเฟิงมาแน่นอน
ไม่เพียงแค่เป็นโล่กำบังเท่านั้น ยังปกป้องด้วย
“วางใจได้”
ฉินเฟิงยิ้มอย่างราบเรียบ หลังจากนั้นเอามือไพล่หลังมองไปยังเฉินเจียงแล้ว : “ฉันกลับว่าอยากรู้มาก คุณจะทำไม่ให้ฉันออกไปได้ยังไงกันแน่?ลองดูได้ ”
คนที่ทำให้เทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัวออกไปไม่ได้ ยังไม่เกิดเลยนะ
“จองหองเลยทีเดียวนะ กูเคยสอบถามเรื่องมึงมาบ้างแล้ว เคยเป็นทหารมาก่อน เก่งเรื่องต่อสู้ แต่ว่าต่อให้เก่งเรื่องการต่อสู้มากแค่ไหน ก็ไม่มีทางต้านทานคนกว่าหลายร้อยคนได้ มึงต้องรู้ไว้นะ อ่าวย่าหลงเป็นเขตอิทธิพลของพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของกู”
เฉินเจียงยิ้มอย่างโหดร้ายและน่ากลัว
เขาต้องการจีบอิ่นหนิงหยู่ แน่นอนว่าต้องไปสืบเรื่องของฉินเฟิงแล้ว แต่ว่าหลังจากสืบแล้ว ก็พบว่าเป็นแค่ลูกเขยจนๆที่แต่งงานเข้ามาอยู่บ้านฝ่ายหญิง ตอนนี้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นอกจากชกต่อยเป็นนิดหน่อยแล้ว ก็ไม่มีจุดเด่นอะไรเลย
คนแบบนี้ หากเขาจัดการ ก็สามารถทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่น
“ใครก็ได้มานี่หน่อย!”
ในเวลานี้ เฉินเจียงตะโกนออกมาคำหนึ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าหลายร้อยคนก็เดินออกมาจากรอบข้างแล้ว แต่งตัวชุดเครื่องแบบ ในมือถือกระบอกไฟฟ้า แข็งแกร่งและห้าวหาญปรากฏอยู่ตรงหน้า
“คุณชายเฉิน ผมรับคำสั่งของคุณชายหวางของเราให้มาที่นี่”
ผู้ชายผอมๆที่เป็นผู้นำคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาทางผู้จัดการตรงนี้แล้ว
“ผู้จัดการหยาง ขอบคุณมาก”
เฉินเจียงเห็นแล้ว หัวเราะเหอๆ ดึงซองบุหรี่จงฮั๋วออกมาแล้ว ยื่นส่งไปให้ หลังจากนั้นถึงมองไปยังฉินเฟิง พูดอย่างภาคภูมิใจว่า : “ไอ้เด็กเปรต แกคงรู้จักคุณชายตระกูลหวางของหนึ่งในห้าวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเจียงเฉิง?นั่นเป็นพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน อ่าวย่าหลงนี้เป็นบ้านของพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“ห้าวงศ์ตระกูลใหญ่?สี่วงศ์ตระกูลใหญ่มั้ง” ฉินเฟิงพูดกล่าว
ตระกูลเห้อที่เป็นหนึ่งในห้าวงศ์ตระกูลใหญ่ ถูกฉินเฟิงทำลายเรียบร้อยแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมด ถูกนำไปบริจาคให้แก่โครงการสงเคราะห์เด็กแล้ว ก็ถือว่าพวกเขาได้ชดใช้ให้กับทุกเรื่องที่พวกเขาได้ทำมาทั้งหมด
เจียงเฉินตกตะลึง : “แกรู้ว่าน้อยไปหนึ่ง?ฉันประเมินค่าแกต่ำไปแล้วจริงๆ แต่ว่าที่แกเรียกว่าแหล่งข้อมูล คาดว่าก็คงเป็นตอนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้ยินตามข้างทางสินะ ”
หลังจากที่คิดเข้าใจได้แล้ว เฉินเจียงมองไปยังฉินเฟิงแล้ว เพิ่มความดูถูกเหยียดหยามขึ้นมาแล้ว
เมื่อกี้เขายังคิดว่า ตัวตนของฉินเฟิงสูงส่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้หรือเปล่า ข้อมูลนี้มีเพียงคนระดับสูงในเมืองเจียงเฉิงถึงเข้าใจได้ แต่วินาทีต่อมา ก็คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้อีก ตัวเองคิดเพ้อเจ้อแล้ว
นี่เป็นแค่เพียงผู้ชายต่ำต้อยที่เป็นกบอยู่ในกะลาก็เท่านั้นเอง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าห้าวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเจียงเฉิงมันแสดงถึงอะไร
“ผู้จัดการหยาง ตอนนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ”
เฉินเจียงมอบสนามสู้รบให้ผู้จัดการหยางที่สวมชุดสูท ค่อนข้างผอม แต่ว่าใบหน้าเจ้าเล่ห์
เมื่อผู้จัดการหยางได้ยิน ยิ้มทันที โบกไม้โบกมือ : “คุณชายเฉิน วางใจได้ วันนี้ เราจะต้องให้ไอ้หมอนี่แบกรับผลที่ตามมาจากสิ่งที่ก่อไว้ให้ได้แน่นอน”
พูดจบ นัยน์ตาก็ปลดปล่อยแสงแห่งความโหดเหี้ยมออกมา มองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นพร้อมพูดว่า : “บุกเข้าไป”
เพียงคำเดียว
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นบิดๆคอ ทยอยกันโบกสะบัดแท่งเหล็กที่อยู่ในมือแล้ว คำรามเสียงดัง เดินเข้าไปยังฉินเฟิงอย่างดุเดือดกันทีละคน ทำให้คนตกใจอย่างมาก
เพียงแต่ว่า ฉินเฟิงมองไปยังพวกเขาแวบหนึ่ง หรี่ตามองพร้อมพูดว่า : “แค่คนอย่างพวกแก?ก็มีสิทธิ์มาต่อสู้กับฉัน?”
“ไสหัวไป!”
ตะโกนเสียงดังคำราม
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เดิมทีมีใบหน้าที่ดุร้าย ทันใดนั้นก็ตัวสั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าถูกทำให้ตกใจอย่างมากยังไงอย่างนั้น กระทั่งมีเสียงคนตุบๆ นั่งลงบนพื้นแล้ว
ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ช่วยด้วย ฆ่าคนแล้ว!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งจู่ๆก็ส่ายหัว วิ่งหนีไปอย่างบ้าคลั่งยังไงอย่างนั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆก็หนีไปด้วย ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับว่าเจอสิ่งที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น
ไม่ถึงสามวินาที เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าร้อยคน วิ่งหนีกันหมดเกลี้ยง
“เป็นไปได้ยังไง!”
คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทุกคนต่างก็อึ้งกันหมดแล้ว!
เกิดอะไรขึ้น!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่าร้อยคนที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อ้วนท้วนแข็งแรงบึกบึน จู่ๆก็ถูกเสียงตะโกนที่เยือกเย็นของคนๆหนึ่งทำให้ตกใจกลัววิ่งหนีไปแล้ว ตกใจกลัวและหนีกันแบบนี้แล้ว มันช่างน่าเหลือเชื่ออย่างมาก
โดยเฉพาะเฉินเจียงคนนั้นและผู้จัดการหยาง ตกตะลึงจนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเลย
เจอผีเข้าแล้ว
ทำไมถึงได้ตกใจกลัววิ่งหนีกันหมดแล้ว!
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับไม่รู้ว่าฉินเฟิงมีฐานะเป็นผู้นำของกองทัพแห่งอีสเตอร์แลนด์ ผู้นำสามแสนกองทัพใหญ่ ฆ่าผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน ด้วยมือทั้งสองข้าง ทั้งโดยตรงและทางอ้อม คนที่ถูกฆ่าตายมีมากถึงหนึ่งล้านคน
ถูกเรียกว่า ‘เทพสังหาร’
สายตาของฉินเฟิง ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทนได้ ถึงอย่างไรสิ่งที่ปรากฏขึ้นในจิตใจของพวกเขาก็คือคนที่ถูกฆ่าตายมากมาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นแม้ว่าจะเรียกได้ว่าฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับภาพฉากที่อยู่ตรงหน้า ไม่ตกใจกลัวจนฉี่ราดกางเกงก็ถือว่าดีมากเท่าไหร่แล้ว
ในเวลานี้ ฉินเฟิงถึงได้เก็บเส้นสายตากลับมา มองไปยังผู้จัดการหยางและเฉินเจียง เอามือไพล่หลังพร้อมพูดว่า : “ทั้งสองคน ต่อสิ วันนี้ ฉันฉินเฟิงอยู่ตรงนี้ ดูว่าพวกแกทั้งสองจะทำให้ฉันต้อง‘รับผิดชอบถึงผลที่ตามมา’อย่างไร”
“ฉัน……แก……”
สองคนนั้นยังไม่ทันได้เรียกสติกลับมาจากอาการช็อกเมื่อครู่นี้
แต่ว่า สายตาของอิ่นหนิงหยู่ที่อยู่ด้านหลังของฉินเฟิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่ใช่คนโง่ ช่วงเวลาเมื่อสักครู่ เธอพอที่จะรู้สึกได้ว่าลักษณะนิสัยของฉินเฟิงได้เปลี่ยนไปแล้ว
เปลี่ยนไปฆาตกรรมอย่างไม่ลังเล แข็งกร้าวมาก
ฉินเฟิงในช่วงเวลานั้น ไม่เหมือนฉินเฟิง กลับว่าเหมือนใครบางคนที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้
แต่ว่า
ยังไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้
และในเวลานี้ หลังจากเฉินเจียงและพวกค่อยๆผ่อนคลายลง ถึงต้องยอมรับความจริงข้อนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากมายขนาดนี้ ล้วนแต่ถูกลูกเขยจนๆที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงคนนี้ ทำให้ตกใจจนหนีเตลิดไปขนาดนี้
“ไอ้เด็กเปตร แกอย่าได้ใจไปนะ ที่อยู่ที่นี่ในวันนี้ ไม่ใช่แค่พวกของเล่นขยะๆเหล่านี้ ยังมีเพื่อนพี่ชายของฉันอีกคน เป็นเพื่อนที่สุดยอดคนหนึ่ง ผู้จัดการหยาง คุณรีบไปเชิญตัวมาเดี๋ยวนี้ ไปแจ้งชื่อของฉันนะ”
เฉินเจียงกัดฟันแล้ว ใบหน้าแสดงสีหน้าที่โหดเหี้ยม
แอบยื่นบัตรเอทีเอ็มให้กับผู้จัดการหยางแล้ว ในบัตรมีเงินหนึ่งล้าน ถือเป็นมูลค่าในการเชิญตัวเพื่อนของพี่ชายของเขา แต่ว่าเขารู้ว่าคุ้มค่าที่จ่ายออกไป เพราะว่าคนๆนั้นชกต่อยได้สุดยอดมากจริงๆ
จัดการคนอย่างฉินเฟิง ได้เหลือเฟือ
ครั้งนี้ เขาจะต้องทำให้ไอ้หมอนี้ที่ทำลายแผนการใหญ่ของเขาครั้งสองครั้งนี้ ตายไปซะยังดีกว่ามีชีวิตอยู่
“ใช่ ของเล่นขยะ”
ในเวลานี้ ผู้จัดการหยางก็นึกถึงผู้นำคนนั้นที่อ่าวย่าหลงของพวกเขาขึ้นมาได้ เป็นเพื่อนของคุณชายหวางของพวกเขา แต่เป็นบุคคลที่สุดยอดอย่างมาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้เคยต่อสู้กับบุคคลท่านนั้นแล้ว
สองสามคนก่อนหน้า แขนขาดขาหักไปเลย ส่วนคนที่เหลือก็ไม่กล้าบุกเข้าไปแล้ว
เพราะงั้นเมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำคนนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้เป็นของเล่นขยะๆจริงๆ
“เด็กเปรต แกอย่าหนีนะ แกรอเลย ฉันจะไปเชิญผู้นำท่านนั้นมาเดี๋ยวนี้ ให้แกได้เปิดประสบการณ์หน่อย อะไรที่เรียกว่าสุดยอด แกอย่าคิดว่าตัวแกเองชกต่อยเก่งมาก เผชิญหน้ากับบุคคลท่านนั้น แกก็แค่คนที่อยู่ระดับต่ำๆ”
ผู้จัดการหยางวิ่งออกทันที
ไม่นานก็พาคนหนึ่งกลับมาแล้ว สูงหนึ่งร้อยแปดสิบ ร่างกายแข็งแรง หมัดกำปั้นมีพละกำลังอย่างมาก ใบหน้าดุร้าย นัยน์นำมาซึ่งไอเหี้ยมโหด ผู้จัดการหยางเดินไปพลางพูดไปพลางว่า : “ก็คือคนนั้น บอกว่าท่านเป็นแค่คนที่อยู่ในระดับต่ำๆ แค่หมัดเดียวของเขาก็จัดการท่านได้แล้ว จองหองมาก จองหองมากเกินไป…… ”
เขารีบชี้ไปทางฉินเฟิง
เขารู้สึกว่าฉินเฟิงประสบหายนะแล้ว ผู้นำคนนี้นิสัยไม่ค่อยดี ครั้งก่อนมีคนมาล่วงเกินเขาเข้าแล้ว ก็หักกระดูกของไอ้หมอนั้นเลย ดุร้ายอย่างไม่อาจจะเปรียบเทียบได้
และครั้งนี้ จุดจบของฉินเฟิงอาจจะยิ่งอนาถ
แต่หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้จัดการหยางพบว่าผู้นำคนนั้นไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเลย ค่อนข้างตกตะลึงไปชั่วขณะ เอียงศีรษะไปมอง ตกตะลึงแล้ว เพียงแค่เห็นว่าผู้นำคนนั้น ยืนอยู่กับที่มองไปทางฉินเฟิงด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ
และฉินเฟิง ก็มองเข้ามาแล้ว ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ฉางลี่เสว ที่หนึ่งของคิกบ็อกซิ่ง เราเจอกันอีกแล้วนะ”