เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 215 เฉินเจียงเผยธาตุแท้
“ว้าว โรแมนติกจัง ดอกกุหลาบ 999 ดอก”
“โอ้พระเจ้า”
และในเวลานี้เอง ได้มีเสียงกรีดร้องดังมาจากภายนอกห้อง ทำให้ฉินเฟิงเกิดความสนใจขึ้นมา เดินตามออกไปข้างนอก
และด้านนอกในเวลานี้
มีคนกลุ่มใหญ่รายล้อมอยู่ด้วยกัน ตรงกลางมีดอกกุหลาบวางอยู่อย่างยิ่งใหญ่ กุหลาบแต่ละดอกประกอบกันเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีกล่องของขวัญอีกเป็นจำนวนมาก ตรงกลางคือสุภาพบุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดสูท หวีผมแทรกกลาง พร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ มองเด็กสาวคนหนึ่งในนั้นด้วยแววตาเสน่หา
“หนิงหยู่ คุณรู้ไหม ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน ผมก็ตกหลุมรักคุณอย่างถอนตัวไม่ขึ้น? ใบหน้านั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของผมตราบจนปัจจุบันนี้ เส้นผมของคุณ น้ำเสียงของคุณ ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ ไม่อาจลืมได้เลยจนถึงตอนนี้”
“สี่ปีในมหาวิทยาลัย ผมชอบคุณมาแล้วสี่ปี แต่ก็ไม่กล้าสารภาพสักที วันนี้ ในที่สุดผมก็รวบรวมความกล้าเพื่อมาสารภาพกับคุณในฤดูกาลสำเร็จการศึกษานี้”
“หนิงหยู่ ผมชอบคุณ มาเป็นแฟนของผมนะ”
เฉินเจียงพูดกับอิ่นหนิงหยู่ด้วยท่าทีอ่อนโยนและอบอุ่น
“ไม่…ไม่…”
อิ่นหนิงหยู่รู้สึกสะอิดสะเอียน
ชอบมาสี่ปี ยังไม่กล้าสารภาพ?
หากคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของคนอื่น เธออาจจะเชื่อมากกว่านี้ แต่ถ้าเป็นเฉินเจียงก็ช่างมันเถอะ มันเป็นไปไม่ได้ คนแบบนี้เป็นคนประเภทได้แล้วทิ้ง
อิ่นหนิงหยู่อยากจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย
แต่จะทำอย่างไรได้ ถูกคนห้อมล้อมเอาไว้ภายในชั่วพริบตา มีทั้งเพื่อนร่วมชั้นของเธอ มีทั้งคนเดินผ่านไปมา แล้วยังมีพวกหน้าม้าที่เฉินเจียงจัดมาถ่วงเวลาอีก พวกเขาคิดว่ามันเป็นการสารภาพรักที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ส่งเสียงเชียร์ขึ้นมาทันที
“เขาจริงใจขนาดนี้ ชอบคุณมาสี่ปี ในที่สุดวันนี้ก็รวบรวมความกล้ามาสารภาพรัก คุณก็ตอบตกลงเขาเถอะ”
“อีกอย่างเขาทั้งสูงทั้งรูปหล่อ ชุดสูทก็เป็นแบรนด์เนม ตัวหนึ่งไม่ต่ำกว่าแสน คุณยังไม่ตอบตกลงอีก ถ้าเป็นฉัน ฉันตกลงไปแล้ว”
“ช่างเป็นการสารภาพรักที่โรแมนติกมาก! เป็นความรักที่โรแมนติกเหลือเกิน!”
มีคนในนั้นพูดออกมาเช่นนี้
คนกลุ่มใหญ่ส่งเสียงเชียร์ขึ้นมาทันที ขวางอิ่นหนิงหยู่ไว้ ทุกคนพูดอย่างตื่นเต้น “ตอบรับเขา ตอบรับเขา ตอบรับเขา!”
“ตอบรับเขา!”
“ตอบรับเขา!”
ไม่นานก็กลายเป็นจังหวะ ‘ตอบรับเขา’
“หนิงหยู่ ให้โอกาสผมสักครั้งเถอะ”
เฉินเจียงยังคงคุกเข่าบนพื้นข้างหนึ่ง ท่าทีจริงใจ แววตาจริงใจ แต่ในความเป็นจริง ที่มุมปากของเขามีรอยยิ้มที่น่ากลัว คนที่อยู่รายล้อม มีหลายคนที่เป็นหน้าม้าของเขา จัดมาส่งเสียงเชียร์โดยเฉพาะ
เขาไม่เชื่อว่า ภายใต้ความกดดันของผู้คนจำนวนมาก อิ่นหนิงหยู่จะกล้าปฏิเสธ
ถ้าไม่ตอบตกลงก็ไปไหนไม่ได้
ต้องตอบตกลงเท่านั้น
แต่ทว่า ในขณะที่เขากำลังแอบกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงก็พ่นเข้ามาจากทางด้านนอก กระแสน้ำพุ่งกระฉูด พาให้ฝูงชนแตกกระจัดกระจาย เปิดทางเป็นถนนเส้นหนึ่ง
“พี่เขย”
พออิ่นหนิงหยู่เห็นว่าเป็นฉินเฟิงก็วิ่งออกมาทันที รู้สึกว่ามีคนมาช่วยชีวิตแล้ว
“คุณทำบ้าอะไรน่ะ!”
แต่สิ่งที่ตามมาก็คือเฉินเจียงแผดเสียงลั่นด้วยความโกรธ ชุดสูทราคาแพงของเฉินเจียงเปียกโชก อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เลย ดอกกุหลาบบนพื้นถูกปืนฉีดน้ำยิงกระจัดกระจายเต็มพื้น
ไม่ใช่แค่ไม่มีความสวยเหลือเลยสักนิด แต่ยังเหี่ยวเฉาไปหมด
“ขอโทษครับ ได้ยินเสียงโห่ร้องดัง ผมนึกว่าไฟไหม้ เลยลากปืนฉีดน้ำมาทันที”
ฉินเฟิงถือปืนฉีดน้ำแรงดันสูงในมือ แสร้งทำเป็นงกๆ เงิ่นๆ เอามือลูบจมูก
ไฟไหม้เหรอ?
ใครจะเชื่อ!
คนที่รู้รายละเอียดแอบเหน็บเบาๆ
โดยเฉพาะเฉินเจียง เขามองไปที่ฉินเฟิงด้วยสายตาเกลียดชัง เขาไม่เคยเกลียดใครมากขนาดนี้มาก่อน วันนี้ ทุกอย่างในวันนี้ ถูกเจ้าหมอนี่ที่อยู่ตรงหน้าทำเละเทะหมด
ทั้งหมด!
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังผ่อนคลายลง ไม่ได้เกรี้ยวกราดขึ้นมา เขาหยิบดอกกุหลาบที่ยังไม่เปียกขึ้นมา ก้าวไปข้างหน้าด้วยแววตาจริงใจ “หนิงหยู่ ผม…”
เขายังอยากลองขอความรักอีกครั้ง
แต่ทว่า
โพละ!
ท่อฉีดน้ำพ่นน้ำออกมาจนเปียกโชกทั่วศีรษะของเขา ดอกกุหลาบในมือกระจัดกระจาย เปียกมะล่อกมะแล่กเป็นไก่ตกน้ำ สีหน้าของเฉินเจียงขรึมลงในทันใด มองไปทางฉินเฟิง “แก!”
“ขอโทษครับ มือลื่นไปหน่อย สวิตช์เปิดปิดปืนฉีดน้ำมันมีปัญหาน่ะ”
ฉินเฟิงชี้ไปที่ปืนฉีดน้ำอันนั้น
“แก!”
เฉินเจียงโกรธจนควันออกหู แต่เขายังคงสะกดกลั้นไว้ เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เขาจะสารภาพรัก เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ขยิบตาให้คนที่อยู่รอบๆ ผู้คนจำนวนมากเข้ามาล้อมรอบทันที
“หนิงหยู่ ผมรักคุณด้วยใจจริง”
แววตาของเฉินเจียงเต็มไปด้วยความรักอันลึกซึ้ง เขายื่นมือข้างหนึ่งออกไป กำลังจะคว้ามือของอิ่นหนิงหยู่ไว้
จากนั้น
ป้าบ
เขาถูกคนคนหนึ่งจับมือเอาไว้ ตามมาด้วยเสียงอันหนักแน่นของฉินเฟิง “คุณจะทำอะไร! เธอเป็นน้องสาวภรรยาสุดที่รักของผม เป็นน้องเมียของผม คุณแตะต้องได้เหรอ?”
“บัดซบ”
ครั้งนี้ เฉินเจียงไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป เขาเหวี่ยงหมัดออกไปทันที
แต่ว่าสิ่งที่ตามมามีเพียงเสียงดังกร๊อบ
“อ๊าก!”
มีเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนา
เฉินเจียงเอามือกุมแขนของตัวเอง ขดตัวอยู่บนพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ที่เขาปล่อยหมัดออกไปเมื่อครู่ ยังนึกว่าสามารถบังคับให้ฉินเฟิงล่าถอยออกไปได้ แต่ฉินเฟิงแค่เปลี่ยนมือ ก็ทำให้มือของเขาหักแล้ว
ครู่หนึ่งความเจ็บปวดก็ปะทุออกมา
เจ็บลึกไปถึงทรวง!
“ความสามารถแค่นี้ ยังคิดจะมาทำร้ายน้องสาวภรรยาสุดที่รักของผมอีกเหรอ?”
ฉินเฟิงมองไปที่เฉินเจียง ยืนเอามือไพล่หลัง
อย่างไรก็ตาม อิ่นหนิงหยู่แอบบุ้ยปากอยู่ลับหลัง พูดอย่างไม่พอใจ “เอะอะก็น้องสาวภรรยาสุดที่รักของคุณ ในสายตาของคุณมีแต่พี่สาวของฉัน ฮึ”
เธอมีความรู้สึกว่าที่ฉินเฟิงดูแลเธอ ก็เพียงเพราะเธอเป็นน้องสาวของอิ่นซินเท่านั้น
ก็มีทั้งดีและไม่ดี
ที่ดีก็คือ สามารถมองเห็นได้ว่า พี่เขยราคาถูกของตัวเองคนนี้ รักพี่สาวของตนจริงๆ
ที่ไม่ดีก็คือ ฮึ!
“คุณชายเฉิน เป็นอะไรไป? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“คุณชายเฉิน รีบลุกขึ้นสิ อย่าทำให้พวกเรากลัวเลย พวกเราอดกลัวไม่ได้”
“ถ้าคุณเป็นอะไรไปที่นี่ พวกเราจะมีปัญหาใหญ่”
ผู้คนที่รายล้อมอยู่เห็นเฉินเจียงลงไปกองกับพื้นก็รีบเข้าไปพยุง ทุกคนมีท่าทีตื่นตระหนก เฉินเจียงเป็นลูกผู้มีอิทธิพล จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาที่นี่ไม่ได้
หลังจากพักสักครู่ เฉินเจียงจึงลุกขึ้นจากพื้น เอามือกุมท่อนแขน เหงื่อออกเต็มใบหน้า และครั้งนี้เขามองไปทางฉินเฟิงด้วยสีหน้าดุร้าย ไม่เสแสร้งอีกต่อไป
“ไอ้หนู แกกล้ามากนะ มากจริงๆ ป่วนแผนการของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า แถมยังทำฉันจนอยู่ในสภาพนี้ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? แกรู้ไหมว่าฉันอยู่ในฐานะอะไร?”
“แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านกระจอกๆ คนเดียว แค่ยามกระจอกๆ คนเดียว กล้าเข้ามายุ่ง ไม่กลัวอะไรเลย วันนี้แกจะไม่ได้กลับไปแล้ว ฮ่าๆ แกไม่รู้เลยว่า แกมาหาเรื่องใคร วันนี้ ฉันขอออกคำสั่งว่า แกต้องถูกฝังอยู่ที่นี่”
“เธอด้วย อิ่นหนิงหยู่ วันนี้ เธอจะไม่ยอมยังไงก็ต้องยอมจนได้!”
ในขณะนี้ เฉินเจียงได้เผยความชั่วร้ายของเขาออกมาอย่างแท้จริงแล้ว