เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 180 6วันหลังจากนี้ กวาดล้างสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งเมืองเจียงเฉิงให้สิ้น
- Home
- เทพศึกมังกรหวนคืน
- ตอนที่ 180 6วันหลังจากนี้ กวาดล้างสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งเมืองเจียงเฉิงให้สิ้น
“ในเวลาเดียวกัน Mr.Xก็บอกอีกว่า 6วันหลังจากนี้ จะกวาดล้างสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งเมืองเจียงเฉิงให้สิ้น สามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งเมืองเจียงเฉิงคงจะต้องดิ้นกันเป็นแถบ เพราะว่าพวกคุณมีเวลาอีกแค่6วัน”
โหวเมิ่งหยาวเอ่ยคำของฉินเฟิงออกมาอย่างชัดเจน
ตั้งแต่ตอนที่สามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดเริ่มลงมือกับอิ่นซินแล้วนั้น ก็ได้เป็นศัตรูกับเขาไปแล้ว แต่ถ้าจะให้โมโหจัดการไปเลยทีเดียว ก็จะสบายพวกนั้นเกินไป ความน่ากลัวของจริง ก็คือการที่ได้รับรู้ว่าความตายกำลังเข้ามาถึงแล้ว แต่ตนเองทำอะไรไมได้เลย
ค่อยๆ สัมผัสกับความน่ากลัวไปทีละน้อย
ในเมื่อสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดตัดสินใจที่จะลงมือกับอิ่นซิน งั้นก็ควรแบกรับไฟแค้นนี้ของเขาไว้
แล้วก็ถือโอกาสนี้ เผยความลับที่ว่านั้นออกมา
“อะไรนะ!Mr.Xจะเปิดศึกกับสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดงั้นหรือ คุณพระช่วย”
พอพูดคำนี้ออกมา ก็เหมือนกับเอาหินก้อนใหญ่ทุ่มใส่น้ำนิ่ง เกิดเป็นระลอกคลื่นใหญ่ เล่นเอาทุกคนตกใจไปหมด Mr.Xเป็นใครกัน!
มังกรผงาดข้ามลำน้ำ มีตัวตนลึกลับ
ส่วนสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดนั้นมีกำลังเพียงใดน่ะหรือ ก็เป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิง ผู้หญิงงูพิษอย่างโจวเชียนเชียน เสือจัญไรแห่งเจียงเฉิงอย่างหยวนชิ่งตง คิดอะไรไม่เคยพลาดอย่างหลินเย่าตุง
ตอนนี้ Mr.Xได้เอ่ยวาจาจะกำจัดสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุด!
นี่เป็นสงครามที่มีการโต้เถียงกันมากที่สุดเมืองเจียงเฉิง ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนในศตวรรษที่ผ่านมา
ตึง
โหวเมิ่งหยาวกลับเข้าไปในบ้านพัก ปิดประตูใหญ่ หน้าก็แดงขึ้นมาในทันที ตอนนี้ใจของเธอยังคงเต้นรัวๆ มันน่าหวาดเสียวมาก ที่ไปประกาศสงครามกับสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งเมืองเจียงเฉิง
ชีวิตนี้ก็คงไม่ลืม
แต่ว่าเธอคิดมาตลอดว่าพอกำจัดตระกูลเห้อได้แล้ว ก็คงจะถึงที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนกันว่า สิ้นสุดงั้นหรือ?
เหอะ
มันยังอีกไกล
ตอนนี้ก็ไปเล่นไปถึงสามตระกูลที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลสูงสุดแล้ว
คุณพระช่วย
Mr.Xคนนี้เป็นใครกันแน่
เธอรู้สึกว่ายิ่งจะไม่เข้าใจความคิดของMr.Xไปเรื่อยๆ โชคดีที่เธอทำงานเป็น ใช่ ทำงานเป็น ไม่อย่างนั้นก็คงทนไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อครู่ที่ไปเผชิญหน้ากับเห้อหวย นั่นเป็นคนที่เธอรับรู้เรื่องราวตอนที่เธอกำลังเรียนหนังสืออยู่
แต่ตอนนี้กลับมานั่งคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตู
“คุณผู้ชาย จัดการแล้วค่ะ”
โหวเมิ่งหยาวผ่อนหายใจเสร็จ ก็กลับมายังห้องโถง เห็นว่าฉินเฟิงได้ถอดเอาหน้ากากออกแล้ว กำลังกอดเสี่ยวหยูดูทีวี ดูอบอุ่น มาดที่เป็นคุณชาย ลำตัวตั้งตรง ท่าทางหล่อคม เป็นผู้ชายในฝัน
ฉินเฟิงในภาพลักษณ์ที่ถอดหน้ากากออก ช่างเป็นสามีแห่งชาติจริงๆ
แต่เสียดายที่แต่งงานแล้ว
โหวเมิ่งหยาวก็แค่คิดไว้ในใจเท่านั้น แต่ไม่กล้าแสดงออกมา
“อืม”
ฉินเฟิงเอามือลูบหัวของเสี่ยวหยู แล้วพูดอีกว่า “เดี๋ยวอีกสักพักอาจะพาเพื่อนมาให้รู้จักนะ เป็นลูกสาวของอาเอง ชื่อว่ากั่วกั่ว อายุเท่าหนูเลย พวกหนูจะเล่นด้วยกัน”
บอกตามตรง จากตระกูลอิ่นมาสองวัน ฉินเฟิงคิดถึงกั่วกั่วแล้ว
ยัยหนูคนนั้นติดคน ทุกครั้งก็จะนอนกับเขา แถมยังนอนทับบนหน้าอกของเขาด้วย เช้ามาน้ำลายไหลเต็มหน้าอกไปหมด
บ๊องๆ
แต่ว่าน่ารักมาก เป็นลูกสาวสุดที่รักของฉินเฟิง
“ดีเลยค่ะ”
ตาโตๆ ของเสี่ยวหยูกะพริบปริบๆ ดํเหมือนกัน ถึงแม้เธอจะอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่มีเพื่อนเล่น เธอก็เป็นเด็กที่ชอบทำความรู้จักกับเพื่อคนอื่นๆ
จะได้เล่นด้วยกัน
ไม่นานฉินเฟิงก็ออกไป ฉีหยุนขับรถให้เขาทางด้านหน้า สีหน้าของฉีหยุนก็ยังไม่พอใจ เหมือนกับนั่งคนใบ้ ไม่พูดไม่จาตลอดทาง
“ทำไมล่ะ ยังโกรธผมอยู่หรือไง?” ฉินเฟิงถาม
“ไม่กล้าหรอกครับ”
“นั่นแหละ กำลังโกรธผมอยู่”
ฉินเฟิงส่ายหัว แล้วก็เอามือก่ายไปทางด้านหลัง พูดว่า “งั้น นายคิดว่าควรจะจัดการกับหวางเถ่อย่างไร? ฆ่าหวางเถ่เสีย หรือว่าขังไว้ตลอดชีวิต”
“เขาก็เป็นถึงยอดฝีมือ เดิมทีก็ไม่ใช่คนประเทศต้าหัว ฆ่าผม ก็ไม่ถือว่าทรยศประเทศ และไม่ถือว่าทรยศพวกเรา เพราะว่ามันคืองานของเขา”
“ต้องโทษผมเองที่ตอนั้นดูไม่ออกเอง”
“แต่ตอนนี้ มันก็ได้ผ่านไปนานแล้ว หวางเถ่ก็พอการไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขาตาย แล้วหวางเสี่ยวหยูจะทำไง?”
พอฉินเฟิงพูดไป สีหน้าของฉีหยุนก็แข็งทื่อยิ่งกว่าเดิม
ชายฉกรรจ์คนนี้ชอบเด็กมาก
“ถ้าบอกว่าให้นายเลี้ยง งั้นผมถามหน่อย นายจะเลี้ยงยังไง? แล้วถ้าวันหนึ่งยัยหนูนั่นโตขึ้นมา แล้วเธอถามว่าพ่อของเธอไปไหน นายจะบอกว่าอะไร? บอกว่าถูกนายฆ่าตายงั้นหรือ?” ฉินเฟิงถาม
“เฮ้อ”
เสียงดังตุบ
ฉีหยุนเอามือทุบพวงมาลัยรถ สีหน้าเก็บอารมณ์เครียด สุดท้ายพอได้ยินคำของฉินเฟิง ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาไม่ยอมทนเห็นหวางเสี่ยวหยูโดดเดี่ยวได้จริงๆ
เขาอยากจะฆ่าหวางเถ่เสีย
แต่ว่า ตอนนี้จะฆ่าไม่ได้
“บางเรื่อง มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เรื่องมันจบแล้ว ก็ควรพอได้แล้ว ยิ่งกว่านั้น ภรรยาของเขาฆ่าตัวตาย ก็ถือว่าเขาได้รับความเจ็บปวดพอสมควร ไม่น้อยไปว่านายเลย”
ฉินเฟิงก็เอามือตยไหล่ของฉีหยุน
“แต่ว่าผมก็ยังทนไม่ได้”
“งั้นก็ไม่ต้องเจอเขา”
“ครับ”
สุดท้ายก็ได้แต่ใช้วิธีนี้ไปก่อน เพราะถึงอย่างไรปีนั้นประเทศต้าหัวก็เกือบจะสิ้นไปเหมือนกัน ไม่ใช่คิดจะลืมก็จะลืมได้ง่ายๆ
“เออใช่ ผมต้องโทรหาภรรยาผมหน่อย”
ฉินเฟิงนึกขึ้นได้ แล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรออกไป
ตี๊ดๆ
“คุณยังรู้จักโทรหาฉันอยู่อีกหรือไง?”
เสียงที่ส่งผ่านโทรศัพท์ออกมาเป็นเสียงเย็นชาเย่อหยิ่ง แต่วินาทีต่อมา น้ำสียงก็อ่อนลงเรื่อยๆ “คุณจะกลับมาตอนไหนล่ะคะ?”
บอกตามตรง อิ่นซินคิดถึงฉินเฟิงเข้าแล้ว
วันที่ไม่มีฉินเฟิง เธอไม่ค่อยชินเลย แต่เธอก็จำเป็นต้องอยู่ให้ได้ แต่ว่าหลังจากนี้5เดือน ทั้งสองคนจะต้องเจ็บปวด เจ็บนี้ดีกว่าเจ็บยาว
“ผมยังอยู่ที่นี่อีก6วัน จัดการเรียบร้อยแล้วก็จะกลับเลย ที่ผมโทรหาคุณก็เพราะอยากจะบอกว่า วันนี้ผมจะไปรับกั่วกั่วไปอยู่กับผมสักสองวัน ได้ไหม?” ฉินเฟิงพูดน้ำเสียงอ่อนหวาน
โดยมองไม่มองออกเลย ว่าเป็นMr.Xที่ก่อเรื่องจนดังกระฉ่อนไปทั้งเมือง
อิ่นซินนิ่งไปครู่หนึ่ง
แล้วก็บอกว่า “ได้ แต่ว่า คุณไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกด้วยงั้นหรือ?”
“บ้านเพื่อน”
“อ๋อ”
ทั้งสองคนนิ่งไป ครู่หนึ่ง ฉินเฟิงก็เตรียมจะวางสาย อิ่นซินก็พูดเสียงอ่อนๆ ขึ้นมาว่า “รีบ………กลับมานะ”
พูดจบ
เสียงก็ดังตี๊ด
วางสายไป
ท่าทางที่เชิดๆ กลับแสดงถึงความเป็นผู้หญิง จริงๆ แล้วอิ่นซินทนไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอนึกถึงเรื่องสัญญาครึ่งปีนั้น ตอนนี้เธอแทบจะวิ่งไปต่อหน้าฉินเฟิงเลย แล้วโถมกอดเข้าที่อ้อมอกของฉินเฟิง
เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ดีหรือไง?
เดิมทีสองคนนี้ก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว
แต่ว่า ตอนนี้ ยังไม่ได้ ให้ฉินเฟิงรีบกลับมาบ้าน ก็ถือว่าเป็นความเป็นห่วงมากที่สุดของเธอแล้ว
“ครับ คุณภรรยา”
ฉินเฟิงพูดกับสายโทรศัพท์ที่วางสายไปแล้วออกมาด้วยประโยคนี้
6วัน
อีก6วัน
หลังจากนี้6วัน สามีสุดที่รักก็จะกลับมาแล้ว
“นายพล คุณช่างทำร้ายคนโสดอย่างผมจริงๆ เลย ผมนี่หน้าจ๋อยเลย หยุนหยุนเหงา หยุนหยุนอยากจะมีเมียกับเข้าบ้างนะ งื้อ………”
ฉีหยุนกลับพูดเลียนแบบวิธีการพูดเด็กๆ แบบเสี่ยวหยูขึ้นมา แบบอ้อนพ่อ
“ไสหัวไปไกลๆเลย ไปหาเอาเอง”
ฉินเฟิงไม่รู้จะขำหรือสงสารดี
คนอื่นเขาอ้อนกันน่ารัก แต่นายมาอ้อนแบบนี้ เขาเรียกบ้า