เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1916 สิบอันดับแรก(2)
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า นิยาย บท 1916
“ซูตง!”
ลู่ฝานบ่นพึมพำออกมา
ศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่นรวมตัวกันเข้ามา เมื่อเห็นชื่อของซูตงอยู่ในอันดับแรก ศิษย์พี่หานเฟิงพูดเหยียดหยามในทันทีว่า: “แผ่นพับนี้เป็นแผงลอยข้างถนนสินะ อย่างความแข็งแกร่งของซูตงเหรอ จะอยู่อันดับที่หนึ่งได้? ใครเป็นคนจัดเรียงกัน!”
ลู่ฝานชี้ไปที่คำว่า“ข้อมูลความลับ”ทั้งสี่คำแล้วพูดว่า: “นี่เกรงว่าจะเป็นพวกผู้อาวุโสผู้ฝึกวิชาชั่วร้าย และราชาปีศาจหลายคนจัดเรียงออกมา เมื่อเทียบกันแล้ว แผ่นพับที่พี่ซื้อ ฉันเชื่ออันนี้มากกว่า”
การแสดงออกบนใบหน้าของหานเฟิงแข็งทื่อ และกลืนน้ำลายเต็มปากลงไปแล้วพูดว่า: “จริงหรือปลอม? งั้นก็หมายความว่าศิษย์น้องตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรอกเหรอ?”
ลู่ฝานพยักหน้า แล้วก็ส่ายหัวอีก
อ่านต่อไปข้างล่าง มีเพียงประโยคเดียวเกี่ยวกับคำอธิบายของซูตง
“บุคคลที่เทพเจ้าเลือกแล้ว!”
ลู่ฝานไม่รู้ว่าคำพวกนี้หมายความว่าอะไรกันแน่ แต่เขาคาดเดาได้ว่าเกี่ยวข้องกับคุณชายเฟิงเทียน
ลู่ฝานหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า: “ดูเหมือนว่าครั้งหน้าถ้าเจอกับซูตง ฉันต้องระวังตัวให้มากจริงๆ”
ศิษย์พี่หานเฟิงและคนอื่นๆมองดูคำพวกนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย
“อ่านต่อไป อ่านต่อไปอีก ฉันจะดูสิว่าใครอยู่ในสิบอันดับแรกกันแน่”
ลู่ฝานก็อ่านต่อไป และอันดับที่สอง คือข่งหลินจากประเทศหวนหยู่
ศิษย์พี่หานเฟิงลูบคางและพูดว่า: “ดูไปแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายหรือว่าประเทศอื่น ก็ถูกใจข่งหลินคนนี้มากเลยนะ!”
ลู่ฝานชี้ไปที่คำแนะนำด้านล่างของข่งหลิน และพูดว่า: “ลูกศิษย์คนสุดท้ายของอริยบุคคลแห่งจักรวาล เข้าสู่อริยปราชญ์ผู้แข็งแกร่งเมื่ออายุ 29 ปี ผลการฝึกตนเปลี่ยนโชคชะตา กระบี่ยาวทะลวงท้องฟ้าได้”
ศิษย์พี่ใหญ่พูดว่า: “ประเทศหวนหยู่นี้ ได้ยินว่าเป็นประเทศของอริยบุคคลแห่งจักรวาล ที่แท้ชื่อประเทศเซิ่งหยู่นี่เอง ต่อมาถูกอริยบุคคลแห่งจักรวาลเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศหวนหยู่ ลูกศิษย์ของอริยบุคคลสาม คงจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ธรรมดา เข้าสู่อริยปราชญ์เมื่ออายุ 29 ปี ผลการฝึกตนนี้ น่ากลัวเช่นกัน”
ดวงตาของลู่ฝานเปล่งประกายสดใส
การแข่งนานาประเทศ ไม่นึกเลยว่าจะมีผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่อริยปราชญ์ได้ก่อนอายุ 30 ปีจริงๆ
ดูเหมือนว่า การประลองครั้งต่อไป จะไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน
อ่านต่อไป ลู่ฝานอ่านเบาๆว่า: “อันดับที่สาม โฉวล่วน จากประเทศหลงอู่”
หลิงเหยาพูดว่า: “ฉันเคยได้ยินคนพูดเกี่ยวกับคนนี้ สายเลือดมังกร เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นความหวังของมนุษย์เผ่ามังกร ว่ากันว่ามีพลังมหาศาลเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ตอนที่เกิดมาก็มีระดับของนักบู๊ปราณนอก”
ลู่ฝานชี้ไปที่คำแนะของบนแผ่นพับแล้วพูดว่า: “ความรุ่งโรจน์ของมนุษย์เผ่ามังกร บรรลุถึงขั้นสุดยอด ดูเหมือนว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามอีกคน”
ศิษย์พี่หานเฟิงคว้าแผ่นพับมาเล่มหนึ่งอย่างกะทันหัน และพูดว่า: “ให้ฉันดูด้านหลังต่ออีกสิ อันดับที่สี่ ประเทศว่านจุน หวงฝู่อู่ ซูเซิงพู่กันวิเศษ!
อันดับที่ห้า ประเทศฉิงเทียน หวาหลิน จอมพลังขั้นสุดยอด
อันดับที่หก ประเทศติงอวี้ หลิ่วจื่อ พันใบดอกบัวพัน
อันดับที่เจ็ด ประเทศเฟิงหยู่ ชวีซาน เซียนบู๊นิ้วขาด
อันดับที่แปด จั่วหยุนตงประเทศชูร่า ราชาดาบอสูร อันดับที่เก้า ประเทศชางหมิน หวังหยู เซียนบู๊ทะเล อันดับที่สิบ ประเทศตันเซิ่ง เริ่นหยู่ เทียนจุนแห่งเต่าปรุงยา!”
ศิษย์พี่หานเฟิงอ่านยอดฝีมือสิบอันดับแรกทั้งหมดออกมาในอึดใจเดียว
เมื่อลู่ฝานได้ยินชื่อเหล่านี้ ดูเหมือนจะมีแค่จั่วหยุนตง ที่ฟังดูคุ้นเคย
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าจะมีแค่คนคนนี้ ไม่ใช่อริยปราชญ์ แต่กลับเป็นรายชื่อในสิบอันดับแรก
แต่ว่า สิ่งที่ลู่ฝานใส่ใจมากที่สุด กลับไม่ใช่เขา แต่เป็นเริ่นหยู่ซึ่งอยู่ในอันดับที่สิบ
ลู่ฝานชี้ไปที่ชื่อของเริ่นหยู่ และออกเสียงถามว่า: “คำแนะนำเริ่นหยู่ของประเทศตันเซิ่งเป็นยังไง ฉันอยู่ที่ประเทศตันเซิ่ง ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนคนนี้มาก่อน”
ศิษย์พี่หานเฟิงชี้ไปที่คำแนะนำด้านล่างแล้วพูดว่า: “ลูกศิษย์ของอริยบุคคลผู้เป็นอมตะ ร่างห้าธาตุ วิชายาสุดยอด!”
ลู่ฝานพูดด้วยความประหลาดใจว่า: “เขาเป็นลูกศิษย์ของอริยบุคคลผู้เป็นอมตะเหรอ?”
หลิงเหยาตอบว่า: “ดูเหมือนว่าตอนที่อยู่ประเทศตันเซิ่ง พวกเราไม่ได้เจอผู้แข็งแกร่งทั้งหมดเลยสินะ นายเข้าร่วมการประลองภายในของห้าตระกูลใหญ่เท่านั้น เกรงว่ายอดฝีมือที่แท้จริงของประเทศตันเซิ่งเหล่านั้นยังไม่ได้เจอ”
ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า: “แน่นอนว่า เก้าประเทศที่ทรงพลังนั้นไม่ธรรมดา ตอนแรกฉันคิดว่า สถานการณ์ของประเทศตันเซิ่ง ฉันเข้าใจแล้ว คาดไม่ถึงว่า สิ่งที่ฉันเห็น ก็เพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้นเอง”
ศิษย์พี่หานเฟิงเปิดไปด้านหลัง หลังจากนั้นไม่นาน หานเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ฮ่าๆ ศิษย์น้อง การจัดอันดับยังอยู่ที่สิบสาม ดูเหมือนว่าในผู้ฝึกวิชาชั่วร้าย ไม่ค่อยจะชอบนายเลยนะ ไม่สามารถขึ้นสิบอันดับแรกได้เลย”
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “พวกเขาไม่ชอบฉันหรือไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน นอกจากนี้พี่ไม่เห็นหรือไงว่า สิบอันดับแรก แทบจะเป็นยอดฝีมือเข้าสู่อริยปราชญ์ ต้องการที่จะแย่งชิงอันดับกับพวกเขา ต้องแสงทักษะที่แท้จริงออกมาถึงจะได้”
ขณะที่พูดอยู่ จู่ๆท้องฟ้าข้างนอก ก็เปล่งแสงจ้าออกมา
ท้องฟ้าที่เดิมทีกำลังจะค่อยๆมืดลงแล้ว ในเวลานี้ก็เปล่งแสงหลากสีออกมาอีก
ต่อจากนั้น ม่านแสงที่ลอยอยู่ในอากาศ ไม่นึกเลยว่าจะรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างรวดเร็ว
ร่างทั้งหมดหายไป แทนที่ด้วยชื่อที่ชัดเจนใหญ่โตของแต่ละคน
ลู่ฝานรู้สึกว่าหัวสัตว์ป้ายเหล็กในเข็มขัดของตัวเองเริ่มสั่นอย่างรุนแรงขึ้นมา ราวกับว่าถูกดึงดูดด้วยแรงดึงดูดบางอย่าง
ลู่ฝานเพิ่งจะหยิบหัวสัตว์ป้ายเหล็กออกมา ในท้องฟ้า แสงลำหนึ่ง ก็พุ่งออกมา
ต่อจากนั้น ลู่ฝานก็เห็นว่าชื่อของตัวเองเริ่มเปล่งประกายราวสายฟ้า
“ดูเหมือนว่าคนอื่นๆจะประลองเสร็จสิ้นสักที นี่คือรายชื่อสำหรับการประลองรอบต่อไป!”
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม
ทั่วทั้งในประเทศฉิงเทียน ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองฉากนี้
ป้ายของศิษย์พี่หานเฟิงกับหลิงเหยาก็ดึงดูดแสงจากท้องฟ้าในเวลาเดียวกัน
ห้าสิบชื่อยังคงส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า และในวินาทีต่อมา ร่างเพรียวบางของประมุขประเทศฉิงเทียนก็ปรากฏขึ้น
“ผู้แข็งแกร่งห้าสิบอันดับแรก ถึงเวลายืนยันสำหรับการรายชื่อรอบต่อไปที่น่าตื่นเต้นอีกแล้ว พวกคุณพร้อมหรือยัง?”
ประมุขประเทศฉิงเทียนแสดงท่าทางออกเกินจริง แม้จะผ่านม่านแสง ลู่ฝานก็รู้สึกว่าน่าจะมีหลายคนต้องการจะสั่งสอนเขา
ไม่รู้จริงๆว่าหนานกงสิงจะคิดอย่างไรเมื่อเห็นฉากนี้ พ่อของเขาโดนราชาปีศาจฝันร้ายเสแสร้งอยู่ในสภาพนี้ หนานกงสิงน่าจะเกลียดราชาปีศาจฝันร้ายมากนะ! คงจะกินหัวใจของเขาไปทั้งเป็น
ประมุขประเทศฉิงเทียนพูดต่อไปว่า: “ครั้งนี้ ไม่ใช่วิธีการที่ทุกคนจะเลือกคู่ต่อสู้ด้วยตัวเองอีกต่อไป แต่ใช้วิธีจับฉลากจัดรายชื่อออกมา ไป!”
ประมุขประเทศฉิงเทียนตะโกนเบาๆ ชื่อของทุกคนก็กระจัดกระจาย และบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
จากนั้น ประมุขประเทศฉิงเทียนกางแขนทั้งสองออกมา และพูดเสียงดังว่า: “สายฟ้าหมื่นวิถี!”
ในพริบตาเดียว แสงสายฟ้าก็ตกลงมา ทำให้ชื่อของทุกคนสว่างไสว
ในเวลาเดียวกัน สายฟ้าฟาดผ่านชื่อของทั้งสองคน และในทันใดชื่อของทั้งสองคนก็เปล่งแสงที่รุนแรงออกมาพร้อมกัน
“น่าสนใจทีเดียว สายฟ้าที่ฟ้าเลือกเอง!”
ศิษย์พี่หานเฟิงกล่าวด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ภายใต้สายตาที่จับตามองของผู้คนจำนวนมาก โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะโกง
บนใบหน้าของลู่ฝานก็มีรอยยิ้มเหมือนกัน เขาจ้องไปที่ชื่อของตัวเอง ผ่านหน้าต่าง
ต่อจากนั้น ลำแสงสายฟ้าก็ผ่านชื่อของเขาอย่างกะทันหัน ลู่ฝานจ้องมองไป และเห็นชื่อของใครอีกคนสว่างขึ้นพร้อมกับแสงฟ้าร้องในทันที
เมื่อลู่ฝานเห็นชื่อของคนคนนี้ ก็นิ่งไปเล็กน้อย
หลิงเหยา หานเฟิงก็เห็นฉากนี้ ทยอยพูดด้วยความประหลาดใจว่า: “ไม่ใช่หรอกมั้ง!”
ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ดูเหมือนว่า สิ่งนี้จะถูกพรหมลิขิตได้กำหนดไว้นะ!”