เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1903 พรสวรรค์สัตว์ศักดิ์สิทธิ์
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1903 พรสวรรค์สัตว์ศักดิ์สิทธิ์
ผู้อาวุโสแอบกัดฟัน เขตวิถีบนตัวแผ่ขยายจนไปถึงใต้เท้าลู่ฝาน
พลังปราณหยินหยางพร้อมพลังแห่งวิถี โจมตีบนตัวลู่ฝานอย่างแรง เหมือนจะควบคุมลู่ฝานอย่างไรอย่างนั้น
แต่ต่อมาลู่ฝานปล่อยพลังแห่งวิถีออกมาบนตัวเช่นกัน
เขตวิถีใต้เท้าแตกกระจายทันที แขนของผู้อาวุโสสั่นอย่างแรง เขาถอยไปด้านหลังหลายสิบก้าว
ลู่ฝานพูดเสียงกังวานว่า “ฉันจะไป นายขวางฉันไม่ได้หรอก!”
ลู่ฝานก้าวออกไปด้านนอก
ศิษย์หอฝึกสัตว์ที่อยู่รอบๆ พุ่งเข้ามาหาลู่ฝานเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
พวกเขาพุ่งเข้ามาเร็ว แต่ล้มลงพื้นเร็วกว่า
แม้แต่หลีเหรินหลงยังต้านทานกระบวนท่านี้ไม่ไหว ศิษย์หอฝึกสัตว์ธรรมดาๆ พวกนี้จะต้านทานได้ยังไง
“ฟันดำ! ลุย!”
จู่ๆ ศิษย์หอฝึกสัตว์คนหนึ่งตะโกนอย่างโมโห
สั่งให้สัตว์อสูรที่อยู่นิ่งๆ ในสนามพุ่งออกมา
ศิษย์หอฝึกสัตว์ที่ยังไม่สลบพากันทำตาม ปล่อยสัตว์อสูรของตัวเองออกมา
ช่างเป็นหอฝึกสัตว์จริงๆ เหมือนทุกคนมีสัตว์อสูรอย่างน้อยหนึ่ง ตัว
ทันใดนั้นทั้งบนฟ้าและพื้นดินปกคลุมไปด้วยสัตว์อสูร
เสียงคำรามดังไม่หยุด พลังมากมายไร้ที่สิ้นสุด
ลู่ฝานมองสัตว์อสูรพวกนี้ ค่อยๆ ดึงกระบี่หนักไร้คมของตัวเองออกมา
“สัตว์อสูรแล้วยังไง”
ลู่ฝานพูดเสียงกังวาน
ความฮึกเหิมนัยน์ตาพลุ่งพล่าน ปราณชี่ในมือพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ภายในห้องของหอฝึกสัตว์มีเสียงเท้าดังขึ้น
ไม่นาน นักบู๊เกราะเงินปรากฏเป็นกลุ่ม เฝ้าทางเข้า-ออกทั้งหมด
พวกเขามาเร็วมาก!
ผู้อาวุโสข้างๆ ยังตกอยู่ในความตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าลู่ฝานทำลายเขตวิถีได้ยังไง
แม้เขาไม่ได้ใช้พลังออกมาทั้งหมด แต่คิดยังไงนักบู๊แดนปราณฟ้า ไม่น่าจะทำลายเขตวิถีได้
พยายามเก็บงำความรู้สึกไว้ ผู้อาวุโสชี้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “เงามืด นายออกไปไม่ได้หรอก รีบยอมจำนนซะ นายอยากตายเหรอ”
ลู่ฝานยกกระบี่หนักไร้คมขึ้นมาแล้วพูดเสียงดัง “ให้ฉันยอมจำนนเหรอ ฝันไปเถอะ”
นัยน์ตาผู้อาวุโสมีความเย็นชา เขายื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!”
ผู้อาวุโสพูดแล้วกำลังจะออกคำสั่ง
แต่ขณะนั้นสายลมเบาๆ พัดมาด้านหลังเขา กระบี่ยาวแวววาวขวางอยู่ตรงคอเขา
เงาคนที่ปรากฏอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี เพราะไม่มีใครเห็นว่าเขาปรากฏตัวออกมาได้ยังไง
ผมยาวสีดำสะบัดปลิว พลังสีเงินอ่อนเคลื่อนไหวอยู่ในเส้นผมเขา
ดวงตาสีม่วง กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กระบี่ยาวมีเปลวเพลิงสีม่วง
“สิบสาม!”
ลู่ฝานพูดออกมาด้วยความตกใจ
ตอนเขาเพิ่งเข้ามา ไม่ได้พาสิบสามเข้ามาด้วย เดิมทีสิบสามควรรออยู่ด้านนอกกับมังกรสามหัวสิ
ตอนนี้สิบสามพุ่งเข้ามาเหมือนผี เอากระบี่ขวางที่คอผู้อาวุโสอย่างรวดเร็ว
พละกำลังเช่นนี้ แม้แต่ลู่ฝานยังตกใจเล็กน้อย
“เจ้านาย!”
สายตาสิบสามเร็วปานสายฟ้าแลบ เขาพูดออกมาอย่างจริงจัง
ผู้อาวุโสก้มมองกระบี่ที่คอ หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “คิดไม่ถึงว่านักบู๊แดนปราณฟ้ากล้าจี้คอฉันแบบนี้ ไม่กลัวตายหรือไง!”
ผู้อาวุโสพูดพลางปล่อยเขตวิถีออกมาอีกครั้ง
สีหน้าสิบสามเปลี่ยนไปทันที แต่เขาตั้งตัวอย่างรวดเร็ว ปาดลงบนคอของผู้อาวุโสจนเป็นรอยเลือด
เขตวิถีโจมตีสิบสามจนกระเด็น ศิษย์หอฝึกสัตว์ที่อยู่รอบๆ ก็โมโหสุดขีด
แผดเสียงดังว่า “สังหาร!”
สัตว์อสูรมากมายพุ่งไปหาลู่ฝานทันที พลังน่ากลัวถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นซัด
ยกกระบี่หนักไร้คมขึ้นมา ขณะที่ลู่ฝานกำลังจะใช้กระบี่รับกระบวนท่านี้ไว้
จู่ๆ เจ้าดำที่อยู่บนไหล่พุ่งขึ้นไปบนฟ้า
“โฮก!”
เสียงมังกรคำรามดังสะเทือนเลือนลั่น ตัวขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ปล่อยเปลวไฟสีดำออกมา
เสียงมังกรคำรามแบบนี้ ไม่เหมือนกับเสียงมังกรคำรามที่ลู่ฝานเคยได้ยินมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเจ้าดำคำรามแบบนี้
คลื่นเสียงแผ่ซ่านออกมาเหมือนระลอกคลื่น ทุกที่ที่ผ่านไป สัตว์อสูรรอบๆ พากันก้มหน้า เก็บพลังที่ตัวเองปล่อยออกมา
ภาพนี้ไม่ใช่แค่ลู่ฝานที่ตะลึง คนของหอฝึกสัตว์ที่อยู่รอบๆ ก็ตะลึงเหมือนกัน
โฮก! โฮก! โฮก!
เจ้าดำคำรามออกมาอีกสามครั้ง สัตว์อสูรรอบๆ ส่งเสียงครางเบาๆ แล้วหมอบลงพื้น
พวกมันเหมือนสัตว์ตัวเล็กต้อยต่ำเห็นผู้สูงส่ง ส่งเสียงยอมจำนนออกมา
ไม่ว่าจะเป็นมังกรยักษ์หรือหงส์
พากันตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้น ท่าทางเหมือนหนูโดนแมวจับได้ หรือยิ่งกว่านั้นเสียอีก
ศิษย์หอฝึกสัตว์ทุกคนพากันเงียบ
แม้พวกเขาคลุกคลีกับสัตว์อสูรมาทั้งชีวิต แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เข้าใจภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
โดยเฉพาะอาจารย์ของฮ่วนเย่ว์ ผู้อาวุโสที่เป็นคนพาลู่ฝานมา
เขาเคยมองเจ้าดำอย่างละเอียดแล้ว เป็นแค่สัตว์อสูรเลือดผสมเผ่ามังกรระดับต่ำ ทำไมถึงส่งเสียงคำรามเหมือนราชาแห่งสัตว์แบบนี้ได้
“เป็นไปไม่ได้!”
ผู้อาวุโสพึมพำออกมา
ลู่ฝานกลืนน้ำลายลงคอ
ในสนาม คนเดียวที่ไม่ตกใจเจ้าดำคงมีเพียงสิบสาม
เห็นโอกาสดีขนาดนี้ สิบสามจะปล่อยไปได้ยังไง
ตอนที่ผู้อาวุโสกำลังเหม่อ สิบสามผสานตัวเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ พุ่งเหมือนลำแสงออกมาจากกลุ่มคน
“เจ้านาย!”
สิบสามตะโกนเสียงดัง
ลู่ฝานตั้งตัวได้ เหวี่ยงมือไปทางเจ้าดำแล้วพุ่งออกจากสนามสัตว์อสูร
เจ้าดำถลาลงมา ลู่ฝานกับสิบสามกระโดดขึ้นไปบนหลังเจ้าดำ
เจ้าดำบินออกไปพร้อมเงาเพลิงสีดำ
คนของหอฝึกสัตว์ที่อยู่ด้านหลังยังตกอยู่ในความตะลึง
องครักษ์เกราะเงินกำลังจะไล่ตามไป แต่ผู้อาวุโสเคราขาวปรากฏตัวออกมา ส่ายหน้าแล้วยิ้มให้พวกเขา ห้ามไม่ให้พวกเขาไป
“เจ้าสำนักสั่งให้ปล่อยเขาไป!”
องครักษ์เกราะเงินคำนับแล้วขานรับ จากนั้นรีบถอยออกไปทันที
พวกผู้อาวุโสลอยลงมาในสนามสัตว์อสูร มองศิษย์หอฝึกสัตว์ที่ล้มอยู่บนพื้น กับสัตว์อสูรที่ยังตัวสั่นงันงกอยู่ “ห้ามใครพูดเรื่องวันนี้เด็ดขาด”
พวกผู้อาวุโสป้อนยาให้พวกศิษย์หอฝึกสัตว์ที่สลบอยู่บนพื้น พวกเขาฟื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสชุดขาวเดินมาหน้าผู้อาวุโส ผู้อาวุโสรีบพูดว่า “นั่นคือพรสวรรค์ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ สัตว์อสูรของเขาต้องกินอะไรที่สุดยอดเข้าไปแน่ๆ”
ผู้อาวุโสชุดขาวพยักหน้าพูดว่า “ใช่ เราเห็นหมดแล้ว เจ้าสำนักต้องการเจอนาย นายรีบไปเถอะ”
ผู้อาวุโสขมวดคิ้วพูดว่า “เจ้าสำนักอยากเจอฉันเหรอ ตอนนี้เหรอ”
ผู้อาวุโสชุดขาวพูดว่า “ใช่ ตอนนี้เลย เจ้าสำนักอยากคุยกับนาย เรื่องฮ่วนเย่ว์ศิษย์ของนาย”
ใบหน้าผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
ทางด้านนี้ ลู่ฝานนั่งบนหลังเจ้าดำ ถามเจ้าดำอย่างประหลาดใจมาก “เจ้าดำ ทำไมแกถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ให้ตายเถอะ แกได้ประโยชน์จากสระปีศาจเยอะกว่าฉันใช่ไหม แต่ไม่น่าเป็นไปได้ อย่างมากสระปีศาจทำได้แค่เพิ่มพละกำลังของแก ไม่ได้ให้พลังที่ทำให้แกสยบสัตว์อสูรตัวอื่น”
เจ้าดำคำรามอย่างภูมิใจแล้วฉีกยิ้ม
จู่ๆ เงาของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรปรากฏบนมือซ้ายของลู่ฝาน “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันอธิบายเรื่องเจ้าดำให้เจ้านายฟังได้!”