เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1897 ซักถาม
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1897 ซักถาม
เก็บผ้าคลุมไว้ ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังหุ้นตุ้นในผ้าคลุมกำลังต่อต้านเขาอย่างสุดกำลัง แต่ไม่สำคัญอะไรสำหรับเขาเลย
พลังหุ้นตุ้นแค่นี้เข้ามาในร่างกายเขา เป็นเพียงอาหารให้พลังแห่งโลกเท่านั้น
สะบัดมือโยนเข้ามาในแหวนจิ่วเซียว ใบหน้าลู่ฝานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรในตัวเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ได้มาเยอะอีกแล้ว! อาวุธเทพหุ้นตุ้น เจ้านายมีอาวุธเทพหุ้นตุ้นชิ้นแรกแล้ว แม้ไม่ใช่ของระดับสูง แต่สมบูรณ์มาก ดีมากจริงๆ!”
ลู่ฝานเมินใส่คำพูดไร้สาระของเจดีย์เสวียนเก้ามังกร แต่ถามเกี่ยวกับคำพูดที่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่าไม่ใช่ของระดับสูง “หมายความว่ายังไง ผ้าคลุมหยุนหลานแย่มากเหรอ”
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรรีบตอบว่า “มันดีมาก ที่ฉันบอกว่าไม่ใช่ของระดับสูง หมายความว่าเมื่อมันอยู่กับอาวุธวิเศษหุ้นตุ้น อาวุธเทพหุ้นตุ้น มันแค่แย่กว่าเท่านั้นเอง แต่อาวุธวิเศษหุ้นตุ้น อาวุธเทพหุ้นตุ้นหายไปจากใต้หล้านานแล้ว เหลืออยู่แค่ไม่กี่ชิ้น แต่ถ้าคิดถึงตอนนั้น ตอนประมุขแห่งหุ้นตุ้นเบิกฟ้าดิน ผ้าคลุมหุ้นตุ้นผืนนี้เป็นแค่ผ้าขี้ริ้วใช้เช็ดโต๊ะเท่านั้น”
ลู่ฝานพูดอย่างตกใจ “ประมุขแห่งหุ้นตุ้นเหรอ ใครเหรอ อาวุธเทพหุ้นตุ้นคือผ้าขี้ริ้วหมดเลยเหรอ แล้วแกล่ะ”
เสียงเจดีย์เสวียนเก้ามังกรเบาลงไม่น้อย
“ฉันเป็นแค่ของตั้งโชว์ เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ไม่ต้องถามเรื่องพวกนี้หรอก วันไหนเจ้านายไปหุ้นตุ้น ฉันจะไปเจ้านายไปเดินเล่นที่เขตโกลาหล แล้วเจ้านายจะเข้าใจเอง”
ลู่ฝานเต็มไปด้วยความสงสัย
เขารู้สึกเหมือนเจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดถึงสิ่งของที่มันสุดยอดมาก
แต่เขาฟังไม่เข้าใจจริงๆ เจดีย์เสวียนเก้ามังกรต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
ลู่ฝานรู้สึกเหมือนกบในกะลา เหมือนตอนอยู่ประเทศอู่อานในตอนนั้น
เขาเคยคิดว่าประเทศอู่อานเป็นโลกทั้งใบ แต่หลังจากออกมาเขาพบว่าประเทศอู่อานเป็นเพียงประเทศเล็กๆ ในโลก
เหมือนข้าวเมล็ดหนึ่งในมหาสมุทร เหมือนต้นไม้ต้นหนึ่งในป่าใหญ่
ส่วนตอนนี้เขาคิดว่าทั้งสี่แดนคือโลกทั้งใบ
แต่เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดถึงหุ้นตุ้นขึ้นมาอีก อย่าบอกนะว่าสถานที่อย่างหุ้นตุ้นมีความลึกลับอีกแล้ว?
ไม่เข้าใจ ไม่รู้ ไม่คิดอะไรเยอะแล้ว
ลู่ฝานสะบัดหัว สลัดคำถามพวกนี้ทิ้งก่อน
องครักษ์ด้านนอกเห็นการประลองสิ้นสุดลงแล้ว พวกเขารีบเปิดค่ายกลทันที
ลู่ฝานดึงถังฮุยเหาะออกจากค่ายกล ตัวกลายเป็นลำแสง พลิกตัวลงมาบนพื้น
ลู่ฝานหันมามองชายวัยกลางคนหน้าตามอมแมมที่อยู่ข้างๆ แล้วยิ้มบางๆ
ชายวัยกลางคนมองลู่ฝานแล้วส่ายหน้าเบาๆ สีหน้าดูไม่ชอบใจเท่าไร
ลู่ฝานสะบัดมือโยนถังฮุยใส่เขาแล้วพูดว่า “ถือว่าเขาโชคดี!”
ชายวัยกลางคนพลิกฝ่ามือ ถังฮุยลอยลงมาตรงหน้าเขา
ชายวัยกลางคนจ้องลู่ฝานแล้วพูดว่า “ถือว่านายโชคดีเหมือนกัน!”
ลู่ฝานหัวเราะร่าแล้วเดินออกไป
กลุ่มคนรอบๆ แยกเป็นสองด้าน พากันมองลู่ฝานด้วยสายตาตกตะลึง
ไม่ว่ายังไง ผลการแข่งขันที่ลู่ฝานชนะหอฝึกสัตว์และสำนักเงินปาฟางติดต่อกันแบบนี้ เพียงพอทำให้คนตกตะลึงแล้ว
ท่ามกลางกลุ่มคน พนักงานจดบันทึกของสำนักเงินปาฟาง พนักงานจดบันทึกของบ่อนพนันใหญ่ๆ รวมถึงหอฝึกสัตว์ แม้แต่ผู้ฝึกชั่วร้ายที่ทำหน้าที่จดบันทึก พากันบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการประลองครั้งนี้
ในเวลาเดียวกัน การประเมินที่พวกเขามีต่อลู่ฝานเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
“ทักษะของคนคนนี้น่าทึ่งมาก เกราะเทพยากต้านทาน วิทยายุทธล้ำลึกเกินคาดเดา อีกทั้งตอนนี้ดูเหมือนพลังยังเหลือด้วย!”
“เงามืด เชี่ยวชาญเคล็ดวิชาบู๊อัศจรรย์ เหมือนทักษะของผู้ฝึกชั่วร้าย แต่ไม่มีออร่าปีศาจเลย ทุกอย่างยังต้องสังเกตกันต่อไป ศักยภาพไม่สิ้นสุด!”
“เงามืด ผู้แข็งแกร่ง น่าจะเลื่อนอันดับขึ้นอย่างน้อยสิบอันดับ!”
……
ลู่ฝานเดินยิ้มมาข้างหนานกงสิง
หนานกงสิงยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “ชนะได้งดงามมาก ไว้ค่อยคุยกับนายแล้วกัน ฉันขอไปเอาเงินก่อน!”
หนานกงสิงหันหลัง ถูมือไปมาแล้วไปเอาเงินที่ตัวเองลงพนันไว้ ลู่ฝานมองไปทางซูตงที่ยืนอยู่อีกด้าน
ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “แม่นางซูตง ทำไมเธอถึงมาดูการประลองของฉันล่ะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก ผู้อาวุโสซู่มั่นมีภารกิจให้ฉันอีกแล้วเหรอ”
ซูตงมองลู่ฝานด้วยแววตาสับสน เธอพูดเสียงเบาว่า “ที่นี่คนเยอะ โจ่งแจ้งเกินไป!”
ลู่ฝานพูดว่า “งั้นขึ้นไปคุยกันบนรถม้าเถอะ สิบสาม นายมาบังคับรถม้า!”
ซูตงพยักหน้า ทั้งสองคนขึ้นมาบนรถม้า
สิบสามนั่งอยู่ที่หัวรถม้า นัยน์ตามีรอยยิ้ม เมื่อก่อนเขาเคยบังคับแค่รถม้าผ่านมิติธรรมดาๆ ตอนนี้รถม้ากลายเป็นรถม้าของวังที่ใช้มังกรลากแล้ว
สิบสามเป็นคนที่พอใจกับอะไรง่ายๆ ตอนนี้ในใจเขาแอบรู้สึกภาคภูมิใจ
ตบลงบนตัวมังกรบินเบาๆ มังกรบินพุ่งทะยานขึ้นฟ้า พวกองครักษ์บังคับเรือตามมาด้านหลัง
ลู่ฝานนั่งในรถม้า เขาเทชาให้ซูตงก่อน จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้พูดได้แล้ว”
จู่ๆ สีหน้าซูตงเปลี่ยนไป หยิบแก้วชาลู่ฝานปาลงพื้น “เงามืด นายกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อาวุโส นายอยากตายเหรอ”
เสียงแตกดังขึ้น แก้วชาแตกกระจาย
ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “เสียดาย แก้วชาดีๆ! แม่นางซูตง ถ้าเธอปาทิ้งแบบนี้ วันหลังฉันไม่ชวนเธอดื่มชาแล้วนะ”
ซูตงระเบิดความโมโหออกมา พลังปราณสว่างขึ้นบนตัวเล็กน้อย
ลู่ฝานเห็นท่าทางจะลงมือของเธอ เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “ลงมือกับฉันที่นี่เหรอ ไม่ค่อยดีมั้ง แม่นางซูตง ฉันไม่รู้ว่าเธอโมโหอะไร แต่ฉันขอบอกเธอว่าฉันไม่ได้ทำผิด สถานการณ์แบบนั้นฉันฆ่าถังฮุยไม่ได้ เธอกลับไปบอกความจริงผู้อาวุโสซู่มั่นได้เลย หรือไม่เธอเอากระจกจำภาพออกมาบันทึกไว้ แล้วเอาไปให้ผู้อาวุโสดูก็ได้ ผู้อาวุโสเข้าใจอยู่แล้ว”
ซูตงแสยะยิ้มเย็นชา “อะไรนะ งั้นเหรอ ถ้างั้นนายก็บอกมาสิว่าทำไมลงมือไม่ได้ ฉันไม่เห็นว่าจะลงมือไม่ได้เลย นายปล่อยถังฮุยไปชัดๆ”
พูดจบ ซูตงเอามือตบโต๊ะ
โต๊ะไม้ลายครามชั้นดีโดนซูตงตบจนแหลกเป็นผุยผงทันที
รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานค่อยๆ หุบลง เขาลุกขึ้นช้าๆ เอาสองมือไพล่หลังแล้วจ้องซูตง “อย่าบอกนะว่าเธอดูไม่ออก ไม่เห็นชายวัยกลางคนที่มากับถังฮุยเหรอ เขาคือเทพเงินแปดทิศ หนึ่งในสามอริยบุคคล!”
สายตาดุดันของลู่ฝานทำให้ซูตงถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว เมื่อได้ยินชื่อเทพเงินแปดทิศ ซูตงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “อะไรนะ เทพเงินแปดทิศอยู่ที่นั่นด้วยเหรอ”
ลู่ฝานมองเธอแล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ใช่ เทพเงินแปดทิศอยู่ที่นั่นด้วย ไม่ใช่แค่นั้น ตอนฉันจะฆ่าถังฮุย เขายังส่งกระแสจิตหาฉันด้วย เธอรู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร ฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้ เขาพูดว่าไว้ชีวิตคน รักษาความสงบได้ เธอว่าฉันควรทำยังไง”
สีหน้าซูตงซีดเผือดทันที ถึงกับเป็นใบ้พูดอะไรไม่ออก
ลู่ฝานพูดต่อ “ฉันทำอะไร เธอไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน กลับไปบอกผู้อาวุโสซู่มั่น การต่อสู้วันนี้ทำให้ฉันบาดเจ็บ ไม่สามารถเคลื่อนไหวชี่ได้ จำเป็นต้องพักฟื้น ถ้าผู้อาวุโสส่งคนแยกผิดแยกถูกไม่เป็น ทำเป็นแต่ปาของลงพื้นแบบเธอมาเฝ้าดูฉันอีก งั้นก็ขอโทษที่ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว พวกเธอไปหาคนอื่นมาทำภารกิจเถอะ!”
เสียงลู่ฝานหนักแน่น โบกมือให้ซูตงแล้วพูดว่า “ส่งแขก!”
ซูตงโกรธจนตัวสั่น แต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ สุดท้ายเธอส่งเสียงหึออกมาอย่างแรง แล้วเหาะออกจากรถม้าหายลับไป