เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1867 เรื่องที่คาดไม่ถึง (2)
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1867 เรื่องที่คาดไม่ถึง (2)
ยู่ฮวาซวน เป็นสถานที่งดงามและเงียบสงบของประเทศฉิงเทียน
ลู่ฝานและคนอื่นนั่งรถม้ามาหยุดลงที่หน้าประตูยู่ฮวาซวน
สิ่งก่อสร้างที่เหมือนดอกไม้เบ่งบาน ดอกไม้ร่วงพราว ใหญ่โตมาก ดูดีมากเลย
เหมือนองค์ชายสี่หนานกงฉวน รออยู่หน้าประตูนานแล้ว
เขายืนอยู่หน้าประตูอย่างนอบน้อม เมื่อเห็นลู่ฝานลงจากรถ เขารีบหมอบลงด้านล่างรถม้าเป็นเก้าอี้ให้ลู่ฝาน
แผ่นหลังกว้างให้พวกศิษย์พี่หานเฟิงเดินไปด้วยกัน
ศิษย์พี่หานเฟิงยิ้มมองหนานกงฉวนที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมา “องค์ชายสี่ นายเจ๋งมากไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้กลับนอบน้อม ไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ น่าขำชะมัด!”
หนานกงฉวนได้ยินคำพูดของศิษย์พี่หานเฟิง เขากลับไม่โกรธ ฉีกยิ้มแล้วตอบว่า “เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าทุกท่านเป็นเพื่อนสนิทของหัวหน้าสำนักเงามืด ถ้าฉันรู้คงมีมารยาทกว่านี้ ไม่กล้าพูดอวดดีแม้แต่คำเดียว ทุกท่านโปรดอภัยให้ด้วย อภัยให้กับความหุนหันพลันแล่นของฉันในช่วงนี้”
“หัวหน้าสำนักเงามืดเหรอ”
พวกหลิงเหยามองลู่ฝานอย่างตกตะลึงอีกครั้ง
สรรพนามนี้ฟังดูดีมากเลย!
ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมยว่า “หนานกงฉวน ฉันให้นายหาซอยร้างรอฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมนายถึงเลือกที่แบบนี้ ไม่ได้มีคนซุ่มรอเราอยู่ด้านในใช่ไหม!”
หนานกงฉวนสั่นไปทั้งตัว เขาก้มตัวต่ำลงอีกขฌ “ไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้หรอกจจ หัวหน้าสำนักเงามืดมีอำนาจชื่อเสียงขนาดไหน ฉันจะทำเรื่องรนหาที่ตายแบบนี้ทำไม เหมาด้านในไว้หมดแล้ว ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปหมดแล้ว รอต้อนรับหัวหน้าสำนักเงามืด”
ลู่ฝานพูดว่า “งั้นก็ดี”
ลู่ฝานพาพวกหลิงเหยาเดินเข้าไปในยู่ฮวาซวน
เถาวัลย์เต็มไปหมด ดอกไม้สดกลายเป็นโต๊ะเก้าอี้
การตกแต่งของที่นี่ทำให้ลู่ฝานนึกถึงประเทศหลิง แต่ดอกไม้และเถาวัลย์ที่นี่ ไม่ได้มีชีวิตเหมือนประเทศหลิง
หาที่นั่งริมหน้าต่างแล้วนั่งลง ตอนนี้หนานกงฉวนปรบมือ
กลุ่มสาวงามปรากฏตัวออกมา เริ่มเต้นระบำ
อาหารมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วเช่นกัน อาหารชั้นเลิศ ล้ำค่าหายาก
พวกหานเฟิงอยากกินขึ้นมาทันที “มากับลู่…หัวหน้าสำนักเงามืดนี่ดีจริงๆ!”
หานเฟิงเกือบพลั้งปากพูดออกมา ศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ รีบเอาเนื้อมังกรยัดปากเขาทันที
ลู่ฝานชี้คนพวกนี้แล้วพูดว่า “ไหนบอกว่าไล่คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปหมดแล้ว”
จู่ๆ หนานกงฉวนคุกเข่าหน้าลู่ฝาน จากนั้นร้องไห้โฮออกมา “หัวหน้าสำนักเงามืด ฉันมีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินเพื่อนสนิทของหัวหน้าสำนักเงามืด หวาดกลัวและไม่สบายใจมาก เลยเชิญสาวงามและจัดอาหารชั้นเลิศเพื่อไถ่โทษ ฉันรู้เป็นอย่างดีว่าครั้งนี้ฉันทำอะไรบุ่มบ่าม แต่นี่เป็นคำสั่งของหัวหน้าสำนักเรา ฉันจำเป็นต้องทำอย่างนี้ หัวหน้าสำนักเงามืดไว้ชีวิตฉันด้วย!”
หนานกงฉวนร้องไห้สะอึกสะอื้น ราวกับอีกเดี๋ยวจะตายอย่างไรอย่างนั้น
พวกหานเฟิงมองลู่ฝาน พวกเขากินไม่ลงแล้วจริงๆ
มีคนมาร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ตรงหน้าตอนกินข้าว ใครก็กินไม่ลงทั้งนั้นแหละ
พวกเขาไม่ใช่ผู้ล่วงลับกำลังกินอาหารเซ่นไหว้นะ เห็นภาพแบบนี้แล้วรู้สึกไม่ดี
สีหน้าลู่ฝานยังเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกสงสารเพราะหนานกงฉวนร้องห่มร้องไห้
เขารู้จักผู้ฝึกชั่วร้ายพวกนี้เป็นอย่างดี เพื่อเอาชีวิตรอด แค่ร้องไห้ไม่นับประสาอะไรเลย เรื่องน่าอายกว่านี้พวกเขายังทำได้
สำหรับพวกเขา การร้องไห้เป็นเพียงวิธีหนึ่งเท่านั้น
ลู่ฝานหยิบตะเกียบขึ้นมากินอาหารเงียบๆ
เมื่อมองไปนอกหน้าต่าง ลู่ฝานเห็นพวกคนที่เขาอยากเจออยู่ด้านนอก
หนานกงฉวนเห็นลู่ฝานไม่สนใจ จู่ๆ เขาเอาดาบออกมา
สีหน้าพวกหานเฟิงชะงักไปทันที กดฝ่ามือลงบนอาวุธของตัวเอง
จู่ๆ หนานกงฉวนเอาดาบฟันแขนซ้ายตัวเองจนขาด เลือดสาดกระจาย สีหน้าซีดเผือด
หนานกงฉวนกัดฟันพูดว่า “หัวหน้าสำนักเงามืดญญ ฉันทำลายแขนตัวเองเพื่อเป็นการลงโทษ หัวหน้าสำนักเงามืดโปรดอภัยให้ฉันด้วย!”
โหดเหี้ยมและเด็ดขาดขนาดนี้ มิน่าล่ะถึงโดดเด่นในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้าย
ลู่ฝานหันมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา “แค่นี้เองเหรอ”
หนานกงฉวนพูดด้วยริมฝีปากสั่นเทาภด “หัวหน้าสำนักเงามืดโปรดชี้แนะด้วย ฉันรู้ตัวว่าทำผิด ได้รับการลงโทษถือว่าสมควรแล้ว แต่หัวหน้าสำนักเงามืดโปรดเห็นแก่หัวหน้าสำนักของเรา เห็นแก่ที่ตอนนี้ฉันยังมีหน้าที่ต้องทำ ไม่สามารถตายได้จริงๆ ปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะ!”
จู่ๆ ลู่ฝานหัวเราะแล้วพูดเบาๆ “ปล่อยนายงั้นเหรอ ฉันไม่มีความคิดนี้เลย นายรู้หรือเปล่าว่าคนที่นายจะแย่งคือผู้หญิงของฉัน!”
พูดจบ จู่ๆ ลู่ฝานสะบัดมือ
พวกผู้หญิงที่เต้นระบำอยู่ส่งเสียงโอดครวญออกมา
จู่ๆ ไฟลุกโชนบนตัวพวกเธอ
ออร่าปีศาจสีดำพุ่งออกมาจากตัวพวกเธอ พวกหานเฟิงพูดอย่างตกใจว่า “ผู้ฝึกชั่วร้าย!”
ลู่ฝานจ้องหน้าหนานกงฉวน “นายคิดว่าฉันโง่เหรอ คิดว่าฉันดูไม่ออกเหรอว่านายจัดฉาก”
สีหน้าหนานกงฉวนไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เขากำลังจะลุกขึ้น นัยน์ตาลู่ฝานเป็นประกายอีกครั้ง
หนานกงฉวนกลายเป็นหินชะงักอยู่กับที่
ลู่ฝานกระทืบเท้า เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นในทั้งยู่ฮวาซวน
ราวกับมีคนนับไม่ถ้วนโดนไฟแผดเผา เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นเป็นระลอก
แค่คิดก็กลายเป็นไฟ แผดเผาทุกสิ่ง
พวกผู้ฝึกชั่วร้ายพละกำลังต่ำต้อยพวกนี้ ไม่มีค่าให้ลู่ฝานลุกขึ้นลงมือด้วยซ้ำ เผาทิ้งซะให้จบ!
พวกหานเฟิงช็อกไปแล้ว
หลิงเหยาพูดอย่างประหลาดใจว่า “พวกเขาเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายหมดเลยเหรอ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่ ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าประเทศฉิงเทียนอันตรายขนาดไหน”
พูดจบ ลู่ฝานปล่อยปราณชี่ออกไปข้างนอก
ปราณชี่ระเบิดเป็นตัวอักษรคำว่า ฆ่า กลางอากาศ สว่างไสวเหมือนดอกไม้ไฟ
ทันใดนั้นมีเสียงอาวุธปะทะกันดังขึ้นด้านนอก
ต่อจากนั้นเงาดำทะลุสายลมเข้ามา กลายเป็นเส้นโค้งสุดเพอร์เฟกต์ ลงมาตรงหน้าลู่ฝานและคนอื่น
พลั่ก พลั่ก พลั่ก พลั่ก!
เสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นคนถืออาวุธรูปร่างแตกต่างกัน คุมตัวพวกคนที่ล้มอยู่บนพื้น จากนั้นพูดกับลู่ฝานว่า “หัวหน้าสำนัก จับตัวคนที่สะกดรอยตามเอาไว้ทั้งหมดแล้ว”
หลิงเหยามองคนที่โดนคุมตัวแล้วพูดอย่างตกใจว่า “ฉันเคยเจอพวกเขา พวกนายเป็นคนประเทศอู่อานไม่ใช่เหรอ”
ลู่ฝานพูดขึ้นข้างๆ ว่า “ไม่ใช่ พวกเขาเป็นคนประเทศตันเซิ่ง สะกดรอยตามพวกเธอมาตลอดทาง”
พวกหานเฟิงเจอเรื่องติดต่อกันแบบนี้ พวกเขาจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว
สรุปว่าตอนนี้พวกเขาพูดอะไรไม่ออกสักคำ เบิกตาโตมองทุกอย่างที่เกิดขึ้น
สิ่งเดียวที่พวกเขารู้คือเหมือนตำแหน่งของลู่ฝานสูงส่งมาก
ดูลูกน้องเขาสิ แต่ละคนดูเก่งกาจมากเลย แต่ทำไมดูเหมือนผู้ฝึกชั่วร้ายเลยล่ะ
อย่าบอกนะว่า……
ผู้ฝึกชี่หลายคนที่โดนคุมตัว จ้องไปทางหนานกงฉวน
จู่ๆ ผู้ฝึกชี่วัยกลางคนตะโกนว่า “หนานกงฉวน! นายกล้าหลอกเรา พวกนายคือผู้ฝึกชั่วร้าย ประเทศตันเซิ่งไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่ พวกนายจะตายอย่างน่าเวทนา องครักษ์ศักดิ์สิทธิ์ต้องทำลายสำนักย่อยของพวกนาย!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลู่ฝานอึ้งไปก่อน จากนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ
เหมือนผู้ฝึกชี่คนนี้เข้าใจอะไรผิดนะ!