เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1864 รนหาที่ตาย
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1864 รนหาที่ตาย
งานประมูลจิ่วหลีเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
เสียงประมูลราคาดังเข้าหูไม่หยุด เสียงตะโกนดังเป็นระลอก
ของต่างๆ นานาขายดีอย่างกับเทน้ำเทท่า
ของดีออกมาอย่างต่อเนื่อง ลู่ฝานอดใจไม่ไหว ซื้อสูตรยาดีมาสองใบ แม้ราคาสูงจนน่าตกใจก็เถอะ
เช่นเดียวกับร้านค้าอื่นๆ งานประมูลจิ่วหลียังรักษาประเพณีอันดีงามเอาไว้ คือไม่หลอกลวง ไม่เอารัดเอาเปรียบคนประเทศอื่น
ของทั้งหมดที่ขายออกไป เพิ่มขึ้นจากราคาเริ่มต้นหนึ่งเท่า
อีกทั้งตอนขายยังแอบตะโกนว่าเป็นสินค้าพื้นเมืองของประเทศฉิงเทียน
ทำให้นักบู๊กับผู้บำเพ็ญจากประเทศอื่นที่อยากซื้อของที่ระลึก ใช้จ่ายอย่างไม่หวงเงินเลย
แต่ในความเป็นจริง จากความคิดของลู่ฝาน ของที่พวกเขาซื้อไม่ใช่สินค้าพื้นเมืองของประเทศฉิงเทียน
อย่างน้อยลู่ฝานรู้ว่าในประเทศฉิงเทียน ไม่มีสมุนไพรที่ขนาดปกติ
ที่นี่แค่หญ้าต้นเดียวก็สูงกว่าคนแล้ว
แต่นี่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจทุกคน อย่างน้อยลู่ฝานก็ดูอย่างสนุกสนาน
มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าของที่ประมูลในงานนี้ คือของที่ได้มาจากนักบู๊หรือผู้ฝึกชี่ประเทศอื่น
จินตนาการออกเลยว่าคนที่มาประเทศฉิงเทียน ไม่ได้รวยทุกคน
พวกคนที่ไม่มีเงินขายของที่มีติดตัว เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
หมายความว่าของที่ขายในงานประมูลจิ่วหลี คือของดีจากทั่วใต้หล้า
เมื่อคิดเช่นนี้ ลู่ฝานรู้สึกว่ายังขายถูกมาก
ถ้าเป็นที่อื่นคงไม่ได้เจอของดีจากทั่วใต้หล้าหรอก
ลู่ฝานกำลังดูอย่างสนุก จู่ๆ เห็นคนคุ้นเคยเดินเข้ามาในประตู
ลู่ฝานยิ้มกว้างทันที
“ศิษย์พี่หานเฟิง หลิงเหยา ดีจัง ทุกคนมากันหมดเลย!”
มองพวกศิษย์พี่หานเฟิงด้วยตาเป็นประกาย ลู่ฝานพูดออกมาเบาๆ
ด้านล่าง พวกศิษย์พี่หานเฟิงเงยหน้ามองบรรยากาศรอบๆ แล้วเอ่ยชม
“โอ้ ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ที่ประเทศอู่อานเก้าอี้ลอยได้ มีแต่ที่พวกฉินซางต้าตี้นั่ง แต่ที่นี่มีเต็มไปหมดเลย!”
หานเฟิงฉีกยิ้มแล้วตะโกนเสียงดัง
ศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ รั้งเขาไว้แล้วพูดว่า “ทำตัวดีๆ หน่อยได้ไหม อย่าทำขายหน้าสิ คนอื่นมองมาทางนี้หมดแล้ว!”
อย่างที่ศิษย์พี่ใหญ่พูด หานเฟิงเพิ่งตะโกนจบ คนอื่นพากันมองเขาด้วยสีหน้าต่างๆ นานา
มีทั้งเยาะเย้ย เหยียดหยาม ที่มากสุดคือดูถูก
คนบางหัวเราะแล้วพูดว่า “ดูก็รู้ว่าเป็นพวกบ้านนอกที่มาจากประเทศเล็กๆ”
“คนที่มาจากประเทศแบบนี้ แค่มาเปิดหูเปิดตาเท่านั้น งานแข่งนานาประเทศคงโดนคัดออก กลับบ้านตั้งแต่รอบแรก”
ได้ยินคำพูดของพวกเขา หานเฟิงตะโกนเสียงดังขึ้นอีก “ประเทศเล็กแล้วยังไง มีคนมีความสามารถเหมือนกัน เก่งก็มาประลองกับฉันสิ นายจะได้รู้ว่านักบู๊จากประเทศเล็กๆ ก็ซัดหน้านายได้!”
ศิษย์พี่ฉู่สิงกับศิษย์พี่ฉู่เทียนที่อยู่ข้างๆ ทนดูไม่ไหวแล้ว รีบลากหานเฟิงมาด้านข้าง
“นายอย่าก่อเรื่องได้ไหม สองสามวันนี้มีเรื่องกับคนอื่นเพราะปากนายไปตั้งกี่คนแล้ว!”
“หุบปาก! ห้ามขยับ!”
ศิษย์พี่ฉู่สิงกับศิษย์พี่ฉู่เทียนจับหานเฟิงไว้แน่น
หานเฟิงพูดว่า “ฉันไม่ชอบพวกยโสอวดดีแบบนี้ คนประเทศใหญ่มีดีตรงไหนไม่ทราบ พูดมาสิว่าระหว่างทางเราเจอคนเยาะเย้ยมาตั้งเท่าไร แค่พวกอวดดีคิดว่าตัวเองเก่ง สุดท้ายก็โดนฉันซัดจนแพ้หมด”
คำพูดของหานเฟิง เรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มคนรอบๆ
เห็นการเยาะเย้ยในเสียงหัวเราะอย่างชัดเจน
ลู่ฝานที่อยู่ในห้องหัวเราะเบาๆ
ผ่านไปกี่ปีศิษย์พี่หานเฟิงก็เหมือนเดิม สันดอนขุดง่าย สันดานแก้ยากจริงๆ ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด
ครั้งนี้หานเฟิงทนไม่ไหวแล้ว เขาดึงกระบี่ฟ้าครามออกมาแล้วพูดว่า “ทำไม ใครไม่ยอมก็ออกมาสู้สิ!”
ตะโกนขนาดนี้ แต่เหมือนไม่มีใครสนใจเขาเลย
จู่ๆ เสียงหัวเราะดังขึ้นในห้อง
“แม่นางหลิงเหยา ถ้าฉันเอาชนะผู้ชายข้างเธอได้ เธอจะแต่งงานกับฉันไหม”
จู่ๆ ห้องโปร่งแสง เผยให้เห็นใบหน้าชายคนนี้
ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เพ่งมองชายคนนี้ มองแวบเดียวลู่ฝานจำได้ทันที
นี่คือองค์ชายสี่หนานกงฉวนที่ไม่ได้เจอกันนานนี่นา!
“ไอ้หมอนี่รนหาที่ตายจริงๆ!”
นัยน์ตาลู่ฝานฉายประกายดุดัน เขาหัวเราะเบาๆ
หนานกงฉวนพุ่งเป้าไปที่หลิงเหยา ถ้าไม่เรียกว่ารนหาที่ตาย จะให้เรียกว่าอะไร
“องค์ชายสี่!”
“ไอ้ทุเรศคนนี้อีกแล้ว ทำไมเขาอยู่ทุกที่เลย!”
หานเฟิงพูดเบาๆ
พวกศิษย์พี่ใหญ่มองหนานกงฉวนด้วยใบหน้าไม่เป็นมิตร
หลิงเหยาพูดเสียงดังว่า “องค์ชายสี่ เราแค่เจอกันโดยบังเอิญ เคยเจอกันแค่ครั้งเดียว องค์ชายอย่าเซ้าซี้ฉันอีกเลย!”
หนานกงฉวนหัวเราะร่า “เซ้าซี้เหรอ นี่เรียกแสดงความรักต่างหาก ตั้งแต่เจอเธอบนถนนวันนั้น ฉันก็รู้เลยว่าเธอคือคนของฉัน ฉันรับรองเลยว่านี่แค่ปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น”
ลู่ฝานทนฟังไม่ไหวแล้ว เขาจะลงมือสั่งสอนไอ้ปัญญาอ่อนนี่สักหน่อย
ให้เขาได้รู้ว่าทำไมเลือดถึงแดงขนาดนี้!
ขณะนั้นแสงทั้งงานประมูลจิ่วหลีมืดลงทันที
โพเดียมแร่ควอตซ์ค่อยๆ ยกตัวขึ้นมากลางงานประมูล
ชุดขนนกบนโพเดียมเปล่งประกายระยิบระยับ สีสันสดใส เต็มไปด้วยแสง สะบัดปลิวตามลม แม้แต่ลู่ฝานยังโดนดึงดูดสายตา
“สุภาพบุรุษ สุภาพสตรีและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตอนนี้คือชุดหนีฉาง ทำมาจากขนหงส์เก้าสี ขนหงส์น้ำแข็งและขนหงส์แดง มีประสิทธิภาพทำให้จิตใจสงบ ช่วยด้านการฝึกฝน บรรลุวิถีแห่งสวรรค์ อย่างที่ทุกคนเห็น นี่คือชุดขนนกที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นของขวัญสุดเพอร์เฟกต์มอบให้แก่ผู้หญิง ของสิ่งนี้ราคาเริ่มต้นด้วยยาเซียนสิบขวด หรือของที่ราคาเท่ากัน ทุกคนประมูลได้เลย!”
เสียงคนแนะนำเพิ่งพูดจบ เสียงตะโกนราคาดังขึ้นจากรอบๆ ทันที
ลู่ฝานมองชุดขนนก แล้วมองหลิงเหยาที่อยู่ด้านล่าง
ตอนนี้ดวงตาหลิงเหยาเคลิบเคลิ้ม ชุดแบบนี้มีดาเมจกับผู้หญิงรุนแรงมาก
อีกทั้งไม่ใช่แค่หลิงเหยา ตอนนี้ในงานประมูล ผู้หญิงคนไหนไม่จ้องชุดขนนกบ้างล่ะ
จู่ๆ จิตใจลู่ฝานวูบไหวเล็กน้อย เขายกยิ้มมุมปาก
ถ้าเขาซื้อชุดขนนกให้หลิงเหยา เธอต้องดีใจมากแน่ๆ
ลู่ฝานคิดเช่นนี้แล้วตะโกนประมูลราคาเช่นกัน
แต่คนในงานประมูลรวยมากจริงๆ เสียงตะโกนของลู่ฝานหายไปท่ามกลางเสียงตะโกนของทุกคนอย่างรวดเร็ว
ราคาชุดขนนกพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ลู่ฝานกำลังคิดว่าราคาไหนถึงจะเหมาะสม
เสียงหนานกงฉวนดังขึ้นอีกครั้ง
“ยาเซียนหมื่นขวด ฉันจะเอาชุดนี้!”
ทุกคนเงียบทันที
หนานกงฉวนมองหลิงเหยาด้วยรอยยิ้ม “แม่นางหลิงเหยา ฉันจะเอาชุดนี้ให้เธอ ทุกคนไม่ต้องประมูลสู้กับฉันแล้ว ที่นี่คือประเทศฉิงเทียน พวกนายสู้ฉันไม่ได้หรอก!”
หลิงเหยาขมวดคิ้วพูดเสียงเบา “น่ารำคาญจริงๆ!”
หานเฟิงถกแขนเสื้อขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่ต้องมาขวางฉัน ฉันจะต่อยเขา ให้ตายเถอะ เห็นศิษย์น้องลู่ฝานไม่อยู่ใช่ไหม เลยมาจีบสาวของศิษย์น้องฉัน วันนี้ฉันต้องซัดเขาให้เละ!”
พวกศิษย์พี่ใหญ่ก็สีหน้าไม่เป็นมิตรเช่นกัน
ภายในห้อง ลู่ฝานขยับนิ้วมือเบาๆ เหมือนกัน “ทำไมนายถึงรนหาที่ตายขนาดนี้ล่ะ”