เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า - บทที่ 1508
เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1508
เจ้าของร้านรอดพ้นโชคร้ายเหมือนเพิ่งโดนช้อนขึ้นจากน้ำ เมื่อได้ยินคำพูดลู่ฝานก็รีบถอยไปด้านหลังทันที
เก็บมุกกลับมา สายตาน่ากลัวเล็กน้อย วิชาชิงวิญญาณโจมตีออกมา
เขาไม่ใช่คนที่เป็นฝ่ายโดนกระทำอย่างเดียว ในเมื่อลงมือแล้ว ลู่ฝานกะลงมือเพื่อชิงความได้เปรียบก่อน
ลู่ฝานหันมากวาดตามองสามคนข้างๆ
ทุกคนที่สบตากับลู่ฝาน ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมาทันที จากนั้นเอามือกุมหัวร้องโหยหวน
วิทยายุทธของพวกเขาไม่ได้สูงเหมือนจินเซ่าเหยียน จึงไม่สามารถต้านทานวิชาชิงวิญญาณของลู่ฝานได้ทั้งหมด
แต่ยังไงด้านวิญญาณ ผู้ฝึกชี่ก็แข็งแกร่งกว่านักบู๊
แม้พวกเขาต้านทานไม่ได้ แต่ไม่ได้โดนลู่ฝานล็อกไว้ที่เดิม
พลังชี่บนตัวพังทลาย ภายในระยะเวลาสั้นๆ พวกเขาไม่มีพลังโจมตีลู่ฝาน
ลู่ฝานเงยหน้าจ้องจินเซ่าเหยียน
ตอนนี้จินเซ่าเหยียนเอาตราประทับสี่เหลี่ยมวางไว้ตรงหว่างคิ้ว
แม้การกระทำเขาดูตลก แต่พูดตามตรงว่าได้ผลมาก
ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของตัวเอง โดนพลังประหลาดบนตราประทับสี่เหลี่ยมต้านทานไว้
พลังนี้เหมือนอยู่ในประเภทเดียวกับเขตวิถี อริยปราชญ์คนใดคนหนึ่งน่าจะเป็นคนทิ้งไว้
จินเซ่าเหยียนกัดฟันมองลู่ฝาน “ไอ้หนุ่ม นายจะเป็นศัตรูกับฉันใช่ไหม ล่วงเกินตระกูลจิน ต่อไปนายตายยังไงก็ยังไม่รู้เลย”
ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมยว่า “งั้นเหรอ ในเมื่อยังไงฉันก็ต้องตาย งั้นตอนนี้ฉันฆ่าพวกนายก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ฉันจะได้มีเพื่อนตายตามไปด้วยไง!”
ลู่ฝานพูดพลางปล่อยพลังสังหารอันน่ากลัวออกมา
ปรายตามองกำแพงเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏบนหน้าลู่ฝาน
ขาของจินเซ่าเหยียนอดสั่นขึ้นมาไม่ได้ พลังสังหารของลู่ฝานเหมือนทำให้เขาเผชิญหน้ากับเหวลึกจริงๆ
จินเซ่าเหยียนกำเครื่องรางของตัวเองเอาไว้แน่น พลังชี่ทั้งตัวพลุ่งพล่าน ร้านยาเริ่มสั่นสะเทือนทั้งร้าน
เขาไม่ยอมนั่งรอความตายหรอก แม้คนตรงหน้าทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายรุนแรง แต่จินเซ่าเหยียนไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้
ไม่ทันไรไข่มุกสองเม็ดบนฝ่ามือลู่ฝานเคลื่อนไหวกลางอากาศ ส่องแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่การต่อสู้ของทั้งสองกำลังจะเริ่มขึ้น จู่ๆ มีเสียงไอดังขึ้นจากไม่ไกล
“แค่กๆ คึกคักดีจริงๆ ฉันรอให้พวกนายสู้กันเสร็จแล้วค่อยมาดีไหม”
เสียงคุ้นมาก ลู่ฝานเก็บมุกในมือ รอยยิ้มบนหน้ากว้างขึ้นอีก
จินเซ่าเหยียนมองไปข้างหลัง เห็นใครบางคนเดินออกมาจากประตูหลังร้านยา
สวมชุดคลุมแดง ใบหน้ามีรอยยิ้ม เขาคือหั่วตันซู หัวหน้าเก้าแห่งตระกูลหั่วซึ่งนัดเจอกับลู่ฝานวันนี้
จินเซ่าเหยียนเห็นชุดคลุมแดงบนตัวหั่วตันซู สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที รีบเก็บเครื่องรางของตัวเองอย่างไว
หั่วตันซูมองจินเซ่าเหยียนด้วยรอยยิ้ม “คุณชายรองตระกูลจิน ลมอะไรพัดนายมาที่นี่ ทำไมถึงไม่อยู่หอซวนฮัวที่สวรรค์ชั้นสองล่ะ มาที่สวรรค์ชั้นหนึ่งทำไม”
จินเซ่าเหยียนเอาป้ายอันหนึ่งออกมา ด้านหน้าคือแสงค่ายกลเบญจธาตุ ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ส่วนด้านหลังสลักชื่อจินเซ่าเหยียนเอาไว้
“ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญต้องพบเจ้าบ้านตระกูลหั่ว โปรดแจ้งให้ด้วย!”
หั่วตันซูรับป้ายมาดูแล้วพูดว่า “มาเพราะการต่อสู้ห้าปีสินะ ตระกูลจินพวกนายมาลองเชิงหรือวางแผนจะใช้ตระกูลหั่วมาสร้างความน่าเกรงขามล่ะ”
จินเซ่าเหยียนพูดอย่างเฉยเมยว่า “เรามาพบเจ้าบ้านตระกูลหั่ว”
หั่วตันซูส่งเสียงหึเบาๆ เมื่อเขาปรบมือเรียก ผู้ฝึกชี่ชุดคลุมม่วงเดินออกมาจากด้านหลัง
“เชิญคุณชายตระกูลจินท่านนี้เข้าไปในประตูเขา”
ผู้ฝึกชี่ชุดคลุมม่วงคำนับแล้วขานรับ จากนั้นพาพวกจินเซ่าเหยียนออกไป
ก่อนไปจินเซ่าเหยียนจ้องลู่ฝานอย่างเคียดแค้นแล้วขยับปากเบาๆ เสียงจินเซ่าเหยียนดังขึ้นข้างหูลู่ฝาน “ฉันจดจำนายเอาไว้แล้ว”
ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยนะ ฉันคงจำนายไม่ได้”
จินเซ่าเหยียนโกรธจนหน้าแดงอีกแล้ว เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไป
ลู่ฝานมองจินเซ่าเหยียนยืนบนเรือสีม่วงทองของตระกูลหั่วออกไป “ลูกหลานตระกูลจินอวดดีแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ”
หั่วตันซูเดินเข้ามาพูดว่า “อวดดียังไงก็ไม่เท่านายหรอก เขาอวดดีเพราะมีตระกูลจินห้าตระกูลใหญ่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง คุณชายลู่ฝานไม่ยอมอ่อนข้อขนาดนี้ มีอำนาจอะไรคอยสนับสนุนอยู่เหรอ”
ลู่ฝานครุ่นคิดแล้วพูดว่า “พูดแบบนี้ ฉันทำอะไรโง่ๆ ลงไปอย่างนั้นเหรอ”
หั่วตันซูส่ายหน้า “เปล่าหรอก ฉันคิดว่าคุณชายลู่ฝานไม่เพียงแต่จะไม่โง่ แต่ยังเข้าใจเป็นอย่างดี นายเห็นว่าฉันดูอยู่ข้างหลังตลอดสินะ”
ลู่ฝานพูดว่า “จะว่าใช่ก็ได้”
หั่วตันซูรอยยิ้มเต็มใบหน้า “พูดแบบนี้ คุณชายลู่ฝานยอมเข้าตระกูลหั่วแล้วใช่ไหม”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ต่อไปฝากหัวหน้าเก้าดูแลด้วย”
หั่วตันซูตบไหล่ลู่ฝานแล้วพูดว่า “ยินดีต้อนรับสู่ตระกูลหั่ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายคือองครักษ์ส่วนตัวของฉัน”