หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 549 เต็มใจรับความอัปยศ
นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 549 เต็มใจรับความอัปยศ
หากทว่านางกลับสามารถลงมือได้อย่างเฉียบขาด ไม่เพียงแค่นั้น นางยังสามารถปลิดชีพยอดฝีมือระดับปฐพีสะท้านสะเทือนแห่งสํานักหลิวหลีได้อีกด้วย
คุณสมบัติเยี่ยงนี้ พรสวรรค์อันล้ําเลิศเยี่ยงนี้ ชัดเจนว่าลัวนสูงส่งกว่าเฟิ่งเหลียนยิ่ง ไม่น่าสงสัยเลยว่าเหตุใด เฟิ่งเหลียนถึงจึงริษยานางมากมายถึงเพียงนี้
หากทว่า ยิ่งสาวน้อยเบื้องหน้าเก่งกาจเพียงไร กลับยิ่งกระตุ้นความตื่นเต้นให้เขานึกสนุกได้มากเพียงนั้น ทั้งยังสามารถเพิ่มความสุขสันต์ให้กับการเสพสมของเขาได้มากขึ้นอีกด้วยมิใช่หรือ
เมื่อเฟิ่งเหลียนยิ่งเห็นท่านเลี้ยวตลอดถึงเหล่าศิษย์นิ่งเงียบไปนาน จึงเข้าใจว่าพวกเขาเกิดนึกหวาดกลัวฝีมือกระบี่ของเกอซี คุณหนูตระกูลเพิ่งอดกล่าวแดกดันขึ้นมามิได้
“ท่านเลี่ยว นี่ท่านไม่รู้กระนั้นหรือ ตัวคู่โปรดปรานพลังวัตรเป็นที่สุด เมื่อครู่หญิงแพศยาผู้นั้นแทบขยับตัวมิได้ ทว่ากลับฝันโคจรพลังต่อสู้ เช่นนั้นยามนี้พลังปราณทั่วร่างนางย่อมปั่นป่วนคู่พิษร่านสวาทในกายย่อมกําลังร้อนรุ่มคลุ้มคลั่ง ท่านมิรู้จริง ๆ กระนั้นหรือว่ายามนี้นางกําลังอยู่ในสภาวะเช่นไร ? สตรีที่ไร้สิ้นแรงก่าลังเสมือนลูกไก่ในกํามือเช่นนี้ ท่านเลี่ยวยังนึกเกรงอีกหรือ ?”
อีกฝ่ายได้ฟังกลับต้องหัวเราะร่วน
“ข้าจะกลัวเกรงได้เยี่ยงไร ? แม่นางเพิ่งอย่าได้ร้อนใจไปเลย ท่านจะได้ชมภาพความสุขอันน่าประทับใจอย่างแน่นอน”
เขากล่าวพร้อมยกมือโบกส่งสัญญาณให้เหล่าศิษย์เข้ามารุมล้อมเกอซ์อีกครา
เกอซีย่อมตระหนักดีว่าสถานการณ์ยามนี้เลวร้ายอย่างที่สุด พวงแก้มทั้งสองของนางยามนี้แดง…ยิ่งเสียกว่ากลีบดอกท้อ หยาดน้ําในตาเริ่มนองคลอเคลียสองเบ้าตา
ทุกสิ่งเบื้องหน้าประหนึ่งภาพฝันร้ายที่ไม่มีผู้ใดอยากจดจํา
ภายในกายร้อนระอุหนักหน่วงขึ้นทุกขณะ กระทั่งแทบอยากกระชากอาภรณ์ให้หลุดออกจากร่าง
ทั่วทุกอณูในกายคล้ายเปราะบางอ่อนไหวกับทุกสัมผัส เพียงสายลมโชยผ่านผิวกาย กลับสามารถสร้างความหวั่นไหวให้ร่างกายต้องสั่นสะท้านเกินสามารถควบคุม
หากแต่ไม่ว่าจะอย่างไร นางจะยอมไม่ได้ ความหยิ่งทระนง และศักดิ์ศรีในตน ไม่อนุญาตให้นางแสดงกิริยาที่น่าอับอายต่อหน้าเพิ่งเหลียนยิ่งผู้นี้
ยามนี้สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าสายตาของเกอซี คงมีเพียงภาพของท่านเดี่ยวพร้อมเหล่าศิษย์ทั้งเจ็ดย่างสามขุมตรงเข้าล้อมกรอบ
ในหูยินเพียงเสียงหัวเราะเยาะหยันระคนเสียงหอบหายใจด้วยกิริยาหยาบคายของกลุ่มบุรุษอัปลักษณ์ในอาภรณ์สีดํา
สายตาที่จับจ้องมายังเกอซีอัดแน่นไปด้วยความชั่วร้าย ตื่นกระหายเต็มไปด้วยความน่ารังเกียจ น่าขยะแขยง
หญิงสาวยกกระบี่ในมือหมายตวัดสังหารผู้บังอาจล่วงล้ําเข้าใกล้
ท่านเลี่ยวตวัดแส้ปลายตะขอหวดสวนกลับทันทีเช่นกัน
เสียงอาภรณ์ฉีกขาด กระบี่ในมือของหญิงสาวร่วงหล่นกระแทกพื้น แขนเสื้อหลุดรุ่ยเผยท่อนแขนที่ขาวละเอียดเนียนตา ราวเนื้อหยกชิ้นงามด้วยแรงหวดจากปลายแส้
รอยแผลสีแดงเป็นจําที่ถูกทิ้งไว้บนเนินไหล่เนียนนั้นงดงามปานประหนึ่งดอกบ๊วยแดงที่ร่วงหล่นบนปุยหิมะ ช่างงดงามขยี้ใจกระตุ้นให้อยากเข้าไปขยี้ขย่าทิ้งร่องรอยให้แปดเปื้อนหนักหน่วงกว่าก่อน
ท่านเลี่ยวสั่นสะท้านไปทั้งกายด้วยความตื่นเต้น ฝ่ามือที่กุมปลายแส์กําแน่นกระทั่งเส้นเลือดปูดโปน
สองตาของมันจ้องเกอซีเขม็ง ขณะปากกล้ํากลืนน้ําลายล่วงลงคอก่อนจะยกยิ้มกล่าวยั่ว
“แม่ยอดดวงใจ เจ้าได้ยินเสียงปลายแส์ที่เร้าอารมณ์เมื่อครู่หรือไม่ ? ให้ข้าช่วยลงแส้กระตุ้นเจ้าอีกครั้งดีหรือไม่ ? จั…อย่ามองข้าด้วยสายตาน่ากลัวเช่นนั้นมองข้าสิ ยามนี้เจ้ากพิษร่านสวาทมันคงกําลังร่ําร้องหาข้าจนปานจะขาดใจแล้ว อีกไม่ช้า เจ้าจะต้องมาคุกเข่าเลียเท้าร้องขอให้ข้าลงแส์เจ้าให้หนําใจกว่านี้”
กล่าวจบ มันยกแง่ขึ้นตวัดอีกครา ในครานี้เป้าหมายก็คืออกเสื้อของเกอซี
หากถูกแส้ปลายตะขอตวัดเกี่ยว อาภรณ์ของเกอซีย่อมต้องฉีกขาดเผยผิวเนียนที่ขาวสล้างราวหิมะให้ทุกสายตาได้ชื่นชม
ท่านเลี่ยวพร้อมเหล่าศิษย์ต่างจ้องด้วยอาการตื่นระหาย อีกเพียงไม่ช้า สาวน้อยผู้งดงามเบื้องหน้าจะน้อมรับความอัปยศที่พวกเขาจะร่วมกันยัดเยียดให้ด้วยความเต็มใจ
ทว่าเพียงหางแส้ตวัดใส่เบื้องหน้า ฝ่ามือเรียวยาวที่เนียนขาวดุจเนื้อหยกพลันตรงเข้ายึดปลายหางแสไว้อย่างแน่นเหนียว
***จบตอน เต็มใจรับความอัปยศ***