หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 518 สตรีย่อมแปรเปลี่ยนเมื่อต้องออกเรือน
นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 518 สตรีย่อมแปรเปลี่ยนเมื่อต้องออกเรือน
“ผู้ฝึกยุทธขั้นต้นสามารถฝ่าฝืนกฏนั้นด้วยการลองท้าทายตนเองเข้าต่อสู้กับสัตว์อสูรชั้นสูง ทว่าหากผู้ฝึกยุทธขั้นสูงข้ามมาในเขตของผู้ฝึกยุทธขั้นต้นพลังฝีมือของผู้ฝึกยุทธผู้นั้นจะถูกบั่นทอนให้ลดลงถึงหนึ่งในสิบส่วน…”
“ซีเยว่ แม้เจ้าจะเป็นผู้ฝึกยุทธพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ทว่าคล้ายท่านผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน เพียงเขตบริเวณสัตว์อสูรขั้นต้นล้วนไม่อาจคณนามือ ทว่าหากพวกตระกูลเพิ่งจะส่งผู้ฝึกยุทธขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ร่วมรุมเจ้า เชื่อว่าเจ้าย่อมไม่สามารถหาหนทางหลบหลีกง่ายดายนัก”
เกอซีเริ่มมีลางสังหรณ์ร้ายขึ้นในทันที เหนือยอดเขาสลายวิญญาณแห่งนี้ย่อมมีสิ่งซ่อนเร้น เพียงไม่อาจคาดเดาได้ว่าคือสิ่งใด
และหากเป็นดังที่กล่าว การที่โอวหยางฮ่าวเซวียนติดตามเข้ามาช่วยเหลือนางในเขตบริเวณของผู้ฝึกยุทธขั้นต้นย่อมต้องสูญเสียพลังปราณของตนมิใช่น้อย
เมื่อโอวหยางฮ่าวเซวียนเห็นท่าที่เป็นกังวลของเกอซี ชายหนุ่มจึงคลี่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ท่านหมอเทวะมิต้องห่วงพะวง พวกเราล้วนมีป้ายอาคมลับประจําตระกูลที่สามารถทะลวงอาคมสกัดกั้นในการแข่งขัน รักษาพลังปราณให้คงอยู่เต็มร้อยในช่วงระยะสั้น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม้นหากพลังฝีมือของพวกเราถดถอยจริงทว่าเมื่อท่านหมอต้องเผชิญภัยอันตราย การได้พวกเราสองคนช่วยเหลือรับมือศัตรูล้วนย่อมดีกว่าผู้อื่นอย่างแน่นอน”
“ถูกต้อง ! ถูกที่สุด !”
เสียงเฉินชิงชู้สนับสนุนหนักแน่น
“คุณชายซี…ท่านอย่าได้ฟังคําของท่านอามากเกินไป หากมีผู้ใดคิดรุมทําร้ายท่าน ท่าน… ท่านต้องรีบถ่ายเทพลังสื่อสารผ่านแผ่นอาคมเรียกหาขาในทันที ข้า…ข้าจะรีบนําพี่น้องร่วมสํานักไปช่วยเหลือท่าน หากเจ้าคนชั่วหน้าไหนกล้าลงมือกับท่าน ข้า…ข้าจะสั่งสอนมันให้หลาบจําเข็ดขยาดเลยทีเดียว !”
เมื่อได้เห็นท่าที่หนักแน่นของโอวหยางฮ่าวเซวียน และเฉินชิงชูเช่นนี้ ความอบอุ่นสายหนึ่งพลันเคลื่อนพาดผ่านหัวใจน้อย ๆ ของเกอซี นางผงกศีรษะยิ้มรับ
เฉินเซินยกมือขึ้นเขียปลายจมูกคราหนึ่งพลางถอนใจ
“ที่กล่าวกันว่าเมื่อถึงเวลาสตรีอออกเรือนทุกสิ่งล้วนแปรเปลี่ยน เห็นจะเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อก่อนจะอะไรก็ท่านอาผู้นี้ ทว่ายามนี้…เมื่อเจ้ามีคุณชายซีเสียแล้ว ท่านอาผู้นี้จะกล่าวค่าใดล้วนผิดไปเสียหมด”
“ท่านอา ! ! !”
เฉินชิงชิงอนกระฟัดกระเฟียดกระทืบเท้าตึงตั้ง
เฉินเซินได้เพียงอมยิ้มพลางหันไปหาเกอซี
“ซีเยว่ ข้าคิดว่าการที่ตระกูลเพิ่งต้องเสียหน้าอย่างมากเช่นนี้ ย่อมไม่มีวันยอมรามือจากเจ้าโดยง่าย พวกมันต้องเตรียมลงมือในช่วงการแข่งขันบนเทือกเขาสลายวิญญาณแห่งนี้”
“เช่นนั้นแม้นหากเจ้าสามารถรับมือเหล่าอสูรเวทขั้นสี่ได้ก็จริง ทว่าข้ายังอยากให้เจ้ารั้งอยู่เพียงเขตสัตว์เวทขั้นที่สาม อย่างน้อยพวกมันย่อมหาโอกาสลงมือกับเจ้าได้ไม่ง่ายนัก”
“ล่วงพ้นเขตการแข่งขันเมื่อไร สํานักเมฆาแดงของพวกเราย่อมสามารถคุ้มครองเจ้าให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอน”
เกอซีผงกศีรษะ
“ขอบคุณท่านอาจารย์เฉิน
กล่าวจบเฉินเซินก็เดินหลีกไปพร้อมกลุ่มยอดฝีมือที่เหลือ
โอวหยางจื้อโซวงพร้อมโอวหยางฮ่าวเซวียนจําต้องปลีกตัวไปตระเตรียมสิ่งต่าง ๆ อีกมากในฐานะผู้ดูแลความปลอดภัยในการแข่งขันล่าสัตว์อสูรครานี้
สองพ่อลูกสกุลโอวหยางเดินผ่านคลื่นฝูงชนถึงทางเข้าโถงพระโรงหลัก ทั้งคู่เคลื่อนกายผ่านบุรุษในอาภรณ์สีขาวผู้มีท่าทีนอบน้อม
ฝีเท้าของชายในชุดขาวหยุดชะงัก สองตาของเขาแสดงอาการตื่นตะลึง เขาหันกลับมองตามแผ่นหลังของสองพ่อลูกตระกูลโอวหยางด้วยท่าที่ครุ่นคิดอย่างหนัก
ขณะที่เฉินซึ่งช และเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องที่มุงล้อมเกอชี้กาลังต่อบทสนทนาที่พูดคุยค้างไว้เมื่อยามเช้า
กลุ่มคนในเครื่องแบบศิษย์วังเจ็ดดาราพลันเดินมุ่งเข้ามาหา
ศิษย์วังเจ็ดดาราส่วนใหญ่ล้วนมีวัยเพียงสิบเจ็ดปี หากแต่กลับสามารถบรรลุถึงพลังฝีมือขั้นสาม พลิกผันอเวจี มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังอยู่เพียงขั้นพลังปฐมภูมิโลกันตร์ แม้กระนั้น พวกเขาเหล่านั้นล้วนอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ทั้งสิ้น
ผู้เดินนําหน้าเข้ามาคือหนุ่มน้อยผู้มีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสูงกว่าปกติทั่วไป แม้นพินิจจากวัยที่เห็นก็สมควรเพียงสิบกว่าปี หากทว่าท่าทึกลับเย่อหยิ่งยโสคล้ายไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา
หากแต่สิ่งที่ทําให้เกอซีต้องประหลาดใจก็คือ ผู้ติดตามร่วมมากับกลุ่มคนเหล่านั้นก็คือองค์รัชทายาท และน่าหลานจออน
***จบตอน สตรีย่อมแปรเปลี่ยนเมื่อต้องออกเรือน***