หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 508 พยานรู้เห็น
ตอนที่ 508 พยานรู้เห็น
เมื่อฉางกวนเจิ้นเยว่ได้เพิ่งเหลียนยิ่งคอยหนุนหลัง นางก็ยิ่งแสดงอาการเกรี้ยวกราดเดือดดาล
“พี่เพิ่งกล่าวได้ถูกต้อง หมอผู้ต่ําต้อยเยี่ยงเจ้ามีหรือจะสามารถเทียบกับข้าและเสด็จพี่ได้ ?”
“จิตใจของเจ้ามันคับแคบ เพียงนึกอาฆาตพวกเราสองพี่น้อง เจ้าถึงกับสังหารเสด็จพี่ของข้า ครานี้เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือไม่ !”
เกอซีค่อย ๆ ตอบค่าอย่างสบายอารมณ์
“อ้า… พวกเจ้าล้วนช่วยกันกล่าวไปสิ้นแล้ว ข้ายังมีอะไรจะพูดได้อีก
“เมื่อเจ้ายอมรับความผิดก็ไม่จําเป็นต้องไต่สวน !”
ฝ่ามือใหญ่ของฉางกวนเหวินจีทุบใส่ที่วางมือเหนือบัลลังก์มังกร พร้อมเสียงออกคําสั่งดังก้อง
“ทหาร ! ลากตัวมันไป !”
พลันน้ําเสียงเยาะหยันของเกอซีกลับดังขึ้นบ้าง
“ฝ่าบาทพระกรรณไม่ดีกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ ? กระหม่อมยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือสังหารองค์ชาย ตั้งแต่เมื่อใดกัน ? เพียงมีเรื่องบาดหมางกันก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรได้แล้วกระนั้นหรือ ?”
“กระหม่อมทราบมาว่าองค์รัชทายาททรงมีเรื่องขัดแย้งกับองค์ชายสามอยู่เนือง ๆ ในโถงว่าราชการ เช่นนั้นการที่องค์ชายสามสิ้นพระชนม์ ก็ย่อมเป็นได้ที่องค์รัชทายาทจะเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกันนะพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทผู้นั่งชมจิ๋วโรงใหญ่ด้วยความบันเทิงอยู่เงียบ ๆ พลันสะดุ้งโหยง สีหน้าแปรเปลี่ยนในทันที
ส่วนฉางกวนเหวินก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวจนตัวสั่น ยามนี้เขาเดือดดาล กระทั่งอยากจับเจ้าหนุ่มเหลือขอผู้นี้มาปั่นหัวให้จบเรื่อง
ทว่าเมื่อได้เห็นสายตาเย็นชาที่ทิ่มแทงเข้าใส่ของเฟงอวินจึงผู้อยู่ด้านข้าง ฉางกวนเหวินจีพลันได้สติ เขาส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยอาการเยาะหยัน
“เมื่อเจ้าดื้อรั้นเช่นนี้ ก็จงอย่าได้ตําหนิที่เราจําต้องเปิดโปงโฉมหน้าที่น่ารังเกียจของเจ้าต่อหน้าเหล่าชาวยุทธ เบิกตัวพยานออกมา…”
เพียงสิ้นเสียง ยอดฝีมือสองคนผู้มีรอยแผลเป็นบากหน้า หากทว่าพลังฝีมือสามารถบรรลุได้ถึงปราณขั้นที่สี่ ปฐพี่สะท้านสะเทือนพลันถูกนําตัวออกมาอย่างเร็ว
เพียงได้เห็นคนทั้งสอง เกอซีก็พอจะคาดเดาเหตุเบื้องหน้าได้ในทันที
บุรุษทั้งสองนายคือราชองค์รักษ์ที่ติดตามฉางกวนรุ่ยเข้าไปในสวนร้อยหลากสมุนไพร ทั้งก็คือ ผู้ต้องพิษโลหิตหลั่งสําราญเช่นเดียวกันกับฉางกวนรุ่ย
เมื่อฉางกวนรุ่ยเสียชีวิต ทั้งคู่ได้น่าอาวุธเวทสองชิ้นมาแลกเปลี่ยนกับน้ําแกงโอสถเพื่อรักษาชีวิตน้อย ๆ ของตนไว้
ไม่คิดเลยว่าในวันนี้ ทั้งคู่จะกลับกลายเป็นผู้ชี้ตัวนักโทษอุกฉกรรจ์ผู้สังหารองค์ชาย หึหึ นี่…มันน่าสนุกเสียจริง
ครั้นได้เห็นอาการยิ้มเยาะบนใบหน้าของเกอซี องค์รักษ์ทั้งสองทําได้เพียงก้มหน้างด ๆ หลบสายตาไม่กล้าเผชิญหน้า
แม้ในวันนั้น ครั้งที่พวกเขาอยู่ในสวนร้อยหลากสมุนไพร คนผู้นี้ยอมมอบโอสถด้วยการแลกเปลี่ยนของวิเศษเป็นจํานวนมาก ทว่าจะอย่างไรที่สุด คนผู้นี้ก็คือผู้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้
ยามนี้เมื่อพวกเขาจําต้องกล่าวอ้างเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดต่อหน้าเหล่าชาวยุทธ เพื่อยัดเยียดข้อกล่าวหาใส่ผู้มีบุญคุณแก่ตน จะมากน้อยอย่างไรพวกเขาย่อมรู้สึกละอายแก่ใจ
หากแต่เมื่อนึกถึงรางวัลใหญ่กับอนาคตที่สดใส ซึ่งตระกูลเพิ่งรับปากหยิบยื่นให้ ทั้งสองจ่าต้องกัดฟันข่มจิตใจปั้นสีหน้าให้นิ่งเฉยราบเรียบไร้พิรุธ
นางกวนเหวินจี้ส่งสายตามองอารักขาทั้งสองจากบัลลังก์มังกรที่สูงส่ง พลางกล่าวน้ําเสียงราบเรียบ
“พวกเจ้าทั้งสองได้ติดตามรุ่ยเอ่อเข้าสู่เขตแดนผนึกมังกร ยามนี้เจ้าจงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในที่นั้นให้เราฟังอย่างละเอียด
ทั้งสองหันมาถวายพระพรฮ่องเต้ ประสานมือคารวะเหล่าอาวุโสทั้งหลายจากสํานักต่าง ๆ ก่อนค่อย ๆ เริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“ในวันนั้น พวกเราอยู่ในอาณาจักรไม้ขจีในเขตแดนผนึกมังกร พวกเราพบสวนสมุนไพรที่กว้างใหญ่ ทว่าเมื่อล่วงเข้าสู่เขตสวนสมุนไพร องค์ชายสามกลับต้องพิษร้ายมีอาการประหลาดน่าสยดสยอง”
“ครานั้น คุณชายซีปรากฏกายขึ้น เขาอ้างตนเป็นแพทย์ที่สามารถเยียวยารักษาขับพิษให้องค์ชาย เพียงมีเงื่อนไขว่าพวกเราต้องนําอาวุธเวทล้ําค่าออกแลกเปลี่ยนกับโอสถรักษา”
หนึ่งในอารักขาควักกระดิ่งสีเงินออกมาจากแขนเสื้อ
“ในตอนนั้น ข้ามีเพียงระฆังเพ้อฝันอาวุธเวทขั้นห้าซึ่งได้รับตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ระฆังนี้มีเป็นคู่ หนึ่งเงิน หนึ่งทอง ข้าจําต้องนําระฆังทองออกแลกเปลี่ยนกับยาถอนพิษของคุณชายซี เป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่ คุณชายซี ?”
เกอซีผงกศีรษะขยักยิ้ม
“ไม่เลว”
และรังฆังเพ้อฝันสีทองยามนี้ได้ถูกส่งต่อให้แก่เม่ยหรูเยียนลูกสมุนคนเก่งของคู่หลิวเพิ่งไปแล้ว
***จบตอน พยานรู้เห็น***