หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 429 เก็บพวกมันไว้
ตอนที่ 429 เก็บพวกมันไว้
กู้หลิวเพิ่งคว้าแส้ชุบน้ําเกลือข้างกายหวดใส่ฮหยินมู่หรงอย่างเต็มแรง
“ครั้งที่เจ้าทําร้ายท่านแม่ของข้า เจ้าลําพองหยิ่งผยองสุขสันต์นักมิใช่หรือ ?”
“ครั้งที่เจ้าทรมานพวกเราสองแม่ลูกเจ้ากระทําตนสูงส่งเหยียบย่าพวกเราดั่งหนึ่งเดรัจฉานมิใช่หรือ ?”
แม้ปลายแส้จะถูกตวัดฟาดอย่างรุนแรงทว่ากลับไม่เพียงพอระบายความคับแค้นภายในใจชายหนุ่มหันไปฉวยแท่งเหล็กร้อนอังไฟข้างกายจี้ใส่
ทั้งยังติดตามในทันที
ฮูหยินมู่หรงแผดเสียงร้องราวจะขาดใจนางเกลือกกลิ้งไถลเถลือกไปกับพื้น พลางร่ําร้องขอความเมตตา “ข้าผิดไปแล้ว !ข้าผิดไปแล้ว ! ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด…อ้า อ้า อ้าาาาาา !!!! กู้หลิวเฟิงคนสารเลวเจ้ากล้าทําเช่นนี้กับพวกเราเจ้าจะไม่ได้ตายดีอย่างแน่นอน ! !”
แววตาที่ลุกโชนด้วยเปลวแค้นสว่างไสวอยู่บนดวงหน้าที่เรียบสงบอย่างยิ่งของกู้หลิวเพิ่ง
ภาพความเจ็บปวดทรมานที่ต้องฝืนทนเป็นที่รองรับอารมณ์ให้แก่สองแม่ลูกคู่นี้พลันค่อย ๆ ผุดขึ้นในหัวที่ละภาพ
เขาอยากฉีกร่างเฉือนเนื้อพวกมันให้ป่นไม่เหลือแม้เพียงถ่านเถ้าอยู่ทุกวันคืน !
ที่ผ่านมาเขาต้องทนดูผู้เป็นมารดาแบกรับความเจ็บปวดและความเคียดแค้นความทุกข์ความทรมานทั้งหมดถูกเก็บกลั้นฝืนทนไว้เพียงในใจไร้ทางออก
ที่สุด สวรรค์ก็มีตา !
ที่สุดวันนี้คนชั่วทั้งสองกลับต้องมาตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเขามีหรือที่เขาจะไม่ระบายความคั่งแค้นที่ท่วมท้นภายในใจในวันนี้พวกมันจะต้อง ถูกแยกร่างออกเป็นเสี่ยง ๆ ถลกหนังลอกเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ
เครื่องมือทรมานนักโทษในห้องขังถูกหยิบฉวยขึ้นในทันที
ทว่าเพียงกู้หลิวเพิ่งเงยหน้า กลับประสานเข้ากับดวงหน้าที่งดงาม นัยน์ตาที่ใสกระจ่างของซีเยว่
หนุ่มน้อยเบื้องหน้าสายตาเขาส่ายหน้า “เก็บพวกมันไว้ก่อน หากเจ้าอยากชําระแค้นเก็บพวกมันไว้คิดบัญชีรวบยอดเสียคราวเดียวพร้อมถล่ม สกุลมู่หรงให้ราบ ให้มันได้อยู่รอดูความพินาศของตระกูลจะไม่สนุกกว่าหรอกหรือ ?”
ฝ่ามือที่จับกุมเครื่องทรมานคลายออกเสียงแท่งเหล็กแหลมร่วงหล่นกระแทกพื้นดังเครงงง
ชายหนุ่มหันมาผงกศีรษะกล่าวเสียงเบา “ซีเย่วขอบใจเจ้ามาก !”
ไม่สิ! ยามนี้เขาตระหนักดีว่า มิใช่เพราะสวรรค์มีตา ! เขาหาได้รอดปลอดภัยเพราะพรประทานจากสรวงสวรรค์ไม่ ! เขาหาได้สบโอกาสล้างแค้ นเพราะสวรรค์ประทานไม่ !
ทว่าทุกสิ่งล้วนถูกบันดาลด้วยฝีมือของหนุ่มน้อยเบื้องหน้าเขานี้ หนุ่มน้อยผู้เจิดจรัสดั่งแสงจัน ทร์ที่ส่องนําทางในความมืดมิดพร่างพรายสดใส ประหนึ่งแสงตะวันที่เจิดจ้าผู้นี้ – ซีเยว่
เกอซีปลดอาภรณ์บนร่างของฮูหยินมู่หรงสวมใส่ให้กู้อวหลานอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว
และเพื่อความสมจริง เกอซีจึงหวดปลายแส้สร้างริ้วรอยลงบนร่างของฮูหยินมู่หรง ทั้งยังโปรย ผงโอสถทําให้รอยแผลบางส่วนคล้ายเป็นแผลเก่าเกรอะกรัง การกระทําเช่นนี้ย่อมสามารถกลบเกลื่อนตัวตนของฮูหยินมู่หรง ความเจ็บปวดทรมานที่ได้รับหนักหนากระทั่งฮูหยินมู่หรง หมดสติอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว
มุมปากของเกอซีขยับยกยิ้มบาง แท่งเข็มเงินปักลงหลังศีรษะของฮูหยินมู่หรงตราบเท่าที่แท่งเข็มเงินยังคงถูกฝังไว้ด้านในนางย่อมไม่อาจกล่าววาจาทั้งย่อมไม่อาจโคจรพลังในกายนอกจากนี้ยังจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งในบางครั้งคราวอีกด้วย
ส่วนมู่หรงหลินฟงผู้ถูกจับตรึงร้อยด้วยโซ่ตรวนยามนี้เขาถูกบาดแผลจากเหล็กร้อนนาบใบหน้าลามเลยกระทั่งลวกลิ้นจนพองไหม้มิอาจกล่าวว่า จาใดขุมพลังปราณทั่วร่างถูกสะกดด้วยตรวนเหล็กอาคมไม่อาจใช้กระแสพลังใดสามารถกล่าวได้ว่าอยู่ในสภาพไม่ต่างใดกับฮูหยินมู่หรงเช่นนั้นย่อมไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่าทั้งคู่ถูกสับเปลี่ยนตัว
เกอซียัดฮูหยินมู่หรงผู้อยู่ในสภาพสลบไสลไม่ได้สติใส่ในหีบไม้ ริมฝีปากเผยอรอยยิ้มเล็กน้อย “ให้นางได้ลิ้มรสการถูกกักอยู่ในหีบใบกระจ้อยเช่นนี้ทั้งวันทั้งคืนดูบ้างหากจะเปรียบกับรอยแผลที่ได้รับทั่วร่างสิ่งนี้เขย่าขวัญสั่นประสาทกว่ามากนักกว่าพวกมันจะพบตัวเจอนางอาจเสียสติไปแล้วก็เป็นได้
กู้หลิวเพิ่งอุ้มมารดาผู้อยู่ในสภาพย่ําแย่ร่อแร่เต็มทีด้วยใบหน้าที่ท่วมท้นไปด้วยความทุกข์โศก
ท่านแม่ของเขาต้องทนรับความเจ็บปวดทรมานเช่นนี้ตลอดทุกวันคืนไม่หยุดพักไร้วันสิ้นสุด
ที่สุด ฝันร้ายทั้งหมดก็จบสิ้นลงแล้ว
ทั้งคู่ทําให้ผู้คุมด้านหน้าหมดสติไม่รู้ตัว ก่อนหลบหลีกออกภายนอกห้องกักกันของตระกูลมู่หรง
ขณะผ่านส่วนในของลานเรือนมู่หรง เกอซีสังเกตเห็นกู้หลิวเพิ่งเพ่งเล็งไปทางเรือนหลักหลังใหญ่ด้วยแววตาแห่งความเคียดแค้นประหนึ่งเพียงพริบตาเขาก็พร้อมจะพุ่งเข้าประจันบานถลุ่มเรือนมู่หรงให้พินาศราบเป็นหน้ากลอง