หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 427 ภายในหีบ
ตอนที่ 427 ภายในหีบ
เสียงแผ่นเหล็กเผาผิวหนังละลายเนื้อเยื่อดัง “ ชี่ ช่าาาาา” พร้อมกลิ่นเนื้อที่ถูกย่างไหม้เกรียม
“กู้หลิวเฟิง” ถูกทรมานอย่างหนักกระทั่งไม่อาจกล่าวคํา เพียงสิ่งเดียวสามารถกระทําได้ คือพยายามส่งเสียงผ่านโลหิตที่กระอักในช่องปาก
ยิ่งได้เห็นใบหน้าน่าสังเวชของบุรุษผู้อยู่เบื้องหน้า กลับยิ่งสร้างความบันเทิงใจให้ฮูหยินมู่หรง นางหัวเราะร่าด้วยอารมณ์ที่ชื่นบาน “เจ้าคนมั่วโลกีย์ไร้ยางอาย ! เจ้าใช้ใบหน้านี้ยั่วยวนหลินฟงมิใช่หรือ ? ยามนี้ข้าทําลายโฉมหน้าของเจ้า แล้ว ดูสิว่ายังจะมีน้ําหน้ามาในหัวบุตรชายของ ข้าได้อีกหรือไม่ ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า….”
“กู้หลิวเฟิง” ผู้ถูกตรึงด้วยโซ่ตรวนย่อมได้ยิน ถ้อยคําของฮูหยินมู่หรงอย่างชัดเจน ใบหน้าของ เขาเต็มไปด้วยความตระหนกตกใจ
เขาก้มลงมองสํารวจทั่วร่างของตนพยายามดิ้นนรนขัดขึ้นสุดกําลัง ทว่ากลับพบว่าตนแทบไม่ อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้แม้เพียงน้อย
ไม่ว่าจะบนดวงหน้าหรือกระทั่งร่างกายส่วนล่าง หว่างขาของเขาล้วนถูกไฟยับเยินเจ็บปวดเกิน บรรยาย
หากที่น่าขนลุกอย่างที่สุดก็คือ มารดาผู้ให้กําเนิดกําลังยืนร้องเรียกเขาว่า “กู้หลิวเฟิง !
“กู้หลิวเฟิง” ผู้ถูกตรึงร่าง พยายามเปล่งเสียงร้องตะโกนทั้งน้ําตา “ท่านแม่ นี่ข้าเอง ข้าหลินฟง บุตรชายของท่าน ช่วยข้าด้วย…..ช่วยด้วย !”
ทว่าใบหน้าที่ถูกแผ่นเหล็กนาบนั้นไหม้ลามละลายเป็นวงกว้าง ทําให้ยามนี้ปากของเขาแดงบวมเป่ง ถ้อยคําที่เขาพยายามจะเอ่ยออกมาล้วนคลุมเครือไม่ชัดเจน กระทั่งฮูหยินมู่หรงไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามบอกกล่าว
ยิ่งได้เห็นบุรุษเบื้องหน้าพยายามส่งเสียงคร่ําครวญ นางกลับยิ่งครื้นเครงใจอย่างหาใดเปรียบ ฮูหยินมู่หรงดึงปินที่ปักอยู่เหนือศีรษะของตนออกกระหน่ําที่มแทงใส่ใบหน้าอีกฝ่ายไม่ยั้ง “ฮ่าฮ่าฮ่า …… ไอ้สารเลว เป็นอย่างไรบ้างเล่า ? เจ้ามันก็แค่เลือดชั่วที่ถือกําเนิดมาจากวัตถุโสโครกผู้หนึ่งเท่านั้น ! น้ําหน้าอย่างเจ้าน่ะหรือที่คิดเหิมเกริมหมายยั่วยวนบุตรชายข้ากระนั้นหรือ
“ถุย! เจ้ามันก็เหมือนมารดาของเจ้า เหยียบย่าผู้อื่นเพื่อให้ตนได้ผงาด อย่างพวกเจ้าควรถูกเหยียบให้จมธรณีไม่ต้องผุดต้องเกิดอีกต่อไป ! สารเลว ! ไอ้สวะ ! ไอ้สุนัขเลือดชั่ว…..”
ฉีก ฉีก ฉวะ นิ้วะ” ปลายปิ่นปักผมยังคงจ้วงแทงกระหน่ําใส่ใบหน้าของมู่หรงหลินฟงไม่หยุดยั้ง แม้การกระทําทารุณเช่นนี้ไม่อาจทําร้ายถึงชีวิต ทว่าใบหน้าของ กู้หลิวเฟิง” ผู้ถูกตรึงในคุกขัง ยามนี้ถูกแทงพรุนเป็นรูเละเทะเนื้อหนังขาดวิ่น แทบไม่เหลือสภาพ ความหวาดกลัว และเจ็บปวด ที่ได้รับล้วนไม่สามารถเทียบได้กับการทรมาน นักโทษผู้ถูกคุมขังโดยทั่วไป
แต่แรก มู่หรงหลินฟงยังเพียรพยายามร้องขอความเมตตา ทว่าที่สุดเขาได้เปล่งเสียงร้องสุดแรงกระทั่งลําคอแหบแห้ง ไม่หลงเหลือเส้นเสียงปรากฏให้ได้ยิน
ฮูหยินมู่หรงกัดฟันกําหมัดแน่น เมื่อหวนนึกถึงความอัปยศที่นางได้รับจากสองแม่ลูกคู่นี้ในปีนั้น นางก็ยิ่งอยากคว้าเดรัจฉานตัวน้อยผู้นี้มาฉีกร่างแยกส่วนเป็นชิ้น ๆ
เสียดายเพียงคนสกุลมู่หรงยังต้องเก็บรักษาชีวิตของเจ้าเดรัจฉานกับนางแพศยาผู้นั้น เช่นนั้น ความคั่งแค้นภายในใจของนางจึงไม่อาจได้รับการสะสาง
ฉับพลัน คล้ายฮูหยินมู่หรงจะฉุกคิดบางสิ่งขึ้นได้ นางรีบสาวเท้าตรงไปยังมุมห้องทรมานนักโทษก่อนจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลางยกมือขึ้นบิดหมุนกลไกด้านบน
เพียงไม่นาน ที่เหลือบมุมห้องพลันปรากฏหีบไม้ซึ่งมีขนาดเพียงครึ่งความสูงของช่วงตัวคน
ภายในหีบไม้ คือสตรีผู้หนึ่งนอนขดร่างเรือนผม แผ่สยายกระจายปกคลุมกาย
ทั่วร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของนางแดง เป็นจําไม่มีที่ใดบนเรือนร่างนางจะไร้ซึ่งรอยบาดแผล รอยแผลทั้งเก่า และใหม่ล้วนทับซ้อนกันไปมา เห็นได้ชัดว่าความทรมานที่นางได้รับไม่มีวันสิ้นสุด
หากแต่สิ่งกระตุ้นให้เกอซีนึกสนใจกลับเป็นการยัดมนุษย์ผู้ยังมีลมหายใจที่มีความสูงถึง 1.6 ผิง*ใส่ในหีบซึ่งมีความยาวแค่เพียงครึ่งตัวมนุษย์ทั้งวันทั้งคืน ต้องคุดคู่อยู่เพียงในหีบไม่อาจเหยียดกาย นี่คือการทรมานประเภทใดกันนี่ ?
*ผิง คือ เมตร
ขณะจับจ้องมองสตรีผู้นั้น เกอซีสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติของกู้หลิวเฟิงได้อย่างชัดเจน สองมือของเขากําหมัดแน่น นัยน์ตาขถึงทิ้งแดงกําดั่งสายโลหิต
หากมิใช่เพราะเกอซีคอยยื้อยุด กู้หลิวเฟิงคงพุ่งร่างพรวดพราดออกไปแล้ว
ฮูหยินมู่หรงกระชากลากผมของสตรีผู้นั้นออกจากหีบมาแสดงเบื้องหน้า “กู้หลิวเฟิง” ผู้ถูกรัดตรึงไว้กับที่ เหล่าผู้คุมทั้งหมดล้วนหน้าถอดสีราวไก่ต้ม มันส่งเสียงกระซิบกระซาบ “ฮูหยิน นายท่านสั่งไว้ หากไม่มีคําสั่ง ห้ามมิให้นําตัวคนผู้นี้ออกมา ท่านกระทําเช่นนี้…”
***จบตอน ภายในหีบ***