หมอหญิงยอดมือสังหาร - ตอนที่ 1023 ขว้างหนูกระทบสิ่งของอื่น (2)
ตอนที่ 1023 ขว้างหนูกระทบสิ่งของอื่น (2)
“ใช่”
“คุณหนู”
ในกระโจมหนึ่งในค่ายทหาร กงชีมองสำรวจกงเสี่ยวเตี๋ยที่นั่งเหม่อลอย กระแอมไอพลางเอ่ยเสียงเบา “คุณหนูอารมณ์ไม่ดีหรือ บ่าวพาคุณหนูไปดูคุณชายสี่ดีหรือไม่เจ้าคะ”
กงเสี่ยวเตี๋ยเงยหน้ามองนางไม่เอ่ยวาจา กงชีเอ่ยอย่างจนปัญญา “บ่าวรู้ว่าคุณหนูกำลังโกรธบ่าว เพียงแต่…บ่าวทำเพื่อคุณหนูนะเจ้าคะ หรือว่าคุณหนูคิดว่าสิ่งที่บ่าวเอ่ยในวันนั้นไม่ถูกเล่า”
กงเสี่ยวเตี๋ยหลุบตาลงไม่เอ่ยสิ่งใด เสี่ยวชีเอ่ย “คุณหนู ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะคุณหนูขอร้องอ้อนวอน ไม่แน่ท่านอ๋องอาจพาคุณชายสี่ข้ามแม่น้ำแล้วทิ้งคุณหนูไว้ที่อวิ๋นตูก็ได้นะเจ้าคะ คุณหนูท่านลองคิดดูสักนิด ต่อให้เยี่ยนอ๋องไม่สังหารท่าน หากทิ้งท่านไว้ที่อวิ๋นตูไม่ถามไม่ไถ่ ไม่ได้เจอคุณชายสี่อีก คุณหนู ท่านคิดว่าวันเวลาเช่นนี้จะมีความสุขได้หรือ”
ดวงตาของกงเสี่ยวเตี๋ยไหววูบ สองมือกำชายเสื้อกัดฟันแน่น เอ่ย “ท่านอ๋องไม่มีทางทำกับข้าเช่นนั้น”
กงชีถอนหายใจ ใช้สายตาไม่ได้ดั่งใจมองไปยังกงเสี่ยวเตี๋ย เอ่ยอย่างเวทนา “คุณหนู หลายปีมานี้ ท่านยังดูไม่ออกอีกหรือ” กงเสี่ยวเตี๋ยชะงัก มองกงชีอย่างระแวดระวัง “เจ้าเอ่ยอันใด” กงชีเอ่ย “คุณหนู ท่านคิดว่าเยี่ยนอ๋องชอบท่านจริงๆ หรือ”
“เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว” กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยเสียงดังขึ้น ดวงตาคู่สวยจ้องกงชีเขม็ง เอ่ย “เจ้าเลิกคิดสร้างรอยร้าว ท่านอ๋องดีกับข้าเพียงใด ใจข้ารู้ดี”
กงชีมองนางด้วยความสงสาร “เยี่ยนอ๋องดีกับท่านหรือ ท่านไม่ลองคิดดูเล่า เขาดีกับท่านอย่างไร”
กงเสี่ยวเตี๋ยชะงัก เอ่ย “ท่านอ๋องดีกับข้ามาตลอด” ตั้งแต่ถูกเยี่ยนอ๋องพากลับเข้าจวน เยี่ยนอ๋องไม่เคยปล่อยให้นางได้รับความไม่ยุติธรรม แม้แต่พระชายายังไม่ไว้หน้า ยังไม่ดีอีกหรือ เมื่อครั้งที่เยี่ยนอ๋องอยู่ในจวน ส่วนใหญ่ก็มาอยู่ที่เรือนของนาง นอกจากพระชายา เหล่าชายารองในวังหลังพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องประดับเท่านั้น
กงชีถอนหายใจ เอ่ย “คุณหนูท่านเข้ามาอยู่ในจวนเยี่ยนอ๋องได้สามปีแล้ว แต่เยี่ยนอ๋องได้อยู่ข้างกายท่านนานเพียงใด ครึ่งปีได้หรือไม่ ในครึ่งปีนี้ยังเรียกได้ว่าอยู่กับพระชายา อีกทั้งรักษาอาการป่วย และยามที่วุ่นวาย ท่านอ๋องมอบของมีค่ามากมายให้กับท่าน แต่ว่าคุณหนู…ของมีค่าเหล่านั้นอยู่ในเรือนเตี๋ย อย่างไรเรือนเตี๋ยก็เป็นของจวนเยี่ยนอ๋อง ของท่านเอง…นอกจากเครื่องประดับติดตัว ท่านมีตั๋วเงินหรือ มีที่นาหรือ มีกิจการร้านรวงหรือ สิ่งเหล่านี้พระชายามีทั้งหมด ฮูหยินน้อยทั้งสองเองก็มี ไยท่านถึงได้คิดว่าเยี่ยนอ๋องนั้นจริงใจกับท่าน”
ใบหน้าของกงเสี่ยวเตี๋ยไม่รับรู้ เพราะตั้งแต่เด็กไม่เคยขาด นางจึงไม่สนใจสิ่งของนอกกายเหล่านั้น ในจวนเยี่ยนอ๋องเองก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเอาเปรียบนาง ดังนั้นจึงไม่เคยนึกถึงปัญหาเหล่านี้ แต่ยามนี้ถูกกงชียกขึ้นมาเปรียบเทียบ กงเสี่ยวเตี๋ยก็เริ่มหวั่นไหวอยู่ในใจ
“อีกทั้ง” เห็นท่าทางสับสนของนาง กงชีปล่อยการโจมตีครั้งสุดท้ายอย่างไม่ลังเล “ท่านคิดว่าเยี่ยนอ๋องชอบท่านหรือ ใบหน้านี้ของท่านหรือ ท่านอย่าลืมเสีย ใบหน้านี้ของท่าน…มันไม่ใช่ของท่านมาตั้งแต่แรก แม้นี่จะเป็นหน้ากากหนังที่เจ้าสำนักหาช่างฝีมือดีในยุทธภพมาทำให้ อย่างมากก็อยู่ได้เพียงห้าปี หลังจากสองปีนี้ คุณหนู ท่านจะทำเยี่ยงไร”
“พอแล้ว ไม่ต้องเอ่ยแล้ว” กงเสี่ยวเตี๋ยยกมือขึ้นปิดหูกรีดร้องขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
กงชียักไหล่ มองกงเสี่ยวเตี๋ยเงียบๆ กงเสี่ยวเตี๋ยลุกขึ้นจากเตียงด้วยดวงตาแดงก่ำ กัดฟันพลางเอ่ย “ท่านอ๋องไม่มีทางทำกับข้าเช่นนี้ ข้าจะไปหาท่านอ๋อง” เอ่ยพร้อมจะเดินออกไปด้านนอก กงชีสีหน้าทะมึนขึ้นมาทันใด ยกมือขึ้นสกัดจุดกงเสี่ยวเตี๋ย ผลักนางกลับลงไปบนเตียง “พูดไม่รู้เรื่องจริงๆ”
“เจ้าจะทำอันใด” สีหน้าของกงเสี่ยวเตี๋ยพลันเปลี่ยน เอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก
กงชีเอ่ยเสียงเรียบด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอันใด เพียงไม่อยากให้คุณหนูทำลายแผนการของเจ้าสำนักเท่านั้น ในเมื่อเอ่ยด้วยเหตุผลไม่รู้เรื่อง เช่นนั้น…คุณหนูโปรดอภัยด้วย”
ระหว่างที่เอ่ย มองเห็นกงชีหยิบกริชเงินออกมา วาดไปมาบนใบหน้าของกงเสี่ยวเตี๋ย ทว่าไม่ได้ทำให้กงเสี่ยวเตี๋ยต้องบาดเจ็บ แต่กงเสี่ยวเตี๋ยนั้นตื่นตกใจจนใบหน้าซีดขาวแทบอยากกรีดร้องออกมา ทว่าถูกกงชียกมือขึ้นมาบีบลำคอเอาไว้
กงชีเอ่ย “ใบหน้านี้เจ้าสำนักเป็นคนให้คุณหนูมา ในเมื่อคุณหนูไม่ยอมช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ชาย เช่นนั้นก็ควรคืนมันให้เจ้าสำนัก หลายปีมานี้…คุณหนูคงไม่เคยมองหน้าของตนเองใช่หรือไม่” ความจริงใบหน้าที่แท้จริงของกงเสี่ยวเตี๋ยนั้นดูดีกว่าใบหน้านี้ด้วยซ้ำ แต่อย่างไรนางก็ไม่ยอมรับ ในใจนั้นรู้ดีว่าที่นางได้รับความโปรดปรานจากเยี่ยนอ๋องก็เป็นเพราะใบหน้านี้ ดังนั้นกงเสี่ยวเตี๋ยจึงได้พยายามบอกกับตนเองว่านี่คือใบหน้าของนางเอง เมื่อนานเข้าก็คิดเป็นจริงเป็นจังแล้ว กระทั่งไม่อยากเห็นใบหน้าเดิมของตนเอง
หน้ากากผิวหนังมนุษย์นี้กงอวี้เฉินต้องทุ่มเทเพื่อหาช่างฝีมือดีในยุทธภพมาทำขึ้น ฝีมือประณีตบางราวกับปีกจั๊กจั่น เมื่อสวมเข้ากับใบหน้าแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงอารมณ์บนใบหน้า ไม่ทำให้คนรู้สึกแปลกประหลาด เพียงแต่สิ่งของมีค่าเช่นนี้แน่นอนว่าต้องรักษาเป็นอย่างดี ต้องคอยนำออกมาแช่ในน้ำยาบำรุงรักษาที่จัดเตรียมโดยเฉพาะ เป็นสิ่งที่หลายปีมานี้กงชีทำอยู่ตลอด ในยามที่ถอดหน้ากากออกกงเสี่ยวเตี๋ยแทบไม่มองกระจก ลืมใบหน้าที่แท้จริงของตนเองไปแล้วจริงๆ
กงชียิ้มเย็น เอ่ย “คุณหนูคงจะไม่รู้ บนโลกนี้ไม่มีผิวของใครที่สวมหน้ากากมาสามปีแล้วจะยังคงสภาพเหมือนแรกเริ่ม ท่านจะดูหรือไม่ว่าตอนนี้ตนเองเปลี่ยนไปอย่างไร”
กงเสี่ยวเตี๋ยสีหน้าพลันเปลี่ยน พยายามดิ้นรนขัดขืน “ไม่เอา เจ้าจะทำอันใดกันแน่”
กงชีเอ่ย “คุณหนูมีทางเลือกสองทาง หนึ่ง ท่านต้องไปจัดการตามที่เจ้าสำนักสั่ง จากนั้นพวกเราหนีไปจากที่นี่ สอง ให้ข้าเอาหน้ากากของท่านออก ข้าจะไปจัดการแทนท่านเอง จากนั้น…หวังว่าคุณหนูท่านคงต้องภาวนาให้ตนเองมีความสุข”
“เจ้า…เขาคิดจะทำอันใด”
กงชียิ้มออกมา ใบหน้านั้นมีแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมา “เอ่ยเช่นนี้ คุณหนูยอมแล้วใช่หรือไม่”
กงเสี่ยวเตี๋ยมองนางอย่างโกรธแค้น นางยังมีสิทธิ์ไม่ยอมอีกหรือ
นอกกระโจมแห่งหนึ่ง องครักษ์สองคนกำลังขวางทางกงเสี่ยวเตี๋ย
กงเสี่ยวเตี๋ยขมวดคิ้วไม่พอใจ “นี่พวกเจ้ากำลังทำอันใด ข้าจะไปดูคุณชายสี่”
องครักษ์กลับไม่วางใจ เพียงเอ่ยนอบน้อม “รายงานพระชายา ท่านอ๋องมีคำสั่ง ท่านอ๋องไม่อยู่นอกจากแม่นมห้ามผู้ใดเจอคุณชายสี่ทั้งนั้น” กงเสี่ยวเตี๋ยกัดฟัน “ข้าเป็นมารดาของคุณชายสี่ก็ไม่ได้หรือ เจ้าไปรายงานท่านอ๋อง”
“ท่านอ๋องไม่อยู่ในค่ายขอรับ” องครักษ์เอ่ยตอบ
หากข้ามน้ำไป ตรงไปอีกหน่อยก็เป็นจินหลิง ท่านอ๋องพาคนออกไปดูลาดเลาตั้งแต่เช้า ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย
กงเสี่ยวเตี๋ยกัดฟัน “บังอาจ ข้าจะทำร้ายบุตรชายตนเองหรือ”
แม้จะเป็นเช่นนั้น องครักษ์ก็ยังไม่ไหวติง พวกเขาได้รับคำสั่งแน่นอนว่าไม่อาจยอมหลีกเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยค
กงเสี่ยวเตี๋ยหันไปหากงชี เข้าไปไม่ได้นางก็ทำอันใดไม่ได้
กงชีเลิกคิ้ว ก้าวขึ้นมาด้านหน้า เอ่ยเสียงเบา “พี่ชายทั้งสอง พระชายารองของเราเป็นห่วงคุณชายน้อย พระชายารองไม่ได้เจอคุณชายน้อยมาหลายวันแล้ว รู้สึกคิดถึงมาก หรือว่า…ทั้งสองท่านให้แม่นมอุ้มคุณชายมาที่ประตูก็ได้ ให้พระชายารองได้เห็นก็ยังดี”
“เอ่อ…” องครักษ์ทั้งสองลังเลชั่วครู่ ตอนนั้นเอง ด้านในพลันมีเสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้น เซียวเชียนซั่วเพิ่งสองขวบกว่า หลายวันมานี้เพราะไม่ได้เจอมารดาจึงอยู่ไม่สงบ ยามนี้พลันได้ยินเสียงของมารดา แน่นอนว่าต้องงอแงขึ้นมา กงเสี่ยวเตี๋ยเอ่ยอย่างร้อนใจ “ซั่วเอ๋อร์ แม่อยู่ตรงนี้…แม่มาหาเจ้าแล้ว”
ด้านในกระโจม เด็กน้อยร้องไห้ดังยิ่งขึ้น
ในที่สุดกงเสี่ยวเตี๋ยก็ทนไม่ไหว พุ่งเข้าไปด้านในไม่สนสิ่งใด แน่นอนว่าองครักษ์ทั้งสองไม่ยอม แต่อย่างไรกงเสี่ยวเตี๋ยก็ยังเป็นชายารอง ไม่ใช่คนทั่วไปที่พวกเขาจะล่วงเกินได้ ไม่ทันระวัง นางพลันบุกเข้าไปด้านในแล้ว
ในกระโจม แม่นมกำลังปลอบโยนเด็กน้อยที่ใบหน้าแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตาอย่างร้อนรน น่าเสียดายที่เด็กน้อยไม่ไว้หน้านัก ร้องไห้จ้าไม่หยุด
“ซั่วเอ๋อร์ เอาลูกมาให้ข้า” กงเสี่ยวเตี๋ยเดินเข้าไป เอ่ยด้วยความโกรธ แม่นมผู้นั้นอุ้มเด็กก้าวถอยหลังไม่ยอมส่งเด็กให้ ท่านอ๋องรับสั่ง ห้ามส่งคุณชายสี่ให้ใครทั้งนั้น รวมไปถึงพระชายารองด้วย
เห็นนางทำเช่นนั้น กงชีเคลื่อนไหวชิงตัวเด็กออกมา แม่นมชะงัก ไม่คิดว่าเพียงสาวใช้คนหนึ่งจะเคลื่อนไหวรวดเร็วเพียงนี้
กงชีอุ้มเด็กเอาไว้ ส่งไปไว้ในอ้อมแขนของกงเสี่ยวเตี๋ย มองแม่นมที่จะเดินเข้ามา เอ่ยเสียงเข้ม “พระชายารองเพียงอยากเห็นคุณชายน้อย หรือว่าคนเป็นแม่จะทำร้ายลูกได้หรือ ดูเจ้าดูแลคุณชายน้อยสิ เด็กน้อยตัวเล็กๆ ร้องไห้เพียงนี้ หากป่วยขึ้นมาเจ้ารับผิดชอบได้หรือ”
“เอ่อ…ก่อนหน้านี้คุณชายน้อยไม่ร้อง เพียงพระชายามาถึงได้…” แม่นมรีบอธิบาย นางไม่อาจแบกรับโทษที่ละเลยต่อการดูแลคุณชายน้อยได้ กงชีเอ่ยเสียงเย็น “เอ่ยเช่นนี้ จะบอกว่าเป็นความผิดของพระชายารองหรือ”
“ไม่เจ้าค่ะ…บ่าวมิกล้า”
กงชีพยักหน้าพึงพอใจ เอ่ย “ในเมื่อท่านอ๋องไม่อยู่ พระชายารองพาคุณชายกลับไปดูแลสักพักเป็นพอ เด็กคนเดียวยังดูแลไม่ได้ ยังจะเป็นแม่นมอีกหรือ”
“เอ่อ…”
อย่าว่าแต่แม่นม แม้แต่องครักษ์หน้าประตูก็ไม่มีทางยอมให้นางเอาเด็กออกไป คำสั่งของเยี่ยนอ๋อง องครักษ์จวนเยี่ยนอ๋องไม่กล้าขัด ยามนี้ปล่อยให้กงเสี่ยวเตี๋ยเข้าไปด้านในก็นับว่าผิดพลาดต่อหน้าที่แล้ว หากปล่อยให้นางเอาตัวเด็กออกไปพวกเขาคงเหลือเพียงโทษตายอย่างเดียว แม้ไม่เข้าใจว่าไยท่านอ๋องถึงไม่ยอมให้มารดาแท้ๆ เข้าใกล้คุณชายน้อย แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง
ในตอนที่ทุกคนกำลังโต้เถียงกัน เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น “เกิดอันใดขึ้น” ทุกคนหันไปมอง มองเห็นเซียวเชียนชื่อและเซียวเชียนเหว่ยเดินเคียงไหล่กันเข้ามา มองเห็นสถานการณ์ตอนนี้ ทั้งสองคนขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว